....ปากีจับ 5 นศ. เปล่าป่วนใต้ .... ซ่อนปืนขึ้นเครื่อง เดินทางกลับไทย

http://www.thairath.co.th/content/504581



ปากีสถานจับ 5 นักศึกษาไทยพกปืนขึ้นเครื่องบินจากสนามบินละฮอร์มาประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศสั่งสถานทูตติดตามใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือและสอบถามสาเหตุที่แท้จริงการนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบิน พ่อแม่วอนรัฐบาลช่วยด่วน ยันลูกไม่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในภาคใต้ แค่ไปเรียนเพื่อกลับมาทำงาน

เหตุนักศึกษาไทยถูกจับกุมที่สนามบินของประเทศปากีสถานเพราะพกปืนขึ้นเครื่องบิน เปิดเผยโดยนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ว่า ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอิสลามาบัด สาธารณรัฐอิสลามปากีสถานว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 8 มิ.ย. มีนักศึกษาไทย 5 คน ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานเมืองละฮอร์ ในข้อหาพกอาวุธปืนในท่าอากาศยาน หลังจากเครื่องเอกซเรย์ที่ท่าอากาศยานตรวจพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมแถบบรรจุกระสุนและกระสุนปืนแยกซุกซ่อนไว้ ขณะที่กำลังเดินทางไปขึ้นเครื่องบิน สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 346 เวลา 23.40 น. กลับประเทศไทย

นายเสขกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของปากีสถาน ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการเพื่อขอเข้าเยี่ยมเพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งขอให้นักศึกษาไทยทั้ง 5 คน ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมตามกฎหมายและระเบียบของทางการปากีสถาน สำหรับโทษทางกฎหมายในข้อหาดังกล่าว กระทรวงขอตรวจสอบกฎหมายของปากีสถานให้ชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ประกอบด้วย 1.นายต่วนอับดุลรอซะ ลอจิ ชาวจังหวัดปัตตานี 2.นายศักดิ์กริยา สองหลง ชาวจังหวัดตรัง 3.นายเตชิต บุญมาเลิศ ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา 4.นายอภิสิทธิ์ หมัดอัด ชาวจังหวัดสงขลา 5.นายฟารุค สูทอก ชาวจังหวัดกระบี่

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลของจังหวัดกระบี่ เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 45/3 หมู่ 1 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ของนายประเสริฐ สูทอก อายุ 46 ปี และนางอำพร สูทอก อายุ 43 ปี พ่อแม่ของนายฟารุค สูทอก อายุ 19 ปี นักศึกษาไทยที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนศาสนามัรกัสตักลิก ซาวารี ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน เนื่องจากนายฟารุคพร้อมด้วยเพื่อนอีก 4 คนถูกจับที่สนามบินละฮอร์ เมื่อค่ำวันที่ 8 มิถุนายน หลังจากถูกตรวจพบอาวุธปืนพร้อมกระสุนก่อนขึ้นเครื่องบิน เที่ยวบินที่ทีจี 346 จากสนามบินละฮอร์ มายังสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กำหนดเวลาเดินทาง 23.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เจ้าหน้าที่สอบถามพ่อแม่นายฟารุค ได้รับการชี้แจงว่า นายฟารุคเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 จากโรง เรียนสอนศาสนาในจังหวัดสงขลา แล้วกลับมาเรียนที่โรงเรียนปอเนาะบ้านหินลับ ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จากนั้นโรงเรียนได้ส่งไปเรียนในปากีสถานเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาได้ติดต่อกับทางบ้านมาโดยตลอด วันเกิดเหตุนายฟารุค ส่งไลน์กลับมาว่ากำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับมาไทย เพื่อมาทำเรื่องผ่อนผันทหาร เพราะต้องศึกษาต่ออีก 4 ปี แล้วก็ติดต่อไม่ได้ จนมีครูสอนศาสนาที่ อ.อ่าวลึก แจ้งมาว่าถูกจับอาวุธปืนพร้อมเพื่อนที่สนามบิน เป็นห่วงบุตรชายมาก ขอให้ทางการไทยช่วยประสานงานและให้กลับมาประเทศ เพราะเชื่อว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ลูกชายมีนิสัยไม่เกเรจะไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มก่อความไม่สงบไม่มีแน่นอน การที่ส่งลูกไปเรียนที่ปากีสถานนั้น เพราะมีเพื่อนบ้านหลายคนก็เคยไปเรียนและกลับมาประกอบอาชีพที่บ้าน เป็นผู้นำทางศาสนา ลูกชายก็มีความชอบทางด้านนี้ การไปเรียน ก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายสูง เพียงแค่ค่าอาหาร ค่าที่พักเท่านั้นตกเดือนละ 4 พันบาท ส่วนค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆฟรีหมด

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่ได้รับรายงานข้อมูลที่ชัดเจน เพราะเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่เบื้องต้นทราบว่านักศึกษาทั้ง 5 คน เดินทางไปเรียนในเรื่องของศาสนา และจะเดินทางกลับบ้าน พอดีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบมีอาวุธปืน ซึ่งเป็นชนิดแบบปืนพก ทั้งนี้ ในเรื่องของการแอบแฝงในการนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ดังนั้นต้องรอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนถึงจะทราบที่มาที่ไปได้ ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้นักศึกษาทั้งหมดยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาและอยู่ในเพียงชั้นการสอบสวน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของฝ่ายความมั่นคง ไม่พบความเชื่อมโยงหรือพฤติกรรมใดที่แสดงถึงความเกี่ยวพันกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หรือกลุ่มก่อความไม่สงบใดๆ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลการสอบสวนถึงแรงจูงใจในการแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ของนักศึกษาทั้ง 5 คนต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่