วันนั้น__วันที่กล้องฟิล์มสิ้นสุด__ความรู้สึก

มันมาอย่างรวดเร็ว  แทบจะไม่ทันตั้งตัว  ในช่วงเวลาสั้นมากๆ

แม้บางคน  จะรับรู้มาก่อน  จากการที่บางค่ายเริ่มทำกล้องดิจ้ตอล ลงสู่ตลาด
ผมเองก็รีบซื้อมาทันทีตัวหนึ่ง  คอมแพค  ขนาด  8 แสน พิกเซล
ถึงจะแค่นั้น  แต่มันช่วยงานสิ่งพิมพ์ได้มาก
สำหรับผม  ในวันนั้น__คือ__มันมาแล้ว  และมันกำลังจะพลิกโฉมโลกของการถ่ายภาพ

ไม่นาน ซื้อมาอีกตัวในรุ่นที่ออกตามมาไล่เรี่ยกัน  ขนาด 2.5 ล้านพิกเซล
ถึงเวลานั้น__ยังเป็นช่วงที่กล้องฟิล์มยังยืนหยัด__กระแสลมในตลาดยังไม่แรง
มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น  คือ  กล้องดิจิตอล กำลังมาแทนที่ใช่หรือไม่
กล้องฟิล์มกำลังจะสูญพันธุ์  ใช่ไหม?

หลายคน  และผมตอบ ใครๆ ว่า_ยังไม่หมดยุคกล้องฟิล์ม__ยังอีกนาน
กล้องฟิล์มยังใช้ตอบโจทย์การทำงานแบบเอาจริงเอาจังอีกหลายปี  จนกว่ากล้องดิจิตอลจะตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างน่าพอใจ
และกล้องดิจิตอลจะเป็กลัองสำหรับคนใช้ทั่วไปที่ไม่จริงจังกับการใช้ในอาชีพที่เกี่ยวข้อง

แต่แล้ว เหมือนฟ้าผ่า กลางแดด  เมื่อกล้องดิจิตอล พัฒนาแบบก้าวกระโดดในช่วงเวลาสั้นๆ
กล้องดิจิตอลเปลี่ยนเลนส์ได้  เริ่มจาก  สามล้านพิกเซล  มันสามารถใช้งานได้จริงกับสื่อสิ่งพิมพ์ และโลกออนไลน์(ที่กำลังรุดหน้า)
ลดขั้นตอนในการทำงาน  จบงานถ่ายภาพในคอมพิวเตอร์เพื่อส่งงาน  ไม่ต้องผ่านบริการร้านอัดขยาย

เรา__ที่ทำงานซึ่งมีภาพเกี่ยวข้อง  วางกล้องฟิล์ม  แล่วหันมาใช้กล้องดิติตอลทำงานกัน
คนทั่วไป  เปลี่ยนจากซื้อกล้องฟิล์ม  มาใช้กล้องรุ่นใหม่ที่เป็นดิจิตอล


ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของโลกแห่งการถ่ายภาพนั้น
เรา__ที่ใช้กล้อง  เพราะมันคือเพื่อนชีวิต  ผู้รู้ใจ  คนรักที่คุ้นเคย__รู้สึกใจหาย

แต่กาลเวลา  ความจริง
และ  สิ่งที่ได้จากกลัองดิจิตอล  ไม่สามารถทำให้เรา_ดันทุรัง_ใช้กล้องฟิล์ม  เพื่อทำงานอีกต่อไป
แม้__การถ่ายภาพทั่วไป__ก็ไม่สามารถดันทุรังใช้กล้องฟิล์มกันอีก__

มันหมดยุคไปแล้ว

เราได้แต่คิดถึงมัน  ว่าครั้งหนึ่งมันคือเพื่อนร่วมงานที่แสนรัก

_
วันนี้  กระแสกล้องฟิล์ม  ถูกปลุก
แต่มันไม่ใช่__มันไม่ใช่การเอามาใช้  เพื่อใช้งานจริง

มันเป็นแค่กระแส__แบบเดียวกับคนที่อยากไปเที่ยว  ปาย  เชียงคาน  หลวงพระบาง
กระแสที่อยากรู้เรื่องราวในอดีต__เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่