Jurassic World 2015
คือฟิน คือบันเทิงมาก
ใครบอกว่าบทเชย คือจริง ไม่เถียงเลย
แต่อยากบอกว่าเป็นความเชยที่เกือบจะคัลท์!!!
โดยเฉพาะฉากพระนางนี่เป็นอะไรที่เชยและฮาจริง
บางจุดก็ดูตั้งใจจะเชย ซึ่งความเชยนี้ก็บันเทิงสุดๆ
อย่างมุขการแต่งตัวนางเอก (ส้นสูงคู่นั้น) คงจะเป็นที่จดจำไปอีกแสนนาน
ส่วนเรื่องความสมเหตุสมผลของบท อันนี้บอกเลยว่าไม่ต้องไปหา
แต่เราก็สามารถดูหนังที่บทไม่สมเหตุสมผลให้สนุกได้นิ่
อย่างที่ตัวละคร (คุณแม่) ตอนต้นเรื่องบอกไว้ว่า 'ถ้าเจออะไร ให้วิ่ง...'
เหมือนจะเป็นมุขเล่นๆ แต่เข้าเอาจริงมันตั้ง Mindset ของหนังเรื่องนี้เลย
ทั้งเรื่องคือการวิ่งไปแล้วจะเจอเข้ากับอะไร จากนั้นก็วิ่งหน้าตั้งต่อไป
ไม่ต้องไปสนหรอกว่า ไอที่เจอเนี่ยมันมาจากไหน มาได้ยังไง
และมันก็เป็นการวิ่งที่สนุกใช้ได้เลย
ที่ชอบที่สุดคือมีซีนที่ทำให้หวนนึกถึง ระลึกถึง และคิดถึงภาคแรกตลอดเวลา
ดนตรีประกอบโดย Michael Giacchino คือดีงาม มัน nostalgia มว๊ากกก
ผู้กำกับมือใหม่ก็จริง แต่กำกับหนังเป็น ไม่มีปัญหาเมื่อต้องทำงานกับ CG
ที่สำคัญคือรู้ว่าจะโยนความบันเทิงใส่คนดูยังไงให้สนุกและชวนติดตาม
ภาคนี้ไม่ถึงขั้นคลาสสิก แต่เป็นภาคต่อที่สมศักดิ์ศรี คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน
ปล. น้อง Nick Robinson (คนที่เล่นเป็นพี่ชาย) คือปังมาก
จากดาราดาวรุ่งที่แจ้งเกิดจากหนังฟอร์มเล็กขวัญใจ Sundance อย่างเรื่อง King of Summer
ตอนนี้น้องมีโอกาสดังแน่ เพราะเรื่องต่อไปของน้องคือ The 5th Wave ที่ทุกคนคาดหวังว่าจะดังระดับเดียวกับ The Hunger Game
ถ้าหนังออกมาไม่แย่จนเกินไป น้องมีสิทธิ์ไปต่อได้ยาวแบบสบายๆ แน่นอน
[CR] Jurassic World ...ถ้าเจออะไร ให้วิ่ง... และมันก็เป็นการวิ่งที่สมกับการรอคอย
Jurassic World 2015
คือฟิน คือบันเทิงมาก
ใครบอกว่าบทเชย คือจริง ไม่เถียงเลย
แต่อยากบอกว่าเป็นความเชยที่เกือบจะคัลท์!!!
โดยเฉพาะฉากพระนางนี่เป็นอะไรที่เชยและฮาจริง
บางจุดก็ดูตั้งใจจะเชย ซึ่งความเชยนี้ก็บันเทิงสุดๆ
อย่างมุขการแต่งตัวนางเอก (ส้นสูงคู่นั้น) คงจะเป็นที่จดจำไปอีกแสนนาน
ส่วนเรื่องความสมเหตุสมผลของบท อันนี้บอกเลยว่าไม่ต้องไปหา
แต่เราก็สามารถดูหนังที่บทไม่สมเหตุสมผลให้สนุกได้นิ่
อย่างที่ตัวละคร (คุณแม่) ตอนต้นเรื่องบอกไว้ว่า 'ถ้าเจออะไร ให้วิ่ง...'
เหมือนจะเป็นมุขเล่นๆ แต่เข้าเอาจริงมันตั้ง Mindset ของหนังเรื่องนี้เลย
ทั้งเรื่องคือการวิ่งไปแล้วจะเจอเข้ากับอะไร จากนั้นก็วิ่งหน้าตั้งต่อไป
ไม่ต้องไปสนหรอกว่า ไอที่เจอเนี่ยมันมาจากไหน มาได้ยังไง
และมันก็เป็นการวิ่งที่สนุกใช้ได้เลย
ที่ชอบที่สุดคือมีซีนที่ทำให้หวนนึกถึง ระลึกถึง และคิดถึงภาคแรกตลอดเวลา
ดนตรีประกอบโดย Michael Giacchino คือดีงาม มัน nostalgia มว๊ากกก
ผู้กำกับมือใหม่ก็จริง แต่กำกับหนังเป็น ไม่มีปัญหาเมื่อต้องทำงานกับ CG
ที่สำคัญคือรู้ว่าจะโยนความบันเทิงใส่คนดูยังไงให้สนุกและชวนติดตาม
ภาคนี้ไม่ถึงขั้นคลาสสิก แต่เป็นภาคต่อที่สมศักดิ์ศรี คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน
ปล. น้อง Nick Robinson (คนที่เล่นเป็นพี่ชาย) คือปังมาก
จากดาราดาวรุ่งที่แจ้งเกิดจากหนังฟอร์มเล็กขวัญใจ Sundance อย่างเรื่อง King of Summer
ตอนนี้น้องมีโอกาสดังแน่ เพราะเรื่องต่อไปของน้องคือ The 5th Wave ที่ทุกคนคาดหวังว่าจะดังระดับเดียวกับ The Hunger Game
ถ้าหนังออกมาไม่แย่จนเกินไป น้องมีสิทธิ์ไปต่อได้ยาวแบบสบายๆ แน่นอน