หลาย ๆ คนอาจจะลังเลว่าเรื่องนี้น่าดูรึเปล่า ตอนผมดูตัวอย่างผมก็ยังตัดสินใจไม่ได้เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ลอง ๆ ดู ปรากฏว่ารู้สึกว่าเข้าทางตัวเอง เลยดูจนจบในที่สุด
ตัวอย่างเรื่องนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=iKpKAlbJ7BQ
พอดูจบก็เกิดความรู้สึกอยากรีวิวเรื่องนี้ แต่ด้วยว่ารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้ชมประเภทที่รีวิวได้ดีพอ จับประเด็นอะไรไม่ได้ลึกมากมาย เป็นคนดูธรรมดา ตัดสินจากความรู้สึกส่วนตัวเทียบกับซีรี่ส์เรื่องอื่น ๆ ที่เคยดูมา ดังนั้นจากที่ตั้งใจจะให้เป็นรีวิว ผมก็เปลี่ยนใจว่าให้มันเป็นแค่ “การแสดงความคิดเห็น” เกี่ยวกับซีรี่ส์เรื่องนี้แทนดีกว่า 555
ชื่อเรื่อง Sense8 นั้นมาจากคำว่า sense + 8 = sense8 (อ่านได้ว่า “เซ้นเสท” เหมือนกัน) ซึ่งหมายถึงกลุ่ม sensate ที่มีสมาชิกอยู่ใน cluster เดียวกัน 8 คน ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องนี้นั่นเอง
เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์ Netflix ซึ่งคะแนนที่ผมให้หลังดูจบคือ 8/10 โดยสรุปเป็นซีรี่ส์ที่ดูสนุก แต่ไม่สนุกที่สุด เหมือนกับว่าเราสามารถคาดหวังว่ามันจะสนุกกว่านี้ได้ แต่มันก็ไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ถึงกระนั้นแล้วมันก็เดินเรื่องน่าสนใจ มีลีลาลูกเล่นที่ดึงดูดพอสมควรครับ ในขณะที่ดูมีบางตอนที่ผมหลับไปด้วย แต่ด้วยความที่มันยังมีจุดน่าสนใจอยู่ เมื่อหลุดโฟกัสผมก็กรอกลับมาดูใหม่จนถือว่าได้ดูหมดไม่พลาดแม้แต่ฉากเดียว
จริง ๆ พล็อตก็ไม่มีอะไรมาก แค่ว่ามีกลุ่มมนุษย์พิเศษที่เรียกว่า sensate เป็นพวกที่สามารถสื่อจิตถึงกันได้ สามารถแชร์ความสามารถของคนอื่น ๆ ในกลุ่มได้ และสามารถเข้าไปในจิตใจของคนอื่น ๆ ในกลุ่มได้ และเรื่องราวในเรื่องทั้งหมดก็เล่าถึงชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เจอปัญหาคนละอย่าง และก็ต้องมาแชร์ปัญหาร่วมกันในตอนท้าย ๆ
แล้วเรื่องมันประมาณไหนล่ะ??? นี่คงเป็นคำถามที่ตอนดูตัวอย่างแล้วแต่ละคนน่าจะคิด
จะขอเล่าที่มาที่ไปของเรื่องแค่หน่อยนึงเพื่อเป็นแนวทางในการดูเรื่องนี้นะครับ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีผู้หญิงผมบลอนด์ปริศนาที่ชื่อ Angelica ได้สื่อสารภาพการฆ่าตัวตายของเธอให้กับลูก ๆ sensate ทั้ง 8 คน (ไม่ใช่ลูกจริง ๆ แต่เพราะเธอคือคนที่ทำให้ทั้งหมดเชื่อมกัน จึงถือว่าเธอคือผู้ให้กำเนิด sensate ทั้ง 8) ซึ่งทั้งแปดคนนั้นเป็น sensate ที่เกิดในวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน เมื่อ Angelica ตาย เธอก็ได้ทำให้ sensate ทั้ง 8 คนเริ่มเชื่อมโยงถึงกัน และเรื่องราวก็ค่อย ๆ เล่าชีวิตของแต่ละคนว่าเป็นยังไง ตั้งแต่ปัญหาธรรมดา ๆ พื้นฐานไปจนถึงปัญหาคอขาดบาดตาย ทำให้แต่ละคนต้องงัดสกิลที่ตัวเองมีมาช่วยเหลือกัน พร้อมกับแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนค่อย ๆ เชื่อมจิตถึงกันยังไง เรื่องราวจะเดินช้า ๆ เพื่อให้เรารู้จักตัวละครแต่ละตัว ประมาณห้าตอนแรกทุก ๆ คนที่ดูอาจจะลังเลว่าควรดูต่อมั้ย แต่หลังจากนั้นเรื่องมันจะเริ่มเข้มข้นขึ้น
ความรู้สึกผมคือ การปูเรื่องมาทั้งหมดถือว่าได้เอาไปต่อยอดในตอนหลัง ๆ หมด ดังนั้นก็รู้สึกว่ามันจำเป็น แม้ว่าเรื่องจะเดินช้ามากก็ตาม คนดูบางคนอาจจะไม่ชอบบางพาร์ทในส่วนของชีวิตของแต่ละคน แต่เนื้อเรื่องมันเกลี่ย ๆ กันหมด ทำให้เรายังดูไปได้ ในเรื่องนี้จะเล่นประเด็นผู้แตกต่างที่หมายถึงเหล่าเกย์และเลสเบี้ยน (ซึ่งอาจจะสื่อถึงเหล่า sensate ด้วยที่จัดว่าเป็นผู้แตกต่างเช่นกัน) เหมือนเป็นซีรี่ส์ที่พยายามให้เรายอมรับคนเหล่านี้มากขึ้น
แล้วคาแรกเตอร์ตัวละครน่าสนใจมั้ย???
สำหรับผมตอบเลยว่านี่เป็นจุดที่คิดว่าค่อนข้างลงตัวมาก ตัวละครหลักแต่ละคนแม้จะมีบทบาทมากน้อยไม่เท่ากันต่อปมปัญหาหลักของเรื่อง แต่กลับรู้สึกว่าแต่ละคนสำคัญเท่ากัน มันบาล้านซ์กันลงตัวดี ไม่กลบกันจนหาย
มาดูเหล่าตัวเอกแต่ละคนว่าเป็นคาแรกเตอร์เป็นยังไงบ้างนะครับ
1.
Will ป็นตำรวจ Chicago PD ซึ่งมีพ่อติดเหล้า ตอนเด็ก ๆ วิลเป็นเด็กเกเร แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นตำรวจ แต่จะเป็นตำรวจที่เห็นใจผู้ร้ายหน่อย ๆ วิลจะเห็นภาพหลอนเกี่ยวกับเด็กหญิงที่หายตัวไปในวัยเด็ก ซึ่งจนโตก็ยังไม่หาย ซึ่งด้วยความที่เป็นตำรวจทำให้วิลจะค่อนข้างมีความเป็นผู้นำ ค่อนข้างจะคิดอะไรรอบคอบ และรู้ระบบต่าง ๆ ของตำรวจเป็นอย่างดี
2.
Riley เป็นดีเจสาวชาวไอซ์แลนด์ที่ย้ายมาทำงานที่ลอนดอน เธอถูกหลอกในตอนเด็กว่าตัวเธอถูกสาปให้ใครก็ตามที่เป็นคนใกล้ชิดต้องมีอันเป็นไป ไรลี่ย์เลยย้ายมาอยู่ลอนดอนแม้ว่าเธอจะรักพ่อมาก แต่ก็ไม่อยู่ใกล้ ๆ พ่อเลย ชีวิตของไรลี่ย์จะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเธอเป็นตัวละครเดียวในเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่มีสกิลที่ช่วยคนอื่นได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเธอเป็นคนที่สามารถนำ sensate ทั้ง 8 มาอยู่ในที่เดียวกันได้พร้อมกัน
3.
Nomi เป็นสาวที่แปลงเพศแล้วมารักกับเลสเบี้ยนชาวอเมริกันที่ครอบครัวไม่ยอมรับ ชื่อเดิมของเธอคือ Michael แต่ชอบให้ใคร ๆ เรียกเป็นชื่อใหม่ว่า Nomi และเป็น hacktivist ที่ทำทุกอย่างเพื่อสิทธิ์และเสียงของชาวเกย์ ซึ่งสกิลการแฮ็กของเธอถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการช่วยคนอื่น ๆ ในเรื่อง
4.
Capheus เป็นหนุ่มผิวดำที่อยู่แอฟริกา มีแม่ติดเอดส์ซึ่งเซเฟียสต้องทำงานเพื่อหาเงินมาซื้อยาให้แม่ โดยมีอาชีพขับรถบัส ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มแก๊งก์ต่าง ๆ มากมาย เซเฟียสเองไม่ได้มีสกิลอะไรพิเศษ นอกจากความไม่กลัวตายและจิตใจที่ดีซึ่งทำให้เค้าเอาตัวรอดมาได้ (จากการช่วยเหลือของ sensate คนอื่น ๆ) และมีส่วนได้ช่วยคนอื่น ๆ บ้างเล็กน้อย
5.
Lito เป็นนักแสดงชาวเม็กซิกันซึ่งโด่งดังมาก แต่ชีวิตเบื้องหลังของลิโต้คือเค้าเป็นเกย์ที่มีแฟนหนุ่มลับ ๆ และพยายามควงสาว ๆ เพื่อรักษาอาชีพการงานของตัวเองไว้ ในเรื่องจะมีสาววายคนนึงที่ปลื้มอกปลื้มใจกับการเสพความวายของลิโต้กับแฟนหนุ่มมาก ๆ สกิลของลิโต้คือเกี่ยวกับการแสดง ลิโต้รู้วิธีหว่านเสน่ห์ใส่สาว ๆ รู้คิวบู๊เล็ก ๆ น้อย ๆ จากการแสดง
6.
Wolfgang เป็นลูกชายของอดีตเจ้าพ่อชาวเยอรมันซึ่งมีปมเกลียดพ่อของตัวเองมาก ๆ วูฟกังเป็นหัวขโมยที่บ้าดีเดือดที่กล้าไปขโมยเพชรตัดหน้าแก๊งก์ของลูกพี่ลูกน้องตัวเองที่เป็นลูกมาเฟียเหมือนกันเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเค้าเก่งกว่าพ่อที่เคยโดนจับเพราะแคร็กตู้เซฟแบบเดียวกันไม่สำเร็จ และก็เป็นที่มาของเหตุการณ์ใหญ่โตภายหลัง สกิลของวูฟกังคือความบ้าดีเดือด กล้าทำเรื่องผิดกฏหมาย มีสกิลการต่อสู้ติดตัวด้วยพอสมควร
7.
Sun สาวเกาหลีลูกสาวประธานบริษัทใหญ่ที่มีปัญหาพ่อลำเอียงรักน้องชายของเธอมากกว่า ส่วนเธอจะถูกทอดทิ้งหลังจากแม่ตาย ตัวเธอจะเป็นคนที่ดูทื่อ ๆ ไร้อารมณ์ มีความสามารถในการต่อสู้สูงมาก ๆ เรียกว่าสูงที่สุดในบรรดาสมาชิกทุกคนในกลุ่มเลย เรียกว่าเธอคือคนที่ช่วยคนอื่นได้มากที่สุดในเรื่องละเวลาที่ต้องมีการต่อสู้กันขึ้น
8.
Kala เป็นสาวอินเดียที่ทำงานบริษัทยา เธอกำลังจะแต่งงานกับลูกชายเศรษฐีที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แต่คาล่ารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะล้มเลิกงานแต่งงานที่ใคร ๆ ก็ต่างบอกว่าเหมาะสมกันเหลือเกินทิ้งหรือไม่ ตัวคาล่าแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรคนอื่นมากนักนอกจากสกิลด้านเคมีที่เธอมีติดตัวเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ฉากรุนแรงมีเยอะมั้ย??? คือตอบว่ามี แรงมาก แต่ไม่เยอะ
มันเป็นธรรมเนียมของซีรี่ส์อเมริกันว่าถ้าไม่ใช่ฟรีทีวีจำเป็นต้องมีฉาก rate R เพื่อดึงดูดคนดูด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีฉากแรง ๆ อยู่บ้าง ไม่เยอะเท่าไหร่ เช่น ฉากเซ็กซ์ของเลสเบี้ยน เปิดนม และฉากโชว์งวงน้อยที่เห็นชัดเจนมาก หรือฉาก orgy ที่ตอนดูก็อึ้งเลยไม่นึกว่าจะได้เห็น นอกจากนั้นก็มีฉากโหด ๆ ฆ่ากันเลือดสาดอยู่บ้าง
สรุปคือว่า... น่าดูรึเปล่า??? ตอบยากสุด ๆ แต่อยากให้ลองดู ถ้าดูซีรี่ส์แนวใดแนวนึงมานาน ๆ มาลองดูเรื่องนี้เพื่อเป็นการสลัดความเบื่อได้ ผมว่ามันมีอะไรน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ถึงกับดูสนุกแบบสุด ๆ ก็เถอะ
โดยรวมผมในฐานะที่ดูซีรี่ส์มาหลายเรื่องจนเริ่มชินกับพล็อตซ้ำ ๆ แล้ว ผมว่าเรื่องนี้จัดว่าน่าสนใจ แม้บางทีเวลาดูอาจจะหลุดโฟกัสแล้วหลับไปบ้าง แต่เนื้อเรื่องมันยังคงน่าสนใจเป็นส่วนใหญ่ จุดหนึ่งที่ทำให้ผมไม่ถึงกับร้องว้าวกับเรื่องนี้ทั้ง ๆ ความรู้สึกลึก ๆ ก็รู้สึกว่ามันดีกว่าซีรี่ส์กว่า 70% ที่เคยดูมาก็คือ การไปถึงไคลแม็กซ์ของเรื่อง รู้สึกว่ามันไม่ไคลแม็กซ์เท่าไหร่ คือที่ดู ๆ มามันทำให้คาดหวังไคลแม็กซ์ที่มากกว่านั้น แต่พอมันจบแบบไปไม่ถึงจุดนั้น ผมเลยรู้สึกแค่ว่าพอรับได้ แต่ยังเป็นซีรี่ส์ที่อยากแนะนำให้คนอื่นดู เพราะมันมีศักยภาพพอที่จะดึงคนดูกลุ่มได้เลย
ตอนนี้ผมหวังว่าจะได้ดูซีซั่นสองนะ แต่เรื่องนี้ไม่ดังมาก ดังนั้นจึงไม่หวังอะไรขนาดนั้น
Sense8 ซีรี่ส์ที่บอกไม่ถูกว่าสนุกหรือเปล่า แต่มันมีอะไรดึงดูดให้ดูจนจบและก็ยังอยากดูซีซั่นต่อไป
ตัวอย่างเรื่องนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=iKpKAlbJ7BQ
พอดูจบก็เกิดความรู้สึกอยากรีวิวเรื่องนี้ แต่ด้วยว่ารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้ชมประเภทที่รีวิวได้ดีพอ จับประเด็นอะไรไม่ได้ลึกมากมาย เป็นคนดูธรรมดา ตัดสินจากความรู้สึกส่วนตัวเทียบกับซีรี่ส์เรื่องอื่น ๆ ที่เคยดูมา ดังนั้นจากที่ตั้งใจจะให้เป็นรีวิว ผมก็เปลี่ยนใจว่าให้มันเป็นแค่ “การแสดงความคิดเห็น” เกี่ยวกับซีรี่ส์เรื่องนี้แทนดีกว่า 555
ชื่อเรื่อง Sense8 นั้นมาจากคำว่า sense + 8 = sense8 (อ่านได้ว่า “เซ้นเสท” เหมือนกัน) ซึ่งหมายถึงกลุ่ม sensate ที่มีสมาชิกอยู่ใน cluster เดียวกัน 8 คน ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องนี้นั่นเอง
เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์ Netflix ซึ่งคะแนนที่ผมให้หลังดูจบคือ 8/10 โดยสรุปเป็นซีรี่ส์ที่ดูสนุก แต่ไม่สนุกที่สุด เหมือนกับว่าเราสามารถคาดหวังว่ามันจะสนุกกว่านี้ได้ แต่มันก็ไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ถึงกระนั้นแล้วมันก็เดินเรื่องน่าสนใจ มีลีลาลูกเล่นที่ดึงดูดพอสมควรครับ ในขณะที่ดูมีบางตอนที่ผมหลับไปด้วย แต่ด้วยความที่มันยังมีจุดน่าสนใจอยู่ เมื่อหลุดโฟกัสผมก็กรอกลับมาดูใหม่จนถือว่าได้ดูหมดไม่พลาดแม้แต่ฉากเดียว
จริง ๆ พล็อตก็ไม่มีอะไรมาก แค่ว่ามีกลุ่มมนุษย์พิเศษที่เรียกว่า sensate เป็นพวกที่สามารถสื่อจิตถึงกันได้ สามารถแชร์ความสามารถของคนอื่น ๆ ในกลุ่มได้ และสามารถเข้าไปในจิตใจของคนอื่น ๆ ในกลุ่มได้ และเรื่องราวในเรื่องทั้งหมดก็เล่าถึงชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เจอปัญหาคนละอย่าง และก็ต้องมาแชร์ปัญหาร่วมกันในตอนท้าย ๆ
แล้วเรื่องมันประมาณไหนล่ะ??? นี่คงเป็นคำถามที่ตอนดูตัวอย่างแล้วแต่ละคนน่าจะคิด
จะขอเล่าที่มาที่ไปของเรื่องแค่หน่อยนึงเพื่อเป็นแนวทางในการดูเรื่องนี้นะครับ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีผู้หญิงผมบลอนด์ปริศนาที่ชื่อ Angelica ได้สื่อสารภาพการฆ่าตัวตายของเธอให้กับลูก ๆ sensate ทั้ง 8 คน (ไม่ใช่ลูกจริง ๆ แต่เพราะเธอคือคนที่ทำให้ทั้งหมดเชื่อมกัน จึงถือว่าเธอคือผู้ให้กำเนิด sensate ทั้ง 8) ซึ่งทั้งแปดคนนั้นเป็น sensate ที่เกิดในวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน เมื่อ Angelica ตาย เธอก็ได้ทำให้ sensate ทั้ง 8 คนเริ่มเชื่อมโยงถึงกัน และเรื่องราวก็ค่อย ๆ เล่าชีวิตของแต่ละคนว่าเป็นยังไง ตั้งแต่ปัญหาธรรมดา ๆ พื้นฐานไปจนถึงปัญหาคอขาดบาดตาย ทำให้แต่ละคนต้องงัดสกิลที่ตัวเองมีมาช่วยเหลือกัน พร้อมกับแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนค่อย ๆ เชื่อมจิตถึงกันยังไง เรื่องราวจะเดินช้า ๆ เพื่อให้เรารู้จักตัวละครแต่ละตัว ประมาณห้าตอนแรกทุก ๆ คนที่ดูอาจจะลังเลว่าควรดูต่อมั้ย แต่หลังจากนั้นเรื่องมันจะเริ่มเข้มข้นขึ้น
ความรู้สึกผมคือ การปูเรื่องมาทั้งหมดถือว่าได้เอาไปต่อยอดในตอนหลัง ๆ หมด ดังนั้นก็รู้สึกว่ามันจำเป็น แม้ว่าเรื่องจะเดินช้ามากก็ตาม คนดูบางคนอาจจะไม่ชอบบางพาร์ทในส่วนของชีวิตของแต่ละคน แต่เนื้อเรื่องมันเกลี่ย ๆ กันหมด ทำให้เรายังดูไปได้ ในเรื่องนี้จะเล่นประเด็นผู้แตกต่างที่หมายถึงเหล่าเกย์และเลสเบี้ยน (ซึ่งอาจจะสื่อถึงเหล่า sensate ด้วยที่จัดว่าเป็นผู้แตกต่างเช่นกัน) เหมือนเป็นซีรี่ส์ที่พยายามให้เรายอมรับคนเหล่านี้มากขึ้น
แล้วคาแรกเตอร์ตัวละครน่าสนใจมั้ย???
สำหรับผมตอบเลยว่านี่เป็นจุดที่คิดว่าค่อนข้างลงตัวมาก ตัวละครหลักแต่ละคนแม้จะมีบทบาทมากน้อยไม่เท่ากันต่อปมปัญหาหลักของเรื่อง แต่กลับรู้สึกว่าแต่ละคนสำคัญเท่ากัน มันบาล้านซ์กันลงตัวดี ไม่กลบกันจนหาย
มาดูเหล่าตัวเอกแต่ละคนว่าเป็นคาแรกเตอร์เป็นยังไงบ้างนะครับ
1. Will ป็นตำรวจ Chicago PD ซึ่งมีพ่อติดเหล้า ตอนเด็ก ๆ วิลเป็นเด็กเกเร แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นตำรวจ แต่จะเป็นตำรวจที่เห็นใจผู้ร้ายหน่อย ๆ วิลจะเห็นภาพหลอนเกี่ยวกับเด็กหญิงที่หายตัวไปในวัยเด็ก ซึ่งจนโตก็ยังไม่หาย ซึ่งด้วยความที่เป็นตำรวจทำให้วิลจะค่อนข้างมีความเป็นผู้นำ ค่อนข้างจะคิดอะไรรอบคอบ และรู้ระบบต่าง ๆ ของตำรวจเป็นอย่างดี
2. Riley เป็นดีเจสาวชาวไอซ์แลนด์ที่ย้ายมาทำงานที่ลอนดอน เธอถูกหลอกในตอนเด็กว่าตัวเธอถูกสาปให้ใครก็ตามที่เป็นคนใกล้ชิดต้องมีอันเป็นไป ไรลี่ย์เลยย้ายมาอยู่ลอนดอนแม้ว่าเธอจะรักพ่อมาก แต่ก็ไม่อยู่ใกล้ ๆ พ่อเลย ชีวิตของไรลี่ย์จะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเธอเป็นตัวละครเดียวในเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่มีสกิลที่ช่วยคนอื่นได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเธอเป็นคนที่สามารถนำ sensate ทั้ง 8 มาอยู่ในที่เดียวกันได้พร้อมกัน
3. Nomi เป็นสาวที่แปลงเพศแล้วมารักกับเลสเบี้ยนชาวอเมริกันที่ครอบครัวไม่ยอมรับ ชื่อเดิมของเธอคือ Michael แต่ชอบให้ใคร ๆ เรียกเป็นชื่อใหม่ว่า Nomi และเป็น hacktivist ที่ทำทุกอย่างเพื่อสิทธิ์และเสียงของชาวเกย์ ซึ่งสกิลการแฮ็กของเธอถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการช่วยคนอื่น ๆ ในเรื่อง
4. Capheus เป็นหนุ่มผิวดำที่อยู่แอฟริกา มีแม่ติดเอดส์ซึ่งเซเฟียสต้องทำงานเพื่อหาเงินมาซื้อยาให้แม่ โดยมีอาชีพขับรถบัส ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มแก๊งก์ต่าง ๆ มากมาย เซเฟียสเองไม่ได้มีสกิลอะไรพิเศษ นอกจากความไม่กลัวตายและจิตใจที่ดีซึ่งทำให้เค้าเอาตัวรอดมาได้ (จากการช่วยเหลือของ sensate คนอื่น ๆ) และมีส่วนได้ช่วยคนอื่น ๆ บ้างเล็กน้อย
5. Lito เป็นนักแสดงชาวเม็กซิกันซึ่งโด่งดังมาก แต่ชีวิตเบื้องหลังของลิโต้คือเค้าเป็นเกย์ที่มีแฟนหนุ่มลับ ๆ และพยายามควงสาว ๆ เพื่อรักษาอาชีพการงานของตัวเองไว้ ในเรื่องจะมีสาววายคนนึงที่ปลื้มอกปลื้มใจกับการเสพความวายของลิโต้กับแฟนหนุ่มมาก ๆ สกิลของลิโต้คือเกี่ยวกับการแสดง ลิโต้รู้วิธีหว่านเสน่ห์ใส่สาว ๆ รู้คิวบู๊เล็ก ๆ น้อย ๆ จากการแสดง
6. Wolfgang เป็นลูกชายของอดีตเจ้าพ่อชาวเยอรมันซึ่งมีปมเกลียดพ่อของตัวเองมาก ๆ วูฟกังเป็นหัวขโมยที่บ้าดีเดือดที่กล้าไปขโมยเพชรตัดหน้าแก๊งก์ของลูกพี่ลูกน้องตัวเองที่เป็นลูกมาเฟียเหมือนกันเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเค้าเก่งกว่าพ่อที่เคยโดนจับเพราะแคร็กตู้เซฟแบบเดียวกันไม่สำเร็จ และก็เป็นที่มาของเหตุการณ์ใหญ่โตภายหลัง สกิลของวูฟกังคือความบ้าดีเดือด กล้าทำเรื่องผิดกฏหมาย มีสกิลการต่อสู้ติดตัวด้วยพอสมควร
7. Sun สาวเกาหลีลูกสาวประธานบริษัทใหญ่ที่มีปัญหาพ่อลำเอียงรักน้องชายของเธอมากกว่า ส่วนเธอจะถูกทอดทิ้งหลังจากแม่ตาย ตัวเธอจะเป็นคนที่ดูทื่อ ๆ ไร้อารมณ์ มีความสามารถในการต่อสู้สูงมาก ๆ เรียกว่าสูงที่สุดในบรรดาสมาชิกทุกคนในกลุ่มเลย เรียกว่าเธอคือคนที่ช่วยคนอื่นได้มากที่สุดในเรื่องละเวลาที่ต้องมีการต่อสู้กันขึ้น
8. Kala เป็นสาวอินเดียที่ทำงานบริษัทยา เธอกำลังจะแต่งงานกับลูกชายเศรษฐีที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แต่คาล่ารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะล้มเลิกงานแต่งงานที่ใคร ๆ ก็ต่างบอกว่าเหมาะสมกันเหลือเกินทิ้งหรือไม่ ตัวคาล่าแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรคนอื่นมากนักนอกจากสกิลด้านเคมีที่เธอมีติดตัวเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ฉากรุนแรงมีเยอะมั้ย??? คือตอบว่ามี แรงมาก แต่ไม่เยอะ
มันเป็นธรรมเนียมของซีรี่ส์อเมริกันว่าถ้าไม่ใช่ฟรีทีวีจำเป็นต้องมีฉาก rate R เพื่อดึงดูดคนดูด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีฉากแรง ๆ อยู่บ้าง ไม่เยอะเท่าไหร่ เช่น ฉากเซ็กซ์ของเลสเบี้ยน เปิดนม และฉากโชว์งวงน้อยที่เห็นชัดเจนมาก หรือฉาก orgy ที่ตอนดูก็อึ้งเลยไม่นึกว่าจะได้เห็น นอกจากนั้นก็มีฉากโหด ๆ ฆ่ากันเลือดสาดอยู่บ้าง
สรุปคือว่า... น่าดูรึเปล่า??? ตอบยากสุด ๆ แต่อยากให้ลองดู ถ้าดูซีรี่ส์แนวใดแนวนึงมานาน ๆ มาลองดูเรื่องนี้เพื่อเป็นการสลัดความเบื่อได้ ผมว่ามันมีอะไรน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ถึงกับดูสนุกแบบสุด ๆ ก็เถอะ
โดยรวมผมในฐานะที่ดูซีรี่ส์มาหลายเรื่องจนเริ่มชินกับพล็อตซ้ำ ๆ แล้ว ผมว่าเรื่องนี้จัดว่าน่าสนใจ แม้บางทีเวลาดูอาจจะหลุดโฟกัสแล้วหลับไปบ้าง แต่เนื้อเรื่องมันยังคงน่าสนใจเป็นส่วนใหญ่ จุดหนึ่งที่ทำให้ผมไม่ถึงกับร้องว้าวกับเรื่องนี้ทั้ง ๆ ความรู้สึกลึก ๆ ก็รู้สึกว่ามันดีกว่าซีรี่ส์กว่า 70% ที่เคยดูมาก็คือ การไปถึงไคลแม็กซ์ของเรื่อง รู้สึกว่ามันไม่ไคลแม็กซ์เท่าไหร่ คือที่ดู ๆ มามันทำให้คาดหวังไคลแม็กซ์ที่มากกว่านั้น แต่พอมันจบแบบไปไม่ถึงจุดนั้น ผมเลยรู้สึกแค่ว่าพอรับได้ แต่ยังเป็นซีรี่ส์ที่อยากแนะนำให้คนอื่นดู เพราะมันมีศักยภาพพอที่จะดึงคนดูกลุ่มได้เลย
ตอนนี้ผมหวังว่าจะได้ดูซีซั่นสองนะ แต่เรื่องนี้ไม่ดังมาก ดังนั้นจึงไม่หวังอะไรขนาดนั้น