เพลงนี้แต่งให้กับ  Syd Barrett  ผู้ซึ่งอัจฉริยะ เป็นสมาชิกแรก ๆ ของวง Pink Floyd
ภายหลังหันมาใช้ยากล่อมประสาท LSD จนเพี้ยนไป ความคุมพฤติกรรมไม่ได้
มาฟังกันว่ากีตาร์คุยอะไรกับคุณบ้าง






เมื่อซิดยังหนุ่มเขารุ่งราวกับดวงอาทิตย์
ส่องตรงมายังเขา ... คนอ้จฉริยะที่ฟั่นเฟือน
ตอนนี้รูม่านตาของตาก็เหมือนกับหลุมดำบนท้องฟ้า
ส่องตรงมายังเขา ... คนอ้จฉริยะที่ฟั่นเฟือน

คุณติดอยู่ตรงกลางระหว่างชีวิตวัยเด็กกับความโด่งดัง
ที่พริ้วผ่านสายกีตาร์
ใช่ เป้าหมายคือความสนุกสนานที่แสนไกล
ใช่ คุณคือคนแปลกหน้า คุณคือตำนาน คุณผู้สละทุกสิ่ง และเปล่งประกาย

คุณเอื้อมถึงความลับนั้นเร็วเกินไป คุณปราถนาจินตนาการนั้น
ให้ฉายลงที่คุณ ... คนอ้จฉริยะที่ฟั่นเฟือน
ถูกทำให้กลัวด้วยเงาในความมืด และออกมาสู่แสงสี
ให้ฉายลงที่คุณ ...คนอ้จฉริยะที่ฟั่นเฟือน

ซิดถูกให้ออกจากวงเพราะไม่อาจคาดเดาได้ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร
ซิดเป็นนักกีตาร์ที่สามารถใส่คำพูดลงบนเสียงกีตาร์
ใช่ คุณเพ้อเจ้อ คุณมีวิสัยทัศน์กว้าง
ใช่ คุณอาจระบายสี คุณอาจเป่าขลุ่ย คุณอาจถูกกักขัง  และโดดเด่น


+++

special thanks  คุณ  dentz metal  ...  ในข้อความต่อไปนี้

ซิด บารเลท
ที่เดวิด กิลมอร์ มาทำหน้าที่เป็นมือกีตาร์แทน
และมักแต่เพลงถึงเขาเสมอๆ
ซิด.เป็นผู้ก่อตั้งคณะ pink floyd ร่วมกันรอเจอร์ วอเทอร์
ที่เรียนเทคนิคสถาปัตย์ด้วยกัน
แต่ ซิด มักเสพสารเสพติดอยู่เป็นประจำจนไม่สามารถเล่นกีตาร์ได้
บางครั้งก็เล่นอยู่คอรด์เดียวจนจบเพลง
แต่เมื่อมีสติ ซิดมักจะแต่งเพลงได้สวยงาม
รอเจอร์ จึงให้เดวิด มาเล่นกีตาร์แทน
เมื่อซิด เสพยาจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ทางวงจึงให้ออกจากวงไปรักษาตัว
ซิดเสียชีวิตแล้วในปี พ.ศ. 2549


........



ถ้าใครได้ติดตามวงพิงค์ ฟรอย์ ในอัลบัมชุด the wall
ก็จะเห็นเค้าโครงของเพลงที่เกี่ยวกับชีวิตของ
rock star ที่มีปัญหาเพราะการเสพยาเสพติด
การกักขังตัวเองหลังกำแพง
การต่อต้านในทุกๆสิ่ง
จะเห็นได้ว่าเรื่องราวของ ซิด บาร์เลท ก็ยังมีอิทธิพลต่อวง pink floyd มาตลอด...