เราพึ่งขึ้นปีหนึ่งมาไม่นานตอนนี้อยู่ในช่วงเรียนซัมเมอร์คะ
เรามีเรื่องไม่สบายใจเรื่องเพื่อนคะ โดนส่วนตัวแล้วเราเป็นคนคิดมากสุดๆเลย ด้วยความที่รัก
และแคร์เพื่อนมากเกินไปคะ บางทีมันก็ทำร้ายตัวเอง กลุ่มเรามี 5 คนคะ ทุกคนก็แยกย้ายกันไป
ในมหาลัยของตัวเอง แต่เรากับเพื่อนอีกคนนึงในกลุ่ม สมมติชื่อ A คะ ตอนนี้เรียนซัมเมอร์อยู่มหาลัยเดียวกับเรา
แม่เราเป็นคนชวน A มาเรียนเองคะ เรียนอันนี้อาจจะทำให้เอาเวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพราะ A ไปเรียนต่อต่างประเทศคะ
ส่วนเราต้องใช้เวลาที่มหาลัยนี้ไปอีกนาน แม่เรากับแม่ ของ A ค่อนข้างสนิทกันนะคะ ก็เลยมีอะไรก็คุยกันเสมอ
เรากับ A อยู่กลุ่มเดียวกันตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วคะ แต่เพื่อนที่สนิทและไว้ใจไม่ใช่ A คะ ไม่ได้แปลว่าไม่รักนะคะ เรารัก
ทุกคนในกลุ่มเรามากคะ อะไรดีได้ก็ดีด้วยเสมอ ไม่เคยเอาเปรียบ เกรงใจเพื่อน ช่วยเหลือ เราทำทุกอย่างคะ
เรายอมรับว่าเราชอบเอาชนะคะ แต่เราจะเอาชนะในสิ่งที่ถูกต้องและเรามั่นใจว่าเราไม่ได้เป็นคนผิดเท่านั้น
เมื่อA มาอยู่ด้วยแม่เราทั้งสองก็ตัดสินใจให้อยู่หอในคะ แม่ A เป็นคนใจดีนะคะ เหมือนจะไม่มีอะไรคะ
โดยปกติแล้ว A เป็นคนที่ค่อนข้างหงุดหงิดง่าย และพูดจาไม่ดีโดยไม่คิดถึงจิตใจคนอื่นคะ และยื่งมาเจอคนคิดมากแบบเรา มันเลยอยู่กันไม่ได้
เรารู้ดีคะ ว่า A เป็นคนอารมแปรปวนทุกคนจะคิดว่าเราเป็นพวกคิดมาก A เป็นแบบนั้นอยู่แล้วเราก็ควรจะชิน แต่ไม่ใช่เลยคะ คงไม่มีใครอยากโดนพูดจาไม่ดีใส่บ่อยๆคนเดาใจเอาใจไม่ถูกแล้วคะ เหมือนจะกินหัวแบบที่เราเจอหรอก คนเราอยู่ด้วยกันก็ควรจะพูดดีดี เราปรึกษาพ่อและแม่เสมอเค้าบอกให้เราอดทน เพราะ เพื่อนอะวันวันมีแต่จะลดลงไปเรื่อยๆ เราก็พยามจะรักษาเพื่อนคนนี้ของเราไว้คะ นานๆทีเราก็ยังพอโอเคคะ แต่นี้เจอกันทุกวันอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน มันไม่ได้เหมือนตอนอยู่โรงเรียนที่เรามีเพื่อนสนิทคนนึงในกลุ่ม และหลีกเหลี่ยงโดยการกลับบ้านได้สบายๆ แต่นี่ไม่ใช่คะ เราต้องทนคะ และพยามเค้าใจว่าคนเราก็ต้องมีเรื่องเครียดภายในใจเสมอ และทุกคนมีข้อเสียจะให้ได้ดั่งใจเราทุกอย่างคงเป็นไปไม่ได้ เราพยามเปิดใจ และเรื่องแบบนี้ต้องมีสักคนที่ยอม หลายครั้งที่เราไม่ผิด เราก็ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ซึ่งเราก็งงตัวเองคะ พอบางทีก็ดีจนหน้าใจหายคะ เวลาหงุดหงิดอะไรมักพาลเสมอ ชอบกรี้ดในห้องเวลาไม่พอใจคะ เพื่อนมัธยมปลายรู้ว่า A เป็นยังไง เราพยามอดทนแล้วคะ แต่คนเราย่อมมีความอดทนถูกรึป่าวคะ
แต่สิ่งที่เราเจอมันแย่เกินไปคะ เราพยามอดทนแล้วแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถมองข้ามคำพูดได้เลยคะ
เหตุการณ์ล่าสุดคะ : ในเช้าวันนึงที่เราต้องไปเรียนคะ พวกเรามักจะแวะซื้อน้ำก่อนเข้าเรียนเสมอคะ
เราหยิบน้ำกันคนละขวด แล้วเราก็ฝากเอจ่ายตังคะ ทีนี้แถวมศ.มันยาวสุดๆเลยคะ เมื่อไอรับตังเราไปใส่กระเป๋า
ก็ดูเหมือนหงุดหงิดอะไรสักอย่างอยู่แล้วอะคะ เราก็ยังไม่คิดไรคงคิดว่ามันคงมีเหตุผลของมัน เรายืนซ้อนแถว คะ เอไม่รับน้ำไปจากมือเราคะ รับไปแต่ตังคงคิดว่าจะให้ต่อแถวไปเป็นเพื่อนกันเราคิดงี้คะ ทีนี้แถวมันใก้ลเข้ามาเราเลย บอกเอว่า มาเดียวกูจ่ายให้ เอหันมาด้วนสายตาแบบไม่พอใจคะ ด้วยความที่เอเป็นคนหน้าบึ้ง และพูดด้วยเสียโกรธๆกระแทกๆ ว่า " เป็นไรอีกอะ ! ทีนี้เราชัวเลยคะ มันหงุดหงิดอะไรมาแน่เลยคะ ทำไมพูดจาเช่นนี้ เราพยามไม่คิดไรคะ เอยื่นตังให้พนักงานเซเว่นก่อนน้ำเราจะวางลงเหมือนหงุดหงิดอะไรสักอย่าง พนักงานรับแทบไม่ทันคะ เราก็ไม่ไร ถือน้ำขึ้นห้องเรียนคนละห้องคะ
พาพักกลางวัน A กลายเป็นคนปกติละคะ เราก็เออดีค่อยยังช่วง ก็ไม่อะไรคะ ก็เม้ากันตามปกติไป พอดึกๆสักพักเอก็ดูละครกับเราคะ เม้ากันอย่างแฮปปี้สนุกสนาน มือ เอ ก็ทำงานไปคะ เราก็ทำงานเช่นกัน พอดึกเราต้องลงไปติวกับรุ่นพี่คะ เราหายไปสักพักขึ้นมาใหม่ เราก็เล่าให้เอฟังคะพี่เค้าติวไร เอไม่ตอบเราคะเงียบเราไม่รู้ว่า A ฟังอยู่รึป่าวก็พูดต่อไปเรื่อยๆคะ เรื่องว่าเพื่อนในห้องด่าครู A ตอบคะ เลยไม่อะไรแต่เดาได้ว่า A ดูหงุดหงิดอีกละ เราก็จะเข้าไปอาบน้ำนอนละคะ เหลือบไปเห็นขวดน้ำที่เราใช้ล้างหน้ามันหมดแล้ว ก่อนหน้านีเอบอกเราจะลงไปซื้อของเซเว่น เราเลยฝากเอซื้อน้ำคะ
เอหันมามองเราด้วยสายตาหงุดหงิดแล้วบอกว่านี่ไง ในห้องัมนมีน่ำคะ แต่นั้นเป็นน้ำที่หารกันเราก็กลัวเอจะว่าเราเอาเปรียบไปใช้นู้นนี่
เลยเอาที่สบายใจถ้าลงก็ฝากหน่อย ไม่ลงก็ไม่ต้องซื้อ เราง่ายๆคะ แต่เราจะใช้น้ำที่มีก่อนอยู่แล้วแค่ฝากเอซื้อมาเติมถ้ามันไม่ซื้อพน.เราก็คิดว่าจะซื้อมาคืน
เราก็เลยบอกเหตุผลเอไปคะ ว่ากูจะเอามาล้างหน้าคนเดียวเลยไม่อยากใช้อันนั้น ก็พูดแบบเบาๆคะ เอก็ไม่ตอบไร
เราก็ยืนรอว่าเอเข้าใจได้ยินเรายังไป ห้านาทีเหมือนเอไม่อยากคุยอะไรกับเรา แล้วก็เหมือนเราไปทำอะไรให้เอไม่พอใจตั้งแต่ตอนขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อไม่นานเอทะเลาะกับแฟนคะ เราก็คิดในแง่ดีว่าสงสัยมีปัญหาอีกแล้ว เราก็เลยถามเอซ้ำอีกรอบแบบเล่นกับเพื่อนอะคะ เห่ยได้ยินกูใช่ปะเนี่ยจะอาบน้ำแล้วนะ มันตอบเรามาแบบเสียงเฉื่อยๆแบบเซงๆและกวนตีนคะ ว่า ได้ยินและ กูไม่ได้หูหนวก ! เราแทบไม่อยากจะพูดอะไรให้ระแคะระครายหูของ A เลยคะเอุะอะนิดหน่อยก็หงุดหงิด และพอเราเจอคำพูดนั้นของเอปุ้บ เราก็ถามขึ้นมาคะ ว่าเป็นไรวะพูดีดีกับกูไม่ได้หรอ ตั้งแต่เช้าละ เอก็บอกกูไม่ได้พูดไม่ดีสะหน่อยน้ำเสียงเดิมได้คะ ท่าทางสีหน้ามันออกอะคะ เราก็ไม่รู้จะพูดไงให้คนเข้าใจ ไม่เป็นเราคงไม่รู้หรอกคะ เราก็เข้าอาบน้ำแบบไม่สนใจคะ
อายน้ำเสร็จ A ก็ลงไปซื้อของแล้ว เราก็คิดว่าเดียวสักพักคงขึ้นมาเราก็โทรไปปรึกษาแม่คะ ร้องไห้ไปปรึกษาไป มันไม่ใช่ม่ีแค่เหตุการณืนี้
ที่ต้องมารองรับอารมที่เราเดาไม่เคยถูก รู้ทั้งรู้ว่าเค้าเป็นคนแบบนนี้ แต่เจอบ่อยๆคนฟังมันเครียด ! คะเครียดสุดๆไปเลย เราพยามอดทนจะรักษาเพื่อนตามที่พ่อเราบอกคะ แต่เราอึดอัดกับสิ่งที่ต้องทนแล้วทนอีก บางทีนั่งๆอยู่นางก็หน้าบึ้งจนเพื่อนต้องถามเป็นอะไร ซึ่งเราไม่เข้าใจอารมคนเป้นแบบนี้เลยคะ
ขณะที่เราปรึกษาแม่ เอโทสับไปหาแม่และให้แม่เอฟังเสียงเราคะ เอแอบเราอยู่ชั่นนั้นของห้อง แล้วเราก็ตั้งใจให้เค้าได้ยินคะ ว่าเราอึดอัดที่ต้องทนฟังคำพูดไม่ดี เพราะมันอยู่ด้วยกัน เรายอมมาเยอะแล้ว ทำไมเอไม่ลองปรับเข้าหาเราบ้างทั้งๆที่เราก็พยามปรับไม่คิดมากแล้ว หลังากนั้นไม่นานประมาณเกือบเที่ยงคืนเอก็กลับมาคะ เอบอกแม่ของเอว่าเอกลับไปทำใจไม่ให้ทะเลาะกับเรา แต่กลับเข้ามาด้วยความเสแสร้งแทนคะ เราก็โตพอสมควรรู้แล้วว่าอะไรคืออะไรเอเข้ามาด้วยความร่างเริง เออนี่ไงน้ำ ฮ่าๆ นู้นนี่ เราก็มองแล้วก็รู้สึกแย่อะคะ เราต้องเป็นคนทำใจรึป่าว เราไม่ได้ทำไรเค้าเลย แค่ถามว่าทำไมถึงพูดดีดีกันไม่ได้แค่นั้น เพื่อนกันบางทีมันไม่ต้องหาคำตอบสำหรับทุกอย่างก็จริง แต่เราแค่อยากให้มันควบคุมอารมบ้าง
อยู่กับเพื่อนในห้องอยู่กับเราอาจจะรู้ว่ามันเป็นยังไงแต่กับคนอื่น คนอื่นจะทนได้หรอคะ แต่แน่นอนแรกๆคนอื่นก็คงจะยังไม่รู้ แม่เอเลยเข้าใจว่าเราทำลูกเค้าคะ เรางงมากเรากลายเป็นคนผิด แม่เราเป็นกลางนะคะ อยากให้ดีกัน แต่เราตัดสินใจขอแม่ย้ายกอคะ เพราะเราต้องอยู่ที่นี่ ใช้เกรดที่นี่ ต่อแต่เอไม่ต้องใช้เกรดอะไรทั้งสิ้นคะ หลังจากที่ A กลับเข้ามา เค้าก็คุยโทรสับกับแฟนหัวเราะเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นคะ เหลือแต่เราที่คิดมาก
และเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ผิด เราไม่ได้ด่าเค้าอีบ้าเป็นเ*ยไร เราแค่ถามว่าทำไมเราถึงพูดกันดีดีไม่ได้ ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ เราจะได้มีเรื่องดีดีเก็บไว้บ้าง เรารักมันนะคะ แต่สงสัยมันจะไม่รักเรานะสิ และเหตุการณืที่เอชอบพูดจาไม่ดี เอเป็นกับทุกคนคะ เป็นเยอะเป็นน้อยอีกเรื่อง เพื่อนสนิทเราก็พยามปลอบเราให้เราชินคะ แต่เราก็ไม่ยอมปลงสักที พยามแล้วคะ แต่อยู่หออะคะมันทั้งวัน พยามเอาใจจนไม่รู้จะทำไงแล้ว
เหตุผลที่เราตัดสินใจยขอแม่ย้ายหอคะ เพราะเราคิดว่าย้ายเถอะอยู่กันไปกลัวจะเกียดกันมากกว่านี้ เอจะไปตปท.เราก็อยากให้เอจำเราในเรื่องดีดีบ้าง อย่างน้อยเวลาเรียนเจอกันไปไหนด้วยกันเหมือนเดิมนั้นและ แค่ไม่ต้องมานอนด้วยกันแค่นั้น จะได้ต้องมาทะเลาะกันเรื่องเล็กๆน้อย เราจะได้สบายใจอ่านหนังสือคนเดียวเสียงดังได้ถึงจะเหงา จริงๆเราก็รู้สึกผิดเหมือนทำเกินไป แต่เอบอกแม่ของเอว่าเราบ่นบ่อยมาก เราสาบานได้คะว่าบ่นไปแค่ครั้งนี้ครั้งที่สอง บ่นเฉพาะเวลาเอพูดจาไม่ดีกับเรา แต่เอกลับไม่คิดงั้นคะ เอคงคิดว่าเราคงเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกเลย เราดันคิดว่าเพื่อนตัดกันยากแต่เอตัดเราง่ายๆเลยคะ หรือเราจะเป็นคนผิด ซึ่งเราว่าเราไม่ได้ไปทำอะไรให้เค้า เรื่องมันเริ่มจากอารมแปรปรวนของเค้า คงไม่มีใครทนได้ไปอีกหลายเดือนหรอกคะ การย้ายหอทำให้เราเสียตังเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ แต่เพื่อซื้อความเป็นเพื่อนดีดีบ้าง
เช้าวันต่อมาเรานอนโทรมคะร้องไห้เยอะ ด้วยความอึดอัด ไม่พูดก็โดนพูดไม่ดี พอเถียงเอก็ไม่ยอมไม่พอใจ เป็นเรื่องไปคะ สรุปเราผิดหมดเลย เอไปเรียนช่วงเช้าแม่เราโทมาคะช่วงเช้าบอกว่าวันนนี้อาสามารับแทนแม่ A คะ คือรับ A กลับไปด้วย เราก็ไม่ไรคะ เพื่อนกันเดียวเอคงหาย แต่ไม่เลยคะ เอกลับมาตอนเที่ยง ซึ่งเราไม่ไปเรียนรอเอ ปกติถ้าเรียนช่วงบ่ายก็ 4 มองครึ่งคะ เอกลับมาเราก็ถาม อ่าวไม่เรียนแล้วหรอ เอตอบด้วยคำห้วนๆเหมือนไม่อยากคุยด้วยคะว่าไม่ เราก็เค้าใจนะคะ เราเป็นคนย้ายหอมั้งเลยไม่อยากจะคบเราแล้ว แจ่เราไม่เข้าใจคะว่าเราไปทำไรให้ เพื่อนสนิทเราเตือนอีกคะว่าอย่าพยามเข้าใจยิ่งคิดยิ่งแย่กับตัวเอง เพราะเอมันไม่แคร์เราแม้แต่น้อย เอกลับบ้านไม่บอกเราสักคำคะ ส่วนแม่เอ ก็ไม่คุยกับแม่เราเลยว่ามารับ เงียบไปทั้งคู่คะ แม่เอคงโกรธแทนลูกเค้า แม่เราก็ค่อนข้างงคะ ตัดเพื่อนนเลยสะงั้น เป็นผู้ใหญ่น่าจะเป็นกลางว่ามันเป็นแค่เรื่องเด็กทะเลาะกัน แต่แม่เค้ากับไม่คิดแบบนั้นคะ เรายิ่งเครียดเข้าไปใหญ่หรือเราจะทำเกินไป มีอีหลายเหตุการณ์เลยคะที่เอ มีเรื่องไม่ดีแต่เราก็รักเพื่อนคะ ไม่เคยพูดให้เพื่อนเสียหายแม้แต่น้อย เรากับทำความดีกับใครไม่ขึ้นสะงั้น
เราควรทำไงคะปล่อยวางไป หรือต้องทักไป หรือต้องตัดไปเลย
เครียดเรื่องเพื่อนมากคะ ขอคำปรึกษา+คำแนะนำและความเห็นคะ ขอบคุณมากมากเลยคะ
เรามีเรื่องไม่สบายใจเรื่องเพื่อนคะ โดนส่วนตัวแล้วเราเป็นคนคิดมากสุดๆเลย ด้วยความที่รัก
และแคร์เพื่อนมากเกินไปคะ บางทีมันก็ทำร้ายตัวเอง กลุ่มเรามี 5 คนคะ ทุกคนก็แยกย้ายกันไป
ในมหาลัยของตัวเอง แต่เรากับเพื่อนอีกคนนึงในกลุ่ม สมมติชื่อ A คะ ตอนนี้เรียนซัมเมอร์อยู่มหาลัยเดียวกับเรา
แม่เราเป็นคนชวน A มาเรียนเองคะ เรียนอันนี้อาจจะทำให้เอาเวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพราะ A ไปเรียนต่อต่างประเทศคะ
ส่วนเราต้องใช้เวลาที่มหาลัยนี้ไปอีกนาน แม่เรากับแม่ ของ A ค่อนข้างสนิทกันนะคะ ก็เลยมีอะไรก็คุยกันเสมอ
เรากับ A อยู่กลุ่มเดียวกันตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วคะ แต่เพื่อนที่สนิทและไว้ใจไม่ใช่ A คะ ไม่ได้แปลว่าไม่รักนะคะ เรารัก
ทุกคนในกลุ่มเรามากคะ อะไรดีได้ก็ดีด้วยเสมอ ไม่เคยเอาเปรียบ เกรงใจเพื่อน ช่วยเหลือ เราทำทุกอย่างคะ
เรายอมรับว่าเราชอบเอาชนะคะ แต่เราจะเอาชนะในสิ่งที่ถูกต้องและเรามั่นใจว่าเราไม่ได้เป็นคนผิดเท่านั้น
เมื่อA มาอยู่ด้วยแม่เราทั้งสองก็ตัดสินใจให้อยู่หอในคะ แม่ A เป็นคนใจดีนะคะ เหมือนจะไม่มีอะไรคะ
โดยปกติแล้ว A เป็นคนที่ค่อนข้างหงุดหงิดง่าย และพูดจาไม่ดีโดยไม่คิดถึงจิตใจคนอื่นคะ และยื่งมาเจอคนคิดมากแบบเรา มันเลยอยู่กันไม่ได้
เรารู้ดีคะ ว่า A เป็นคนอารมแปรปวนทุกคนจะคิดว่าเราเป็นพวกคิดมาก A เป็นแบบนั้นอยู่แล้วเราก็ควรจะชิน แต่ไม่ใช่เลยคะ คงไม่มีใครอยากโดนพูดจาไม่ดีใส่บ่อยๆคนเดาใจเอาใจไม่ถูกแล้วคะ เหมือนจะกินหัวแบบที่เราเจอหรอก คนเราอยู่ด้วยกันก็ควรจะพูดดีดี เราปรึกษาพ่อและแม่เสมอเค้าบอกให้เราอดทน เพราะ เพื่อนอะวันวันมีแต่จะลดลงไปเรื่อยๆ เราก็พยามจะรักษาเพื่อนคนนี้ของเราไว้คะ นานๆทีเราก็ยังพอโอเคคะ แต่นี้เจอกันทุกวันอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน มันไม่ได้เหมือนตอนอยู่โรงเรียนที่เรามีเพื่อนสนิทคนนึงในกลุ่ม และหลีกเหลี่ยงโดยการกลับบ้านได้สบายๆ แต่นี่ไม่ใช่คะ เราต้องทนคะ และพยามเค้าใจว่าคนเราก็ต้องมีเรื่องเครียดภายในใจเสมอ และทุกคนมีข้อเสียจะให้ได้ดั่งใจเราทุกอย่างคงเป็นไปไม่ได้ เราพยามเปิดใจ และเรื่องแบบนี้ต้องมีสักคนที่ยอม หลายครั้งที่เราไม่ผิด เราก็ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ซึ่งเราก็งงตัวเองคะ พอบางทีก็ดีจนหน้าใจหายคะ เวลาหงุดหงิดอะไรมักพาลเสมอ ชอบกรี้ดในห้องเวลาไม่พอใจคะ เพื่อนมัธยมปลายรู้ว่า A เป็นยังไง เราพยามอดทนแล้วคะ แต่คนเราย่อมมีความอดทนถูกรึป่าวคะ
แต่สิ่งที่เราเจอมันแย่เกินไปคะ เราพยามอดทนแล้วแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถมองข้ามคำพูดได้เลยคะ
เหตุการณ์ล่าสุดคะ : ในเช้าวันนึงที่เราต้องไปเรียนคะ พวกเรามักจะแวะซื้อน้ำก่อนเข้าเรียนเสมอคะ
เราหยิบน้ำกันคนละขวด แล้วเราก็ฝากเอจ่ายตังคะ ทีนี้แถวมศ.มันยาวสุดๆเลยคะ เมื่อไอรับตังเราไปใส่กระเป๋า
ก็ดูเหมือนหงุดหงิดอะไรสักอย่างอยู่แล้วอะคะ เราก็ยังไม่คิดไรคงคิดว่ามันคงมีเหตุผลของมัน เรายืนซ้อนแถว คะ เอไม่รับน้ำไปจากมือเราคะ รับไปแต่ตังคงคิดว่าจะให้ต่อแถวไปเป็นเพื่อนกันเราคิดงี้คะ ทีนี้แถวมันใก้ลเข้ามาเราเลย บอกเอว่า มาเดียวกูจ่ายให้ เอหันมาด้วนสายตาแบบไม่พอใจคะ ด้วยความที่เอเป็นคนหน้าบึ้ง และพูดด้วยเสียโกรธๆกระแทกๆ ว่า " เป็นไรอีกอะ ! ทีนี้เราชัวเลยคะ มันหงุดหงิดอะไรมาแน่เลยคะ ทำไมพูดจาเช่นนี้ เราพยามไม่คิดไรคะ เอยื่นตังให้พนักงานเซเว่นก่อนน้ำเราจะวางลงเหมือนหงุดหงิดอะไรสักอย่าง พนักงานรับแทบไม่ทันคะ เราก็ไม่ไร ถือน้ำขึ้นห้องเรียนคนละห้องคะ
พาพักกลางวัน A กลายเป็นคนปกติละคะ เราก็เออดีค่อยยังช่วง ก็ไม่อะไรคะ ก็เม้ากันตามปกติไป พอดึกๆสักพักเอก็ดูละครกับเราคะ เม้ากันอย่างแฮปปี้สนุกสนาน มือ เอ ก็ทำงานไปคะ เราก็ทำงานเช่นกัน พอดึกเราต้องลงไปติวกับรุ่นพี่คะ เราหายไปสักพักขึ้นมาใหม่ เราก็เล่าให้เอฟังคะพี่เค้าติวไร เอไม่ตอบเราคะเงียบเราไม่รู้ว่า A ฟังอยู่รึป่าวก็พูดต่อไปเรื่อยๆคะ เรื่องว่าเพื่อนในห้องด่าครู A ตอบคะ เลยไม่อะไรแต่เดาได้ว่า A ดูหงุดหงิดอีกละ เราก็จะเข้าไปอาบน้ำนอนละคะ เหลือบไปเห็นขวดน้ำที่เราใช้ล้างหน้ามันหมดแล้ว ก่อนหน้านีเอบอกเราจะลงไปซื้อของเซเว่น เราเลยฝากเอซื้อน้ำคะ
เอหันมามองเราด้วยสายตาหงุดหงิดแล้วบอกว่านี่ไง ในห้องัมนมีน่ำคะ แต่นั้นเป็นน้ำที่หารกันเราก็กลัวเอจะว่าเราเอาเปรียบไปใช้นู้นนี่
เลยเอาที่สบายใจถ้าลงก็ฝากหน่อย ไม่ลงก็ไม่ต้องซื้อ เราง่ายๆคะ แต่เราจะใช้น้ำที่มีก่อนอยู่แล้วแค่ฝากเอซื้อมาเติมถ้ามันไม่ซื้อพน.เราก็คิดว่าจะซื้อมาคืน
เราก็เลยบอกเหตุผลเอไปคะ ว่ากูจะเอามาล้างหน้าคนเดียวเลยไม่อยากใช้อันนั้น ก็พูดแบบเบาๆคะ เอก็ไม่ตอบไร
เราก็ยืนรอว่าเอเข้าใจได้ยินเรายังไป ห้านาทีเหมือนเอไม่อยากคุยอะไรกับเรา แล้วก็เหมือนเราไปทำอะไรให้เอไม่พอใจตั้งแต่ตอนขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อไม่นานเอทะเลาะกับแฟนคะ เราก็คิดในแง่ดีว่าสงสัยมีปัญหาอีกแล้ว เราก็เลยถามเอซ้ำอีกรอบแบบเล่นกับเพื่อนอะคะ เห่ยได้ยินกูใช่ปะเนี่ยจะอาบน้ำแล้วนะ มันตอบเรามาแบบเสียงเฉื่อยๆแบบเซงๆและกวนตีนคะ ว่า ได้ยินและ กูไม่ได้หูหนวก ! เราแทบไม่อยากจะพูดอะไรให้ระแคะระครายหูของ A เลยคะเอุะอะนิดหน่อยก็หงุดหงิด และพอเราเจอคำพูดนั้นของเอปุ้บ เราก็ถามขึ้นมาคะ ว่าเป็นไรวะพูดีดีกับกูไม่ได้หรอ ตั้งแต่เช้าละ เอก็บอกกูไม่ได้พูดไม่ดีสะหน่อยน้ำเสียงเดิมได้คะ ท่าทางสีหน้ามันออกอะคะ เราก็ไม่รู้จะพูดไงให้คนเข้าใจ ไม่เป็นเราคงไม่รู้หรอกคะ เราก็เข้าอาบน้ำแบบไม่สนใจคะ
อายน้ำเสร็จ A ก็ลงไปซื้อของแล้ว เราก็คิดว่าเดียวสักพักคงขึ้นมาเราก็โทรไปปรึกษาแม่คะ ร้องไห้ไปปรึกษาไป มันไม่ใช่ม่ีแค่เหตุการณืนี้
ที่ต้องมารองรับอารมที่เราเดาไม่เคยถูก รู้ทั้งรู้ว่าเค้าเป็นคนแบบนนี้ แต่เจอบ่อยๆคนฟังมันเครียด ! คะเครียดสุดๆไปเลย เราพยามอดทนจะรักษาเพื่อนตามที่พ่อเราบอกคะ แต่เราอึดอัดกับสิ่งที่ต้องทนแล้วทนอีก บางทีนั่งๆอยู่นางก็หน้าบึ้งจนเพื่อนต้องถามเป็นอะไร ซึ่งเราไม่เข้าใจอารมคนเป้นแบบนี้เลยคะ
ขณะที่เราปรึกษาแม่ เอโทสับไปหาแม่และให้แม่เอฟังเสียงเราคะ เอแอบเราอยู่ชั่นนั้นของห้อง แล้วเราก็ตั้งใจให้เค้าได้ยินคะ ว่าเราอึดอัดที่ต้องทนฟังคำพูดไม่ดี เพราะมันอยู่ด้วยกัน เรายอมมาเยอะแล้ว ทำไมเอไม่ลองปรับเข้าหาเราบ้างทั้งๆที่เราก็พยามปรับไม่คิดมากแล้ว หลังากนั้นไม่นานประมาณเกือบเที่ยงคืนเอก็กลับมาคะ เอบอกแม่ของเอว่าเอกลับไปทำใจไม่ให้ทะเลาะกับเรา แต่กลับเข้ามาด้วยความเสแสร้งแทนคะ เราก็โตพอสมควรรู้แล้วว่าอะไรคืออะไรเอเข้ามาด้วยความร่างเริง เออนี่ไงน้ำ ฮ่าๆ นู้นนี่ เราก็มองแล้วก็รู้สึกแย่อะคะ เราต้องเป็นคนทำใจรึป่าว เราไม่ได้ทำไรเค้าเลย แค่ถามว่าทำไมถึงพูดดีดีกันไม่ได้แค่นั้น เพื่อนกันบางทีมันไม่ต้องหาคำตอบสำหรับทุกอย่างก็จริง แต่เราแค่อยากให้มันควบคุมอารมบ้าง
อยู่กับเพื่อนในห้องอยู่กับเราอาจจะรู้ว่ามันเป็นยังไงแต่กับคนอื่น คนอื่นจะทนได้หรอคะ แต่แน่นอนแรกๆคนอื่นก็คงจะยังไม่รู้ แม่เอเลยเข้าใจว่าเราทำลูกเค้าคะ เรางงมากเรากลายเป็นคนผิด แม่เราเป็นกลางนะคะ อยากให้ดีกัน แต่เราตัดสินใจขอแม่ย้ายกอคะ เพราะเราต้องอยู่ที่นี่ ใช้เกรดที่นี่ ต่อแต่เอไม่ต้องใช้เกรดอะไรทั้งสิ้นคะ หลังจากที่ A กลับเข้ามา เค้าก็คุยโทรสับกับแฟนหัวเราะเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นคะ เหลือแต่เราที่คิดมาก
และเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ผิด เราไม่ได้ด่าเค้าอีบ้าเป็นเ*ยไร เราแค่ถามว่าทำไมเราถึงพูดกันดีดีไม่ได้ ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ เราจะได้มีเรื่องดีดีเก็บไว้บ้าง เรารักมันนะคะ แต่สงสัยมันจะไม่รักเรานะสิ และเหตุการณืที่เอชอบพูดจาไม่ดี เอเป็นกับทุกคนคะ เป็นเยอะเป็นน้อยอีกเรื่อง เพื่อนสนิทเราก็พยามปลอบเราให้เราชินคะ แต่เราก็ไม่ยอมปลงสักที พยามแล้วคะ แต่อยู่หออะคะมันทั้งวัน พยามเอาใจจนไม่รู้จะทำไงแล้ว
เหตุผลที่เราตัดสินใจยขอแม่ย้ายหอคะ เพราะเราคิดว่าย้ายเถอะอยู่กันไปกลัวจะเกียดกันมากกว่านี้ เอจะไปตปท.เราก็อยากให้เอจำเราในเรื่องดีดีบ้าง อย่างน้อยเวลาเรียนเจอกันไปไหนด้วยกันเหมือนเดิมนั้นและ แค่ไม่ต้องมานอนด้วยกันแค่นั้น จะได้ต้องมาทะเลาะกันเรื่องเล็กๆน้อย เราจะได้สบายใจอ่านหนังสือคนเดียวเสียงดังได้ถึงจะเหงา จริงๆเราก็รู้สึกผิดเหมือนทำเกินไป แต่เอบอกแม่ของเอว่าเราบ่นบ่อยมาก เราสาบานได้คะว่าบ่นไปแค่ครั้งนี้ครั้งที่สอง บ่นเฉพาะเวลาเอพูดจาไม่ดีกับเรา แต่เอกลับไม่คิดงั้นคะ เอคงคิดว่าเราคงเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกเลย เราดันคิดว่าเพื่อนตัดกันยากแต่เอตัดเราง่ายๆเลยคะ หรือเราจะเป็นคนผิด ซึ่งเราว่าเราไม่ได้ไปทำอะไรให้เค้า เรื่องมันเริ่มจากอารมแปรปรวนของเค้า คงไม่มีใครทนได้ไปอีกหลายเดือนหรอกคะ การย้ายหอทำให้เราเสียตังเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ แต่เพื่อซื้อความเป็นเพื่อนดีดีบ้าง
เช้าวันต่อมาเรานอนโทรมคะร้องไห้เยอะ ด้วยความอึดอัด ไม่พูดก็โดนพูดไม่ดี พอเถียงเอก็ไม่ยอมไม่พอใจ เป็นเรื่องไปคะ สรุปเราผิดหมดเลย เอไปเรียนช่วงเช้าแม่เราโทมาคะช่วงเช้าบอกว่าวันนนี้อาสามารับแทนแม่ A คะ คือรับ A กลับไปด้วย เราก็ไม่ไรคะ เพื่อนกันเดียวเอคงหาย แต่ไม่เลยคะ เอกลับมาตอนเที่ยง ซึ่งเราไม่ไปเรียนรอเอ ปกติถ้าเรียนช่วงบ่ายก็ 4 มองครึ่งคะ เอกลับมาเราก็ถาม อ่าวไม่เรียนแล้วหรอ เอตอบด้วยคำห้วนๆเหมือนไม่อยากคุยด้วยคะว่าไม่ เราก็เค้าใจนะคะ เราเป็นคนย้ายหอมั้งเลยไม่อยากจะคบเราแล้ว แจ่เราไม่เข้าใจคะว่าเราไปทำไรให้ เพื่อนสนิทเราเตือนอีกคะว่าอย่าพยามเข้าใจยิ่งคิดยิ่งแย่กับตัวเอง เพราะเอมันไม่แคร์เราแม้แต่น้อย เอกลับบ้านไม่บอกเราสักคำคะ ส่วนแม่เอ ก็ไม่คุยกับแม่เราเลยว่ามารับ เงียบไปทั้งคู่คะ แม่เอคงโกรธแทนลูกเค้า แม่เราก็ค่อนข้างงคะ ตัดเพื่อนนเลยสะงั้น เป็นผู้ใหญ่น่าจะเป็นกลางว่ามันเป็นแค่เรื่องเด็กทะเลาะกัน แต่แม่เค้ากับไม่คิดแบบนั้นคะ เรายิ่งเครียดเข้าไปใหญ่หรือเราจะทำเกินไป มีอีหลายเหตุการณ์เลยคะที่เอ มีเรื่องไม่ดีแต่เราก็รักเพื่อนคะ ไม่เคยพูดให้เพื่อนเสียหายแม้แต่น้อย เรากับทำความดีกับใครไม่ขึ้นสะงั้น
เราควรทำไงคะปล่อยวางไป หรือต้องทักไป หรือต้องตัดไปเลย