ประสบการณ์การผ่าตัดขากรรไกร สบฟันผิดปกติ ข้อต่อขากรรไกรเคลื่อน

กระทู้สนทนา
เราเพิ่งผ่าตัดขากรรไกรมาได้ 3 เดือน ที่รพ.รัฐแห่งหนึ่ง เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่กำลังหาข้อมูลหรือกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะผ่าตัดดีหรือไม่ เพราะก่อนที่เราจะตัดสินใจผ่าตัด เราค้นคว้าหาข้อมูลทาง google youtube pantip นี่แหละ แต่ว่าหาคนแชร์ประสบการณ์แบบละเอียดๆได้น้อยมาก (เราอาจจะหาไม่เจอเอง 5555) พอไปขึ้นเขียงมาเอง ก็เลยอยากเอามาเล่าให้ฟังเผื่อจะมีประโยชน์บ้างนะคะ

 

ขอบอกก่อนเลยว่าข้อมูลของเรานี่เราคิดเองเออเองซะส่วนใหญ่นะ เพราะเราเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ทุกอย่างต้อง make sense และมีเหตุผล support ที่เข้าใจได้ บางทีเราเลยไม่ค่อยเชื่อฟังหมอ ก็มีดื้อบ้างไรบ้าง เราเลยค้นคว้าหาข้อมูลเอง สรุปเองจากที่อ่านมา ทั้งบทความ ประสบการณ์ของคนอื่น งานวิจัย คลิปวิดีโอ youtube ทั้งของไทยและต่างประเทศ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ 😆😆

สาเหตุที่เราไปหาหมอเกี่ยวกับขากรรไกรครั้งแรกคือเราเป็นข้อต่อขากรรไกรเคลื่อนด้านขวา อันนี้เราก็วินิจฉัยเองก่อน จากที่หาข้อมูลมา โรคนี้เรียกว่า TMJ หรือ TMD ซึ่งก็คือความผิดปกติที่ข้อต่อขากรรไกร มักมีอาการปวดร่วมด้วย และไมเกรนก็เป็นอาการอย่างนึงของโรคนี้ เมื่อ2-3ปีที่ผ่านมานี้ เราปวดหัวบ่อยมาก ไปหาหมอไมเกรนหลายเดือนก็ไม่หาย เรานึกไปนึกมาก็จำได้ว่า เมื่อ5ปีก่อน เราทานขนมแล้วน้องที่นั่งข้างๆก็ทักว่าทำไมเวลาเราเคี้ยวมันมีเสียงดังกึกๆตรงข้างหูเรา เราเลยเพิ่งรู้ว่า เออ...มันดังจริงๆด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร มันก็ดังมาตลอดจนชิน และไม่มีอาการเจ็บปวดใด มีแต่ปวดหัวซึ่งปวดบ่อยและนานเป็นสิบชั่วโมง เราเลยหาข้อมูล คิดเอาเองว่าเป็น TMJ แน่ๆ เราเลยไปหาหมอที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง หมอบอกว่าใช่เลย เราเป็นโรคหมอนรองกระดูกข้อต่อขากรรไกรเคลื่อน (ชื่อโรคยาวไปมั้ย??) หมอบอกว่าอาจจะเกิดจากการนอนกัดฟัน ซึ่งเรามั่นใจมากว่าเราไม่ได้นอนกัดฟัน ไม่เคยมีใครทักหรือได้ยินเรานอนกัดฟันเลย หมอให้เราสบฟันกัดฟันให้ดูแล้วสรุปว่าฟันล่างเราสูง(ยาว)เกินไป เวลาจะเคี้ยวจะกัดฟัน ฟันมันจะขัดๆกันก่อนที่จะสบฟันเต็มที่ได้ อาจจะทำให้ข้อต่อขากรรไกรเคลื่อน หมอจะกรอฟันล่างเราลง ซึ่งเราไม่ทำ! จะบ้าเหรอ มันเกี่ยวกันจริงเหรอ เราไม่เชื่อเลย และฟันมันก็ไม่ได้ขัดกันขนาดนั้น (คิดในใจ) หมอเลยบอกว่าอีกวิธีคือขยับขากรรไกรล่างให้ยื่นออกมาอีก ซึ่งเดิมเราเป็นคนที่ขากรรไกรล่างยื่นอยู่แล้ว ฟันล่างคร่อมฟันบนประมาณ 1-2มิล แต่หมอจะทำให้มันยื่นออกมาอีก บ้าแล้วววว...แน่นอน เราไม่ทำ!!! สุดท้าย หมอเลยให้ทำ sprint หรือเฝือกสบฟัน ไว้ใส่เฉพาะเวลานอน แล้วหมอจะนัดมาดูว่ามีร่องรอยการกัดฟันบนsprintมั้ย เราก็ทำไปแบบงงๆ (ค่า sprint 6,000 บาท) กลับมาหาข้อมูลว่ามันช่วยอะไร เราไม่คิดว่ามันจะช่วยเพราะมันแค่เอามาติดกับฟันบน คล้ายๆที่นักมวยใส่ แต่อันนี้จะแข็ง เราสามารถอ้าปากได้อิสระ แต่เวลากัดฟันมันก็จะติดเจ้าsprintนี่ เพราะมันจะหนานิดนึง ฟันกรามล่างกับบนจะสบกันไม่ถึง จากที่อ่านมาเค้าบอกว่าsprintจะช่วยให้ข้อต่อขากรรไกรอยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย เราจะกัดฟันไม่ได้ ข้อต่อจะได้พักผ่อน แล้วเสียงคลิกก็จะหายไป แต่ถ้าเราไม่ได้กัดฟันเวลานอนล่ะ มันจะช่วยอะไรได้ ?? เราเลยใส่บ้างไม่ใส่บ้าง สุดท้ายก็ไม่ใส่เลย เพราะมันน่ารำคาญ แถมนอนน้ำลายยืดตลอดเลยเวลาใส่sprintนอน ดังนั้น...ลาก่อน sprint

เราก็ยังปวดหัวมาตลอด ปวดถี่ขึ้น นานขึ้น บางทีปวดทุกวันติดๆกัน จนไม่ไหวละ แล้วเหตุก็เกิดเมื่อกลางปีที่แล้ว (2014) เราเกิดเจ็บตรงข้อต่อขากรรไกรขึ้นมา อ้าปากแทบไม่ได้ เป็นอยู่ 4-5 วัน เราเลยกลับมาหาข้อมูลอย่างจริงจังอีกครั้ง ว่ามันเกิดจากอะไร และจะรักษายังไง ส่วนใหญ่บอกว่าไม่มีสาเหตุแน่ชัด และไม่มีวิธีรักษาที่ได้ผล 100% เราอ่านไปอ่านมาจนสรุปได้ว่า สาเหตุที่น่าจะตรงกับเคสเราที่สุดคือ การสบฟันผิดปกติ เพราะเราฟันล่างคร่อมฟันบน เราเลยคิดจะไปจัดฟัน เราไปหาหมอจัดฟันชื่อดังท่านนึงที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง หมอบอกว่าต้องผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย หมอไม่จัดให้ เพราะจัดไปก็ไม่สวย เราไม่อยากผ่าตัด เลยไปหาหมอที่คลินิกจัดฟันชื่อดังที่หนึ่ง (หมอท่านที่ 3) หมอตอบเหมือนกันคือเคสเราต้องผ่าตัดขากรรไกร ถ้าไม่ผ่า จัดฟันอย่างเดียวคางเราจะแหลมเหมือนแม่มด หมอพูดเหมือนไม่เห็นด้วยที่จะจัดโดยไม่ผ่าตัด เรากลับมาคิด ก็ได้คำตอบว่าไม่อยากผ่าตัดเหมือนเดิม เลย inbox ไปถามหมอว่าถ้าหนูไม่สนว่าหน้าหรือคางจะเหมือนแม่มดขนาดไหน หนูอยากแค่จัดฟันให้ฟันล่างไม่คร่อมฟันบน หมอจะจัดให้มั้ย หมอตอบว่าให้เข้าไปคุยอีกครั้ง แต่เราไม่ได้ไป เราหาข้อมูลอีกเยอะมากเพื่อที่จะจัดฟันโดยไม่ผ่าตัด จนไปเจอคลินิกนึงที่เค้าโฆษณาเน้นว่าฟันล่างคร่อมฟันบนไม่ผ่าตัด แต่พอไปหมอก็บอกว่าต้องผ่า ถ้าไม่ผ่าทำเสร็จไม่สวยหมอก็เสียชื่อ แล้วหมอก็ส่งตัวไปคุยกับหมอผ่าตัดขากรรไกร (maxillofacial surgery) เราก็ไป เพราะอยากไปถามว่าต้องผ่าจริงๆเหรอ พอไปถาม หมอก็บอกว่าผ่าจะดีกว่า  ซึ่งการผ่าตัด ต้องจัดฟันก่อนปีครึ่ง ผ่าเสร็จก็จัดฟันต่ออีกครึ่งปี เราก็ทำใจละว่าไม่ว่าจะไปอีกกี่ที่ หมอก็คงไม่จัดให้โดยไม่ผ่าตัดหรอก เราเลยยอมผ่า แต่ก็มีคำถามอีกว่าผ่าก่อนแล้วค่อยจัดทีเดียวไม่ได้เหรอ หมอบอกว่าได้ แต่ว่าจัดก่อนดีกว่า ในความคิดเรา เราว่าจัดก่อนจัดหลังก็ไม่เห็นต่าง มันก็ต้องมีช่วงเวลาที่สบฟันไม่ปกติมากๆอยู่ดี จัดก่อน ฟันก็จะยื่นอกกมามากกว่าเดิม เพื่อที่ผ่าเสร็จปุ๊บมันจะเข้าที่พอดีหน้าตารูปหน้าสวยงามพอดี มาจัดฟันเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย เราคิดว่าช่วงที่จัดฟันก่อนผ่าตัดมันก็จะเคี้ยวไม่ถนัดสบฟันประหลาดๆ ทำไมไม่ผ่าก่อนไปเลยแล้วจัดฟันทีเดียว เราคิดแบบนี้ คือเราไม่ได้อยากสวย เราแค่อยากสบฟันปกติ อยากแก้ไขแค่เรื่องฟัน เราเลย inboxไปหาหมอท่านที่ 3 อีกครั้ง (ท่านที่ดูพูดจาสมเหตุสมผลที่สุด) ถามว่าผ่าตัดก่อนจัดฟันได้มั้ย หมอตอบว่าทำได้ แต่ต้องเข้าไปคุย ไม่ใช่ทุกคนที่จะผ่าตัดก่อนจัดฟันได้ เรามีความหวังอันยิ่งใหญ่ขึ้นมา เข้าไปพบหมอแล้วสุดท้ายหมอก็บอกว่าผ่าตัดก่อนได้ แต่หน้าเราจะไม่เปลี่ยนมาก และรูปหน้าก็จะเป็นแบบมีคางเหมือนเดิม ซึ่งเราโอเค เราไม่ได้อยากหน้าเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่การปรึกษาหมอยังไม่จบค่ะ หมอจัดฟันให้เราไปconfirmกับหมอผ่าตัดขากรรไกรอีกคนที่รพ.รัฐแห่งหนึ่งก่อน ซึ่งค่าผ่าตัดถูกมาก แค่ประมาณ 3-4หมื่นต่อ1ขากรรไกร

 

ปลายเดือนพฤศจิกายน 2014 เรานัดหมอผ่าตัดเพื่อไปคุยลุ้นมากกกก และแล้วหมอก็บอกว่าทำได้ แต่มีข้อเสียคือมันอาจจะเด้งกลับที่เดิมเพราะไม่ได้จัดฟันพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งขากรรไกรหลังผ่าตัด ฟันอาจสบกันได้ไม่พอดีทำให้กล้ามเนื้อดึงกลับมาต้องผ่าซ้ำสองครั้ง แต่เราคิดว่าฟันเราไม่ได้เกหรือบิดเบี้ยวขนาดนั้น หมอจัดฟันลองเอาพิมพ์ฟันบนและล่างมาเลื่อนไปตำแหน่งหลังผ่ามันก็สบกันได้ดีไม่เห็นจะต้องจัดฟันก่อนเลย เราเลยตอบหมอว่าโอเค รับความเสี่ยงได้ (ซึ่งเราคิดเอาเองว่าความเสี่ยงมันต่ำมาก และถึงจัดฟันก่อนผ่า ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลย) และแล้ว.....เราก็นัดวันเพื่อผ่าตัดขากรรไกรล่าง คือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2015 เพราะเราต้องถอนฟันคุด 1 ซี่และต้องเว้นระยะเวลาให้แผลหายสนิทเหงือกขึ้นเต็มเป็นเวลา 3 เดือนก่อนผ่า

มกรา 2015 หมอนัดให้ไปตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด และบอกว่าวันผ่าต้องมาลุ้นอีกทีว่าจะได้ห้องพักแบบเดี่ยวอย่างที่ต้องการหรือไม่ ซึ่งจะรู้ในวันก่อนผ่า 1 วัน แต่พอถึงวันก่อนผ่า 3 วัน รพ.โทรมาบอกว่าห้องผ่าตัดปิดซ่อม ต้องเลื่อนวันผ่า เซ็งจุงเบยยยย ตื่นเต้นนะเนี่ยยยย

เราเลื่อนวันผ่าตัดออกไปเป็นวันที่ 12 มีนาคม 2015 ครั้งนี้ห้องผ่าตัดพร้อม แต่ห้องพักเหลือแต่ห้องที่แสนจะแพง (5,000 บาทต่อคืน) แต่เราก็ยอมละ ไม่อยากลุ้นอีกแล้ว เราต้องไปadmitที่รพ.ก่อนวันผ่า 1 คืน

ง่วงนอนแว้วววว เดี๋ยวมาเล่าวันขึ้นเขียงต่อนะคะ 😴😴😴
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่