“ตาล The Face” โล่งใจ เคลียร์ “เต้ กันตนา” จบ เชื่อคนกลางสื่อสารคลาดเคลื่อน เรื่องหวิดบานปลาย เผยเป็นเด็กไม่ก้าวร้าวผู้ใหญ่ ด้าน “น้ำฝน” เตรียมจับลงละคร บอกต่อไปให้ใช้นามสกุล “กุณณัฏฐ์” แทน The Face
หลังจากที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อยู่ร่วมเดือน กรณีที่ “เต้ ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา เอฟโวลูชั่น จำกัด ผู้ผลิตรายการ The Face Thailand โพสต์อินสตาแกรม ประกาศตัดขาด "ตาล ปทุมวรรณ กุลปรียาวัฒน์" พ้นจากนามสกุล The Face และทางฝั่งของ “น้ำฝน กุณณัฏฐ์” ในฐานะอาสาวได้มีการโพสต์ขอคำชี้แจง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ล่าสุดทางฝั่งเต้ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าได้มีการเคลียร์กับตาลแล้วเรียบร้อย โดยมีซูเปอร์โมเดลตัวแม่ “ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม” มาเป็นกาวใจ แต่ทั้งนี้เต้ไม่ขอพูดถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น บอกเป็นแค่การสื่อสารที่ผิดพลาด และอนุญาตให้ใช้นามสกุล The Face ได้เหมือนเดิมแล้ว
ล่าสุดทางฝั่งน้ำฝนก็ได้ควงตาลหลานสาวออกมาชี้แจงในงาน ครบรอบ 1 ปี Embassy Diplomat Screens and AIS movie privilege ณ โรงภาพยนตร์ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ชั้น 6 โดยสาวตาลเผยว่าสาเหตุทั้งหมดมีเพียงเรื่องเดียวคือตนไม่สามารถเข้าไปเซ็นสัญญาตามวันที่นัดหมายได้ เนื่องจากต้องเคลียร์งานประจำ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เต้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าพี่ฝนมีฐานะเป็นอานะคะ แต่หนูเรียกพี่ฝน (หัวเราะ) คือเรื่องที่เกิดขึ้นตอนแรกตาลไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดจากอะไร เราไปพูดอะไรผิดใจเขาหรือเปล่า หรือว่าเราทำอะไรให้เขาหรือเปล่า ก็พยายามคิดๆ ก็บอกพี่ฝนว่าตาลไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มาคิดดูแล้วสาเหตุมันน่าจะมาจากวันที่พี่เต้นัดให้เข้าไปเซ็นสัญญาแล้วตาลไม่ได้ไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราหายไปเลยนะ เพราะเราก็บอกเขาว่าเข้าไปไม่ได้จริงๆ เพราะต้องเรียนให้ทราบก่อนว่าหนูไม่ได้เป็นนางแบบเต็มตัว เพราะงานประจำของตาลคือกราฟฟิกดีไซเนอร์ค่ะ คือเราก็ยังต้องทำงานออฟฟิศอยู่ และวันที่เขานัดก็ตรงกับวันธรรมดาที่เราต้องทำงาน หนูก็เรียนให้เขาทราบว่าเข้าไปไม่ได้จริงๆ เพราะต้องทำงาน ติดงานลูกค้า”
“พี่ฝนก็ถามว่าเป็นยังไง ทำไมเรื่องมันเป็นอย่างนี้ เราไปทำอะไรให้เขาหรือเปล่า คือตอนนั้นเขายังไม่รู้เหตุผล แต่พอเล่าให้เขาฟัง เขาก็บอกว่างั้นก็เข้าไปเคลียร์กันซะ พี่ฝนเขาถือว่าเป็นเรื่องระหว่างตาลกับพี่เต้ เขาก็ได้แต่แนะนำว่าต้องทำยังไง ต้องเข้าไปคุยกับเขานะ ไม่ว่ายังไงเราก็เป็นเด็ก เราต้องเข้าไปคุยกับเขาว่าเราทำอะไรผิด หรือว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้น”
“หนูก็เลยได้เข้าไปหาพี่เต้ไปคุยกันค่ะ ได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว คือมันเป็นการเข้าใจผิดกันหลายๆ อย่างมากกว่า เพราะตอนคุยกันเราก็ไม่ได้คุยกับพี่เต้โดยตรง คือมีคนกลางมาคุยแทน แล้วก็ไปบอกพี่เต้อีกทีหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าเขาสื่อสารอะไรกันยังไง”
“สาเหตุมีแค่เรื่องไม่เข้าไปเซ็นสัญญาเรื่องเดียวค่ะ แต่ผลที่ออกมามันเป็นเรื่องใหญ่มาก ก็เสียใจค่ะ คือไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลจากใครหรืออะไรหนูก็ไม่อยากให้เกิดเลย เพราะเราก็เคยร่วมงานกับเขามาก่อน และเราก็เป็นเด็ก เขาเป็นผู้ใหญ่ หนูจะมีฤทธิ์ไปกล้าทำอะไรเขาล่ะคะ แต่กลายเป็นว่าหนูไปมีปัญหากับผู้ใหญ่ซะแล้ว ซึ่งจริงๆ หนูไม่อยากมีปัญหาเลย”
“แต่หลังจากที่ได้เข้าไปคุยกันแล้ว หนูก็ได้อธิบายให้เข้าใจและตอนนี้ก็เคลียร์แล้วค่ะ พี่เต้ก็บอกให้ฟังว่าจริงๆ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขานะในเรื่องการมาคุยตกลงสัญญากัน หนูก็เข้าใจ แต่ที่หนูเข้าไปเซ็นสัญญาไม่ได้เพราะ ณ เวลานั้นหน้าที่ของหนูคือต้องเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จ เพราะงานชิ้นนี้มันมาก่อนที่เราจะคุยเรื่องสัญญากันน่ะค่ะ คือหนูก็อยากจะเคลียร์งานให้มันจบไปก่อน เพราะมันเป็นหน้าที่ของหนูที่ยังทำค้างอยู่ แต่ถามว่าต่อไปจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกไหม อันนี้ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่เลยค่ะ แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสค่ะ (ยิ้ม) แต่ตอนนี้ทุกอย่างเราเคลียร์กันเรียบร้อย ไม่มีปัญหาค้างคาใจกันแล้ว"
เผย “น้ำฝน” เตรียมให้ลงละครที่ตัวเองเป็นผู้จัด บอกแม้จะไม่ถนัด แต่อยากลองทำดู
“ตอนนี้ก็ยังทำงานประจำอยู่ค่ะ งานเดินแบบก็ยังทำไปด้วย พี่ฝนก็ไม่ถึงกับช่วยดันนะคะ แต่จะคอยถามว่าอยากทำอย่างนั้นอย่างนี้ไหม เขาเคยพูดกับตาลว่าถ้าสมมติฉันดันไป แต่ถ้าเธอไม่รับมันก็เท่านั้น อย่างตอนนี้พี่ฝนเขาเป็นผู้จัด เขาก็ให้เราดูบทคาแรกเตอร์ต่างๆ ตอนนี้ก็รอดูบทที่เข้ากับตาลอยู่ค่ะ (ยิ้ม) ก็มีแนวโน้มค่ะ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยถนัดกับการแสดงเท่าไหร่ แต่ก็อยากลองทำดูนะคะ อยากทำให้ได้ (ยิ้ม) จริงๆ อยากเล่นหนังมากกว่า แต่ตอนนี้ต้องรอดูว่าพี่ฝนจะว่ายังไงก่อนค่ะ (หัวเราะ)”
ด้าน “น้ำฝน” เผย “ตาล” ไปประกวด The Face ก็เพราะตนแนะนำ ฉะนั้นตนรู้เรื่องทุกอย่างดี หลังจากนี้จะให้กลับมาใช้นามสกุลของตนแทน
“คือขอเคลียร์ในส่วนของฝนนะคะ วันที่ตาลไม่ได้เข้าไปตาลได้โทร.มาหาฝน และในส่วนที่คุณเต้ได้ให้สัมภาษณ์ไปว่าฝนไม่รู้เรื่องอะไร อันนี้ฝนขออธิบายให้ทราบว่า ตาลไปประกวดเดอะเฟซก็เพราะฝน น้องไม่รู้เรื่อง และทุกครั้งที่เขาเข้ารอบในแต่ละวัน เขาจะโทร.มารายงานเราตลอดว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ฝนจะรู้เรื่องตลอด”
“อย่างวันนั้นที่เรียกเข้าไปหลังจากประกวดเสร็จหมดแล้ว ตาลก็โทร.มาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ลางานมาเยอะแล้ว ฝนเลยให้โทร.ถามพี่เขาว่าไม่ไปวันนี้ได้ไหม ไปวันอื่นแทนได้ไหม ทางทีมงานคุยก็บอกว่าได้ ไม่เป็นไร รู้สึกว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายและครั้งเดียวที่เรียกเข้าไปคุย หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการเรียกในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
“ส่วนที่ฝนทนไม่ไหวเลยออกมาปกป้องเพราะอยากให้เรื่องนี้จบจริงๆ ตาลกับคุณเต้ได้เคลียร์กันแล้ว วันนี้ฝนจะเคลียร์คืออยากเคลียร์ในมุมของฝน ที่ให้สัมภาษณ์เหมือนตาลผิดตรงๆ เราถามเขาว่าสนใจอยากไปด้านไหน เขาบอกอยากเป็นนางแบบ เราเลยบอกถ้าไม่ชนะก็ไม่ต้องเซ็นแล้วกัน จะได้ไปได้หลายๆ ทาง อันนี้คือมุมของเรา แต่ทางโน้นไม่ได้มีการเรียกไปพูดคุยมากกว่านี้ เราเลยคิดว่าเขาคงไม่อะไร”
“พอมีข่าวลงเลยงงว่าทำไมเป็นเรื่องแบบนี้ได้ เลยถามว่างานเมย์เบลลีนใครเรียกตาลไปเดิน ตาลบอกเดอะเฟซเรียก เราก็งงไหนบอกห้ามใช้ชื่อเขา แล้วมาเรียกไปเดินทำไม ตาลก็บอกว่าไม่รู้ เราเลยบอกว่าใจเย็นๆ ขอโทร.ไปเคลียร์กับคุณเต้ก่อนถ้าตาลมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ฝนก็โทร.ไป แต่เขาไม่รับสาย ก็รอถึง 2-3 ทุ่ม เลยตัดสินใจโพสต์ลงไป เพื่ออยากจะเข้าใจในปัญหาว่าคืออะไร แต่หลังจากที่เขาเคลียร์กันแล้วก็โอเคให้จบแค่นี้แล้วกัน อีกอย่างที่เราไม่ได้บอกว่าตาลเป็นหลาน เพราะไม่อยากไปกดดันกรรมการ ถ้าเขาจะได้ก็ให้เขาได้ด้วยตัวเขาเอง ถ้าไม่ได้จะได้ถือเป็นบทเรียนไป”
“ถามว่าทั้งหมดเป็นการทำเพื่อสร้างกระแสหรือเปล่า อันนี้ฝนไม่ทราบค่ะ แต่ในมุมของฝนแค่อยากจะเคลียร์ มันรู้สึกไม่ดีนะที่ตาลยังเด็กอยู่ แล้วมีผู้ใหญ่มาโพสต์แบบนั้น เพราะมันเป็นก้าวแรกของเขา เราก็อยากให้มันเป็นก้าวที่ดี ถ้าข่าวลงไปแบบนั้นคนก็จะสงสัยว่าตาลทำผิดอะไร แต่ทุกอย่างจบแล้วก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ตาลใช้นามสกุลเดียวกับฝนแล้วกัน ตาล กุณณัฏฐ์ (หัวเราะ) แต่ฝนว่ามันคงเป็นการเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่ายมากกว่าค่ะ”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000065989
“น้ำฝน” ไม่ง้อ “กันตนา” สั่ง “ตาล” กลับมาใช้นามสกุล “กุณณัฏฐ์” แทน The Face
“ตาล The Face” โล่งใจ เคลียร์ “เต้ กันตนา” จบ เชื่อคนกลางสื่อสารคลาดเคลื่อน เรื่องหวิดบานปลาย เผยเป็นเด็กไม่ก้าวร้าวผู้ใหญ่ ด้าน “น้ำฝน” เตรียมจับลงละคร บอกต่อไปให้ใช้นามสกุล “กุณณัฏฐ์” แทน The Face
หลังจากที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อยู่ร่วมเดือน กรณีที่ “เต้ ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา เอฟโวลูชั่น จำกัด ผู้ผลิตรายการ The Face Thailand โพสต์อินสตาแกรม ประกาศตัดขาด "ตาล ปทุมวรรณ กุลปรียาวัฒน์" พ้นจากนามสกุล The Face และทางฝั่งของ “น้ำฝน กุณณัฏฐ์” ในฐานะอาสาวได้มีการโพสต์ขอคำชี้แจง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ล่าสุดทางฝั่งเต้ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าได้มีการเคลียร์กับตาลแล้วเรียบร้อย โดยมีซูเปอร์โมเดลตัวแม่ “ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม” มาเป็นกาวใจ แต่ทั้งนี้เต้ไม่ขอพูดถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น บอกเป็นแค่การสื่อสารที่ผิดพลาด และอนุญาตให้ใช้นามสกุล The Face ได้เหมือนเดิมแล้ว
ล่าสุดทางฝั่งน้ำฝนก็ได้ควงตาลหลานสาวออกมาชี้แจงในงาน ครบรอบ 1 ปี Embassy Diplomat Screens and AIS movie privilege ณ โรงภาพยนตร์ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ชั้น 6 โดยสาวตาลเผยว่าสาเหตุทั้งหมดมีเพียงเรื่องเดียวคือตนไม่สามารถเข้าไปเซ็นสัญญาตามวันที่นัดหมายได้ เนื่องจากต้องเคลียร์งานประจำ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เต้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าพี่ฝนมีฐานะเป็นอานะคะ แต่หนูเรียกพี่ฝน (หัวเราะ) คือเรื่องที่เกิดขึ้นตอนแรกตาลไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดจากอะไร เราไปพูดอะไรผิดใจเขาหรือเปล่า หรือว่าเราทำอะไรให้เขาหรือเปล่า ก็พยายามคิดๆ ก็บอกพี่ฝนว่าตาลไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มาคิดดูแล้วสาเหตุมันน่าจะมาจากวันที่พี่เต้นัดให้เข้าไปเซ็นสัญญาแล้วตาลไม่ได้ไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราหายไปเลยนะ เพราะเราก็บอกเขาว่าเข้าไปไม่ได้จริงๆ เพราะต้องเรียนให้ทราบก่อนว่าหนูไม่ได้เป็นนางแบบเต็มตัว เพราะงานประจำของตาลคือกราฟฟิกดีไซเนอร์ค่ะ คือเราก็ยังต้องทำงานออฟฟิศอยู่ และวันที่เขานัดก็ตรงกับวันธรรมดาที่เราต้องทำงาน หนูก็เรียนให้เขาทราบว่าเข้าไปไม่ได้จริงๆ เพราะต้องทำงาน ติดงานลูกค้า”
“พี่ฝนก็ถามว่าเป็นยังไง ทำไมเรื่องมันเป็นอย่างนี้ เราไปทำอะไรให้เขาหรือเปล่า คือตอนนั้นเขายังไม่รู้เหตุผล แต่พอเล่าให้เขาฟัง เขาก็บอกว่างั้นก็เข้าไปเคลียร์กันซะ พี่ฝนเขาถือว่าเป็นเรื่องระหว่างตาลกับพี่เต้ เขาก็ได้แต่แนะนำว่าต้องทำยังไง ต้องเข้าไปคุยกับเขานะ ไม่ว่ายังไงเราก็เป็นเด็ก เราต้องเข้าไปคุยกับเขาว่าเราทำอะไรผิด หรือว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้น”
“หนูก็เลยได้เข้าไปหาพี่เต้ไปคุยกันค่ะ ได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว คือมันเป็นการเข้าใจผิดกันหลายๆ อย่างมากกว่า เพราะตอนคุยกันเราก็ไม่ได้คุยกับพี่เต้โดยตรง คือมีคนกลางมาคุยแทน แล้วก็ไปบอกพี่เต้อีกทีหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าเขาสื่อสารอะไรกันยังไง”
“สาเหตุมีแค่เรื่องไม่เข้าไปเซ็นสัญญาเรื่องเดียวค่ะ แต่ผลที่ออกมามันเป็นเรื่องใหญ่มาก ก็เสียใจค่ะ คือไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลจากใครหรืออะไรหนูก็ไม่อยากให้เกิดเลย เพราะเราก็เคยร่วมงานกับเขามาก่อน และเราก็เป็นเด็ก เขาเป็นผู้ใหญ่ หนูจะมีฤทธิ์ไปกล้าทำอะไรเขาล่ะคะ แต่กลายเป็นว่าหนูไปมีปัญหากับผู้ใหญ่ซะแล้ว ซึ่งจริงๆ หนูไม่อยากมีปัญหาเลย”
“แต่หลังจากที่ได้เข้าไปคุยกันแล้ว หนูก็ได้อธิบายให้เข้าใจและตอนนี้ก็เคลียร์แล้วค่ะ พี่เต้ก็บอกให้ฟังว่าจริงๆ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขานะในเรื่องการมาคุยตกลงสัญญากัน หนูก็เข้าใจ แต่ที่หนูเข้าไปเซ็นสัญญาไม่ได้เพราะ ณ เวลานั้นหน้าที่ของหนูคือต้องเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จ เพราะงานชิ้นนี้มันมาก่อนที่เราจะคุยเรื่องสัญญากันน่ะค่ะ คือหนูก็อยากจะเคลียร์งานให้มันจบไปก่อน เพราะมันเป็นหน้าที่ของหนูที่ยังทำค้างอยู่ แต่ถามว่าต่อไปจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกไหม อันนี้ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่เลยค่ะ แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสค่ะ (ยิ้ม) แต่ตอนนี้ทุกอย่างเราเคลียร์กันเรียบร้อย ไม่มีปัญหาค้างคาใจกันแล้ว"
เผย “น้ำฝน” เตรียมให้ลงละครที่ตัวเองเป็นผู้จัด บอกแม้จะไม่ถนัด แต่อยากลองทำดู
“ตอนนี้ก็ยังทำงานประจำอยู่ค่ะ งานเดินแบบก็ยังทำไปด้วย พี่ฝนก็ไม่ถึงกับช่วยดันนะคะ แต่จะคอยถามว่าอยากทำอย่างนั้นอย่างนี้ไหม เขาเคยพูดกับตาลว่าถ้าสมมติฉันดันไป แต่ถ้าเธอไม่รับมันก็เท่านั้น อย่างตอนนี้พี่ฝนเขาเป็นผู้จัด เขาก็ให้เราดูบทคาแรกเตอร์ต่างๆ ตอนนี้ก็รอดูบทที่เข้ากับตาลอยู่ค่ะ (ยิ้ม) ก็มีแนวโน้มค่ะ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยถนัดกับการแสดงเท่าไหร่ แต่ก็อยากลองทำดูนะคะ อยากทำให้ได้ (ยิ้ม) จริงๆ อยากเล่นหนังมากกว่า แต่ตอนนี้ต้องรอดูว่าพี่ฝนจะว่ายังไงก่อนค่ะ (หัวเราะ)”
ด้าน “น้ำฝน” เผย “ตาล” ไปประกวด The Face ก็เพราะตนแนะนำ ฉะนั้นตนรู้เรื่องทุกอย่างดี หลังจากนี้จะให้กลับมาใช้นามสกุลของตนแทน
“คือขอเคลียร์ในส่วนของฝนนะคะ วันที่ตาลไม่ได้เข้าไปตาลได้โทร.มาหาฝน และในส่วนที่คุณเต้ได้ให้สัมภาษณ์ไปว่าฝนไม่รู้เรื่องอะไร อันนี้ฝนขออธิบายให้ทราบว่า ตาลไปประกวดเดอะเฟซก็เพราะฝน น้องไม่รู้เรื่อง และทุกครั้งที่เขาเข้ารอบในแต่ละวัน เขาจะโทร.มารายงานเราตลอดว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ฝนจะรู้เรื่องตลอด”
“อย่างวันนั้นที่เรียกเข้าไปหลังจากประกวดเสร็จหมดแล้ว ตาลก็โทร.มาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ลางานมาเยอะแล้ว ฝนเลยให้โทร.ถามพี่เขาว่าไม่ไปวันนี้ได้ไหม ไปวันอื่นแทนได้ไหม ทางทีมงานคุยก็บอกว่าได้ ไม่เป็นไร รู้สึกว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายและครั้งเดียวที่เรียกเข้าไปคุย หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการเรียกในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
“ส่วนที่ฝนทนไม่ไหวเลยออกมาปกป้องเพราะอยากให้เรื่องนี้จบจริงๆ ตาลกับคุณเต้ได้เคลียร์กันแล้ว วันนี้ฝนจะเคลียร์คืออยากเคลียร์ในมุมของฝน ที่ให้สัมภาษณ์เหมือนตาลผิดตรงๆ เราถามเขาว่าสนใจอยากไปด้านไหน เขาบอกอยากเป็นนางแบบ เราเลยบอกถ้าไม่ชนะก็ไม่ต้องเซ็นแล้วกัน จะได้ไปได้หลายๆ ทาง อันนี้คือมุมของเรา แต่ทางโน้นไม่ได้มีการเรียกไปพูดคุยมากกว่านี้ เราเลยคิดว่าเขาคงไม่อะไร”
“พอมีข่าวลงเลยงงว่าทำไมเป็นเรื่องแบบนี้ได้ เลยถามว่างานเมย์เบลลีนใครเรียกตาลไปเดิน ตาลบอกเดอะเฟซเรียก เราก็งงไหนบอกห้ามใช้ชื่อเขา แล้วมาเรียกไปเดินทำไม ตาลก็บอกว่าไม่รู้ เราเลยบอกว่าใจเย็นๆ ขอโทร.ไปเคลียร์กับคุณเต้ก่อนถ้าตาลมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ฝนก็โทร.ไป แต่เขาไม่รับสาย ก็รอถึง 2-3 ทุ่ม เลยตัดสินใจโพสต์ลงไป เพื่ออยากจะเข้าใจในปัญหาว่าคืออะไร แต่หลังจากที่เขาเคลียร์กันแล้วก็โอเคให้จบแค่นี้แล้วกัน อีกอย่างที่เราไม่ได้บอกว่าตาลเป็นหลาน เพราะไม่อยากไปกดดันกรรมการ ถ้าเขาจะได้ก็ให้เขาได้ด้วยตัวเขาเอง ถ้าไม่ได้จะได้ถือเป็นบทเรียนไป”
“ถามว่าทั้งหมดเป็นการทำเพื่อสร้างกระแสหรือเปล่า อันนี้ฝนไม่ทราบค่ะ แต่ในมุมของฝนแค่อยากจะเคลียร์ มันรู้สึกไม่ดีนะที่ตาลยังเด็กอยู่ แล้วมีผู้ใหญ่มาโพสต์แบบนั้น เพราะมันเป็นก้าวแรกของเขา เราก็อยากให้มันเป็นก้าวที่ดี ถ้าข่าวลงไปแบบนั้นคนก็จะสงสัยว่าตาลทำผิดอะไร แต่ทุกอย่างจบแล้วก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ตาลใช้นามสกุลเดียวกับฝนแล้วกัน ตาล กุณณัฏฐ์ (หัวเราะ) แต่ฝนว่ามันคงเป็นการเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่ายมากกว่าค่ะ”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000065989