[CR] แบกเป้ สะพายกล้อง ท่องเกาะเต่า แบบหลากอารมณ์ โหด มันส์ ฮาาา (Rewrite)

(เป็นกระทู้เขียนใหม่จากอันเก่าครับ เนื่องจากอันเก่าตั้งประเภทกระทู้ผิด ฮ่าๆๆๆ)



สวัสดีครับ ชาวพันทิป ทุกๆ ท่าน อั้น อั้น อั้น อั้น อั้น (เพิ่มเอคโค่แบบสูงสุด)

หมายเหตุ : อาจจะมีการรีวิว หรือ เล่าการเที่ยวเกาะเต่าเยอะแล้ว แต่ผมก็อยากจะเล่ามากๆ เพราะมันสุดๆ จริงๆ ครับ

วันนี้จะมาเล่าการเที่ยวเกาะชนิดที่ว่าครบทุกรสชาด บอกก่อนเลยนะครับว่า การท่องเที่ยวของ จขกท. ที่เล่านี้
เกิดจากความเหนื่อยล้าจากการเรียน ปี 3 ตลอดทั้งปี แบบ non-stop service บริการจากอาจารย์ไม่มีวันหยุด !!!!
และเห็ด เอ้ย เหตุเกิดจากความเหงา สไตล์หนุ่มโสดมานาน แล้วก็หาเวลาว่างได้ ไม่ตรงกับการทำงานพิเศษ
เลยเกิดความอัดอั้น  ตันใจ อยากจะเที่ยว เลยหันไปชวนเพื่อนคนนั้น คนนี้ ก็ไม่มีใครไปสักคน เลยเอาวะ สุดท้าย ถ้าไม่ตอบตกลง ลุยคนเดียวยิ้ม !!!!

เพราะในใจตอนนั้น มันร่ำร้องหาเธอ ว่า ... "แม่จ๋าาาาา หนูอยากเที่ยวววววววววว !!!!"



ปล.กระทู้นี้อาจจะมีคำหยาบอยู่บ้าง เพื่อเพิ่มความสนุกในการอ่านนะขอรับกระผม (กรุณานึกถึงละครข้าบดินทร์เข้าไว้ นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดจริงๆ)

ต่อๆ เลยไปชวนเพื่อนต่างมหา'ลัย ผู้ลุยไปทุกที่กับผมตั้งแต่มัธยม หมอหมา ผู้น่ารัก โป๊ะเช้ะ !!!! มันตอบตกลงเว้ยเฮ้ย เลยตัดสินใจกันว่าจะไปเกาะเต่า
เอาล่ะครับ เริ่มหาข้อมูล ด้วยเวลาอันน้อยนิดเพียงไม่กี่วัน หาไปหามา ก็งงสิครับ สรุปเกาะเต่ามันอยู่จังหวัดอะไร ??? ฮ่าๆๆๆๆ (โชว์โง่ครั้งที่ 1)

ก็ได้ข้อสรุปมาว่า มันอยู่ อ.เกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครับ เอาล่ะ ความรู้ด้านภูมิศาสตร์เพิ่มขึ้นมาอีก 0.00001 เลเวล

ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เตรียมข้อมูล เตรียมของ ลิสท์รายการของที่จะเอาไป รวมถึงชุด เพราะว่า ต้องถ่ายรูป !!! ช่าย ต้องถ่ายรูป ต้องถ่ายรูป (พยักหน้า 3 ที)

เสร็จแล้วก็นับวันรอให้ถึงวันเดินทางเร็วๆ คือวันที่ 3 มิถุนายน อ่อๆ ผมลืมบอกไปว่า ทริปนี้ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน และเป็นการไปแบบประหยัดมากๆ
ความประหยัดต้องแลกกับเวลาครับ เราจะได้อรรถรสของคุณค่าในชีวิตมากๆ เลย (เกี่ยวกันตรงไหนวะ)

และแล้ววันนั้นก็มาถึง ... วันที่ 3 มิ.ย.
อันตัวผมตื่นมาแต่เช้าตรู่ เรียกได้ว่า เป็นเช้าที่ขี้โกหก เพราะขี้ตู่ (ใครตามมุกทันตามมาเอารางวัลได้ 555 แต่ถ้าแป้ก ขออภัยในความไม่สะดวกตรงนี้ด้วยครับ)
จัดแจงธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จ ก็นัดเพื่อนว่าให้ไปเจอที่หัวลำโพง เพราะผมเรียนอยู่นครปฐม ม. อะไร ไม่ต้องบอก 555 (อันนี้จะเป็นการโชว์โง่ครั้งที่ 1 นะครับ)
เพราะว่า ... ผมอ่ะ รอขึ้นรถไฟสายใต้ที่นครปฐมก็ได้ แต่นี่โง่ไง อยากได้ฟีลหัวลำโพงก็ไปขึ้นมันหัวลำโพง
เสียค่ารถแล้วก็เสียเวลาไปอีก (ก.ไก่ สามร้อยตัว)


หมายเหตุที่ 2 : กล้องที่ถ่ายรูปครั้งนี้ Nikon D5100 พร้อม Flashair SD card
                     และ กล้องถ่ายใต้น้ำราคาถูกที่ถ่ายได้ตามอัตภาพเพราะไม่มีปัญญาซื้อ GoPro

นัดเพื่อนไว้ประมาณเที่ยงก็ออกสัก 11 โมงน่าจะทัน จัดแจงกระเป๋า อะไรเสร็จเรียบร้อย เตรียมกล้อง ล้างเมม เรียบร้อย ก็ขึ้นรถตู้
แต่เชื่อไหมครับ นี่คือ รถตู้ กว่าจะออก 11.30 น. ผมนี่นั่งไม่ติดเบาะ ขาสั่นเหมือนคนปวดฉี่ เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเลยครับ กลัวไม่ทัน
ออกไปได้ก็ภาวนาว่าขอให้ทัน ขอให้ทัน ... สรุป ไปถึง กรุงเทพฯ 12.15 เอาล่ะครับ สวมวิญญาณนักวิ่งชาวเคนย่า วิ่ง 4x100 เมตรจากใต้ทางด่วนพหลฯ
ไป BTS เพราะต้องเลือกที่เร็วที่สุดแล้ว ... วิ่งไปถึงก็คว้าแรบบิทการ์ดออกมาแล้วขึ้นทันที ประจวบเหมาะรถมาพอดี เปลี่ยนสาย ลงสถานนี้ศาลาแดง
ก็วิ่งอีกครับ วิ่ง !!!! ... ลงไป MRT ซื้อเหรียญก็วิ่ง แล้วโอ๊ยยย ไปหัวลำโพงอยู่ชั้นล่าง วิ่งไปนี่ผมเหมือนไปตากฝนมา เหงื่อท่วมเลย หมดกันสภาพหน้า
ขึ้นมาถึง หัวลำโพง คุณพระ !!!! 13.00 น. พอดีเป๊ะ ! ไม่ขาดไปเกิน ก็วิ่งไปชานชาลาที่ 9 ขบวนรถ 171 ออกเวลาบ่ายโมง ความจริงมีรถไฟฟรีนะครับ
แต่ต้องยื่นบัตรประชาชน คือเพื่อนผมกลัวไม่ทัน เลยไปซื้อรถนอนชั้น 2 ... เอิ่ม โดนไป 400 ความฝันไปแบบประหยัดสลายลง ณ วินาทีนั้น 400 บาท
กับการลงแค่ชุมพร นี่เป็นการโชว์โง่ครั้งที่ 2

หมายเหตุ 3 : ท่านสามารถเช็ครอบเดินรถของการรถไฟได้ทางเว็บไซต์ หรือ 1690 ครับ แต่ขบวน 171 ออก บ่ายโมง ถึง สามทุ่มกว่าๆ ก็เป็นเวลาที่ลงตัว

ขึ้นได้ผมก็นั่งพักหอบยกใหญ่ พร้อมกับหัวเราะกับเพื่อนว่ามันหวุดหวิดจริงๆ เจ้าหน้าที่ก็เลยมาถาม ผมก็บอกว่าขึ้นมาจาก นครปฐม แกก็บอกว่า
"ทำไมไม่รอขึ้นนครปฐมล่ะ มันผ่านนะไปใต้อ่ะ" ตึ่งโป๊ะ ! ผ่าางงงงงงง หน้าแหกไปสิครับ แนะนำนะครับ ไปรถไฟฟรีดีที่สุด ไม่ต้องมาเป็นแบบผม T^T

นั่งรอรถไฟออก ... แต่มันก็ไม่ออกสักที ผมก็ถามว่าเป็นอะไร เขาบอกเช็คล้อ สรุป ออกไปเลท ไปเกือบ 1 ชั่วโมง ฮัลโหลลลลลล 1 ชม. ! O.o !
แล้วเมื่อกี้ กูวิ่ง 4x100 เมตร มาเพื่อ ??????? ... เหนื่อยฟรีไปอีก !!!

รถไฟออกก็ลัลล้าล่ะครับ ... แต่ผมเสียดายอย่างหนึ่งนะครับ ผมอยากนั่งรถไฟชั้น 3 เพราะมันจะได้พบปะกับผู้คนและได้พูดคุยมากกว่านี้
อันนี้รถนอนชั้นสอง ก็เป็นแบบ 2 คน เตียงบน เตียงล่าง เลยไม่ค่อยได้คุยกับใคร แต่ว่าก็ได้คุย
ด้วยสกิล และนิสัยถาวรที่เป็นผู้ชายช่างจ้อ และเพื่อนก็เป็นผู้หญิงช่างเม้าท์ เลยหันไปคุยกับเด็กข้างๆ สอบถาม ก็รู้ว่า ชื่อน้องกี้ เป็นเด็กสุไหงโกลก
โหห !!! ไกลชิบ ผมเลยถามว่ามาคนเดียวหรอ น้องกี้บอก มาคนเดียว อายุ 15 ขึ้นรถไฟ ไปโกลกคนเดียว แล้วกว่าจะถึงก็ใช้เวลา 1 วันเต็มๆ
ผมก็คุยไป เพื่อนก็จ้อไป กับน้อง สรุปใจความได้ว่า พ่อแม่ทำสวนยาง มาส่งพี่สาวที่กรุงเทพฯ แล้วนั่งกลับคนเดียว
ผมกับเพื่อนนะ ถามไปยาวเป็นประโยค น้องตอบกลับมาสั้นๆ แต่ได้ใจความมาก ผมก็หัวเราะ น้องน่ารักดีครับ ตลอดทางแบ่งขนมให้ผมกับเพื่อนตลอด
ขนาดจะลงที่สถานีชุมพร ยังให้ขนมมาอีกคนละชิ้น ผมปฏิเสธบอกว่าเก็บไว้กว่าจะถึง น้องก็บอกว่ามีเยอะ แล้วก็ยิ้ม ผมก็เลยรับมา
เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปน้องไว้ ไม่งั้นท่านจะได้พบกับหน้าตาน่ารักของเด็กโกลกคนนี้

สเต็ปที่สอง คือการลงชุมพร ผมถึงชุมพร ในเวลา 22.20 น. ซึ่งเลทไป 1 ชม. ธรรมชาติของรถไฟไทย แต่เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งไปในตัว ยิ้ม
ผมกับหมอหมาเพื่อนยาก เลยวิ่งไปหน้าสถานี หาพี่วิน แล้วบอกว่า "เกาะเจริญครับ" สนนราคา คนละ 80 บาท เลยเอาพี่ ให้ไวเลย กลัวไม่ทัน ฮ่าๆๆๆๆ

เกาะเจริญ เป็นบริษัทเรือนอน ที่ให้บริการไปเกาะเต่าครับ เรือจะออก เวลา 23.00 น. ทุกวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ ไปถึง เกาะเต่า ประมาณ 05.00 น. ของอีกวัน
ความจริงมีหลายท่าให้เลือกนะครับ สำหรับเกาะเจริญ จะเป็นแพยนต์ ที่เป็นเรือบรรทุกของแล้วก็รถ ข้ามเกาะ แต่ดัดแปลงพื้นที่ด้านบนเป็นที่สำหรับนอน
แต่ว่าตอนกลับผมขึ้นของอีกท่าหนึ่ง แต่ผมชอบของ เกาะเจริญ มากกว่าเลยอยากแนะนำ เพราะราคาเท่าๆ กัน คือ 400
แต่จะมีอีกท่าหนึ่ง คือ ท่าเรือท่ายาง เป็นเรือประมง เป็นเรือไม้ แล้วก็มีที่นอน สนนราคา 250 บาท ตามพี่วินแกบอกนะครับ
แต่สำหรับผม เลือกแพยนต์น่าจะปลอดภัยสำหรับชีวิตมากกว่า ฮ่าๆๆๆ

ซื้อตั๋ว ล้างหน้า เพราะเหนียวหน้ามาก ไม่รู้สึกหิว ไม่ได้ซื้ออะไรตุน (ความฝันว่าจะนั่งจิบเบียร์เป็นอันยกเลิกเพราะเขาไม่ให้เอาแอลกอฮอล์ขึ้น)
เดินขึ้นเรือ ก็ไม่ได้หวังมากเพราะว่าเป็นเรือสินค้า แต่ขึ้นไป โอ้โห คุณพระ คุณเจ้า !!! มันดีมากครับ ไม่รู้จะบอกอะไร มันเหนือความคาดหมาย
เป็นบรรยากาศโรงแรมมาก เตียงสองชั้น มีแอร์ มีปลั๊กสำหรับชาร์ตไฟ เตียงละหนึ่งช่องบนหัวเตียง เอาล่ะ สวรรค์นักเดินทางอย่างหนึ่ง
นาทีนั้นตื่นเต้นและง่วง จนลืมหยิบกล้องมาถ่ายบรรกาศ แต่ก็ไปจุ๊บรูปจากเน็ตมาแปะให้ครับ ขอบคุณสำหรับเจ้าของภาพไว้นะโอกาสนี้ด้วยครับ





บนเรือก็มีหลายสัญชาติครับ ทั้ง ไทย พม่า และชาวต่างหลายชาติ อยู่รวมกัน แต่ถึงเวลาเรือออก จะไม่มีใครรบกวนใคร พนักงานเรือก็ไม่กวน เงียบมาก
แปรงฟัน ล้างหน้า ทาครีม ตามประสาผู้ชายสำอางค์นิดหน่อย ก็กราบพระ 3 ครั้ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ชาร์ตไอโฟนไว้ แล้วนอนนนนนน

ตื่นมางัวเงีย เพราะเสียงหวูดเรือดัง ก็พบว่า เวลา ตี 4 ครึ่ง ถึงเร็วกว่ากำหนด ครึ่งชั่วโมง ก็ปลุกหมอหมาที่นอนอย่างสบาย แล้วก็เก็บของลงจากเรือ
ก็จะมีบริการรถ Taxi Car มายืนรอรับจำนวนมาก แต่ผมกับเพื่อนไม่กล้าขึ้นเพราะว่ากลัวมันแพง ก็เลยเดินไปหาเซเว่นเพราะ หิวมากกกกกกกก !!!
เดินออกจากท่าเรือมาทางขวาแล้วก็จะเห็นครับ 7-11 แบบสวรรค์ เดินเข้าไปเลือกข้าวกล่อง อาจจะแพงกว่าบนฝั่งประมาณ 10-15 บาท ซึ่งถือว่าโอเค
ไม่น่าเกลียด เพราะถ้านับเรื่องการขนส่งข้ามน้ำข้ามทะเลแล้ว ... หยิบข้าวน้ำพริกปลาทู พร้อมชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาวมาหนึ่งขวด ก็รอดไปอีก 1 มื้อ

กินเสร็จ นั่งมองหน้ากับเพื่อน เพราะมาถึงเช้าเกิน บนเกาะไม่มีร้านอะไรเปิดเลย นอกจากเซเว่น โอ้ มันช่างเงียบเหงาอะไรแบบนี้
อยากจะไปนั่งร้องเพลง แต่ก็เกรงจะมีคนเขวี้ยงครกลงมา เลยนั่งเงียบๆ ทนไม่ไหว เดินไปหยิบแผนที่ มาดู เพราะว่าจองที่พัก แบบ Hostel ไว้
ก็พบว่ามันอยู่แถวๆ หาดทรายรี ... ตัดสินใจ เดินไปละกัน แค่ 2.5 กิโล ... แต่เชื่อไหมครับ ???????????????

2.5 กิโล ถ้าทางธรรมดา มันจะไม่เท่าไร แต่นี่มันอยู่บนเกาะ ทางขึ้นเขา ลงเขา เพื่อนผมนี่บ่นตั้งแต่ขึ้นโค้งแรก ผมก็ด้วยความเป็นผู้ชายบ่นไม่ได้
ต้องบอกเพื่อน "เฮ้ย มุก ปลุกยักษ์ในตัวเอง เอ้า ฮึบ อย่ายอมแพ้ ! เอ้า ฮึบ !" เพื่อนผมชื่อมุกนะครับ ปลุกพลังได้ก็เดินกันต่อ

พอมาถึงโรงแรมเวลาก็ เกือบ 6 โมงเช้า ออฟฟิศยังไม่เปิด แทบจะเอาหน้าซุกหัวเข่าแล้วร้องออกมาเป็นภาษาฮิบบรู ... เดินเข้าไปถามพนักงาน
เพื่อนก็คุยกันคนละภาษาเพราะว่าพนักงานเป็นชาวพม่า* แต่ก็เข้าใจ สรุปว่า ออฟฟิศเปิด 7 โมง เวลาเช็คอินคือบ่าย 2 ผมว่าจะฝากกระเป๋า แต่ก็ต้องหมา
โฮสเทลที่นี่ ... จะเป็นแบบ 8 เตียงรวมกันเหมือนหอพัก เป็นพัดลมครับ ราคา 350 บาท  ตามสภาพด้านล่างครับ

*บนเกาะพนักงานพม่าค่อนข้างเยอะ แต่ว่าภาษาอังกฤษดีมากกกกกกกก ผมนี่อายเลย



ผมนั่งรอไม่ไหวครับ แต่เพื่อนมันเหนื่อยเพราะเดินมาไกล ผมเลยเดินออกมาว่าจะไปเดินดูหาด แต่ไม่เจอทางเข้าหาดสักที เลยเดินไปกลับอยู่สองรอบ
เอาล่ะ หารถเช่าละกัน เดินไปหาร้านเช่า ก็ไม่มีเปิดเลยสักร้าน เลยผ่านร้านหนึ่ง เปิดประตูแบบแง้มๆ ก็เลยเอาวะ เดินเข้าไปดู
ถามพี่ว่าเปิดให้เช่ารถหรือยังครับ พี่บอกว่า เช่าได้ครับ ... ผมก็ใจชื้น ราคาเช่าอยู่ที่ วันละ 200 แต่แนะนำ ใช้สกิลการต่อครับ จะได้ 150
และจะต้องวางเงินมัดจำไว้ 2000 แต่ว่า แนะนำอีกครับ ถ้าเป็นคนไทย แค่เอาบัตรประชาชนให้เขาก็ได้ครับ เขาจะหยวนๆ ให้
ได้รถแล้ว ... บาสน้อยเตรียมตัวลุย !!!! แต่ก่อนออกผมถามพี่เขาไปว่า ... มีที่ไหนที่ตอนนี้พอจะอาบน้ำได้บ้าง พี่ก็บอกว่า มาอาบที่ร้านพี่ก็ได้
ผมก็ตาโต แล้วก็ขอบคุณมากคร้าบบบบบบ ถามไปถามมา พี่เขาชื่อบอล ทำธุรกิจบนนี้ได้ไม่นาน เป็นธุรกิจที่จองตั๋วสำหรับข้ามไปเกาะนั้นเกาะนี้
ชื่อร้านคือ BP Travel แล้วกพี่บอลเปิดเป็นโฮสเทลแบบ โดร์มรูมด้วยครับ เป็นห้องเล็กๆ 4 เตียง แต่เป็น แอร์ ราคา 350 ... ผมนี่อยากจะร้องไห้
แล้วก็บอกพี่บอลว่า ผมขอโทษ ที่ผมไม่ Walk in เข้ามาหาพี่ เพราะพี่บอลช่วยเหลือผมกับเพื่อนตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะทุกเรื่องเลยครับ
ร้านพี่บอล จะอยู่ในซอยเข้ามาหน่อย ถ้าออกจากท่าเรือแล้วเลี้ยวซ้ายมาเรื่อยๆ ตรงเข้ามาเรื่อยๆ แล้วก็จะพบเซเว่นที่อยู่เป็น 3 แยกครับ
ให้เลี้ยวขวาเข้ามา ร้านพี่บอลจะเป็นป้ายแดงๆ ครับ ใหญ่ๆ หาไม่อยาก เป็นร้านเล็กๆ น่ารักๆ ตามภาพครับ



ขอจบไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ... มันจะเกินแล้ว 5555555555555
สำหรับใครที่อยากติดตามรูปภาพต่างๆ ของ จขกท. IG : bas_wangwat นะครับ
คำเตือนก่อนฟอลโลว ไอจีนี้ส่วนใหญ่จะมีแต่รูป จขกท. ซึ่งเป็นผู้ชายเตี้ยๆ ดำๆ คนหนึ่ง แต่ก็ชอบถ่ายรูป ชอบเที่ยว ฮ่าๆๆๆ

แล้วเดี๋ยวมาต่อนะครับ ขอเวลาพิมพ์ก่อนนนนนน มันเยอะมากจริงๆ เรื่องราวของผม
ชื่อสินค้า:   เกาะเต่า - เกาะนางยวน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่