แม้ว่าทริปนี้มันจะผิดแผนไปสักแค่ไหน แต่สิ่งที่ได้มามันคือประสบการณ์ดีๆนี้เอง
เราจะมาเล่าเรื่องราวของทริปเล็กๆที่ใช้เงินกันจนหมดกระเป๋า
ทริปนี้เราต้องนั่งรถไฟไปต่อเรือข้ามน้ำข้ามทะเล เดินทางจากกรุงเทพไปเกาะเต่ารวมไปกลับแล้วกว่า 24 ชั่วโมง
ช่างเป็นทริปที่ใช้เวลาเดินทางนานกว่าการใช้ชีวิตบนเกาะเต่าอีกค่ะ
เรากับเพื่อนหนึ่งคนเริ่มเดินทางกันที่สถานีหัวลำโพง
ตามเเผนแล้วคือเราจะไปโดยรถไฟฟรีกันค่ะ ประหยัดตังแต่ไม่ประหยัดเวลาเท่าไหร่นัก
แต่รับรองว่าสำหรับเราแล้ว ไม่ได้มานั่งรถไฟฟรีแค่ประหยัดตัง
แต่เป็นการนั่งรถไฟฟรีดูวิวที่คุณหาจากการเดินทางบนรถยนต์ส่วนตัวไม่ได้แน่ๆ
เราขึ้นขบวนกรุงเทพ - หาดใหญ่ เอาจริงๆเราก็งงนะ
เราศึกษาจากกระทู้นักเดินทางที่เขาไปกันมา
ทำไมเขาได้นั่ง กรุงเทพ - สุไหโกลก กันอ่ะ
นี่ก็ถามเจ้าหน้าที่เลยจ้า เขาก็บอกว่ามันผ่านเหมือนกันครับน้อง
เราก็อ๋อทันที (นี้กลัวหลงสุดๆ เพราะเป็นการไปใต้จริงๆครั้งแรก 5555)
เอาล่ะ! กล้องพร้อม คนพร้อม เริ่มออกเดินทางกันได้เลยยยยย
คงจะจริงที่เขาว่ากันว่า การเดินทางมันสร้างประสบการณ์ให้กับเรา
เปิดโลกที่เราอยู่ให้กว้างขึ้น ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น และได้ทำหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำ
แม้การเดินทางบนรถไฟมันจะใช้เวลาเดินทางมากกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่นๆ
แต่มันกลับสอนให้เราได้อดทน สอนให้เราใช้เวลารอคอยเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายข้างหน้า
แต่จุดพีคทั้งหมดของการเดินทางโดยรถไฟมันอยู่ตรงนี้
ทันทีที่รถไฟเทียบชานชะลาสถานีชุมพรเป็นเวลา 23:00 น.
ตามจริงรถไฟจะต้องมาถึงสถานีชุมพรเวลา 21:00 น. เท่ากับว่ารถไฟเลตไป 2 ชั่วโมง
ทุกอย่างเหมือนพังทลาย เพราะเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟเเจ้งว่า
ไปขึ้นเรือนอนตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เรือนอนรอบสุดท้ายออกตอน 22:00 น.
ซึ่งแผนของเราคือเดินทางไปเกาะเต่าโดยเรือนอนเท่านั้น ไม่ได้เตรียมแผนอื่นมาเลย
ทำไงได้ล่ะ ถ้างั้นก็หาที่นอนมันบนฝั่งชุมพรนี่ล่ะ พรุ่งนี้ค่อยเดินทางขึ้นเรือกันต่อ
แต่เรื่องไม่ได้จบที่หาห้องพักแล้วจะนอนได้เลย
ตามหลักเกณฑ์ของโรงแรมหรือห้องพักคือ ไม่ว่าจะเช็คอินดึกแค่ไหน ต้องเช็คเอ้าท์ออกก่อนเที่ยงของพรุ่งนี้
ซึ่งค่าห้องก็ไม่ใช่ถูกๆเลยสำหรับเรา เราเลยหาที่พักราคาถูกค่ะ พี่ๆแถวนั้นแนะนำห้องพักแห่งหนึ่งให้
แจ้งว่าราคาย่อมเยาเพียงแค่ 250 บาท ซึ่งพัดลมเราก็นอนได้ค่ะสบายใจขอแค่ได้นอนก็พอแล้ว
แต่มันไม่ใช่แค่นั้น! ช็อคไปอีกคือ มันเป็นห้องพัดลมจริงๆค่ะ แต่ว่า ในห้องไม่มีอะไรเลย
ทั้งทีวี ตู้เย็น ไม่มีฟรี wifi หรือแม้แต่พรมเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ
มีเพียงแต่ โต๊ะ ตู้ เตียง และห้องอาบน้ำ แถมบรรยากาศในห้องก็ร้อนกว่าบรรยากาศนอกห้องอีกค่ะ
ในจุดๆนี้คือ อยากจิคร๊ายยยยยย อยากร้องไห้มาก ใช่สิ ฉันผิดเองและที่จะหาห้องถูกๆอยู่ ฉันงกไม่เข้าเรื่องเอง ยอมรับเลย
ทำไงล่ะที่นี้ ... อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ แล้วเก็บของให้เรียบร้อยคิดซะว่ามาแวะอาบน้ำ
ตัดสินใจกับเพื่อนว่ายังไงก็นอนที่นี่ไม่หลับ เพราะมันร้อนอบอาวมาเลย เอาว่ะ!
นอนที่สถานีรถไฟเลยแล้วกัน คนอื่นก็นอนกันเยอะแยะไม่เห็นต้องกลัว 555555
เห้ย...เราชิวมาก ชิวแบบนอนดูดาวที่สถาานีรถไฟไปเลย
เพราะกว่าจะได้ไปขึ้นเรืออีกทีก็ตีห้าโน่น ยุงกัดบ้างเล็กน้อย
หิวก็เดินไปซื้อของที่เซเว่นมาก่อน ง่วงก็เอากระเป๋ามาหนุนหัวเเล้วนอน
ชะตากรรมเหมือนเด็กน้อยผูหลงทางเปล่าเปลี่ยวหัวใจ
ฮือออออออ อะไรคือแผนดูดาวบนเรือ นั่งจิบเบียร์ คุยกับฝรั่งหล่อๆ ผิดไปหมดดดด
ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอรถทัวร์ของบริษัทเรือส่งเสริมมารับเท่านั้น
รถมารับไปส่งที่ท่าเรือตอนตีห้า (ราคาค่าโดยสารรวมค่าเรือเสียไป 500 บาทถ้วน)
บนรถทัวร์มีแต่ฝรั่งเต็มไปหมด โอเคพอจะทนแทนฝรั่งบนเรือนอนกันได้อยู่ 55555
มาถึงท่าเรือส่งเสริมก็เป็นเวลา 06:00 น. ทันพระอาทิตย์ขึ้นพอดี
เอาตั๋วไปเเลกสติ๊กเกอร์ก่อนขึ้นเรือ แล้วก็ไปข้ามน้ำข้ามทะเลกันได้
เกาะเต่ารอเราหน่อยนะใกล้จะถึงแล้ววววว
บรรยากาศในเรือคือดีงาม แอร์เย็นชื่นใจ หลายๆคนเลือกที่จะหลับบนเรือ
แต่เราขอไปดูวิวข้างนอกก่อน แล้วค่อยมางีบ จะได้ฝันดี 555
พอถ่ายรูปนี้นั้นเสร็จเราก็ลงมานอนพัก
รู้ตัวอีกทีเราก็วาปมาอยู่เกาะเต่าแล้ว ถึงเกาะเต่าเวลาประมาณ 10:00 น.
บอกเลยว่าเรารีบ walk in หาที่พักทันที เดินแบกเป้หาโดยไม่สนใจแท๊กซี่หรือทัวร์ใดๆ
ฉันจะต้องหาที่ซุกหัวนอนก่อน ฉันรู้สึกนอนไม่พอมากกกกกก
แล้วเราก็มาเจอโฮลเทลที่ไม่ไกลจากท่าเรือมากนัก
เป็นโฮลเทลเล็กๆ ที่ตกแต่งเบาๆชิวๆเหมาะแก่การนอน (ในหัวตอนนั้นคิดแต่เรื่องนอนจริงๆ)
มีไฟหัวเตียงและที่เสียบปลั๊กส่วนตัวเตียงใครเตียงมันค่ะ
ถ้าไม่พอเขาก็มีบริการปลั๊กเสริมให้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งพี่เจ้าของโฮลเทลเป็นคนใต้ และใจดีมาก ดูแลเราทุกสิ่งอย่าง
แถมยังให้เราเช่ามอเตอร์ไซค์ในราคา 150 บาท โดยไม่ต้องมัดจำเงินสี่ห้าพันเหมือนร้านอื่นๆอีกด้วย รู้สึกประทับใจมากๆในจุดๆนี้
[CR] นั่งรถไฟฟรี + ข้ามน้ำ ข้ามทะเล - แบกเป้ ไปเกาะเต่า!
ทริปนี้เราต้องนั่งรถไฟไปต่อเรือข้ามน้ำข้ามทะเล เดินทางจากกรุงเทพไปเกาะเต่ารวมไปกลับแล้วกว่า 24 ชั่วโมง
ช่างเป็นทริปที่ใช้เวลาเดินทางนานกว่าการใช้ชีวิตบนเกาะเต่าอีกค่ะ
ตามเเผนแล้วคือเราจะไปโดยรถไฟฟรีกันค่ะ ประหยัดตังแต่ไม่ประหยัดเวลาเท่าไหร่นัก
แต่รับรองว่าสำหรับเราแล้ว ไม่ได้มานั่งรถไฟฟรีแค่ประหยัดตัง
แต่เป็นการนั่งรถไฟฟรีดูวิวที่คุณหาจากการเดินทางบนรถยนต์ส่วนตัวไม่ได้แน่ๆ
เราศึกษาจากกระทู้นักเดินทางที่เขาไปกันมา
ทำไมเขาได้นั่ง กรุงเทพ - สุไหโกลก กันอ่ะ
นี่ก็ถามเจ้าหน้าที่เลยจ้า เขาก็บอกว่ามันผ่านเหมือนกันครับน้อง
เราก็อ๋อทันที (นี้กลัวหลงสุดๆ เพราะเป็นการไปใต้จริงๆครั้งแรก 5555)
เปิดโลกที่เราอยู่ให้กว้างขึ้น ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น และได้ทำหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำ
แม้การเดินทางบนรถไฟมันจะใช้เวลาเดินทางมากกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่นๆ
แต่มันกลับสอนให้เราได้อดทน สอนให้เราใช้เวลารอคอยเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายข้างหน้า
ทันทีที่รถไฟเทียบชานชะลาสถานีชุมพรเป็นเวลา 23:00 น.
ตามจริงรถไฟจะต้องมาถึงสถานีชุมพรเวลา 21:00 น. เท่ากับว่ารถไฟเลตไป 2 ชั่วโมง
ทุกอย่างเหมือนพังทลาย เพราะเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟเเจ้งว่า
ไปขึ้นเรือนอนตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เรือนอนรอบสุดท้ายออกตอน 22:00 น.
ซึ่งแผนของเราคือเดินทางไปเกาะเต่าโดยเรือนอนเท่านั้น ไม่ได้เตรียมแผนอื่นมาเลย
ทำไงได้ล่ะ ถ้างั้นก็หาที่นอนมันบนฝั่งชุมพรนี่ล่ะ พรุ่งนี้ค่อยเดินทางขึ้นเรือกันต่อ
แต่เรื่องไม่ได้จบที่หาห้องพักแล้วจะนอนได้เลย
ตามหลักเกณฑ์ของโรงแรมหรือห้องพักคือ ไม่ว่าจะเช็คอินดึกแค่ไหน ต้องเช็คเอ้าท์ออกก่อนเที่ยงของพรุ่งนี้
ซึ่งค่าห้องก็ไม่ใช่ถูกๆเลยสำหรับเรา เราเลยหาที่พักราคาถูกค่ะ พี่ๆแถวนั้นแนะนำห้องพักแห่งหนึ่งให้
แจ้งว่าราคาย่อมเยาเพียงแค่ 250 บาท ซึ่งพัดลมเราก็นอนได้ค่ะสบายใจขอแค่ได้นอนก็พอแล้ว
แต่มันไม่ใช่แค่นั้น! ช็อคไปอีกคือ มันเป็นห้องพัดลมจริงๆค่ะ แต่ว่า ในห้องไม่มีอะไรเลย
ทั้งทีวี ตู้เย็น ไม่มีฟรี wifi หรือแม้แต่พรมเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ
มีเพียงแต่ โต๊ะ ตู้ เตียง และห้องอาบน้ำ แถมบรรยากาศในห้องก็ร้อนกว่าบรรยากาศนอกห้องอีกค่ะ
ในจุดๆนี้คือ อยากจิคร๊ายยยยยย อยากร้องไห้มาก ใช่สิ ฉันผิดเองและที่จะหาห้องถูกๆอยู่ ฉันงกไม่เข้าเรื่องเอง ยอมรับเลย
ทำไงล่ะที่นี้ ... อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ แล้วเก็บของให้เรียบร้อยคิดซะว่ามาแวะอาบน้ำ
ตัดสินใจกับเพื่อนว่ายังไงก็นอนที่นี่ไม่หลับ เพราะมันร้อนอบอาวมาเลย เอาว่ะ!
นอนที่สถานีรถไฟเลยแล้วกัน คนอื่นก็นอนกันเยอะแยะไม่เห็นต้องกลัว 555555
เพราะกว่าจะได้ไปขึ้นเรืออีกทีก็ตีห้าโน่น ยุงกัดบ้างเล็กน้อย
หิวก็เดินไปซื้อของที่เซเว่นมาก่อน ง่วงก็เอากระเป๋ามาหนุนหัวเเล้วนอน
ชะตากรรมเหมือนเด็กน้อยผูหลงทางเปล่าเปลี่ยวหัวใจ
ฮือออออออ อะไรคือแผนดูดาวบนเรือ นั่งจิบเบียร์ คุยกับฝรั่งหล่อๆ ผิดไปหมดดดด
ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอรถทัวร์ของบริษัทเรือส่งเสริมมารับเท่านั้น
บนรถทัวร์มีแต่ฝรั่งเต็มไปหมด โอเคพอจะทนแทนฝรั่งบนเรือนอนกันได้อยู่ 55555
เอาตั๋วไปเเลกสติ๊กเกอร์ก่อนขึ้นเรือ แล้วก็ไปข้ามน้ำข้ามทะเลกันได้
เกาะเต่ารอเราหน่อยนะใกล้จะถึงแล้ววววว
แต่เราขอไปดูวิวข้างนอกก่อน แล้วค่อยมางีบ จะได้ฝันดี 555
รู้ตัวอีกทีเราก็วาปมาอยู่เกาะเต่าแล้ว ถึงเกาะเต่าเวลาประมาณ 10:00 น.
ฉันจะต้องหาที่ซุกหัวนอนก่อน ฉันรู้สึกนอนไม่พอมากกกกกก
แล้วเราก็มาเจอโฮลเทลที่ไม่ไกลจากท่าเรือมากนัก
ถ้าไม่พอเขาก็มีบริการปลั๊กเสริมให้ด้วยเช่นกัน
แถมยังให้เราเช่ามอเตอร์ไซค์ในราคา 150 บาท โดยไม่ต้องมัดจำเงินสี่ห้าพันเหมือนร้านอื่นๆอีกด้วย รู้สึกประทับใจมากๆในจุดๆนี้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น