นางจึ่งทูลสนองพระราชบัญชาว่า พระพุทธเจ้า ควรมิควรสุดแท้แต่ทรงพระคุณกรุณาโปรดที่โทษานุโทษเป็นเกล้า
กับ
จึ่งตรัสว่า อิเม เต ชมพุกา รุกขา ควรจะสงสารเอ่ยด้วยต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้นดั่งฉัตรทอง แสงพระจันทร์ดั้นส่องต้องน้ำค้างที่ขังให้ ไหลลงหยดย้อย เหมือนหนึ่งน้ำไลอยพร้อยๆ อยู่พรายๆ
โดยสิ่งที่ผมกล่าวมานั้นมาจากเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มทรี ครับ
โดยผมอยากจะทราบว่าที่กล่าวมานั้นเป็นโวหารภาพพจน์แบบไหน อุปมา อุปลักษณ์ สัญญาลักษณ์ บุคลาธิษฐาน อธิพจน์ สัทพนจ์ นามมัย ปรพากย์ พร้อมช่วยบอกเหตุผลด้วยครับ
ขอบคุณครับ
มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มทรี เป็นโวหารภาพพจน์แบบไหน
กับ
จึ่งตรัสว่า อิเม เต ชมพุกา รุกขา ควรจะสงสารเอ่ยด้วยต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้นดั่งฉัตรทอง แสงพระจันทร์ดั้นส่องต้องน้ำค้างที่ขังให้ ไหลลงหยดย้อย เหมือนหนึ่งน้ำไลอยพร้อยๆ อยู่พรายๆ
โดยสิ่งที่ผมกล่าวมานั้นมาจากเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มทรี ครับ
โดยผมอยากจะทราบว่าที่กล่าวมานั้นเป็นโวหารภาพพจน์แบบไหน อุปมา อุปลักษณ์ สัญญาลักษณ์ บุคลาธิษฐาน อธิพจน์ สัทพนจ์ นามมัย ปรพากย์ พร้อมช่วยบอกเหตุผลด้วยครับ
ขอบคุณครับ