*รูปทั้งหมดถ่ายจากมือถือ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ก็อย่าไปแคร์เนอะ*
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันอาทิตย์ ตื่นมาด้วยอาการตึงเล็กน้อยถึงปานกลาง.... จากการที่เมื่อคืนดื่มหนักไปนิด
ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว คว้ากระเป๋าใบเดิม แล้วเดินจ้ำๆๆๆๆ ไปหาโบกแท็กซี่
“พี่ ไปดอนเมืองครับ ขอด่วนเลย”
คนขับน่าจะอายุราวๆ 40-50 ถามกับผมว่า เครื่องออกกี่โมงล่ะน้อง
“7 โมง 20 ครับ” ผมก็ตอบไปปกติ
พี่แกบอกว่า ทันเหลือเฟือ ตอนนี้ 6 โมง ขับรถ 45 นาทีก็ถึง วันอาทิตย์รถไม่ติดหรอก....
ผมงี้สะดุ้งเลย “พี่ บอร์ดดิ้งไทม์มัน 6 โมง 50 นะพี่”
ขอขยายความสำหรับคนไม่รู้นิดนึงนะครับ บอร์ดดิ้งไทม์ ง่ายๆคือ เวลาที่เจ้าหน้าที่ ที่หน้าเกต เรียกเราขึ้นเครื่องน่ะครับ
แต่ผิดคาด ผมมาถึงสนามบินตอน 6 โมงครึ่ง ผมเช็คอินมาจากบ้านแล้วเลยรีบเดินปรี่ไปที่เกตทันที
ก่อนมาผมยังไม่รู้ว่าผมต้องไปขึ้นที่เกตไหน... พอมาถึง หวยออกที่ 72......... ซวยแล้ววววว
ใครเคยมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองจะรู้เลย ว่ามันอยู่ในโซนของดินแดนอันไกลโพ้น....
ซึ่งเดินจากจุดตรวจเช็กสัมภาระไปถึงเกต จะไกลมากกกกก ยิ่งเวลาเร่งรีบแบบนี้ด้วย.....
การขึ้นเครื่องโซนนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของสายการบินเรียก เราก็จะต้องเดินไปขึ้นรถบัสของสายการบิน เพื่อที่จะไปส่งที่ตัวเครื่อง
และในรถก็จะประมาณ เราขึ้นรถเมล์ปรับอากาศในตอนที่ทุกคนอยากร่วมเดินทางไปกับเรา
แต่ในที่นี้จะแน่นกว่า เพราะรถบัสที่ไปขึ้นเครื่อง แต่ละคนก็จะมีกระเป๋าเดินทางคนล่ะใบเป็นอย่างน้อย.... แน่นซิครับคราวนี้
แต่ก็มีข้อดีนะ รถบัสจะขับพาเราไปเรื่อยๆ ผ่านเครื่องบินรุ่นต่างๆที่จอดอยู่ที่ตามเกตของตัวเอง อารมณ์ประมาณมาทัศนศึกษา ยังไงยังงั้น....
แล้วเครื่องก็ออกตามเวลาเป๊ะ.... โดยไม่มีผู้โดยสารตกหล่น....... มั้ง
“ขณะนี้เราบินอยู่ที่ระดับ 36,000 ฟุต หรือประมาณ 15 กิโลเมตรจากพื้นดิน” เสียงจากกัปตัน
ผมเลือกที่นั่งริมหน้าต่างไว้ เพื่อที่จะเอาไว้มองดูวิว และสถานที่ต่างๆ อนึ่งมองผ่านจากกูลเกิ้ลเอิร์ธ
[CR] ปีกหัก หลบร้อน ไปนอนตรัง......
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันอาทิตย์ ตื่นมาด้วยอาการตึงเล็กน้อยถึงปานกลาง.... จากการที่เมื่อคืนดื่มหนักไปนิด
ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว คว้ากระเป๋าใบเดิม แล้วเดินจ้ำๆๆๆๆ ไปหาโบกแท็กซี่
“พี่ ไปดอนเมืองครับ ขอด่วนเลย”
คนขับน่าจะอายุราวๆ 40-50 ถามกับผมว่า เครื่องออกกี่โมงล่ะน้อง
“7 โมง 20 ครับ” ผมก็ตอบไปปกติ
พี่แกบอกว่า ทันเหลือเฟือ ตอนนี้ 6 โมง ขับรถ 45 นาทีก็ถึง วันอาทิตย์รถไม่ติดหรอก....
ผมงี้สะดุ้งเลย “พี่ บอร์ดดิ้งไทม์มัน 6 โมง 50 นะพี่”
ขอขยายความสำหรับคนไม่รู้นิดนึงนะครับ บอร์ดดิ้งไทม์ ง่ายๆคือ เวลาที่เจ้าหน้าที่ ที่หน้าเกต เรียกเราขึ้นเครื่องน่ะครับ
แต่ผิดคาด ผมมาถึงสนามบินตอน 6 โมงครึ่ง ผมเช็คอินมาจากบ้านแล้วเลยรีบเดินปรี่ไปที่เกตทันที
ก่อนมาผมยังไม่รู้ว่าผมต้องไปขึ้นที่เกตไหน... พอมาถึง หวยออกที่ 72......... ซวยแล้ววววว
ใครเคยมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองจะรู้เลย ว่ามันอยู่ในโซนของดินแดนอันไกลโพ้น....
ซึ่งเดินจากจุดตรวจเช็กสัมภาระไปถึงเกต จะไกลมากกกกก ยิ่งเวลาเร่งรีบแบบนี้ด้วย.....
การขึ้นเครื่องโซนนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของสายการบินเรียก เราก็จะต้องเดินไปขึ้นรถบัสของสายการบิน เพื่อที่จะไปส่งที่ตัวเครื่อง
และในรถก็จะประมาณ เราขึ้นรถเมล์ปรับอากาศในตอนที่ทุกคนอยากร่วมเดินทางไปกับเรา
แต่ในที่นี้จะแน่นกว่า เพราะรถบัสที่ไปขึ้นเครื่อง แต่ละคนก็จะมีกระเป๋าเดินทางคนล่ะใบเป็นอย่างน้อย.... แน่นซิครับคราวนี้
แต่ก็มีข้อดีนะ รถบัสจะขับพาเราไปเรื่อยๆ ผ่านเครื่องบินรุ่นต่างๆที่จอดอยู่ที่ตามเกตของตัวเอง อารมณ์ประมาณมาทัศนศึกษา ยังไงยังงั้น....
แล้วเครื่องก็ออกตามเวลาเป๊ะ.... โดยไม่มีผู้โดยสารตกหล่น....... มั้ง
“ขณะนี้เราบินอยู่ที่ระดับ 36,000 ฟุต หรือประมาณ 15 กิโลเมตรจากพื้นดิน” เสียงจากกัปตัน
ผมเลือกที่นั่งริมหน้าต่างไว้ เพื่อที่จะเอาไว้มองดูวิว และสถานที่ต่างๆ อนึ่งมองผ่านจากกูลเกิ้ลเอิร์ธ