เจอดีที่ศูนย์ฝึกอบรม ประสบการณ์จริงไม่อิงนิยาย

กระทู้สนทนา
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนที่สละเวลาแวะเข้ามาอ่านนะคะ

ต้องบอกก่อนเลยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง 100% ไม่มีการเสริม เติม แต่ง แน่นอนค่ะ
และเพื่อที่จะได้เห็นภาพชัดเจน รายละเอียดเลยอาจจะเยอะหน่อย ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ
เริ่มเลยละกัน เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว เรามีโอกาสได้เข้าทำงานที่ร้านขายอาหารสำเร็จรูปและอาหารแช่แข็งแห่งหนึ่ง
ในตำแหน่ง PC หรือพนักงานขายนี่แหละค่ะ หลังจากเรามาทำงานได้ประมาณ 2 เดือน
ผจก.เขตก็แจ้งมาว่าเราต้องไปอบรมหลักสูตรของพนักงานร้าน ซึ่งจะต้องเดินทางไปอบรมที่ศูนย์แห่งนี้ซึ่งอยู่ในจังหวัดราชบุรี
โดยมีเพื่อนพนักงานจากสาขาอื่นๆเดินทางไปด้วย รวมทั้งหมด 11 ชีวิต( หญิง10 ชาย1)
ถึงวันเดินทาง ผจก. ก็ได้ไปส่งเราและเพื่อนๆที่ศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้
โดยเราจะต้องอบรมและกินนอนอยู่ที่นี่ประมาณ 5 วัน
(อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้นิดหน่อยจำไม่ค่อยได้จริงๆเพราะมันผ่านมานานแล้ว ต้องขออภัยด้วยค่ะ)
ก่อนหน้าที่เราจะเดินทางมาอบรมครั้งนี้ เราก็ได้ลองถามรุ่นพี่สาขาอื่นๆที่เคยอยู่มาก่อนว่า
เวลามาอบรมต้องทำอะไรหรือเตรียมตัวยังไงบ้าง พี่เขาก็เล่าๆๆให้ฟัง และทิ้งท้ายว่า
"ระวังนะ ที่นั่นเจ้าที่แรงมาก" เราแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่เขาคงแค่แกล้งเราเล่นๆเลยไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก
พอไปถึงที่นั่น จะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
ชั้นที่ 1 เป็นหน้าร้านเหมือนที่สาขาเรา
ชั้นที่ 2 จะเป็นห้องอบรม
ชั้นที่ 3 ด้านหลังจะเป็นห้องน้ำ และด้านหน้าจะเป็นห้องพักหญิง
ส่วนชั้นที่ 4 จะเป็นห้องพักชาย
พอเปิดประตูเข้าไปให้ห้องจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ ด้านขวาเกือบติดผนัง
มีแอร์ตั้งพื้นตัวใหญ่ๆ(แบบสมัยก่อน)ตั้งอยู่ มีที่นอน(ไม่มีเตียง) วางเรียงติดกันอยู่ประมาณ 8 หลัง
แต่ละคนก็จับจองที่นอนของตัวเอง เรานี่รีบปรี่เข้าไปด้านในก่อนเลย เพราะไม่อยากนอนตรงประตู
สรุปเราได้นอนคนที่4 นับจากด้านใน การอบรมผ่านไป 4 วัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราไหว้พระก่อนนอนทุกคืน
จนถึงวันสุดท้ายของการอบรม(คืออบรมวันนี้เสร็จเราต้องนอนค้างที่นี่อีก 1 คืน เพื่อรอ ผจก. มารับในวันถัดไป)
ช่วงพักกลางวันเราและพี่ๆอีก 3 คน ก็ไปหาอะไรกินตามปกติ
กินเสร็จเรากับพี่อีกคนก็ขึ้นมานอนพักที่ห้องเพราะยังไม่ถึงเวลาอบรม
ส่วนพี่อีกสองคนแวะซื้อผลไม้ยังไม่ขึ้นมา สักพักพี่ทั้งสองคนก็เดินหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องแล้วเล่าว่า
"ป้าขายผลไม้ถามพี่ว่า มาอบรมเหรอ? พักที่นี่ใช่มั๊ย? นอนกลางคืนเคยเจออะไรหรือเปล่า?"
พี่เขาก็ตอบไปว่า "ไม่เห็นมีอะไรหนิป้า" แล้วป้าเขาก็ตอบมาว่า "ดีแล้วแหละ" พร้อมยิ้มมุมปาก
พี่สองคนเลยจ่ายเงินแล้วเดินขึ้นห้องมาอย่าง งงๆ
เราด้วยความกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วบวกกับความไม่สบอารมณ์ คือแบบ
ป้าคะ หนูอยู่มาจนจะคืนสุดท้ายแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร จนหนูเกือบจะเลิกกลัวไปแล้วด้วยซ้ำ
แล้วป้าจะมาพูดหาพระแสงหอกง้าวอะไรคะ แต่เราก็ใจดีสู้เสือค่ะ
คิดเข้าข้างตัวเองว่าคงไม่มีอะไรหรอก ถ้ามีคงเจอตั้งแต่คืนแรกแล้ว
คืนนี้หลังเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านกันเรียบร้อย ประมาณ 4 ทุ่มเห็นจะได้ เราก็ปิดไฟนอนกัน
มารู้สึกตัวอีกทีคือเราได้ยินเสียงคนร้องเพลงดังมาจากไหนไม่รู้
จับต้นเสียงไม่ได้เลย รู้แต่ว่าเหมือนอยู่ใกล้มาก เพราะเสียงค่อนข้างดัง
อารมณ์เหมือนพวกคนเมาที่ร้องตามร้านคาราโอเกะอ่ะค่ะ เสียงนี่รบกวนรูหูมาก เราคิดในใจ
"ร้องก็ไม่ได้เพราะเลย เสียงอย่างกับหมาฉี่รดสังกะสียังจะแหกปากเสียงดังอยู่ได้ หนวกหูคนจะนอน"
และเราก็นอนเอาผ้าห่มคุมโปง เอามืออุดหู แล้วก็นอนคิดว่า "ตึกแถวนี้มันมีแต่ร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวราดแกง แล้วก็ร้านอาหารตามสั่งหนิ ไม่เห็นมีร้านคาราโอเกะเลย แล้วเสียงมันมาจากไหน?"
นานแค่ไหนไม่รู้ที่เรานอนคิด แต่มารู้ตัวอีกทีเสียงนั้นก็หายไปแล้ว
แล้วเราก็เคลิ้มหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีเราเปิดผ้าที่คุมโปงอยู่ออก
มองไปทางหน้าต่างก็เห็นฟ้ายังสลัวอยู่เลยหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา ประมาณตี 5 เศษๆ
ระหว่างที่เรากำลังจะคุมโปงนอนต่อสายตาเราดันเหลือบไปเห็นเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่บนแอร์
เราเลยผงกหัวขึ้นและเพ่งไปที่บนแอร์ หลังจากที่สายตาเราเริ่มชินกับความมืดแล้ว
เราก็เห็น เห็นผู้หญิงคนนึง ผมสั้นประมาณคอ ใส่เสื้อโปโลคอปก กางเกงเจเจ
ในมือเหมือนถือหนังสือ นั่งก้มหน้า(อารมณ์เหมือนก้มอ่านหนังสือ) ห้อยขาอยู่บนเครื่องแอร์!!!!!
ระหว่างที่เรากำลัง งง กับเหตุการณ์ที่เห็น สายตาเราก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงอีกคน
เขานั่งก้มหน้าเหยียดขาอยู่ตรงปลายที่นอนที่ติดกับแอร์ตัวนั้น
อารมณ์ความรู้สึกเราตอนนั้นมันปนเปกันไปหมด ทั้งง่วง งง สงสัย
และคิดตำหนิในใจว่า ทำไมถึงไปนั่งบนแอร์แบบนั้น ไม่กลัวมันพังหรือไง
แต่ด้วยความง่วงเราเลยเลือกที่จะหันหลังนอนคุมโปงให้ผู้หญิงสองคนนั้น
แล้วเผลอหลับไปอีกรอบ
มารู้สึกตัวอีกทีคือพี่ที่นอนอยู่ข้างๆมาปลุกเราให้ไปอาบน้ำ เกือบๆ 6 โมง
ระหว่างที่รอคิวอาบน้ำ(ห้องน้ำมีแค่ 2 ห้อง) เรานึกขึ้นได้เลยถามคนที่นั่งอยู่ในห้องว่า
"เมื่อเช้าใครไปนั่งบนแอร์ทำไม มันยิ่งโบราณอยู่ เดี๋ยวมันก็พังหรอก"
ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ใช่พี่นะ ไม่ใช่พี่ เราเริ่มเอะใจ
แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นพี่อีกสองคนที่อยู่ในห้องน้ำก็ได้ เราเลยยังไม่ได้พูดอะไร
พอพี่สองคนเดินเข้ามาในห้อง เราเลยถามคำถามเดิมอีกครั้ง
พี่เขาก็ตอบว่าไม่ใช่ละ ใครจะบ้าไปนั่งบนนั้น แล้วพี่เขาก็ถามว่าเห็นตอนไหน เราบอกตีห้ากว่าๆ
พี่เขาพูดว่า "เอ็งหลอนแล้ว พี่นี่ตื่นมาตอนหกโมงกว่า ยังไม่เห็นมีใครตื่นสักคน พี่อ่ะตื่นคนแรกเลย"
เรานี่อึ้งไปเลย เพราะภาพที่เราเห็นมันค่อนข้างชัดมาก
แต่เราก็พยายามคิดว่าเขาคงมาดี ไม่งั้นคงมาให้เราเห็นน่ากลัวกว่านี้
ระหว่างที่รอรถมารับเราเลยมานั่งคุยกันเรื่องนี้อีกรอบนึง
พี่ผู้ชายคนเดียวในกลุ่มเลยพูดขึ้นว่า "เดี๋ยวนะ สรุปตอนตีห้านี่ยังไม่มีใครตื่นเลยเหรอ?"
พี่คนที่ตื่นคนแรกเลยตอบว่า ใช่ ทำไมเหรอ พี่ผู้ชายเลยเล่าให้ฟังว่า
เมื่อคืนเขาได้ออกไปเที่ยว(ตามประสาผู้ชาย)และไม่ได้กลับมานอนที่นี่
พี่เขาเพิ่งตื่นและกลับมาที่ศูนย์ตอนประมาณตีห้าแต่ยังไม่มีคนมาเปิดประตูเลยขึ้นห้องไม่ได้
พี่เขาเลยลองแหงนขึ้นมามองตรงหน้าต่างห้องที่พวกเรานอน
กะว่าถ้ามีคนตื่นแล้วจะตะโกนให้ลงไปเปิดประตูให้ พี่เขาเล่าว่ามองอยู่สักพัก
ประมาณตีห้ากว่าๆเห็นเหมือนมีคนเปิดผ้าม่านออกไปชะโงกมองที่หน้าต่าง
พี่เขาเลยโบกมือแล้วทำท่าให้ลงมาเปิดประตูให้ สักพักม่านก็ปิดไป
พี่เขาคิดว่าคงกำลังจะลงมาเปิดประตูให้ แต่รออยู่นานก็ไม่เห็นมีใครลงไป
จนถึงหกโมงเช้าถึงมี จนท. มาเปิดประตู พี่เขาถึงขึ้นมาได้
สิ่งที่เราเจอในครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างชัดเจนมาก แต่เราก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่า
เสียงต่างๆ ภาพต่างๆ ที่เราเห็นเราได้ยินมันคืออะไร
จนมีพี่คนนึงซึ่งเข้ามาทีหลังเรา ต้องมาอบรมที่นี่อีกครั้งและได้เจอเรื่องราวแปลกๆ จนทำให้เรามั่นใจว่าสิ่งที่เราเจอ เขามีตัวตนอยู่จริง...


ปล. หลายคนอาจจะสงสัยว่าเห็นขนาดนั้นยังกล้านอนต่ออีกเหรอ
ตอบเลยว่า ค่ะ เพราะเขามาปกติมากจนเราไม่คิดว่าเขาเป็น...วิญญาณ

ยาวหน่อยนะคะ แต่เป็นประสบการณ์จริงทุกตัวอักษร พักมือแปบนึง นิ้วจะล็อกแล้ว เดี๋ยวจะมาต่อนะคะว่าพี่เขาไปเจออะไรมาบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่