[AKB48] บ่นยาว : ถึงเวลาหรือยังที่ฝ่ายบริหารวงพี่จะหันมาทบทวนการทำงานของตัวเอง

ออกตัวก่อนว่าเราติดตาม 48 group โดยไม่ได้สถาปนาตัวเองเป็นโอตะของวงไหนจริงจัง (แม้หลังๆ จะเทใจไปทางฝั่งนัมบะบ้างก็ตาม)

หลังงานเลือกตั้งครั้งนี้จบลง บางอย่างมันครุกรุ่นอยู่ในใจเราจนเราตัดสินใจว่าต้องระบายออกมา ซึ่งเป้าหมายของความคับแค้นเคืองใจครั้งนี้คือฝ่ายบริหารวงพี่อย่าง akb48 นั่นเอง

ไม่ใช่ว่าเราหงุดหงิดเพราะผิดหวังจากการเชียร์วงพี่มากกว่าวงอื่น แต่เราหงุดหงิดที่เห็นว่าการบริหารทีมของวงพี่ใหญ่ซึ่งเคยเป็นตำนานกลับดูอ่อนด้อยกว่าวงน้องเล็กสุดเสียอีก


อย่างที่ทุกคนรู้กันว่างานเลือกตั้งครั้งนี้ฝั่งวงพี่ถูกฝั่งวงน้องอย่างซากาเอะถล่มอย่างย่อยยับ จริงอยู่ที่จำนวนเมมเบอร์ที่ติดเลือกตั้งอาจไม่ทิ้งกันมาก แต่สำหรับเราแล้วการถูกถล่มครั้งนี้มีนัยยะแฝงสำคัญ เพราะผลของความพ่ายแพ้ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่านับตั้งแต่สองปีก่อนที่เมมเบอร์รุ่นตำนานทะยอยแกรด ไปจนถึงปีที่แล้วที่เราเริ่มมีความหวังจากการที่มายุชนะการเลือกตั้ง มาจนถึงผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ฝ่ายบริหารของวงพี่อย่าง akb นั้นไม่สามารถแก้ปัญหาและพลิกวิกฤติที่กำลังเผชิญอยู่ได้เลย

สำหรับเรา การมีเมมเบอร์ติดน้อยกว่าไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเท่ากับความจริงที่ว่า akb แทบไม่มีรุ่นใหม่ติดเลือกตั้งแบบน่าเซอร์ไพรส์เลย (ที่พอจะเรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์ก็มีโมกิจัง มี่อง และการกลับไปติดเซ็มของริเอะที่กลายเป็น ngt ไปแล้ว)

อย่างที่เรารู้กันว่านับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมมเบอร์ในตำนานทะยอยแกรด เริ่มตั้งแต่อัตจัง มาจนถึงเจ๊มะลิ โมะจิน และยูโกะ ทีมต่างๆ ในวงพี่ก็ขาดตัวเด่นประจำวงไปในทันที ซึ่งแทนที่ฝ่ายบริหารจะเริ่มผลักดันรุ่นน้องที่มีแววอย่างจริงจัง ตรงกันข้าม พวกเขาเลือกที่จะไปหยิบเมมเด่นๆ ของวงน้องมาควบวงแทน

ซึ่งสำหรับเรานั่นคือความผิดพลาดอย่างมหันต์

ประการแรก การดึงเมมเด่นๆ ของวงน้องมาควบแล้วเอาความเป็น akb ครอบทับ  มันได้ทำลายหรือบั่นทอนความรู้สึกของการเป็นแฟน akb พันธุ์แท้ลงไป การเอาตัวเด่นมาควบในทุกทีมของ akb อาจจะช่วยดึงความสนใจความสนใจและพยุงชื่อเสียงของแต่ละทีมไว้ได้ แต่สำหรับเราแล้วเมมวงน้องที่มาควบ akb ไม่ได้เป็น akb คือยังไงซากุระก็เป็น hkt เหมือนกับที่ยังไงเน่ก็เป็น nmb การเอาเอซของวงน้องมาควบวงพี่สำหรับเราแล้วมันเป็นการบอกถึงวิกฤติของวงพี่ว่ามันไม่ไหวแล้ว มันจำเป็นต้องดึงคนอื่นมา คือมันเหมือนเป็นการดูถูกเมมวงพี่ในทีมไปในตัวว่าเอาไม่ไหวแล้วจริงๆ ต้องเอาความนิยมของคนอื่นมาช่วย สำหรับเราแล้วมันเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดจุดมาก และมันทำให้สถานะของวงดูอ่อนแอ

นี่ยังไม่นับซิงเกิ้ลต่างๆ ที่ออกมาแล้วเหมือนกับเป็นซิงรวมดาวแต่มาออกในชื่อ akb การทำอย่างนี้อาจจะได้ผลในเรื่องยอดขาย แต่ก็อย่างที่บอก มันบั่นทอนความเป็นแฟนเดนตายของ akb ลงไปเรื่อยๆ เพราะความเป็นวงมันหายไป มันถูกแทนที่ด้วยความเป็นซิงรวมดาว 48 จนนานวันเข้า คำว่า "akb48" มันใกล้จะกลายเป็นรวมดาว 48 group อยู่แล้ว แต่เมื่อมองย้อนไป "ske48" มันยังเป็น ske48 หรือแม้กระทั่ง hkt48 ก็ยังเป็น hkt48 อยู่ คือวงน้องมันยังมีความเป็นตัวของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็ไปเป็น akb48 ได้ แต่วงพี่มันเริ่มไม่ใช่วงพี่ แต่กลายเป็นแหล่งรวมเอซไปแล้ว

และความเป็นตัวของตัวเองของวงพี่นี่แหละที่หายไป ทำให้ไม่เกิดเอกลักษณ์ และทุกวันนี้แทบไม่มีใครสถาปนาตัวเองเป็นแฟนเดนตายของ akb48 แล้ว หรือที่เกิดใหม่ก็น้อยเต็มที ทุกวันนี้เราจึงคุ้นหูกับคำว่าโอตะ ske หรือโอตะ hkt มากกว่าโอตะ akb เสียอีก หมายความว่า akb ไม่ค่อยมีแฟนคลับที่รักและเอาใจช่วยทั้งวงอย่างเหนียวแน่นเหมือนโอตะวงน้อง ยกตัวอย่างชัดๆ ก็ ske48 แต่แฟนคลับ akb จะเป็นลักษณะที่เป็นแฟนคลับเฉพาะคน

ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างปีนี้เรนะไม่ลงเลือกตั้ง โอตะเรนะก็อาจหันไปลงคะแนนให้ชูริ มาซานะ จูรินะ หรือแม้กระทั่งสุดาและคาโอตัน แต่โอตะของทาคามินะจะเทคะแนนให้มายูยุมั้ยหลังจากที่ทาคามินะแกรดไปแล้ว

เรื่องซิงเกิ้ลของวงพี่ก็ทำนองเดียวกับที่กล่าวไปแล้ว และเราคิดว่าซิงพารุเซ็นเตอร์ล่าสุดคงจะเป็นซิงที่ใกล้เคียงกับซิงวงพี่เลือดแท้ในฝันมากที่สุดเท่าที่ฝ่ายบริหารจะประทานมาให้เราแล้ว แต่ตราบใดที่ฝ่ายบริหารยังเอาจูกับซากุระมาวางขนาบ ก็เท่านั้น akb ก็ยังจะเป็นคำไว้ใช้เรียกสถานที่รวมดาว 48 group ต่อไป ไม่ใช่วง akb48

สำหรับเราที่ติดตาม 48 group ไม่ได้สังกัดว่าเป็นโอตะวงไหนจริงจัง เราอาจจะตื่นเต้นนิดหน่อยกับการได้เห็นพารุเป็นเซ็นเตอร์คนใหม่ แต่พอเราเห็นจูกับซากุ มันก็เท่านั้น คือก็ยังเป็นซิงรวมดาวอยู่ดี ไม่มีอะไรใหม่ แต่กลับกัน ตอนเราได้เห็นมิยามาเอะ (ที่รัก) และอุฮะเป็นดับเบิ้ลเซ็นเตอร์ (โดยมีทานิเป็นเซ็นเตอร์เงา) หรือเห็นมิรุรุนกับฟูจังหรือล่าสุดริริป้งเป็นเซ็นเตอร์ เรารู้สึกโอ้โห ตื่นตาตื่นใจ และมันให้ความรู้สึกถึงความเป็นวงนั้นๆ จริงๆ เพราะมีการพยายามดันเด็กใหม่ และเป็นการดันที่สร้างความตื่นเต้นได้ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แตกต่างมากตอนเห็นทาโนะร้องไห้ที่ติดเซ็ม (ย่อย) ของซิงรีเฟรน คือในความรู้สึกเราทาโนะควรมานานแล้ว มาอยู่แถวหน้าๆ เลยด้วยซ้ำ เพราะเทียบกับวงน้องที่ดันเป็นถึงเซ็นเตอร์คนใหม่เลย วงพี่ควรเสี่ยงมากกว่านี้ โทมุควรมาได้มากกว่านี้ ที่ติดเซ็มนี่เราประหลาดใจและดีใจมากซึ่งมาด้วยแรงโอตะล้วนๆ (เจ้าตัวก็รู้สึก) แม้กระทั่งโมเอะ ฮิราลี่ คาเรน ก็ควรจะมาได้แล้ว แบ่งพื้นที่ให้พวกเขาบ้าง ไม่ใช่สักแต่จับโยนลงไปอยู่ใน akbingo มันใช้เวลานานเกินไปแล้วสำหรับเมมที่ดูมีประสิทธิภาพเช่นนี้ในการแจ้งเกิด ซึ่งถ้ายิ่งปล่อยนานไป มันจะไม่ทันแล้ว จะเป็นสายไอดอลแท้อย่างซายายะก็ควรดันสุดๆ ได้แล้ว ต้องยอมรับว่าเอามาวางไว้แถวหลังสุดมันจะใช้การไม่ทัน (จะดันเป็นเซ็นเตอร์สักเพลงอย่างวงน้องไปเลยก็ได้) จิโยริหรือม่าจุงที่เอาไป ทำไมถึงไม่เปรี้ยงเท่าทานิหรือแม้กระทั่งสมาชิก akb คนอื่นๆ ที่ย้ายไปวงน้อง เราเชื่อว่าสองคนนี้มีศักยภาพมากกว่าเอาไว้เล่นตลกใน akbingo แน่ๆ

สรุปแล้ว ฝ่ายบริหาร akb คะ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คุณจะเปลี่ยนรูปแบบการบริหารใหม่ บริหารทรัพยากรบุคคลในวงของคุณใหม่ ดันเด็กในวงอย่างจริงจังเพื่อเอาไว้ให้ใช้ทันในอนาคต และเพื่อเพิ่มฐานและรักษาแฟนเดนตายของ akb ได้หรือยัง ในเมื่อผลการเลือกตั้งล่าสุดมันออกมาแบบนี้ มันไม่น่าประทับใจ คุณจะกลับมามองได้รึยังว่าคุณกำลังเดินมาผิดทาง การเอาวงน้องมาควบและละเลยเมมวงพี่ดั้งเดิมมันกำลังทำลายความวงลงไปเรื่อยๆ ถึงเวลาหรือยังที่ฝ่ายบริหารจะแบ่งพื้นที่ให้เมมแท้ๆ บ้างเพื่อสร้างความเป็น akb และต่อลมหายใจให้วงพี่ในตำนานต่อไป ยังไงวงน้องที่มาควบวงพี่ก็ไม่มีวันมีความเป็นวงพี่อย่างที่คุณพยายามเอามาสวมทับเขา แฟนๆ วงดั้งเดิมก็มองว่าคุณยืมตัวเขาไป แฟนๆ วงพี่ก็ไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็นเมมของวง หรือแม้กระทั่งตัวเมมเองก็ยังมองว่าตัวเองเป็นของวงดั้งเดิมมากกว่า

ไม่งั้นซายาเน่คงไม่ร้องไห้ตอนประกาศผลด่วน

ไม่งั้นซากุระคงไม่ประกาศที่จะทำลาย akb

หรือแม้กระทั่งจู ที่บอกว่าจะพา ske ไปสู่อันดับ 1

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่ความผิดของเมมเบอร์ แต่เป็นผลจากการบริหารงานอย่างผิดพลาดของฝ่าย akb ที่พยายามยัดเยียดความเป็น akb ให้กับคนที่ไม่ใช่ และละเลยความเป็น akb ของเมมดั้งเดิม

อาจจะไม่ต้องเป็นซิงที่ตัดเมมควบไปหมดก็ได้ เพียงแต่ดันลงไปอยู่แถวรอง แล้วดึงเมมที่น่าสนใจขึ้นมาแทนก็ได้

เราเชื่อว่าฝ่ายบริหารยังมีเวลาที่จะเปลี่ยนทิศทางการทำงาน และหันมาผลักดันเมมเบอร์แท้ของวง akb อย่างจริงจังได้

ไม่เช่นนั้น ถ้าฝ่ายบริหารยังยึดหลักพึ่งพาเมมควบจากวงน้องอยู่เรื่อยๆ เราเชื่อว่าวันที่ยูกิรินและมายูยุแกรดออกไป (รวมทั้งทากามินะที่จะแกรดในปีนี้) akb คงหลงทางไปมากกว่านี้

ซึ่งเราคิดว่าจะมาถึงในอีกไม่นาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่