ถูกลูกชาย แอบลักกางเกงในไปสําเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง แก้ปัญหาอย่างไรดีคะ

ลูกชายกำลังเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่น แล้วพฤติกรรมเปลี่ยนไปค่ะ เราเองเป็นแม่ ช่วงแรกๆ พฤติกรรมของลูกชายจะมาแอบลักกางเกงในเราแล้วสําเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเสร็จก็จะเอามาคืนแขวนไว้ที่เดิม เริ่มแรกเราเองก็ไม่รู้หรอก ก็ปรึกษากับครอบครัวเอาเรื่องนี้มาพูดคุยในโต๊ะทานข้าวพร้อมกันพ่อแม่และลูกชายคนโตกับน้องสาวคนเล็ก ตอนแรกๆเราคิดว่าเป็นฝีมือพ่อก็เลยถามลูกๆว่าเห็นพ่อมาทำอะไรกับชุดชั้นในแม่เปล่า เรื่องเคลียร์กันไม่จบ หลังจากวันนั้น พฤติกรรมของลูกชายก็เปลี่ยนไปจากที่เคย สําเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง แล้วนำมาคืนแขวนไว้ตามเดิม กลับ ลักไปเก็บไว้ในห้องนอนของลูกชายเองเลย เราจับได้ตอนลูกชายไปเรียนพิเศษ แล้วเราเข้าไปทำความสะอาดห้องนอนให้ลูกชาย เลยพบกางเกงในของเราอยู่หลายๆตัวเลยค่ะ พอลูกชายกลับมาบ้านเราเลยจับลูกชายมาตี แล้วพาไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่จิตแพทย์กลับบอกว่าห้ามตี และให้ลูกชายสําเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง แบบนี้ไปก่อน พร้อมกับบอกว่าให้สอนเรื่องการลักขโมยเป็นเรื่องไม่ดี คือให้ลูกชายมาขอกางเกงในกับเรา (แม่)ตรงๆเพื่อสําเร็จความใคร่ด้วยตัวเองแล้วเอามาคืน แล้วก็บอกว่าแม่ควรเปิดใจเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เราตกใจมากๆเลยค่ะ ทำไมหมอจิตแพทย์ ถึงสนันสนุนให้ลูกชายเราทำแบบนี้คะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ใช่แค่จิตแพทย์ไทยค่ะ จิตแพทย์ฝรั่งก็แนะนำอย่างนี้
พฤติกรรมขโมยกางเกงในของคนในครอบครัวไปช่วยในการสำเร็จความใคร่นั้น
เกิดขึ้นในเด็กแตกหนุ่มหลายคนเหมือนกันค่ะ.. โดยกางเกงในที่ใช้แล้วเหล่านี้
มันเหมือนเป็นอุปกรณ์เสริมจินตนาการ ปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศของเค้า
เรารู้ว่าพอพูดแบบนี้แล้วมันยากที่จะทำใจได้ เพราะกางเกงในที่เค้าขโมยไปมันเป็นของแม่แท้ ๆ เลย
ยังไงมันก็ดูไม่เหมาะไม่ควร และไม่มีแม่คนไหนสบายใจแน่ ๆ

แต่จะบอกว่าถึงแม้เค้าจะเอากางเกงในคุณแม่ไปสำเร็จความใคร่ ไม่ได้หมายความว่า
เค้าหลงใหลคิดอยากล่วงเกินอะไรแม่นะคะ คือมันก็แค่นั้นแหละ พอเติบโตขึ้นเค้ามีแฟน พฤติกรรมจะหายไปเอง

อย่างไรก็ตามถ้าอยากให้เค้าเปลี่ยนพฤติกรรม ต้องงดความรุนแรง การดุด่า หรือตีค่ะ อย่างที่จิตแพทย์บอก
เราต้องนั่งคุยกับเค้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันพอจะมีทางอื่นได้ไหม ย้ำกับเค้าว่าแม่ไม่โอเค รู้สึกไม่ดีจริง ๆ นะกับการทำแบบนี้
ต้องคุยกันอย่างเปิดใจและที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องมีท่าทีที่พร้อมจะเข้าใจ พร้อมให้ความช่วยเหลือเค้าอย่างแท้จริงนะคะ
แล้วก็หาทางออกไปพร้อม ๆ กัน ลองฟังเค้าดูค่ะว่าพอจะใช้วิธีอื่นได้ไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่