หลังจากที่เรา 2 คนไปเที่ยว สิงค์โปมาแล้วรู้สึกสะใจมาก จึงได้หาทริปต่อไป
และทริปนั้น หลังจากที่ได้มีการถกเถียงกัน ก็สรุปได้ว่า ฮานอย-ซาปา นี้แหละทีเด็ด
ทริปครั้งนี้ก้ได้มีผู้ร่วมชะตากรรมเพิ่มมาอีก 1 สาว กลายเป็น 3 สาว มหาปะลัย 55555

***เนื่องจากเจ้าของกระทู้ เขียนเล่าเรื่อง อธิบายไม่ค่อยเก่ง ขอเป็นแบบอธิบายตามภายเลยและกันเนอะ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก้ไม่ค่อยได้จำเท่าไหร่ พอดีมันหลายเดือนแล้ว เลยจำไม่ค่อยได้

เริ่มกันเลย
วันเดินทาง นัดเจอกันที่ ดอนเมืองตอนเช้า เดินทางโดยหางแดง ค่าเครื่องได้จองล่วงหน้า ได้ราคาที่พอใจมาก คือ 3000 บาทไป-กลับ
ส่วนค่าโรงแรมกับตั๊วรถไฟ เราได้จองไว้แล้ว ก็จะเหลือแค่ค่ากินค่าเดินทางสำหรับที่นู้น แต่ละคนก้พกเงินกันไปไม่เยอะ 4-5พันบาท เท่านั้น
ถือว่ากินอยู่สบายเลยแหละ ถ้าไม่ได้ช้อปอะไรนะค่ะ

โฉมหน้าผู้ร่วมเดินทาง


เมื่อเช็คอินเสร็จเราก้เข้าข้างในกันเถอะ



ก่อนจะขึ้นเครื่อง รายงานตัวให้เรียบร้อยนะจร๊ะสาวๆ ^^


หลับได้ตื่นนึงตื่นขึ้นมาก้ถึงสนามบินแล้วววววว ทุกคนพร้อมลุยมาก
สิ่งแรกที่ทำตอนไปถึงคือ หาที่แลกเงิน และซื้อซิมโทรศัพท์ มีพี่เราซื้อคนเดียวเพราะเค้าต้องใช้ติดต่องานเรากับเพื่อนเราไม่ซื้อ
เพราะอยากมาเที่ยวจริงๆไม่อยากจะเสียเวลากับการก้มหน้าโดยไม่มองไปข้างหน้า จริงๆแล้วมันเป็นแค่ข้อข้าง (เปลืองตังนั้นเอง)
หาWifiใช้เอา 555555  

         เมื่อซื้อกับซิมเสร็จแล้วเอาก็ออกมาข้างหน้าสนามบินเพื่อหาทางเข้าเมือง ด้วยการที่เราศึกษาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
เราก้ต่างถามกันว่า... "รู้อะไรมาบ้างว่ะ" ทุกคนตอบพร้อมกันว่าไม่รู้อ่ะ อ่านมาแต่จำไม่ได้ ....เงิบสิครับแต่ละนาง 5555
เออ....เราไม่สิ้นไม้ตรอก เจอเพื่อนคนไทยไปเที่ยวเหมือนกันก้ได้คุยกันถามข้อมูลจากเค้าบ้าง แต่เหมือนจะไม่ได้เรื่อง 5555
พี่เราซื้อซิมเน็ตแล้วหนิ ใช้ให้เป็นประโยชน์ เปิดเลยจร้า ได้ความว่ามีรถเมล์อยู่หน้าสนามบินเข้าเมือง ออกมาเดินไปทางขวา
จะเห็น หรือถามคนแถวนั้นก้ได้ ส่วนค่ารถเราเองก็จำไม่ได้ แฮะๆๆๆๆๆ








ถึงแล้วค่ะ เราอยู่ส่วนไหนของฮานอยก็ไม่รู้ได้แต่มองซ้ายมองขวา อ้าว เจอคนไทยอยู่2กรุ๊ป ถ่ายรู้ด้วยกันซะหน่อย พวกพี่ๆเค้าน่ารัก
แต่เราก้ไม่ได้ไปทางเดียวกับเค้า กรุ๊ปนึงเดินหาโรงแรม อีกกรุ๊ปนึง เดินหาทัวร์ เราหล่ะ หาสะพานแดงดีกว่าอย่างแรก
แต่ก่อนจะเจอสะพานแดงขอหาอะไรกินก่อน หิวมว๊ากกกกคร้า.......




เออ...ลืมบอกอากาศในช่วงนี้เย็นมากอยู่ประมาณ10กว่าองศา ซึ่งเรากับเพื่อนอีกคนนั้นไม่ได้เตรียมตัวสำหรับความหนาวเย็นขนาดนี้
คิดว่าแค่เย็นๆ แต่พี่เรานั้นมาเต็ม หล่ออยู่คนเดียวเลย 5555

เราก้เดินเล่นตามสถานที่ต่างๆ อยากจะสะใจแบบเรามันก้ต้องเดินไม่ธรรมดา เข้าร้านของชำสิ จัดไปเบียร์คนละกระป๋อง จะได้เซๆ ชิวล์ๆ
เดินจนเบื่อแล้ว พี่เราก้หิวอีกและ หาร้านแวะสักหน่อย ร้านนี้ดีมาก แต่เราไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหนเพราะเราเดินไปเลื่อยๆไม่ได้สังเกตุอะไร
ร้านไหนน่านั้งเราก้จัดเลย ร้านนี้มีระเบียงชั้น 2มันเจ๋งมากนั้งมองคนเดินไปเดินมา นั้งดูวิถีชีวิตคนเวียดนาม เค้าใช้ชีวิตกันยังไง จิบเบียร์เย็นๆ
แต่ที่ร้านดันมี wifiก้เลยก้มๆเงยๆ 5555












พอได้เวลาอันสมควรเราก็เดินหาสถานีรถไฟ เราต้องไปซาปาในคืนนี้ช่วง 4ทุ่ม
เราก็เดินตาม Map เลยจร้า สบายๆ เดินจนเจอสถานีรถไฟ เหลือเวลาอีกนาน ก็เดินวนๆแถวนั้น เลยไปเจอร้านนี้ เอาไงหล่ะ
จัดสิค่ะ อย่าช้า แต่เราต้องกลับมา โรงแรมข้างสถานีรถไฟเพื่อพี่จะเอาตั๊วรถไฟก่อน 1 ชม.
จะบอกว่าเบียร์ที่นี้ถูกมาก เบียร์ทาวเวอร์นี้ แค่ 96.000 หรือ150 บาทไทย (แทบจะอาบ55)

นี้แหละทาวละ 150 บาท

***แต่ทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้***(ของฝากสำหรับสาวๆ) เบลอหน่อยแต่เด็ด

จริงๆแล้วเรานั้งมองตั้งนาน แต่เพื่อนเราทำของตก เลยหันไปเห็น เสร็จนางเลยทีนี้
ก้ใช้เวลาคุยกันอยู่สักพัก เค้าก้มาขอถ่ายรูปด้วย ขอเฟส คือดีงามอ่ะ
แต่ด้วยเวลาอันน้อยนิด เราต้องไปต่อแล้วเดียวไม่ทันรถไฟ แต่ก้ยื้อจนถึงที่สุด 5555555





ถึงเวลามารับตั๊วรถไฟ ก้มีคนมารถอยู่ที่โรงแรมแล้ว เรากับพี่ก็เข้าไปเคลียเรื่องตั๊ว แต่กลับออกมาอีกที
นังนี้นังคุยกับ ผช.อยู่ข้างหน้าสนุกสนานเชียว

ยังพอมีเวลาเหลือ ไหนๆมันก้นั้งตรงนั้นและ กินชาสักหน่อย อิอิ^^
(สิ่งนี้จะเห็นได้ตามท้องถนนที่เวียนนาม เป็นสิ่งไม่ผิดกฎหมายบ้านเขา แต่ไม่ใช่กัญชานะ มันคล้ายๆยาเส้น ดูดฟรี แต่เสียตังค่าชา)
ได้เรื่องเลย

ถึงเวลาแล้วก้มีพนักงานมาส่งเราขึ้นรถไฟ
ที่นอนก็โอเคอยู่ ถือว่าสบายเลยทีเดียว

ไปก่อนเพื่อนเลย 5555


ตี5 ถึงแล้วว

เราก้ออกไปหารถตู้กัน ก้จะโดนหลอก แต่ด้วยความงกของพวกเราจะทำให้ได้ราคาปกติ แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
บอกรถตู้ว่าพักโรงแรมไหน รถตู้ก็จะไปส่งถึงโรงแรม แต่โรงแรมเราต้องเดินขึ้นเขาไปนิดหน่อย
พอลงจากรถตู้ก็จะมีชาวเขาล้อมหน้าล้อมหลัง แต่เค้าพูดดี เหมือนมาต้อนรับ แต่จริงๆแล้วมาขายของ



ห้องของเราคืนนี้ ใหญ่มากอยู่สบาย ราคาถูก วิวดี

เอาของขึ้นไปเก็บห้องเสร็จก็ลงมาเช่ามอเตอไซค์ เช่าที่โรงแรมได้เลย แพงกว่าข้างนอกนิดหน่อยไม่เป็นไร
เพราะอากาศหนาวมาก ทั้งหนาวทั้งหมอก ทั้งฝน สะใจกันเลยงานนี้ มองแทบจะมองไม่เห็นถนน

ได้มอเตอไซค์แล้วออกแว้นกันเลย

ก่อนอื่นต้องไปเติมน้ำมันก่อน เช่ามา2คัน คันนึงน้ำมันจะหมด ที่โรงแรมเค้าให้แผนที่มาว่าปั้มน้ำมันอยู่ตรงไหน
แต่เวลานั้น มองไม่เห็นอะไรเลย แผนที่ก็ไม่มีความหมาย เลยขับไปถามเอาข้างหน้า แต่ไม่ได้ความ ไม่รู้ภาษาอักฤษเราแย่มาก
หรือเค้าฟังไม่รู้เรื่อง
โชคดีมาก เจอ ผช.คนนึง เราถามเค้าว่า "ฟิวก๊าส แวๆ ? ฟิลก๊าส ฟิลก๊าส ?? "พร้อมชี้ไปทางถังน้ำมัน เค้าก็อ่อ ก๊าสก๊าส ตามมาๆ
เราก้ตามไปเลยจร้า  ส่งเราครึ่งทางแล้วให่เราขับไปต่อ

ก้ไปถึงที่นึง มีน้ำมันขายแต่ไม่ใช่ปั้ม ได้แต่มองหน้ากัน แล้วก็เอาที่นี้แหละ เติมๆไปเหอะจะได้ไปต่อ
แต่ค่าน้ำมันร้านนี้แพงมาก เลยมีการต่อลองแบบนี้


เค้าบอกให้ทิ้งรถไว้ไปเดินเล่นก่อน เดินออกมาจากร้าปุ๊บ มองไปทางขวา นั้นไง
หมู่บ้านกั๊สๆ ที่หาปั้มเมื่อกี้ ก๊าสก๊าส กลับเป็น กั๊สกั๊ส อะๆมาถึงและ เดินเลย








เสร็จแล้วก้หาข้าวกินกัน อากาศหนาวๆหาไรร้อนๆกินกัน


ยิ่งกินยิ่งหนาว พอกินเสดลงมติกันว่ากลับห้องเถอะ หนาวไม่ไหว รอหมอกซากว่านี้ก่อนค่อยออกมา
ในห้องก้หนาวไม่แพ้ข้างนอก ทรมานมาก เสื้อผ้าก้บางใส่3ตัวยังไม่รู้สึก
ตื่นมาประมาน บ่าย3 ก้ไม่เห็นท่าทีหมอกจะลดลง ไหนๆก้มาแล้วก้ต้องออกไปถ่ายรูปเล่น หาร้านเค้กนั่งชิลๆ




Dinner

ซื้อเบียร์กลับไปกินที่โรงแรม

จบไปอีก 1 วัน

เช้ามาก้กินข้าว เก็บของ เตรียมหารถกลับไปสถานีรถไฟ




โรงแรมจะจองรถตู้ให้ไม่เอากลัวโดนชาท
หาแท๊กซี่กลับ หนักกว่าอีก โดนเต็มๆ

แต่พอถามคนแถวนั้นเค้าก้บอกราคานี้แหละ เลยช่างมัน