ตอนนี้มีประกาศขายที่ดิน ขนาดพื้นที่ประมาณ ๘๐ ตารางวา ในราคาไม่กี่หมื่นบาท ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินติดกับมหาวิทยาลัย แต่มีปัญหาอยู่ว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็น
ที่ตาบอดครับ ดังภาพด้านล่างนี้ครับ หมายเลขแปลงที่ ๙๑
ผมจึงขอเรียนถามท่านที่มีความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินตาบอด ดังนี้ครับ
๑) หากผมตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ ผมจะว่าจ้างทนายความเพื่อฟ้องต่อศาล โดยผมเป็นโจทก์ต้องการเรียกร้องขอทางจำเป็น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๔๙ และ ๑๓๕๐ หรืออ้างอิงจากตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๗๕๘/๒๕๔๓ โดยไม่ต้องเสียค่าความเสียให้แก่จำเลย เนื่องจากที่ดินแปลงที่ ๙๑ ดังกล่าวนี้ เคยเป็นที่โฉนดเดียวกันมาก่อน แต่ภายหลังเจ้าของโฉนดแบ่งแยกออกเป็น ๕ แปลง ได้แก่ หมายเลขแปลงที่ ๘๙ ๙๐ ๙๑ ๙๒ และ ๙๓ ดังนั้นถ้าผมซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว ผมจึงไม่ต้องเสียค่าความเสียหายใด ๆ ให้แก่จำเลยแปลงที่ ๘๙ และ ๙๐ ใช่ไหมครับ?
๒) กรณีที่ผมสร้างอพาร์ทเม้นท์เรียบร้อย โดยสร้างเต็มพื้นที่ ผนึงทึบ ล้อมรั้วถูกต้องตามหลักกฎหมาย จึงอยากจะทราบครับว่า หากในอนาคตเจ้าของที่ดินแปลงที่ ๘๙ และ ๙๐ เขาต้องการปลูกสร้างที่พักอาศัยหรืออาคารปลูกสร้างอื่น ๆ เจ้าของที่ดินแปลงที่ ๘๙ และ ๙๐ เขาสามารถร้องขอ "ทางจำเป็น" โดยผ่านที่ดินแปลงของผม ได้ไหมครับ หรือเขาจะต้องใช้ที่ดินแปลงอื่นเป็นทางจำเป็นครับ?
๓) กรณีที่สร้างอพาร์ทเม้นท์เรียบร้อยแล้ว "ทางจำเป็น" ของที่ดินแปลงที่ ๙๑ ที่ผมเป็นเจ้าของนี้ สามารถเรียกร้องขอทางจำเป็นได้กว้างกี่เมตรครับ เพราะตามที่ศึกษาค้นคว้าคำพิพากษาฎีกามา เห็นว่าตามความเหมาะสม แต่จะต้องกระทบแปลงที่ ๙๒ และ ๙๓ น้อยที่สุด ซึ่งกรณีนี้ ผมคิดว่าจะขอความกว้างของถนนเพื่อใช้เป็นทางจำเป็น โดยจะมีขนาด ๓.๕ เมตรครับ เพราะต้องการให้เป็นทางสำหรับรถยนต์ ซึ่งเป็นยานพาหนะ และไว้เป็นทางสำหรับสาธารณูปโภคต่าง ๆ ครับ จึงอยากจะทราบว่าสามารถสร้างทางจำเป็นได้กว้างสุด ประมาณกี่เมตรครับ
ที่ผมตั้งกระทู้ถามเช่นนี้ เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวราคาถูกมาก ๆ ครับ หากเป็นการขายราคาตลาดทั่วไป จะตกตารางวาละ ๒๕,๐๐๐ - ๓๕,๐๐๐ บาท ซึ่งบอกตามตรง ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินสดมากขนาดนั้นครับ ดังนั้นการได้รับทราบข่าวว่ามีคนขายที่ดินติดกับรั้วมหาวิทยาลัยราคาถูกมาก ก็ดีใจมากครับ แต่พอทราบว่าเป็นที่ตาบอด ก็ทุกข์ใจสุด ๆ เช่นกัน แต่จะให้ผมปล่อยโอกาสแบบนี้ผ่านไป โดยไม่หาหนทางแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลังความสามารถ ผมก็คงจะรู้สึกเสียดายโอกาสแบบนี้มาก ๆ ครับ
ดังนั้นจึงขอความกรุณาท่านที่พอจะมีความรู้ทางกฎหมาย แนะนำ ชี้แนะ ให้ผมด้วยครับ เพราะไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
ถ้าหากซื้อที่ตาบอดมา จะขอทางจำเป็นได้ไหมครับ เพราะว่า...
ผมจึงขอเรียนถามท่านที่มีความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินตาบอด ดังนี้ครับ
๑) หากผมตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ ผมจะว่าจ้างทนายความเพื่อฟ้องต่อศาล โดยผมเป็นโจทก์ต้องการเรียกร้องขอทางจำเป็น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๔๙ และ ๑๓๕๐ หรืออ้างอิงจากตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๗๕๘/๒๕๔๓ โดยไม่ต้องเสียค่าความเสียให้แก่จำเลย เนื่องจากที่ดินแปลงที่ ๙๑ ดังกล่าวนี้ เคยเป็นที่โฉนดเดียวกันมาก่อน แต่ภายหลังเจ้าของโฉนดแบ่งแยกออกเป็น ๕ แปลง ได้แก่ หมายเลขแปลงที่ ๘๙ ๙๐ ๙๑ ๙๒ และ ๙๓ ดังนั้นถ้าผมซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว ผมจึงไม่ต้องเสียค่าความเสียหายใด ๆ ให้แก่จำเลยแปลงที่ ๘๙ และ ๙๐ ใช่ไหมครับ?
๒) กรณีที่ผมสร้างอพาร์ทเม้นท์เรียบร้อย โดยสร้างเต็มพื้นที่ ผนึงทึบ ล้อมรั้วถูกต้องตามหลักกฎหมาย จึงอยากจะทราบครับว่า หากในอนาคตเจ้าของที่ดินแปลงที่ ๘๙ และ ๙๐ เขาต้องการปลูกสร้างที่พักอาศัยหรืออาคารปลูกสร้างอื่น ๆ เจ้าของที่ดินแปลงที่ ๘๙ และ ๙๐ เขาสามารถร้องขอ "ทางจำเป็น" โดยผ่านที่ดินแปลงของผม ได้ไหมครับ หรือเขาจะต้องใช้ที่ดินแปลงอื่นเป็นทางจำเป็นครับ?
๓) กรณีที่สร้างอพาร์ทเม้นท์เรียบร้อยแล้ว "ทางจำเป็น" ของที่ดินแปลงที่ ๙๑ ที่ผมเป็นเจ้าของนี้ สามารถเรียกร้องขอทางจำเป็นได้กว้างกี่เมตรครับ เพราะตามที่ศึกษาค้นคว้าคำพิพากษาฎีกามา เห็นว่าตามความเหมาะสม แต่จะต้องกระทบแปลงที่ ๙๒ และ ๙๓ น้อยที่สุด ซึ่งกรณีนี้ ผมคิดว่าจะขอความกว้างของถนนเพื่อใช้เป็นทางจำเป็น โดยจะมีขนาด ๓.๕ เมตรครับ เพราะต้องการให้เป็นทางสำหรับรถยนต์ ซึ่งเป็นยานพาหนะ และไว้เป็นทางสำหรับสาธารณูปโภคต่าง ๆ ครับ จึงอยากจะทราบว่าสามารถสร้างทางจำเป็นได้กว้างสุด ประมาณกี่เมตรครับ
ที่ผมตั้งกระทู้ถามเช่นนี้ เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวราคาถูกมาก ๆ ครับ หากเป็นการขายราคาตลาดทั่วไป จะตกตารางวาละ ๒๕,๐๐๐ - ๓๕,๐๐๐ บาท ซึ่งบอกตามตรง ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินสดมากขนาดนั้นครับ ดังนั้นการได้รับทราบข่าวว่ามีคนขายที่ดินติดกับรั้วมหาวิทยาลัยราคาถูกมาก ก็ดีใจมากครับ แต่พอทราบว่าเป็นที่ตาบอด ก็ทุกข์ใจสุด ๆ เช่นกัน แต่จะให้ผมปล่อยโอกาสแบบนี้ผ่านไป โดยไม่หาหนทางแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลังความสามารถ ผมก็คงจะรู้สึกเสียดายโอกาสแบบนี้มาก ๆ ครับ
ดังนั้นจึงขอความกรุณาท่านที่พอจะมีความรู้ทางกฎหมาย แนะนำ ชี้แนะ ให้ผมด้วยครับ เพราะไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป