มีโอกาสแค่ไหนที่แพ้สเตียรอยด์และหน้าเป็นหลุมครับ ?
คือผมเป็นคนเข้าใจดีว่าการบีบสิวเป็นมหันตภัย สำหรับการเกิดหลุมสิวได้ ย้ำว่าเข้าใจมากครับ
แม้ว่าผมจะเป็นคนที่เป็นสิวง่าย ผมก็ไม่บีบเลยปล่อยให้มันโชว์หราอยู่บนหน้าผมเป็นตุ่มๆอยู่อย่างนั้น แค่แต้มยารักษาสิวจนหายไปเองตามปกติครับ
จึงทำให้หน้าผมไม่มีหลุมสิวมาตลอด
แต่!! ปัญหาก็เกิดขึ้น
ท้าวเรื่องคือเรื่องเริ่มจากการที่ผมไปอัพหล่อเพิ่ม ที่คลีนิกมีชื่อในห้างสรรพสินค้า โดยที่ผลออกมาดีมากกกก หน้าดีมากๆ
ผมทำเฟสเทอราพี่เพื่อลบตุ่มแพ้แดงๆเล็กๆบนหน้า และรับครีมกับยามาทาครับ
แต่หารู้ไม่ว่าหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เค้าให้ใช้ทาใบหน้าของผมนั้นมันมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ด้วยครับผมและยาที่ให้ทานก็คือโรแอค(ตัวนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับหลุม)
ยังไม่ทันจะได้ชื่นชมหน้าหล่อๆได้นานเท่าไหร่ จริงๆใบหน้าก็โอเคอยู่แล้วแต่ผมสังเกตเห็นกระเนื้อบนหน้าที่เริ่มขึ้นมา
เลยจัดไปอีกหนึ่งอย่างคือการยิงเลเซอร์ลบกระเนื้อบนหน้าแค่ครั้งเดียว
พอผ่านไปซักระยะหลายวันถัดมา (ประมาณ 4-5 วัน) ก็มีปัญหาเกิดขึ้น
หน้าผมแดงงงก่ำแป๊ดดดดด และร้อนไปทั้งหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุเลยครับ
ผมกลับไปหาคลีนิกเดิม เค้าก็วินิจฉัยว่าผมน่าจะแพ้ยาชาที่มาส์กหน้าให้ผมตอนทำเลเซอร์ลบกระ
แต่ผมมาคิดดูตอนนี้ ถ้าแพ้ยาชามันก็น่าจะมีอาการตั้งแต่เนิ่นๆแล้วไม่น่าจะต้องผ่านมาอีกตั้งหลายวันไม่ใช่หรือ ?
ทางคลีนิกนี้ แก้ไขปัญหาด้วยการเอายาทาแก้อักเสบให้ผมทาทั่วใบหน้าครับ
ซึ่งมันเป็นสเตียรอยด์เต็มๆ ( ณ ตอนนั้นผมไม่ทราบครับว่ามันเป็น และจะมีผมข้างเคียง )
เมื่อผมได้รับยามา ผมจึงปฏิบัติตามคำแนะนำครับทาทั่วใบหน้าและ ผลคือหน้าหายแดงกลับมาขาวใสเหมือนเดิม
ได้เราก็โล่งใจสิครับหน้ากลับมาหล่อดีใจจุงเบย แต่!! ผ่านไปอาทิตย์เดียว มันกลับมาแดงใหม่ !!!
ผมกลับไปหาคลีนิกอีกครั้งและได้รับคำวินิฉัยว่า มันเป็นปกติที่อาการแบบนี้อาจจะกลับมาเป็นอีกก็แค่เวลาที่เห่อก็ทายาตัวเดิมอีกกดมันไปเรื่อยๆ
ซักพักนึงก็จะหายเอง แต่มันไม่ใช่แค่นั้นสิครับ หลังจากทายาและหายรอบสองผมก็กลับมาเป็นรอบสามรอบสี่อีก
โดยที่หมอในคลีนิกบอกว่ามันเป็นอาการที่ไม่หายขาดหรอกค่ะ (อ้าว ทำไมเป็นเรื่องละครเป็นคนละเรื่องล่ะครับ ? ไหนตอนแรกบอกว่าหายได้ไง)
ความเจ็บช้ำอย่างแสนสาหัสคือ รอบหลังสุดมันแดงขึ้นมาอีกแล้วผมทายาซ้ำๆๆๆลงไปที่หน้าเท่าไหร่มันก็ไม่หายแดง
(โง่นะ ไม่รู้ว่ามันเป็นสเตียรอยด์ ก็ไม่รู้นี่หว่า โบกเข้าไปซะหวังจะแก้ให้อาการหายขาด)
จนผมแน่ใจแล้วว่า (อย่างช้าาาอ่ะ กว่าจะรู้ตัว) คลีนิกนี้มิสามารถรักษาอาการผมได้แน่นอนแล้ว ผมจึงมองหาที่อื่นครับ
เอาวะ ! คราวนี้ต้องเป็นที่ๆเราไว้ใจได้แน่ๆ หาไปหามาเจอะข้อมูลของโรงพยาบาลผิวหนังของเอกชนที่หนึ่ง
ที่เค้าบอกว่าแพงจริงแต่ดีและไม่ต้องไปรอคิวรักษาหรือนัดข้าวเดือนเหมือนที่อื่นๆ
ผมก็จัดไปครับ ตกลงใจแล้วว่าไปหาที่นี่แหล่ะ เป็นที่ๆหมอรักษาเป็นแพทย์จริงๆมีใบรับรองว่าจบมาโดยตรงจริงๆ ต่องที่นี่เล๊ยย !!
ผมบากหน้าแดงๆขึ้นรถไฟฟ้าไปรักษาที่นั่นหลังเลิกงานด้วยความหวังครับ
เมื่อผมพบแพทย์ (ใช้คำนี้ครับเพราะคิดว่าเค้าเป็นแพทย์โดยตรง)
เค้าจับผมแปะเจ้ากระจกติดกาวที่หน้าผมเพื่อเอาผิวหน้าไปวิเคราะห์กับเครื่องส่องครับ แล้วก็ให้ผมดูที่กล้องส่องของเค้า
ผมก็ตะลึงเลยครับ เห็น เจ้าตัวไรดิ้นดุ๊กดิ้กๆอยู่ในกล้อง
แพทย์แจ้งผมว่าคุณมีตัวไรบนหน้ามากจนเกินไปขอรับ จึงเกิดอาการแพ้ และประกอบกับของเดิมผมเป็นคนหน้าแดงง่าย(แต่หายเร็ว) หน้าผมถึงแพ้แดงมากๆ
แพทย์จึงให้ผมทานนารักษาฆ่าตัวไรบนหน้าและยาตัวอื่นๆ ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าคืออะไรครับ (อึนสุดๆ เพราะพึ่งเห็นตัวไรบนหน้า เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น)
และให้ผมทำทรีทเมนต์เลเซอร์เพื่อลดจำนวนเส้นเลือดบนหน้า หน้าจะได้แดงน้อยลง โดยที่ต้องทำอย่างน้อย สี่ครั้งครับ ครั้งละ ห้าพันบาท !
ผมก็โอเคหมดทุกสิ่งอย่างสิครับ ก็อยากหายนี่... หน้ามืดตามัวไปสุดๆ
เมื่อรับการรักษาครั้งแรก มาหาครั้งที่สองตามการนัดของแพทย์ เค้าจึงบอกผมว่ารอบสองนี้จะจ่ายยาทานลดไปหนึ่งอย่าง
ตัวที่งดจ่ายรอบนี้คือยาทานที่เป็นสเตียรอยด์ค่ะ อ้าวผมก็พึ่งทราบสิครับว่ามันเป็นสเตียรอยด์อ่ะ มิน่ารักษารอบแรกไปแล้วดูดีจุงเบย
พอไปรักษารอบสอง และสุดท้ายรอบสามเกิดปรากฏการณ์ ขึ้นคือใบหน้าผมเกิดเป็นหลุมครับ
แน่นอนที่สุดว่าผมเลิกกลับไปหาที่นั่นโดยไม่ไปตามนัดครั้งที่สี่ครับ
ต่อมาล่าสุดนี้ผมไปหาคุณหมออาจารย์ที่เป็น รศ.ดร. ทางผิวหนังครับเค้าบอกเลยว่าแพ้สเตียรอยด์อย่างเดียว ตัวรงตัวไรอะไรไม่เกี่ยว
อาจารย์หมอท่านให้ทายา metrodinazole แก้หน้าแดงเช้าเย็น และทาครีมบำรุงผิวเพิ่มความแข็งแรง ได้ผลครับ! หน้าไม่มีแดงเลยยย
แล้วนี่ตรูไปเสียเวลาเสียรู้กับที่อื่นจนหน้าพังนี่มัน... โอ้วมายก๊อด เจ็บช้ำมากมาย
อาจารย์หมอบอกว่าให้ใช้ยาและทาครีมบำรุงไปเรื่อยๆก่อน จนกระทั่งอาการหน้าแดงทุเลาหรือหายแล้วค่อยมารักษาหลุมและกระเนื้อที่หน้า อีกทีสองเดือนให้หลัง แต่แบบ... ผมเครียดทุกวันที่ส่องกระจกครับ เครียดมากกกก ต้องรอสองเดือน !!! โอยย...
ประเด็นคือ !! ไม่ใช่แค่เป็นหลุมวงกลมหรือจุดนะครับ บางจุดมันเป็นเหมือนอะไรมาปาดเนื้อผิวออกไป และบางจุดก็เหมือนโดนของแหลมมากรีดแก้มแล้วทิ้งรอยเอาไว้
จึงเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้ว่า หลุมมันเกิดจากอะไรกันครับท่าน !? ผมไม่มีสิวให้กดนะครับ ยำว่าไม่มีสิว
แล้วอยู่ดีๆเปลี่ยนยาหยุดพวกสเตียรอยด์แล้วมาเป็นแบบนี้เลยหรือ !!
ปัจจุบันนี้หน้ามีรอยดำ รอยแดงและหลุมหลายรูปแบบบนในหน้าครับ และกระเนื้อขึ้นมาเยอะมากจากที่แต่ก่อนน้อยมากๆ
เอาคอนซีลเลอร์ของ Eucerin มาโบกแก้เหียกได้ไปวันๆแต่ก็ไม่ได้เนียนอะไรเพราะไม่เคยแต่งหน้าครับ
เป็นทุกมากกกกกๆๆๆๆ โปรดช่วยแนะนำให้กระผมได้สามารถแก้ไขอาการที่เป็นอยู่นี้กลับมามีหน้าใสดังเดิมด้วยเถิดครับ
ขอบคุณมากครับทุกๆคน ใครช่วยเหลือผมก็ขอให้ได้บุญได้กุศลแด่ท่านทำให้มีหน้าเนียนผ่องใสนะครับ สาธุ
HELP !! ขอความช่วยเหลือครับ หน้าเหียก !!
คือผมเป็นคนเข้าใจดีว่าการบีบสิวเป็นมหันตภัย สำหรับการเกิดหลุมสิวได้ ย้ำว่าเข้าใจมากครับ
แม้ว่าผมจะเป็นคนที่เป็นสิวง่าย ผมก็ไม่บีบเลยปล่อยให้มันโชว์หราอยู่บนหน้าผมเป็นตุ่มๆอยู่อย่างนั้น แค่แต้มยารักษาสิวจนหายไปเองตามปกติครับ
จึงทำให้หน้าผมไม่มีหลุมสิวมาตลอด
แต่!! ปัญหาก็เกิดขึ้น
ท้าวเรื่องคือเรื่องเริ่มจากการที่ผมไปอัพหล่อเพิ่ม ที่คลีนิกมีชื่อในห้างสรรพสินค้า โดยที่ผลออกมาดีมากกกก หน้าดีมากๆ
ผมทำเฟสเทอราพี่เพื่อลบตุ่มแพ้แดงๆเล็กๆบนหน้า และรับครีมกับยามาทาครับ
แต่หารู้ไม่ว่าหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เค้าให้ใช้ทาใบหน้าของผมนั้นมันมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ด้วยครับผมและยาที่ให้ทานก็คือโรแอค(ตัวนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับหลุม)
ยังไม่ทันจะได้ชื่นชมหน้าหล่อๆได้นานเท่าไหร่ จริงๆใบหน้าก็โอเคอยู่แล้วแต่ผมสังเกตเห็นกระเนื้อบนหน้าที่เริ่มขึ้นมา
เลยจัดไปอีกหนึ่งอย่างคือการยิงเลเซอร์ลบกระเนื้อบนหน้าแค่ครั้งเดียว
พอผ่านไปซักระยะหลายวันถัดมา (ประมาณ 4-5 วัน) ก็มีปัญหาเกิดขึ้น
หน้าผมแดงงงก่ำแป๊ดดดดด และร้อนไปทั้งหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุเลยครับ
ผมกลับไปหาคลีนิกเดิม เค้าก็วินิจฉัยว่าผมน่าจะแพ้ยาชาที่มาส์กหน้าให้ผมตอนทำเลเซอร์ลบกระ
แต่ผมมาคิดดูตอนนี้ ถ้าแพ้ยาชามันก็น่าจะมีอาการตั้งแต่เนิ่นๆแล้วไม่น่าจะต้องผ่านมาอีกตั้งหลายวันไม่ใช่หรือ ?
ทางคลีนิกนี้ แก้ไขปัญหาด้วยการเอายาทาแก้อักเสบให้ผมทาทั่วใบหน้าครับ
ซึ่งมันเป็นสเตียรอยด์เต็มๆ ( ณ ตอนนั้นผมไม่ทราบครับว่ามันเป็น และจะมีผมข้างเคียง )
เมื่อผมได้รับยามา ผมจึงปฏิบัติตามคำแนะนำครับทาทั่วใบหน้าและ ผลคือหน้าหายแดงกลับมาขาวใสเหมือนเดิม
ได้เราก็โล่งใจสิครับหน้ากลับมาหล่อดีใจจุงเบย แต่!! ผ่านไปอาทิตย์เดียว มันกลับมาแดงใหม่ !!!
ผมกลับไปหาคลีนิกอีกครั้งและได้รับคำวินิฉัยว่า มันเป็นปกติที่อาการแบบนี้อาจจะกลับมาเป็นอีกก็แค่เวลาที่เห่อก็ทายาตัวเดิมอีกกดมันไปเรื่อยๆ
ซักพักนึงก็จะหายเอง แต่มันไม่ใช่แค่นั้นสิครับ หลังจากทายาและหายรอบสองผมก็กลับมาเป็นรอบสามรอบสี่อีก
โดยที่หมอในคลีนิกบอกว่ามันเป็นอาการที่ไม่หายขาดหรอกค่ะ (อ้าว ทำไมเป็นเรื่องละครเป็นคนละเรื่องล่ะครับ ? ไหนตอนแรกบอกว่าหายได้ไง)
ความเจ็บช้ำอย่างแสนสาหัสคือ รอบหลังสุดมันแดงขึ้นมาอีกแล้วผมทายาซ้ำๆๆๆลงไปที่หน้าเท่าไหร่มันก็ไม่หายแดง
(โง่นะ ไม่รู้ว่ามันเป็นสเตียรอยด์ ก็ไม่รู้นี่หว่า โบกเข้าไปซะหวังจะแก้ให้อาการหายขาด)
จนผมแน่ใจแล้วว่า (อย่างช้าาาอ่ะ กว่าจะรู้ตัว) คลีนิกนี้มิสามารถรักษาอาการผมได้แน่นอนแล้ว ผมจึงมองหาที่อื่นครับ
เอาวะ ! คราวนี้ต้องเป็นที่ๆเราไว้ใจได้แน่ๆ หาไปหามาเจอะข้อมูลของโรงพยาบาลผิวหนังของเอกชนที่หนึ่ง
ที่เค้าบอกว่าแพงจริงแต่ดีและไม่ต้องไปรอคิวรักษาหรือนัดข้าวเดือนเหมือนที่อื่นๆ
ผมก็จัดไปครับ ตกลงใจแล้วว่าไปหาที่นี่แหล่ะ เป็นที่ๆหมอรักษาเป็นแพทย์จริงๆมีใบรับรองว่าจบมาโดยตรงจริงๆ ต่องที่นี่เล๊ยย !!
ผมบากหน้าแดงๆขึ้นรถไฟฟ้าไปรักษาที่นั่นหลังเลิกงานด้วยความหวังครับ
เมื่อผมพบแพทย์ (ใช้คำนี้ครับเพราะคิดว่าเค้าเป็นแพทย์โดยตรง)
เค้าจับผมแปะเจ้ากระจกติดกาวที่หน้าผมเพื่อเอาผิวหน้าไปวิเคราะห์กับเครื่องส่องครับ แล้วก็ให้ผมดูที่กล้องส่องของเค้า
ผมก็ตะลึงเลยครับ เห็น เจ้าตัวไรดิ้นดุ๊กดิ้กๆอยู่ในกล้อง
แพทย์แจ้งผมว่าคุณมีตัวไรบนหน้ามากจนเกินไปขอรับ จึงเกิดอาการแพ้ และประกอบกับของเดิมผมเป็นคนหน้าแดงง่าย(แต่หายเร็ว) หน้าผมถึงแพ้แดงมากๆ
แพทย์จึงให้ผมทานนารักษาฆ่าตัวไรบนหน้าและยาตัวอื่นๆ ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าคืออะไรครับ (อึนสุดๆ เพราะพึ่งเห็นตัวไรบนหน้า เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น)
และให้ผมทำทรีทเมนต์เลเซอร์เพื่อลดจำนวนเส้นเลือดบนหน้า หน้าจะได้แดงน้อยลง โดยที่ต้องทำอย่างน้อย สี่ครั้งครับ ครั้งละ ห้าพันบาท !
ผมก็โอเคหมดทุกสิ่งอย่างสิครับ ก็อยากหายนี่... หน้ามืดตามัวไปสุดๆ
เมื่อรับการรักษาครั้งแรก มาหาครั้งที่สองตามการนัดของแพทย์ เค้าจึงบอกผมว่ารอบสองนี้จะจ่ายยาทานลดไปหนึ่งอย่าง
ตัวที่งดจ่ายรอบนี้คือยาทานที่เป็นสเตียรอยด์ค่ะ อ้าวผมก็พึ่งทราบสิครับว่ามันเป็นสเตียรอยด์อ่ะ มิน่ารักษารอบแรกไปแล้วดูดีจุงเบย
พอไปรักษารอบสอง และสุดท้ายรอบสามเกิดปรากฏการณ์ ขึ้นคือใบหน้าผมเกิดเป็นหลุมครับ
แน่นอนที่สุดว่าผมเลิกกลับไปหาที่นั่นโดยไม่ไปตามนัดครั้งที่สี่ครับ
ต่อมาล่าสุดนี้ผมไปหาคุณหมออาจารย์ที่เป็น รศ.ดร. ทางผิวหนังครับเค้าบอกเลยว่าแพ้สเตียรอยด์อย่างเดียว ตัวรงตัวไรอะไรไม่เกี่ยว
อาจารย์หมอท่านให้ทายา metrodinazole แก้หน้าแดงเช้าเย็น และทาครีมบำรุงผิวเพิ่มความแข็งแรง ได้ผลครับ! หน้าไม่มีแดงเลยยย
แล้วนี่ตรูไปเสียเวลาเสียรู้กับที่อื่นจนหน้าพังนี่มัน... โอ้วมายก๊อด เจ็บช้ำมากมาย
อาจารย์หมอบอกว่าให้ใช้ยาและทาครีมบำรุงไปเรื่อยๆก่อน จนกระทั่งอาการหน้าแดงทุเลาหรือหายแล้วค่อยมารักษาหลุมและกระเนื้อที่หน้า อีกทีสองเดือนให้หลัง แต่แบบ... ผมเครียดทุกวันที่ส่องกระจกครับ เครียดมากกกก ต้องรอสองเดือน !!! โอยย...
ประเด็นคือ !! ไม่ใช่แค่เป็นหลุมวงกลมหรือจุดนะครับ บางจุดมันเป็นเหมือนอะไรมาปาดเนื้อผิวออกไป และบางจุดก็เหมือนโดนของแหลมมากรีดแก้มแล้วทิ้งรอยเอาไว้
จึงเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้ว่า หลุมมันเกิดจากอะไรกันครับท่าน !? ผมไม่มีสิวให้กดนะครับ ยำว่าไม่มีสิว
แล้วอยู่ดีๆเปลี่ยนยาหยุดพวกสเตียรอยด์แล้วมาเป็นแบบนี้เลยหรือ !!
ปัจจุบันนี้หน้ามีรอยดำ รอยแดงและหลุมหลายรูปแบบบนในหน้าครับ และกระเนื้อขึ้นมาเยอะมากจากที่แต่ก่อนน้อยมากๆ
เอาคอนซีลเลอร์ของ Eucerin มาโบกแก้เหียกได้ไปวันๆแต่ก็ไม่ได้เนียนอะไรเพราะไม่เคยแต่งหน้าครับ
เป็นทุกมากกกกกๆๆๆๆ โปรดช่วยแนะนำให้กระผมได้สามารถแก้ไขอาการที่เป็นอยู่นี้กลับมามีหน้าใสดังเดิมด้วยเถิดครับ
ขอบคุณมากครับทุกๆคน ใครช่วยเหลือผมก็ขอให้ได้บุญได้กุศลแด่ท่านทำให้มีหน้าเนียนผ่องใสนะครับ สาธุ