[CR] เตือนภัย! คิดดีๆก่อนซื้อดีล Phoenix world class aesthetic institute SQ1

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิพย์

ก่อนอื่นอยากชี้แจงว่านี้เป็นครั้งแรกที่ตั้งกระทู้ในพันทิพย์ อาจจะมีความผิดพลาดก็ขออภัยไว้ในที่นี้ด้วยนะค่ะ
และกระทู้นี้เป็นการบอกประสบการณ์ที่โดนมากับตัวเองให้กับคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อดีลกับทางคลินิคค่ะ เพราะเห็นคนซื้อกันเยอะค่ะ เพราะตอนนี้ดีลยังมีขายอยู่ค่ะ

ขอแทนตัวเองว่าเรานะค่ะ
เราได้ซื้อดีลเลเซอร์กำจัดขนจากทางคลินิคเมื่อ31ตุลาคม2557 ในราคา3,999บาทเป็นบุฟเฟ่กำจัดขนใต่วงแขนและขาท่อนล่างค่ะ เราซื้อจากหน้าร้านค่ะ ไม่ได้ซื้อในensogo ที่รู้ว่ามีดีลก็เพราะน้องสาวเป็นคนชอบซื้อดีลค่ะ เราอยากทำเลเซอร์จึงคุยกับน้อง น้องบอกว่าให้ไปหาดีลสิ จะได้ประหยัดเพราะดีลส่วนใหญ่จะถูกกว่าแพ็คเก็ตปกติ เราก็ไปหาในเน็ตและเห็นดีลของทางคลีนิคพอดี บวกกับตอนนั้นทำงานใกล้กับทางร้านจึงตัดสินใจโทรไปสอบถาม ทางร้านก็บอกว่าไม่ต้องซื้อทางเว็บให้มาจ่ายที่หน้าร้านได้เลย เราก็ไปซื้อค่ะ ก่อนหน้าที่ซื้อก็มีการเปิดดูกระทู้ที่แนะนำในพันธิพย์ของทางคลีนิคแต่ยังไม่มีกระทู้เลยเพราะเป็นคลีนิคเปิดใหม่ เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าดีลของคลีนิคพวกนี้จะจัดช่วงโปรโมชั่นเฉพาะตอนแรกที่เปิดใหม่เพื่อเรียกลูกค้าให้มาใช้บริการจึงมีราคาที่ถูกค่ะเพราะเราไม่เคยซื้อดีลเลเซอร์แต่เคยไปเลเซอร์หนวดที่เมโกะค่ะ

แรกๆทำไปสองครั้งยอมรับว่าดีนะค่ะ พนักงานก็ทำให้ละเอียด บอกตลอดว่าต้องทำอะไรบ้างก่อนมาทำ แล้วก็ต้องทาครีมที่ซื้อไป(ลืมบอกค่ะว่าทางคลีนิคให้ซื้อครีมของเขามาสองกระปุเพื่อทาหลังเลเซอร์เสร็จราคาประมาณ300บาท)
ครั้งที่3-6เริ่มอารมณ์ไม่ค่อยดีแล้วค่ะ เพราะไม่เหมือนครั้งแรกๆ ตอนแรกที่ทำไม่ต้องนัดวันเวลาเลยค่ะ ใช้วิธีที่โทรไปสอบถามก่อนชั่วโมงหนึ่งว่าจะเข้าไปทำวันนี้ได้หรือไม่เป็นวันๆไปค่ะ ทำห่างกันครั้งละประมาณ1เดือน ครั้งที่3ที่ไปทำเริ่มรอแล้วค่ะเพราะลูกค้าทางร้านเริ่มเยอะและมีห้องเลเซอร์เพียง1ห้อง ไม่คิดว่าจะขายดีลนานขนาดนี้ค่ะ ตอนนี้ยังขายอยู่และลูกค้าเพิ่มขึ้นเยอะมากค่ะ จากเมื่อก่อนให้เวลาคนละ30นาทีในการเลเซอร์ตอนนี้เป็น15นาทีแล้วค่ะ ทำไม่ค่อยละเอียดเลยค่ะเมื่อก่อนทำเสร็จออกมากว่าจะขึ้นก็เป็นอาทิตย์ค่ะ ตอนนี้สามวันก็ขึ้นใหม่แล้วค่ะ เพราะยิงให้แบบลวกๆ

วันนี้ไปทำครั้งที่7มาค่ะ นัดไว้13.15ค่ะไปถึงตอน13.18สายสามนาทีค่ะ ไปถึงก็รอค่ะเพราะว่ามีลูกค้าท่านอื่นมาก่อนพนักงานเลยให้เขาไปทำก่อนค่ะ อันนี้เราโอเคค่ะเพราะเขามาก่อนเราแล้วเราก็สายเอง เราก็รอค่ะ ระหว่างรอก็ได้ยินลูกค้าเข้ามาใหม่ซื้อดีลกำจัดขนใต้วงแขนบอกกับผู้จัดการร้าน(ขอแทนด้วยคำว่า ผจ)นะค่ะว่าขอทำเลยได้ไหมเพราะนัดเพื่อนไว้บ่ายสองตอนนั้นประมาณบ่ายครึ่งแล้วค่ะ ผจ.บอกทำได้เลยค่ะเดี๋ยวให้เข้าคิวต่อไปเลย เราก็งงในใจว่าอ้าวไม่ใช่คิวเราหรอเพราะที่นี้นัดคิวนี้เป็นเดือนไม่ใช่หรอ ทำไมซื้อแล้วเข้าได้เลย จึงลุกขึ้นถามผจ.ค่ะว่าเราจะได้คิวตอนไหนค่ะ เขาตอบมาว่าคิวต่อไปค่ะ เราก็เลยกลับไปนั่งระหว่างนั้นก็มีลูกค้าผู้ชายเข้ามาค่ะมาเลเซอร์หนวด แล้วผจ.ก็ให้เขาเข้าไปก่อนค่ะ เราก็ขึ้นมาถามอีกรอว่าคิวเราคิวไหนค่ะ เพราะเราเห็นลูกค้าผู้ชายเข้ามาหลังเราค่ะ แล้วผม.บอกว่าเขาทำเคราแปปเดียวก็เสร็จ แปปเดียวจิงๆค่ะประมาณสามนาที พอลูกค้าผู้ชายออกมาคนที่เป็นลูกค้าใหม่ค่ะเดินเข้าไปในห้องเลยค่ะ เราก็งงว่าปกติเขาต้องรอให้พนักงานมาเรียกชื่อก่อนถึงเข้าไปได้นะค่ะ เราเลยโมโหค่ะก็ถาม ผจ.ว่าทำไหมให้เขาเข้าไปก่อนค่ะ มันควรเป็นคิวเราก่อนไม่ใช่หรอค่ะ ผจ.ตอบว่าพวกเขาทำแปปเดี๋ยวค่ะของเราทำนานให้เขาไปทำก่อนเราจะได้ทำนานๆไม่ดีหรอ เรานี้ปรี๊ดเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าอยากทำนานๆนะ แต่มันเป็นหน้าที่ของทางคลีนิคที่ต้องทำให้ดีค่ะตามความมากน้อยของขนเราไม่ใช่หรค่ะ เคยถามความคิดเห็นลูกค้ารึเปล่าว่ายินดีรอรึเปล่า? ถ้าเราเดินออกไปจากร้านหรือไปทำอะไรแล้วเขาให้แทรกเราจะไม่โมโหเลยค่ะ แต่เรานั่งอยู่และถามสองรอบแต่ทำไมไม่บอกหรือขอเราก่อน แล้วแบบนี้นัดคิวมาตามเวลาทำไมเราก็ถามเขา ผจ.ก็ตอบแค่ว่าเดี๋ยวได้ทำแล้วๆจะให้น้องเขาทำให้นานๆ คือเราไม่ต้องการค่ะ เราแค่อยากเห็นความรู้สึกผิดสักนิดที่เขาทำกับเรา ไม่มีค่ะ เขาคิดว่าเขาเป็นผจ เขาจะให้ใครไปก่อนก็ได้ค่ะ เราบอกว่ามันไม่ถูกต้องถ้าเรียงตามทำน้อยทำมากแล้วจะให้มาตามเวลาทำไมค่ะ แต่ระหว่างที่คุยกันลูกค้าที่ไปทำใต้วงแขนก็ออกมาค่ะแล้วก็ถึงคิวเราเพราะในร้านไม่มีลูกค้ารอแล้วค่ะ เราก็เข้าไปทำเพราะก็ไม่ได้อยากมีเรื่องค่ะ ทำเสร็จออกมายอมรับว่าหน้าหงิกค่ะ ทำไป13นาทีค่ะครั้งนี้นานกว่าครั้งที่แล้ว เข้าตอน13.47แล้วออกมาตอน14.02ค่ะอันนี้เวลานับรวมเราเปลี่ยนเสื้อผ้านะค่ะ คือทำจริงประมาณ10นาทีค่ะ ออกจากห้องเลเซอร์ ผจ ก็ไม่อยู่แล้วค่ะ เราคิดว่าก็ดีค่ะเพราะก็ไม่อยากเจอหน้าเหมือนกันเดี๋ยวทะเลาะ เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยยอมค่ะ ยิ่งเรื่องที่เราไม่ได้ผิดด้วยค่ะ แล้วพนักงานคนอื่นก็ทำการนัดครั้งต่อไปค่ะ เราก็คิดว่าเอาวันไหนแต่เราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ใช่ไหมค่ะว่าหนึ่งเดือนต่อไปเราจะมีธุระกระทันหันอะไรรึเปล่าก็นัดมั่วๆค่ะ แล้วเราก็บอกพนักงานที่นัดว่านัดไปมาตามเวลาก็ไม่ได้ทำอยู่ดี พูดแบบเซ็งๆค่ะ พนักงรนก็ใจเย็นนะค่ะไม่ตอบอะไรก็นัดวันให้ปกติค่ะ

เราก็เดินออกจากร้านค่ะ ตอนกำลังรอลิฟต์แฟนก็เล่าให้ฟังค่ะว่าหลังจากเราเข้าไป ผจ ก็พูดว่า"เงินก็อยากได้นะ แต่ทำงานให้เด็กถอนหงอกก็ไม่ไหว เด็กสมัยนี้การศึกษาก็ดีทำไมมารยาททราม"คือเราไปกับแฟนค่ะไม่งั้นเราก็คงไม่รู้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ค่ะ แฟนเราก็เดินไปถามเขาว่าเมื่อกี้ว่าแฟนผมรึเปล่าครับ เขาตอบว่าไม่ได้ว่าค่ะ ร้อนตัวหรอค่ะ ว่าคนในโทรศัพท์ค่ะ ซึ่งมันอาจจะเป็ความเข้าใจผิดก็ได้ค่ะ แต่ว่าจะให้แฟนเราคิดยังไงเมื่อเรื่องมันเพิ่งเกิดแล้วพูดคำพูดนั้นออกมา คือจะด่าคนอื่นหรือด่าเราก็ไม่ควรด่าให้คนที่นั่งรอในร้านได้ยินรึเปล่าค่ะ? แล้วถ้าเขาไม่ได้ว่าจริงๆทำไมเขาไม่พูดว่าเข้าใจผิดแล้วอธิบายดีดีค่ะ ทำไมต้องกวนตีนพูดว่าร้อนตัวหรอค่ะ อันนี้แย่มากเลยค่ะ ปกติแฟนเราเป็นคนใจเย็นยังทนไม่ได้เลยค่ะ เราได้ยินแบบนั้นก็จะโทรหาแพทย์ที่เป็นเจ้าของคลีนิคค่ะ แต่โทรสองครั้งแล้วไม่มีคนรับสายค่ะ เราเลยเดินกลับไปในร้านและถามว่านอกจากเบอร์ที่ติดไว้แล้วยังมีวิธีไหนคุยกับผู้ที่รับผิดชอบคลีนิคไหม พนักงานตอบว่าหมอจะเข้ามาตอนบ่ายสามค่ะ เราก็ดูเวลาประมาณบ่ายสองกว่าๆเราก็บอกว่าโอเคค่ะเราจะรอค่ะ เพราะเราอยากคุยกับหมอโดยตรงค่ะ แล้วพนักงานก็ไปเชิญคุณแม่ของคุณหมอซึ่งอยู่ในคลีนิคตอนที่เรื่องเกิดออกมาค่ะ ตอนนั้นผจ.ยังไม่กลับมาค่ะ คุณแม่ของหมอก็อบกว่าเขาก็เห็นเหตุการณ์เมื่อกี้แล้วเขาก็ขอโทษแล้วกันนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เราก็ถามคุณแม่ค่ะว่าคุณแม่คิดว่ามันถูกรึเปล่าค่ะที่ทำแบบนี้แล้วไม่แสดงความรู้สึกผิดที่ทำกับลูกค้าแบบนี้ คุณแม่บอกว่าไม่มีใครถูกใครผิดเรื่องนี้ ให้เรากลับไปได้แล้ว พนักงานก็บอกว่าเราไม่อายหรอที่ให้คนแก่มาขอโทษเรา คือเราไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากคุณแม่ค่ะ เราต้องการคำพูดจากคนที่กระทำแบบนี้กับเราค่ะ เราจึงยืนจน ผจ. กลับมาแล้วเขาบอกว่าก็ให้ทำไปแล้วนี้จะเอาอะไรอีก คือเราก็ยิ่งโมโหค่ะ ว่าทำไมพูดจาแบบนี้ได้ ก็ยืนเถียงกันนานค่ะ เราก็บอกว่าเราจะรอหมอกลับมาค่ะ ฝั่งเขาก็บอกว่าไม่ได้เขาจะทำงานเราจะนั่งอยู่ในร้านไม่ได้ แล้วเขาก็บอกว่าถ้าไม่ไปอีกจะเรียกตำรวจมาแล้วนะ จากที่ยืนอยู่เราก็นั่งลงเลยค่ะ  เราบอกว่าดีค่ะ เรียกมาเลยค่ะ ถ้าอยากให้ตำรวจมาก็เรียกค่ะ เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้ทำไรผิดค่ะ จึงได้นั่งรอจนตำรวจมาค่ะเราก็เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น คุณตำรวจก็บอกกับฝั่งเขาว่าเราเป็นลูกค้าและเสียความรู้สึกที่ถูกกระทำแบบนี้จึงบอกกับ ผจ. ว่าให้เขาขอโทษเราเรื่องก็จะได้จบ แต่ผจ.บอกว่าเขาไม่ได้ว่าเราทำไมต้องขอโทษ และบอกว่าคุณแม่ของหมอพูดขอโทษเราเป็นร้อยรอบแล้ว แต่เราไม่ยอมเองค่ะ ที่เราไม่ยอมไม่ใช่ว่าคำขอโทษจากคุณแม่ไม่พอค่ะ แต่คือคนที่ทำทำไมไม่ละอายบ้างที่ให้คนแก่ขอโทษแทนตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่กลับมาว่าเราว่าทำไมเราไม่ยอมแล้วก็ไปเองดีดี คือเราไม่ได้ตั้งใจจะมาด่าเขาหรือทำอะไรเขาแค่อยากให้เขารู้ว่าวิธีการแบบนี้ทำไม่ได้ระบบแบบนี้ก็ไม่แฟร์ แต่กลับโดนว่าว่าไม่อายและไม่ยอม แล้วยังจะให้ตำรวจมาไล่ พอตำรวจมาก็บอกว่าเราเป็นคนให้เรียก คือผจ.เป็นโทรหาตำรวจเองค่ะ แล้วเป็นคนไปกวักมือเรียตำรวจให้เข้ามาในร้านค่ะ คือทางร้านบอกว่ามีกล้องวงจรปิดแปดจุด เราก็อยากขอในที่นี้นะค่ะ ว่าถ้ากล้าก็เอามาเปิดแบบไม่ตัดต่อเลยค่ะ จะได้รู้กันไปเลยเนอะ

ตำรวจมาก็ไม่มีไรดีขึ้นค่ะ เขาก็ไม่ยอมค่ะ พอพี่ตำรวจไม่เข้าข้างเขา จากตอนแรกที่ยืนข้างพี่ตำรวจกลับไปนั่งที่ตัวเองเลยค่ะ พี่ตำรวจเลยบอกเราว่าพอเถอะก็ให้อภัยเขาไปแล้วกัน เราก็เดินออกมาค่ะ ไม่ใช่เพราะเราให้อภัยนะ แต่เราจะไปเหยียบกลับไปที่นั้นอีก คอร์สที่เหลือก็ถือว่าให้เขาไปค่ะ

เดินออกมาแล้วเราก็โทรหาหมอค่ะ เพราะตอนที่เถียงกันอยู่นั้นหมอโทรกลับมาแล้วไม่ได้คุยค่ะ เราก็เล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นค่ะ ทางหมอก็บอกว่าเขาจะกลับไปถาม ผจ ให้แล้วขอโอกาสเขาอีกครั้งค่ะ แล้วเขาก็ขอเปิดกล้องวงจรเพื่อดูค่ะ เราก็บอกยินดีค่ะ จะได้เห็นว่า ผจ. มีความสามารถในการบริการลูกค้าแค่ไหนค่ะ

รอคำตอบนะค่ะแล้วเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่