กลายเป็นคนจ่ายหนี้ล่าช้าเสียเครดิตเพราะหนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง

ตามนั้นเลยค่ะ เครีดและอยากขอความช่วยเหลือ ขอคำปรึกษาจากทุกท่าน



ตามไปอ่านกระทู้เก่าได้เลยค่ะ เค้าทำงานแย่มากตั้งแต่เริ่ม เเละครั้งนี้ก็สร้างปัญหาให้เราอย่างหนักหนามาก


เมื่อตอนบ่ายสามของวันนี้ 4-6-58 มีเบอร์โทรโทรเข้ามา เป็นเบอร์มือถือนนะคะ เค้าแจ้งว่า เราขาดการส่งชำระงวดให้ธนาคารคือค่าบ้านเป็นจำนวน1งวด  เราก็ตกใจมากเราบอกจ่ายนะ ทางธนาคารหักเอาจากบัญชีเราก็เอาเงินไปใส่ในบัญชีแล้ว จะไม่จ่ายได้ไง เอาไปใส่ไว้รอตลอด  พนักงานคนนั้นก้บอกว่าไม่มีการจ่ายเค้าย้อนหลังดูบัญชีว่า เลขบัญชีนี้ๆ ยอดจ่ายครั้งแรกเป็นแบบนี้ (คือ ยอดจ่ายที่เราต้องจ่ายคือ10.000บาท)
พนักงานบอกว่า ยอดที่หักคือ6000กว่าบาทในวันที่10เมษยน 58 และมีการชำระเข้ามาอีก3000พันกว่า ในวันที่16เมษายน58  (คือเราไม่ได้จ่ายช้านะคะ เดี๋ยวจะมาอธิบายให้ฟังตอนหลัง) และหลังจากนั้นก็ไม่มีการชำระเข้ามาครับ พนักงานบอกเราแบบนี้ เราเลยตอบไปว่า คือเลขบัญชีนี้ที่ให้หักค่างวดชำระเป็นเลขเก่า แต่ได้ทำการแจ้งเลขบัญชีใหม่ให้พนักงานคนที่ดูแลเราเรื่องกู้เรื่องเอกสารนานแล้ว ทำไมเค้าไม่เปลี่ยนให้ พนักงานคนที่โทรมาบอกว่า ถ้าอย่างนั้นขอเลขบัญชีเรา และก็ชื่อของพนักงานคนนั้น เค้าจะทำเรื่องแจ้งเป็น e-mail ไปสำนักงานใหญ่ว่าเกิดจากความผิดพลาดของพนักงาน เราเลยถามต่อว่าแล้วมีผลอะไรกับเครดิตเราหรือเปล่าคะ เค้าตอบว่า มันจะเป็นค่าปรับล่าช้าเป็นดอกเบี้ยของบ้านเราเพิ่มขึ้น
**เหตุผลที่งวดแรกเราชำระไม่เต็ม10.000อ่านตรงนี้นะคะ คือในตอนก่อนเซ็นสัญญา คนที่ทำเรื่องกู้ให้เราเค้าโทรมาถามว่ามีเลขบัญชีไทพานิชมั้ยเห็นเรามี(ทั้งที่เราไม่เคยบอกนะเค้าคงเช็คเอง) เค้าบอกว่าทางธนนาคารจะหักค่างวดจากบัญชีไม่ได้จ่ายสด เลยจะขอเลขบัญชีไทพานิชเราเพื่อที่จะใส่เป็นข้อมูลในการปริ๊นเอกสารมาให้เราในวันรุ่งขึ้นคือวันเซ็นสัญญาเราบอกว่าบัญญชีนี้มันเป็นบัญชีต่างจังหวัดถ้าเราเอาบัญชีนี้เป็นบัญชีที่จ่ายเราต้องเสียค่าบริการเวลาเอาเงินใส่ไว้ให้หักเราเลยไม่สะดวก  นางบอกว่าไม่เป็นไรเอาไปใส่เฉยๆยังไม่หักหรอกแค่จะทำเอกสารให้สมบูรณ์เฉยๆพอหลังเซ็นสัญญาเราไปเปิดบัญชีใหม่มาแล้วมาแจ้งเปลี่ยนเลขบัญชีได้เลย เราเลยตกลงให้ไป พอเซ็นสัญญาเสร็จ เราก็ไปเปิดบัญชีใหม่มาแล้วก็แจ้งนางไปโดยการส่งข้อมูลให้ในแชท ไลน์ ถ่ายหน้าแรกของสมุดบัญชีให้ไปและบอกว่า เปลี่ยนบัญชีที่หักเงินด้วยนะคะ เค้าบอกโอเคๆ พอถึงวันที่10เมษาตามด้านบนนั่นแหละค่ะ กลายเป็นว่ายอดเงินในบัญชีเก่าเราที่แจ้งไปตอนแรก โดนหัก บัญชีที่เปิดใหม่ที่แจ้งให้เปลี่ยนมาหักบัญชีนี้ไม่โดนหัก เราโมโหมากเพราะเราบอกล่วงหน้าเป็นเดือน พอถามไปนางก็บอกขอโทษค่ะ เค้าหักงวดแรกบัญชีนี้ค่ะ การส่งเอกสารเปลี่ยนบัญชีทำเรื่องเป็นเดือน เลยหักบัญชีเก่าก่อน บัญชีใหม่จะหักเดือนหน้าค่ะ(คือเดือนพฤษภา58) เราโกรธมาก ไหนตอนจะเอาเลขตอนแรกบอกว่าแก้ได้ ไม่เห็นบอกว่าทำเรื่องเป็นเดือนๆ แถมในบัญชีที่หักมีเงินไม่ถึง10.000 เราเลยต้องรีบไปโอนเพิ่มให้ธนาคารหักให้ครบหมื่น ยอดที่หักเลยเป็นอย่างที่เห็น เราถามนางว่า มันมีผลต่อเครดิตเราไหม นางบอกว่าไม่เสียค่ะพอมีเงินเข้ามาก้จะหักปรกติไม่มีผลต่อเครดิต*อันนี้ไม่รู้นางโกหกมั้ยใครทราบช่วยบอกทีค่ะ ว่าเสียเครดิตตั้งแต่ครั้งแรกนี้หรือเปล่า เพราะนางหลอกเรา

พอมาถึงวันที่10 พฤาภาคม58 เราก็ คิดว่าเงินหักในบัญชีใหม่แล้ว เลยไม่ได้เอะใจอะไรเพราะบัญชีเปิดเป็นธรรมดา เอาเงินใส่แล้วใส่เลยไม่มีsmsแจ้งเพราะคิดว่าเอาไว้จ่ายค่าบ้านอย่างเดียว เราเอาเงินใส่บัญชีนี้ตั้งแต่26เมษา58 เพื่อรอให้ธนาคารหักเงินไปชำระค่างวดค่ะ และก็พึ่งได้รับโทรศัพท์ว่าขาดส่งวด ก็คือวันนี้ 4-6-58 คือไม่มีการหักเงินในบัยชีนี้ ปหักบัญชีเก่าซึ่งเราไม่ได้เอาเงินใส่ไว้
เสียใจมากค่ะกับการกระทำของบุคลากรของธนาคารนี้ เราต้องเสียเครดิตเสียความรู้สึกหลายครั้งหลานหน เพราะการทำงานไร้คุณภาพ และการทำงานแบบขอไปทีของพนักงานคนนี้   ฝากสำนักงานใหญ่พิจารณาด้วยนะคะ เพราะผิดพลาดทุกครั้งตั้งแต่ที่ทำเรื่องกู้มา ไม่มีอะไรดีเลย ไม่มีเลย ขอย้ำ

และอยากขอความเป็นธรรมด้วย เราไม่ได้ผิด แต่เรามีตราบาปติดตัวเพราะเค้าคนนี้ เราเสียประวัติแพราะความไม่ใส่ใของพนักงาน เสียใจมาก ไม่รู้จะปรึกษาใคร ฝากเรื่องไว้กับ สคบ.แล้วค่ะ และพรุ่งนี้ต้องลางาน(เสียการเสียงานอีกต่างหาก)จะลางานไปธนาคารสาขาที่เรากู้ค่ะ ไปคุยกับผู้จัดการสาขาแจ้งเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมของพนนักงานคนนี้แต่ก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกลัวว่าเค้าจะเข้าข้างกันเอง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยค่ะ นี่ก็จะครบกำหนดชำระอีกงวดนึงแล้ววันที่10เดือนนี้ แล้วเราจะจ่ายกับใครจ่ายยังไง แล้วถ้าเอาเงินไปใส่ในบัญชีที่ธนาคารมีในระบบ ก็เท่ากับว่าเรายอมรับว่าที่ผ่านมาเราจ่ายช้านะสิคะ เครียดๆๆๆๆๆๆๆๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่