ตอนที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/33733736 <<<<Grand France 2015 รีวิวทริปฝรั่งเศส ตอนที่1
http://ppantip.com/topic/33738178 <<<<Grand France 2015 รีวิวทริปฝรั่งเศส ตอนที่2
จากวันก่อนหน้า วันนี้ทุกคนปรับตัวกับเวลาที่นี่ได้แล้ว ต่อจากนี้ไปจนถึงวันกลับ คุณเม่นก็จะปลุกพวกเราด้วยสูตร 6-7-8 เร็วกว่าเดิม ก็เท่ากับว่าบ้านเราประมาณ 11 โมง
และวันนี้ก็เช่นกันทุกคนตื่นมาพร้อมกัน ทานอาหารเช้าแบบ American Breakfast และออกจากรร.ในเวลา 8.00น. ตามเวลาท้องถิ่น จุดแรกที่เราจะไปคือ Pont du gard ซึ่งเป็นสะพานที่ใช้สำหรับส่งน้ำในยุคโรมัน ซึ่งคนในยุคนั้นค่อนข้างที่จะรักความสะอาด และยังต้องส่งน้ำไปให้เมืองต่างๆ จึงได้คิดวิธีนี้ขึ้น ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของชาวโรมัน
แต่สมัยนั้นชาวโรมันมักจะอายุไม่ยืนทั้งๆที่รักษาความสะอาด แต่เพราะวิทยาการในยุคนั้น ยังไม่มีใครรู้ว่าวัสดุที่ใช้ทำสะพานนั้น ประกอบไปด้วยสัมฤทธิ์ แร่ดีบุก ซึ่งเป็นสารอันตรายกับร่างกายหากสะสมในปริมาณที่มาก
Let's go to Pont du gard (ป๊องค์ ดู การ์ด)
สะพานประกอบด้วยฐานโค้งจำนวนสามชั้น สูง 48.80 เมตร โดยระหว่างความยาวทั้งหมด ความสูงของที่ส่งน้ำต่างระดับกันประมาณเพียง 17 เมตรเท่านั้น ในขณะที่ตัวสะพานมีความสูงทั้งสองฝั่งนั้นต่างกันเพียง 2.5 เซนติเมตร ซึ่งสมัยนั้นการสร้างขอบโค้งนั้นเป็นอะไรที่ยากมาก แต่ชาวโรมันใช้วิธีสร้างโดยใช้เทคนิค นำแผ่นไม้มารองโค้ง และใช้น้ำราด เมื่อน้ำแห้งแล้วจึงค่อยๆลอกแผ่นไม้ออก อิฐจึงแข็งตัว
น้ำเหลือแค่นี้
เมื่อเสร็จจาก Pont du gard เราก็เดินทางไปต่อที่เมือง Carcassone ซึ่งกว่าจะถึงก้อเที่ยงพอดี
เมือง คาร์คาสซอน ซึ่งเมืองนี้สร้างประมาณคริสต์ศตวรรษ ที่5 ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เมืองนี้แต่เดิมเคยใช้เป็นป้อม ทำสงครามคูเสด และเคยโดนรัฐบาลจะสั่งทำลาย แต่ชาวเมืองไม่ยินยอม จึงมีการบูรณะบางส่วนขึ้นมาใหม่
เข้าไปชมเมืองกัน....
ทางเข้า
เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองป้อม จึงมีป้อมปราการถึง54แห่ง อยู่รอบเมือง
ถ่ายรูปเล่นนีสสสนึง
ตรงนี้คือส่วนใจกลางเมือง และอยู่หน้าร้านอาหารที่เราจะทาน
วันนี้มีเมนูพิเศษ เป็นมัสมั่นเป็ด
Starter เริ่มด้วยสลัดผัก
วันนี้คุณเม่นเริ่มเอาอุปกรณ์เสริมออกมาแล้ว คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด (เนื่องจากชาวฝรั่งเศสนิยมใส่แค่น้ำมันมะกอก ซึ่งมันจืดไป ก็เลยจัดซะหน่อย)
Main
อยู่ที่นี่ปลาแซลมอนเกือบทุกวัน บอกเลย
Dessert
ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพที่ระลึก พี่น้อง แหะๆ
เมื่อทานอาหารเที่ยงที่เมือง Carcassone เสร็จ เราก็เดินทางต่อ เพื่อไปที่ Toulouse (ตูลูส) ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชม.
เมือง Toulouse เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน Airbus ซึ่งประชากรเมืองนี้ส่วนมากจะเป็นพนักงานหรือทำงานกับบริษัท Airbus
Airbus A380 ปัจจุบันเป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาแทน โบอิ้ง 747 ในอดีต ด้วยความจุ 800 กว่าที่นั่ง ในแบบ Economy
ปัจจุบันเครื่องบิน Airbus ผลิตจาก4ประเทศ อังกฤษ สเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส
ซึ่งทุกส่วนจะถูกนำมาประกอบที่ฝรั่งเศส ราคาขายประมาณลำละ 12,000ล้านบาท(A380)
แต่ตอนที่เราไป เนื่องจากว่ามีการสั่งผลิตเครื่องAirbus A380จำนวน2ลำ โดยสายการบิน...Star ของเอเชีย (ขออนุญาติไม่ระบุสายการบิน) และสายการบินนั้นได้าั่งพิเศษจำนวน2ลำ คือเป็นที่นั่ง First class ทั้งลำ และในภายหลังเมื่อทางโรงงานผประกอบเครื่องเสร็จเหลือแค่ทำสี ปรากฎว่าสายการบินนั้นประสบปัญหาทางการเงิน จึงยกเลิกคำสั่งซื้อ
และตอนนี้ทางโรงงานก็ไม่รู้จะขายเครื่อง2ลำนี้ให้ใคร เพราะไม่มีสายการบินไหนกล้าเสี่ยง แต่หากท่านผู้อ่านที่ได้อ่านกระทู้นี้ ทางโรงงานฝากแจ้งมาว่า ตอนนี้ทางโรงงาน Airbus มีโปรโมชั่น คือ ซื้อแค่ลำเดียว จะแถมอีกลำให้ด้วย (อันนี้เรื่องจริง)
แต่น่าเสียดายภายในโรงงานห้ามถ่ายภาพ
อันนี้เครื่องรุ่นเก่าที่เลิกใช้ไปแล้ว
สายการบินที่มียอดสั่งซื้อมากที่สุดคือ อิมิเรต แอร์ไลน์ สั่ง 161 ลำ การบินไทย 6 ลำ ๖กำลังจะสั่งเพิ่มอีก 2) สายการบินแรกที่ได้รับมอบ คือ สิงคโปร์ แอร์ไลน์
เมื่อชมโรงงานเสร็จ เราก็ไปเข้าที่พัก วันนี้เราพักโรงแรม Crown Plaza
Check-in ก่อน
ที่ยืนเช็คอินให้พวกเราคือ คุณเม่น เป็นหัวหน้าทัวร์ที่เตรียมตัวมาดีมาก แถมยังพูดฝรั่งเศสได้คล่องมาก ทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้นมาก
วิวรอบที่พัก
มื้อนี้เป็นอาหารญี่ปุ่น
Starter
Main
Dessert
(อันนี้ออกไปทานเอง เครปใส้ช็อคโกแลตกับกล้วย 10ยูโร)
แล้ววันนี้ก็กลับที่พัก
จบวันที่สามของการเดินทาง Avignon-Pont du gard-Carcassone-Toulouse
[CR] [CR] Grand France 2015 รีวิวทริปฝรั่งเศส ตอนที่3
http://ppantip.com/topic/33733736 <<<<Grand France 2015 รีวิวทริปฝรั่งเศส ตอนที่1
http://ppantip.com/topic/33738178 <<<<Grand France 2015 รีวิวทริปฝรั่งเศส ตอนที่2
จากวันก่อนหน้า วันนี้ทุกคนปรับตัวกับเวลาที่นี่ได้แล้ว ต่อจากนี้ไปจนถึงวันกลับ คุณเม่นก็จะปลุกพวกเราด้วยสูตร 6-7-8 เร็วกว่าเดิม ก็เท่ากับว่าบ้านเราประมาณ 11 โมง
และวันนี้ก็เช่นกันทุกคนตื่นมาพร้อมกัน ทานอาหารเช้าแบบ American Breakfast และออกจากรร.ในเวลา 8.00น. ตามเวลาท้องถิ่น จุดแรกที่เราจะไปคือ Pont du gard ซึ่งเป็นสะพานที่ใช้สำหรับส่งน้ำในยุคโรมัน ซึ่งคนในยุคนั้นค่อนข้างที่จะรักความสะอาด และยังต้องส่งน้ำไปให้เมืองต่างๆ จึงได้คิดวิธีนี้ขึ้น ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของชาวโรมัน
แต่สมัยนั้นชาวโรมันมักจะอายุไม่ยืนทั้งๆที่รักษาความสะอาด แต่เพราะวิทยาการในยุคนั้น ยังไม่มีใครรู้ว่าวัสดุที่ใช้ทำสะพานนั้น ประกอบไปด้วยสัมฤทธิ์ แร่ดีบุก ซึ่งเป็นสารอันตรายกับร่างกายหากสะสมในปริมาณที่มาก
Let's go to Pont du gard (ป๊องค์ ดู การ์ด)
สะพานประกอบด้วยฐานโค้งจำนวนสามชั้น สูง 48.80 เมตร โดยระหว่างความยาวทั้งหมด ความสูงของที่ส่งน้ำต่างระดับกันประมาณเพียง 17 เมตรเท่านั้น ในขณะที่ตัวสะพานมีความสูงทั้งสองฝั่งนั้นต่างกันเพียง 2.5 เซนติเมตร ซึ่งสมัยนั้นการสร้างขอบโค้งนั้นเป็นอะไรที่ยากมาก แต่ชาวโรมันใช้วิธีสร้างโดยใช้เทคนิค นำแผ่นไม้มารองโค้ง และใช้น้ำราด เมื่อน้ำแห้งแล้วจึงค่อยๆลอกแผ่นไม้ออก อิฐจึงแข็งตัว
น้ำเหลือแค่นี้
เมื่อเสร็จจาก Pont du gard เราก็เดินทางไปต่อที่เมือง Carcassone ซึ่งกว่าจะถึงก้อเที่ยงพอดี
เมือง คาร์คาสซอน ซึ่งเมืองนี้สร้างประมาณคริสต์ศตวรรษ ที่5 ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เมืองนี้แต่เดิมเคยใช้เป็นป้อม ทำสงครามคูเสด และเคยโดนรัฐบาลจะสั่งทำลาย แต่ชาวเมืองไม่ยินยอม จึงมีการบูรณะบางส่วนขึ้นมาใหม่
เข้าไปชมเมืองกัน....
ทางเข้า
เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองป้อม จึงมีป้อมปราการถึง54แห่ง อยู่รอบเมือง
ถ่ายรูปเล่นนีสสสนึง
ตรงนี้คือส่วนใจกลางเมือง และอยู่หน้าร้านอาหารที่เราจะทาน
วันนี้มีเมนูพิเศษ เป็นมัสมั่นเป็ด
Starter เริ่มด้วยสลัดผัก
วันนี้คุณเม่นเริ่มเอาอุปกรณ์เสริมออกมาแล้ว คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด (เนื่องจากชาวฝรั่งเศสนิยมใส่แค่น้ำมันมะกอก ซึ่งมันจืดไป ก็เลยจัดซะหน่อย)
Main
อยู่ที่นี่ปลาแซลมอนเกือบทุกวัน บอกเลย
Dessert
ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพที่ระลึก พี่น้อง แหะๆ
เมื่อทานอาหารเที่ยงที่เมือง Carcassone เสร็จ เราก็เดินทางต่อ เพื่อไปที่ Toulouse (ตูลูส) ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชม.
เมือง Toulouse เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน Airbus ซึ่งประชากรเมืองนี้ส่วนมากจะเป็นพนักงานหรือทำงานกับบริษัท Airbus
Airbus A380 ปัจจุบันเป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาแทน โบอิ้ง 747 ในอดีต ด้วยความจุ 800 กว่าที่นั่ง ในแบบ Economy
ปัจจุบันเครื่องบิน Airbus ผลิตจาก4ประเทศ อังกฤษ สเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส
ซึ่งทุกส่วนจะถูกนำมาประกอบที่ฝรั่งเศส ราคาขายประมาณลำละ 12,000ล้านบาท(A380)
แต่ตอนที่เราไป เนื่องจากว่ามีการสั่งผลิตเครื่องAirbus A380จำนวน2ลำ โดยสายการบิน...Star ของเอเชีย (ขออนุญาติไม่ระบุสายการบิน) และสายการบินนั้นได้าั่งพิเศษจำนวน2ลำ คือเป็นที่นั่ง First class ทั้งลำ และในภายหลังเมื่อทางโรงงานผประกอบเครื่องเสร็จเหลือแค่ทำสี ปรากฎว่าสายการบินนั้นประสบปัญหาทางการเงิน จึงยกเลิกคำสั่งซื้อ
และตอนนี้ทางโรงงานก็ไม่รู้จะขายเครื่อง2ลำนี้ให้ใคร เพราะไม่มีสายการบินไหนกล้าเสี่ยง แต่หากท่านผู้อ่านที่ได้อ่านกระทู้นี้ ทางโรงงานฝากแจ้งมาว่า ตอนนี้ทางโรงงาน Airbus มีโปรโมชั่น คือ ซื้อแค่ลำเดียว จะแถมอีกลำให้ด้วย (อันนี้เรื่องจริง)
แต่น่าเสียดายภายในโรงงานห้ามถ่ายภาพ
อันนี้เครื่องรุ่นเก่าที่เลิกใช้ไปแล้ว
สายการบินที่มียอดสั่งซื้อมากที่สุดคือ อิมิเรต แอร์ไลน์ สั่ง 161 ลำ การบินไทย 6 ลำ ๖กำลังจะสั่งเพิ่มอีก 2) สายการบินแรกที่ได้รับมอบ คือ สิงคโปร์ แอร์ไลน์
เมื่อชมโรงงานเสร็จ เราก็ไปเข้าที่พัก วันนี้เราพักโรงแรม Crown Plaza
Check-in ก่อน
ที่ยืนเช็คอินให้พวกเราคือ คุณเม่น เป็นหัวหน้าทัวร์ที่เตรียมตัวมาดีมาก แถมยังพูดฝรั่งเศสได้คล่องมาก ทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้นมาก
วิวรอบที่พัก
มื้อนี้เป็นอาหารญี่ปุ่น
Starter
Main
Dessert
(อันนี้ออกไปทานเอง เครปใส้ช็อคโกแลตกับกล้วย 10ยูโร)
แล้ววันนี้ก็กลับที่พัก
จบวันที่สามของการเดินทาง Avignon-Pont du gard-Carcassone-Toulouse
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น