สวัสดีค่ะทุกๆ คน
พอดีเรามีโอกาสได้ทำเรื่องยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษด้วยตัวเองเมื่อเดือนมิถุนายน 2015 เลยอยากแชร์ประสบการณ์ที่สามารถช่วยให้ทุกคนประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะ โดยจัดการทุกอย่างเอง ไม่ต้องเสียเงินในเอเย่น (555) แต่ถ้าใครอยากสบายใช้บริการเอเย่นในการดำเนินการให้ น่าจะมีค่าบริการประมาณ 3,000-5,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมค่าวีซ่านะค่ะ)
เริ่มขั้นตอนแรกเลย ก่อนที่เราจะถึงขั้นตอนการสมัครยื่นวีซ่าออนไลน์ เราต้องมีการวางแผนในการท่องเที่ยวก่อน
ขเช่น เดินทางไปและกลับวันไหน กิจกรรมในแต่ละวันทำอะไรบ้าง พักที่ไหน เดินทางโดยสายการบินอะไร และเดินทางไปที่ไหนบางเป็นต้น และเราต้องจัดทำขึ้นเพื่อเป็นเอกสารที่ใช้ประกอบในการยื่นวีซ่าด้วยเช่นกัน ตัวอย่างด้านล่าง
แผนการท่องเที่ยวของเราจะมีการเพิ่มรายละเอียดในการเดินทางเข้าไปด้วย เพื่อไปแล้วหลง ไปไม่ถูกจะได้มีข้อมูล ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ได้อาศัย อากู๋ ในการช่วยบอก
ขั้นตอนที่ 2 หลังจากวางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนในการทำ Booking ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือรถเช่า ถ้าบางคนอาจจะขับรถออกไปกินลมชมวิวเมืองอื่นๆ
สำหรับ Booking โรงแรมและรถ แนะนำให้เป็นแบบ Free cancellation and pay later นะค่ะ เพื่อเอาไว้อิอิ
พอได้ตัว Confirmation มาก็ปริ้นเก็บไว้ใช้เป็นหลักฐานในการยื่นวีซ่าค่ะ
สำหรับตั๋วเครื่องบิน ใครได้โปรแรงส์ จัดไปเลย แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผลวีซ่าออกแล้วค่อยจ่ายเงิน (555) กันเหนียวไว้ วีซ่าขอได้ล่วงหน้า 3 เดือน เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นก็ดี
ขั้นตอนที่ 3 รวบรวมเอกสารไว้ใช้ยื่นขอวีซ่า
1. Visa Application กรอกออนไลน์ที่
https://www.visa4uk.fco.gov.uk/
ต้องRegister ก่อน เราทำตามขั้นตอนทุกอย่างจากลิ้งค์นี้
http://ppantip.com/topic/31758151
ซึ่งเค้าเขียนไว้ได้ละเอียดและดีมากๆ ค่ะ
2. สำเนาpassport และตัวจริง
3. สำเนาทะเบียนบ้าน (เราไม่ได้แปล)
4. สำเนาบัตรประชาชน (เราไม่ได้แปล)
5. หนังสือรับรองการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษ) ให้ที่ทำงานออกให้ ซึ่งในนั้นจะระบุวันที่เริ่มทำงาน ตำแหน่ง เงินเดือน ลาวันไหนถึงวันไหน (ไม่ควรขอก่อนวันนัดยื่นวีซ่านานเกินไป ปกติไม่ควรเกิน 30 วัน) เช่น นัดยื่นวีซ่าวันที่ 2/6/15 ควรจะขอหลังวันที่ 2/5/15 นะค่ะ
6. Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (อันนี้ระยะเวลาในการขอเหมือนกันหนังสือการรับรองการทำงานค่ะ)
*** คนที่ยืมเงินคนอื่นมาใส่ ไม่ควรนำเงินใส่เป็นก้อนใหญ่ๆ เลยทีเดียวนะค่ะ และควรจะถอนเงินคืนเจ้าของหลังวีซ่าผ่านนะค่ะ (มีเอเย่นเคยบอกว่าสถานทูตตรวจสอบได้) ไม่รู้จริงป่าว
7. รูปถ่าย 2 นิ้ว ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน 1 รูป (ตอนไปยื่นวีซ่าเจ้าหน้าที่จะถามว่าถ่ายมานานเท่าไหร่แล้ว) พื้นหลังสีขาว
8. Booking ต่างๆ เช่น โรงแรม รถเช่า ตั๋วเครื่องบิน
9. แผนการท่องเที่ยว (ภาษาอังกฤษ)
10. เขียนจดหมายแนะนำตัว ซึ่งในนั้นอาจจะระบุจุดประสงค์ในการเดินทาง เดินทางไปกับใครบ้าง มีแพลนไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ซึ่งในตอนท้ายอาจจะระบุว่า ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมให้ติดต่อเรา (ให้อีเมลล์และก็เบอร์โทรไป) ภาษาอังกฤษ
11. จดหมายการยืนยันการนัดหมายยื่นวีซ่า จะได้เมื่อทำการจองวันยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ตรง View Appointment ช่องสีเขียวๆ อย่าลืมปริ้นตัว Application ช่องสีดำด้วยนะจ๊ะ
*** ค่าธรรมเนียมวีซ่าจ่ายออนไลน์เลย ประมาณ USD 133 จ่ายก่อนถึงทำนัดได้
*** ปริ้นเอกสารไปให้เรียบร้อยนะ เพราะถ้าไปปริ้นที่ VFS แผ่นละ 25 บาท ถ่ายเอกสารแผ่นละ 3 บาท
*** ถ่ายรูปวีซ่า 250 บาท 6 รูป
สำหรับคนที่มี Sponsor ให้เตรียมเอกสารเพิ่มเติมต่อไปนี้
1. สำเนาบัตรประชาชน และ ทะเบียนบ้าน
2. จดหมายรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) หรือทะเบียนการค้า
3. Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
4. จดหมายรับรองการเป็นสปอรเซอร์ (Sponsor letter) ภาษาอังกฤษ
ขั้นตอนที่ 4 ยื่นวีซ่า
สถานที่ยื่นวีซ่าคือ The trendy ซอยสุขุมวิท 13 ถ้ามารถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา ทางออกที่ 3 เดินมาอีกนิดหน่อย ไม่ไกล มาสะดวกมากค่ะ
*** พอเดินเข้าไปในอาคารจะมีพนักงานอยู่ตรงกับประตูทางเข้าเลย เค้าจะให้ขึ้นไปก่อนเวลานัดแค่ 10 นาทีนะค่ะ วันที่ไปยื่นคนเยอะมากๆ ไม่มีที่นั่งรอเลย ร้านกาแฟทุกร้านเต็ม เพราะว่าสถานที่ยื่นวีซ่าออสเตรเลียและอังกฤษใช้ร่วมกันค่ะ
พอได้เวลาแล้วก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านล่าง และขึ้นลิฟต์ไปชั้น 28 ได้เลยค่ะ
** ต้องปิดมือถือนะค่ะ เพราะได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่าจะไปรบกวนระบบ ทำให้ช้า อันนี้ไม่รู้จริงป่าว
*** พอเข้าไปแล้วก็ต้องไปนั่งรอคิว ซึ่งเรารอเรียกคิวอยู่ประมาณ 1.30 ชั่วโมง OMG! พอหลังจากยื่นเอกสารให้พนักงานตรวจเสร็จแล้ว ต้องรอเรียกคิวสแกนลายนิ้วมืออีกรอบ ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินเรื่องทั้งหมดประมาณ 2.30 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นวีซ่านักเรียน tier 4 ต้องรอเรียกคิวสัมภาษณ์อีกรอบ
ข้อควรรู้
1. ใบสมัครถ้าเรากด Submit ไปในระบบแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้ (ถ้ามีข้อมุลผิด ให้ปริ้นออกมาแล้วแก้ไข จากนั้นเซ็นต์ชื่อกำกับค่ะ
2. เราสามารถใช้บริการ Fast track ได้ ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่มเติม GBP 120 (6,xxx บาท) รู้ผลวีซ่าประมาณ 3-5 วันทำการ ปกติ 15 วันทำการ ถ้าจะใช้บริการตรงนี้สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนยื่นเอกสารได้เลยค่ะ รับชำระเป็นเงินสดเท่านั้น
3. SMS แจ้งสถานะวีซ่า ค่าบริการ 80 บาท แต่เราไม่ได้ใช้ เพราะยังไงเค้าจะแจ้งทางอีเมลล์มาอยู่แล้ว
4. สามารถมารับผลวีซ่าได้เอง (ไม่มีค่าใช้จ่าย) หรือไม่ก็ให้จัดส่งทางไปรษณีย์ ค่าบริการเพิ่ม 250 บาท ถ้ามารับเอกสารคืนเอง หลังจากได้รับการแจ้งแล้วให้มารับคืนได้หลังจากนั้น 2 วันทำการค่ะ
5. ใครที่มอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทนต้องเตรียมเอกสาร
5.1 ใบมอบอำนาจ
5.2 เอกสารที่ได้รับคืนจากวันที่ยื่นวีซ่า มันจะเป็นหน้าพาสปอร์ต + ใบเสร็จ
5.3 สำเนาบัตรประชาชน คนที่เราจะไปรับคืนแทน
6. วีซ่าทุกประเภทของอังกฤษต้องยื่นด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะต้องมีการสแกนลายนิ้วมือด้วยค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ในการอ่านนะค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์ตรงยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ โดยไม่ต้องพึ่งเอเย่น 2015
พอดีเรามีโอกาสได้ทำเรื่องยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษด้วยตัวเองเมื่อเดือนมิถุนายน 2015 เลยอยากแชร์ประสบการณ์ที่สามารถช่วยให้ทุกคนประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะ โดยจัดการทุกอย่างเอง ไม่ต้องเสียเงินในเอเย่น (555) แต่ถ้าใครอยากสบายใช้บริการเอเย่นในการดำเนินการให้ น่าจะมีค่าบริการประมาณ 3,000-5,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมค่าวีซ่านะค่ะ)
เริ่มขั้นตอนแรกเลย ก่อนที่เราจะถึงขั้นตอนการสมัครยื่นวีซ่าออนไลน์ เราต้องมีการวางแผนในการท่องเที่ยวก่อน
ขเช่น เดินทางไปและกลับวันไหน กิจกรรมในแต่ละวันทำอะไรบ้าง พักที่ไหน เดินทางโดยสายการบินอะไร และเดินทางไปที่ไหนบางเป็นต้น และเราต้องจัดทำขึ้นเพื่อเป็นเอกสารที่ใช้ประกอบในการยื่นวีซ่าด้วยเช่นกัน ตัวอย่างด้านล่าง
แผนการท่องเที่ยวของเราจะมีการเพิ่มรายละเอียดในการเดินทางเข้าไปด้วย เพื่อไปแล้วหลง ไปไม่ถูกจะได้มีข้อมูล ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ได้อาศัย อากู๋ ในการช่วยบอก
ขั้นตอนที่ 2 หลังจากวางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนในการทำ Booking ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือรถเช่า ถ้าบางคนอาจจะขับรถออกไปกินลมชมวิวเมืองอื่นๆ
สำหรับ Booking โรงแรมและรถ แนะนำให้เป็นแบบ Free cancellation and pay later นะค่ะ เพื่อเอาไว้อิอิ
พอได้ตัว Confirmation มาก็ปริ้นเก็บไว้ใช้เป็นหลักฐานในการยื่นวีซ่าค่ะ
สำหรับตั๋วเครื่องบิน ใครได้โปรแรงส์ จัดไปเลย แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผลวีซ่าออกแล้วค่อยจ่ายเงิน (555) กันเหนียวไว้ วีซ่าขอได้ล่วงหน้า 3 เดือน เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นก็ดี
ขั้นตอนที่ 3 รวบรวมเอกสารไว้ใช้ยื่นขอวีซ่า
1. Visa Application กรอกออนไลน์ที่ https://www.visa4uk.fco.gov.uk/
ต้องRegister ก่อน เราทำตามขั้นตอนทุกอย่างจากลิ้งค์นี้ http://ppantip.com/topic/31758151
ซึ่งเค้าเขียนไว้ได้ละเอียดและดีมากๆ ค่ะ
2. สำเนาpassport และตัวจริง
3. สำเนาทะเบียนบ้าน (เราไม่ได้แปล)
4. สำเนาบัตรประชาชน (เราไม่ได้แปล)
5. หนังสือรับรองการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษ) ให้ที่ทำงานออกให้ ซึ่งในนั้นจะระบุวันที่เริ่มทำงาน ตำแหน่ง เงินเดือน ลาวันไหนถึงวันไหน (ไม่ควรขอก่อนวันนัดยื่นวีซ่านานเกินไป ปกติไม่ควรเกิน 30 วัน) เช่น นัดยื่นวีซ่าวันที่ 2/6/15 ควรจะขอหลังวันที่ 2/5/15 นะค่ะ
6. Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (อันนี้ระยะเวลาในการขอเหมือนกันหนังสือการรับรองการทำงานค่ะ)
*** คนที่ยืมเงินคนอื่นมาใส่ ไม่ควรนำเงินใส่เป็นก้อนใหญ่ๆ เลยทีเดียวนะค่ะ และควรจะถอนเงินคืนเจ้าของหลังวีซ่าผ่านนะค่ะ (มีเอเย่นเคยบอกว่าสถานทูตตรวจสอบได้) ไม่รู้จริงป่าว
7. รูปถ่าย 2 นิ้ว ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน 1 รูป (ตอนไปยื่นวีซ่าเจ้าหน้าที่จะถามว่าถ่ายมานานเท่าไหร่แล้ว) พื้นหลังสีขาว
8. Booking ต่างๆ เช่น โรงแรม รถเช่า ตั๋วเครื่องบิน
9. แผนการท่องเที่ยว (ภาษาอังกฤษ)
10. เขียนจดหมายแนะนำตัว ซึ่งในนั้นอาจจะระบุจุดประสงค์ในการเดินทาง เดินทางไปกับใครบ้าง มีแพลนไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ซึ่งในตอนท้ายอาจจะระบุว่า ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมให้ติดต่อเรา (ให้อีเมลล์และก็เบอร์โทรไป) ภาษาอังกฤษ
11. จดหมายการยืนยันการนัดหมายยื่นวีซ่า จะได้เมื่อทำการจองวันยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ตรง View Appointment ช่องสีเขียวๆ อย่าลืมปริ้นตัว Application ช่องสีดำด้วยนะจ๊ะ
*** ค่าธรรมเนียมวีซ่าจ่ายออนไลน์เลย ประมาณ USD 133 จ่ายก่อนถึงทำนัดได้
*** ปริ้นเอกสารไปให้เรียบร้อยนะ เพราะถ้าไปปริ้นที่ VFS แผ่นละ 25 บาท ถ่ายเอกสารแผ่นละ 3 บาท
*** ถ่ายรูปวีซ่า 250 บาท 6 รูป
สำหรับคนที่มี Sponsor ให้เตรียมเอกสารเพิ่มเติมต่อไปนี้
1. สำเนาบัตรประชาชน และ ทะเบียนบ้าน
2. จดหมายรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) หรือทะเบียนการค้า
3. Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
4. จดหมายรับรองการเป็นสปอรเซอร์ (Sponsor letter) ภาษาอังกฤษ
ขั้นตอนที่ 4 ยื่นวีซ่า
สถานที่ยื่นวีซ่าคือ The trendy ซอยสุขุมวิท 13 ถ้ามารถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา ทางออกที่ 3 เดินมาอีกนิดหน่อย ไม่ไกล มาสะดวกมากค่ะ
*** พอเดินเข้าไปในอาคารจะมีพนักงานอยู่ตรงกับประตูทางเข้าเลย เค้าจะให้ขึ้นไปก่อนเวลานัดแค่ 10 นาทีนะค่ะ วันที่ไปยื่นคนเยอะมากๆ ไม่มีที่นั่งรอเลย ร้านกาแฟทุกร้านเต็ม เพราะว่าสถานที่ยื่นวีซ่าออสเตรเลียและอังกฤษใช้ร่วมกันค่ะ
พอได้เวลาแล้วก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านล่าง และขึ้นลิฟต์ไปชั้น 28 ได้เลยค่ะ
** ต้องปิดมือถือนะค่ะ เพราะได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่าจะไปรบกวนระบบ ทำให้ช้า อันนี้ไม่รู้จริงป่าว
*** พอเข้าไปแล้วก็ต้องไปนั่งรอคิว ซึ่งเรารอเรียกคิวอยู่ประมาณ 1.30 ชั่วโมง OMG! พอหลังจากยื่นเอกสารให้พนักงานตรวจเสร็จแล้ว ต้องรอเรียกคิวสแกนลายนิ้วมืออีกรอบ ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินเรื่องทั้งหมดประมาณ 2.30 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นวีซ่านักเรียน tier 4 ต้องรอเรียกคิวสัมภาษณ์อีกรอบ
ข้อควรรู้
1. ใบสมัครถ้าเรากด Submit ไปในระบบแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้ (ถ้ามีข้อมุลผิด ให้ปริ้นออกมาแล้วแก้ไข จากนั้นเซ็นต์ชื่อกำกับค่ะ
2. เราสามารถใช้บริการ Fast track ได้ ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่มเติม GBP 120 (6,xxx บาท) รู้ผลวีซ่าประมาณ 3-5 วันทำการ ปกติ 15 วันทำการ ถ้าจะใช้บริการตรงนี้สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนยื่นเอกสารได้เลยค่ะ รับชำระเป็นเงินสดเท่านั้น
3. SMS แจ้งสถานะวีซ่า ค่าบริการ 80 บาท แต่เราไม่ได้ใช้ เพราะยังไงเค้าจะแจ้งทางอีเมลล์มาอยู่แล้ว
4. สามารถมารับผลวีซ่าได้เอง (ไม่มีค่าใช้จ่าย) หรือไม่ก็ให้จัดส่งทางไปรษณีย์ ค่าบริการเพิ่ม 250 บาท ถ้ามารับเอกสารคืนเอง หลังจากได้รับการแจ้งแล้วให้มารับคืนได้หลังจากนั้น 2 วันทำการค่ะ
5. ใครที่มอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทนต้องเตรียมเอกสาร
5.1 ใบมอบอำนาจ
5.2 เอกสารที่ได้รับคืนจากวันที่ยื่นวีซ่า มันจะเป็นหน้าพาสปอร์ต + ใบเสร็จ
5.3 สำเนาบัตรประชาชน คนที่เราจะไปรับคืนแทน
6. วีซ่าทุกประเภทของอังกฤษต้องยื่นด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะต้องมีการสแกนลายนิ้วมือด้วยค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ในการอ่านนะค่ะ