เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2015 สถานทูตเนเธอร์แลนด์เปลี่ยนแปลงการยื่นคำขอวีซ่าใหม่จากเดิมเราสามารถขอได้ที่สถานทูตเลย ก็เปลี่ยนเป็นการมายื่นคำขอที่ VFS center ชั้น 28 ตึก Trendy ซอยสุขุมวิท 13 (ที่เดียวกับสถานที่ยื่นวีซ่าอังกฤษ ออสเตรเลีย และแคนาดา) จึงทำให้เราค่อนข้างงงกับระบบใหม่ เพราะระบบเก่าที่เคยไปอ่านรีวิวมาคือจะต้องมีการสัมภาษณ์และมีการชำระเงินผ่านธนาคารล่วงหน้าในขณะที่ระบบใหม่ ไม่มีการสัมภาษณ์และมีการเก็บค่าธรรเนียมที่เคาน์เตอร์เลย (ค่าธรรมเนียม 3656 บาทค่ะ) ระยะเวลาการพิจารณาวีซ่าแบบเก่าเห็นว่าได้เร็วมาก แค่ 3 วันก็รู้ผลแล้ว แต่แบบใหม่เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าจะต้องส่งเรื่องไปพิจารณาที่สถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศมาเลย์เซีย ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเวลา 15 วันทำการเต็ม (ก็รอลุ้นกันต่อไป)
เราพึ่งไปยื่นเอกสารมาวันนี้ค่ะ สดๆร้อนๆ เจ้าหน้าที่ๆ VFS น่ารักมาก มีการจัดเอกสารให้เรา และบอกว่าเอกสารขาดอะไรบ้างให้ส่ง E-mail แนบไปให้เขาภายในระยะเวลา 5 วัน

วันนี้เราจะมีรีวิวแผนการท่องเที่ยวและเอกสารการขอวีซ่าคร่าวๆ นะคะ (ผิดถูกอะไร ขออภัย และปรับปรุงกันได้นะคะ)

แผนการเดินทางของเรามี 10 วันค่ะ ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนา ถึงต้นเดือนกรกฎา เพื่อที่จะไปดูคอนเสิร์ท Luminosity Beach Festival  กับไปเที่ยวที่อัมสเตอดัม แผนของเรามีแค่นี้หล่ะค่ะ ไม่ได้มีอะไรมาก ตอนแรกว่าจะไปเที่ยวเชคแต่ว่ามาคำนวนเงินในกระเป๋าแล้วมันไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่

เรื่องเอกสารที่ยื่น เราใช้เวลาเตรียมประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนยื่นค่ะ ตอนแรกเรายื่นเอกสารไป 90 แผ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปถ่ายของเรากับแฟนตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เจ้าหน้าที่บอกให้ดึกรูปออก เหลือ 15 แผ่นพอ เราเลยเลือกรูปเด็ดๆ ไว้ (เจ้าหน้าที่บอกว่ารูปที่ยื่นไปจะไม่ได้คืน ไม่เหมือนตอนขอวีซ่าอังกฤษ)

เอกสารที่ยื่นวีซ่าประกอบด้วย

1. Visa Application Form สามารถดาวน์โหลดแล้วพิมพ์ข้อมูลลงไปใน PDF file ได้  ( http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/pdf/Schengen_Visa_Application.pdf ) พิมพ์ในคอนแล้วปริ้นออกมาเซนต์ชื่อที่ หน้า 2 กับ หน้า 3 เลยค่ะ อ้อ แล้วก็มีรูปถ่ายหน้าตรง พื้นหลังสีขาวขนาด 2 นิ้ว 1 ใบด้วย (ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน) ไม่ต้องแปะนะคะ เด๋วพี่พนักงานเขาจะเอาไว้แปะที่วีซ่าตอนได้เล่มคืน

2. สำเนาหน้าพาสปอร์ท เซ็นสำเนาถูกต้อง (Certified true copy of passport) พร้อมเซนต์ชื่อกำกับ

3. สำเนาบัตรประชาชน เซ็นสำเนาถูกต้อง (Certified true copy of Thai National ID card) พร้อมเซนต์ชื่อกำกับ

4. จดหมายแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ (เราเขียนอธิบายไปว่า เราเป็นใคร ทำงานอะไร ที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ได้เงินเดือนเท่าไหร่ บ้านอยู่ที่ไหน ไปทำอะไรที่เนเธอแลนด์  เหตุผล ไปเมื่อไหร่ กี่วัน กับวันไหน ไปกับใคร เกี่ยวข้องอะไรกับเรา และสุดท้ายคือการรับรองตัวเองว่าจะกลับมาทำงานที่เมืองไทย ในระยะเวลาที่กำหนด)

5. จดหมายรับรองการทำงาน พร้อมการรับรองว่าขอลาพักร้อน เป็นภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ

6. จดหมายรับรองฐานะทางการเงินย้อนหลัง 3 เดือน Bank Statement (ภาษาอังกฤษ) เรามีเงินไม่มากกลัวอยู่ว่าเขาจะหาว่าไม่พอรึปล่าว (ยอดเงินหลักหมื่นตอนปลาย)

7. เอกสารที่มาของเงินในบัญชี ในกรณีนี้เราป้องกันไว่ว่าถ้าสถานทูตไม่เชื่อว่าเงินในบัญชีเรามาจากไหน เราเลยเอาเชคที่บริษัทเราจ่ายให้ทุกเดือนมาแสดงให้เขาดู)

8. ประกันการเดินทางของเซงเก้น

9. เอกสารของแฟนเรา เนื่องจากแฟนเราเป็นคนจองโรงแรมและจองตั๋วดูคอนเสิร์ท เราเลยต้องนำเอกสารของเขามาอ้างอิง เพื่อความสมบูรณ์ของวีซ่า

    9.1 จดหนามแนะนำตัวของแฟน กึ่งๆ จดหมายเชิญ (ภาษาอังกฤษ) (ข้อความข้างในเขียนประมาณว่า แฟนเราเป็นใคร จะมาทำอะไรที่เนเธอร์แลนด์ เหตุผล เราเป็นอะไรกับเขา คบกันเมื่อไหร่ และในขณะที่อยู่ที่เนเธอแลนด์เราจะอยู่กับเขา ณ ห้องพักที่จองเอาไว่จนจบทริปการเดินทาง และยืนยันว่าเราจะกลับประเทศไทย)
    9.2 สำเนาพราสปอร์ทของแฟน
    9.3 เอกสารรับรองฐานะทางการเงิน (พนักงานบอกว่า ไม่ต้องใส่ก็ได้เพราะเรา Support ตัวเอง แต่เราดื้อเลยใส่ๆ ไปให้เขาดู เผื่อเหลือ เผื่อขาด)
    9.4** ใบจองตั๋วเครื่องบินของแฟนเรา (อันนี้คือเอกสารที่เราขาดไป ต้องใส่ให้เขาทาง E-mail ทีหลัง)

10. แผนการเดินทาง

11. ใบจองตั๋วเครื่องบินของเรา (ยังไม่จ่าย) สามารถไปขอใบจองตั๋วเครื่องบินได้ตามร้านที่ขายตั๋วเครื่องบินต่างๆ แถบๆ เส้นสุขุมวิทจะมีร้านขายตั๋วเครื่องบินเยอะมาก บางร้านก็ไม่คิดเงิน บางร้านก็จะคิดค่าใบจองใบละ 100 – 200 บาท แล้วแต่ร้าน

12. ใบจองโรงแรมตั้งแต่เริ่มทริป จนจบทริป ต้องมีครบทุกวัน ห้ามขาดวันใดวันหนึ่ง ถ้าจองผ่าน Booking. Com ให้ปริ้นหน้าของ E-mail มาเลยค่ะ เพราะมันจะมีชื่อของคนจองปรากฏอยู่ ถ้าไม่มีทางสถานทูตจะไม่รับ

13. ตั๋วงานคอนเสิร์ท พร้อมรายละเอียดของงานคอนเสิร์ท

14. รูปถ่ายของเรากับแฟน (อันนี้เราส่งให้เขาไปเยอะเลย แต่เขาให้ดึงออกมาจาก 70 ภาพ เหลือแค่ 15 ภาพเท่านั้น เหตผลที่เราให้ภาพเขาไปเยอะๆ เพราะว่าเมื่อปีก่อนเราขอวีซ่าไปอังกฤษกับแฟนเรา แต่โดนปฏิเศษวีซ่าเพราะสถาทูตไม่เชื่อว่าเรากับแฟนเรามีความสัมพันธ์กันจริงๆ พอยื่นครั้งต่อไปเราเลยต้องเอารูปส่งไปให้เขาดูด้วย จะได้เชื่อกันสักที)

15. เล่มพาสปอร์ทปัจจุบันค่ะ

เอกสารที่ยื่นมีแค่นี้ค่ะ
คิดว่าน่าจะไม่มีตรงไหนพลาด แต่ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปค่ะ แล้วจะเอามาเล่าสู่กันฟังนะคะ ว่าผลเป็นยังไงบ้าง
หากใครมีคำถามสงสัย ถามได้ค่ะ ถ้าตอบได้จะช่วยตอบ
ยังมีวีซ่าอังกฤษอีก 1 วีซ่าที่อยากเอามาเล่าสู่กันฟังในรีวิวต่อไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ ขอให้ทุกท่านโชคดี