สำหรับผมเคยเจอเหตุการณ์ที่น่ากลัวจนเกือบคิดว่าตัวเองจายมาแล้วครับ
เรื่องมีอยู่ว่า....บ้านผมอยู่ในชนบททางภาคอีสาน คืนหนึ่งตอนหน้าหนาวสมัยผมเรียนอยู่ม.5 ในคืนนั้นผมนอนกับน้องชายสองคนบนชั้นสองของบ้านครับ แล้วประมาณ 5 ทุ่ม ก็หลับไปแล้วฝันเหมือนจริงมากๆ คือ ผมฝันว่าผมหนาวมากๆ และมีชายสองคนร่างสูงใหญ่ มายืนตรงปลายเตียงผม จากนั้นผมรู้สึกว่าเหมือนวิญญาณตัวเองลอยออกจากร่างที่นอนหลับอยู่ และความรู้สึกตอนนั้นยิ่งเหน็บหนาวไปทั้งตัวขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างนั้นผมรับรู้ได้ว่าวิญญาญลอยออกทางขา ( ความรู้สึกเหมือนนอนเรานอนปกติแล้วยกขาปลายเท้าชิดขึ้นพร้อมกัน) ทันใดนั้นผมมองไปที่ชายสองคน แล้วพูดในใจว่า เฮ้ย!!ผมยังไม่อยากตายนะ ผมยังตายไม่ได้ ผมยังมีหน้าที่ต้องทำอีกเยอะแยะ แล้วก็เหมือนจะลอยออกจากร่างจนขาตั้งฉากเกือบ 90 องศา ทันใดนั้น...ผมได้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร แล้วสวดนะโนฯในใจ แล้วก็นึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ ตอนนั้นผมกลัวมากๆเพราะมันเหมือนจริง จากนั้นในความรู้สึกเหมือนวิญญาณที่กำลังจะลอยออกจากร่าง(ที่บอกว่าเหมือนนอนขาชี้ปลายเท้าชิดเกือบจะตั้งฉาก) ก็ค่อยๆลดระดับ เหมือนขากำลังขยับลงเข้าร่างที่กำลังนอนอยู่ และจากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนขยับตัว จากร่างที่รู้สึกหนาว (ซึ่งความจริงคืนนั้นที่ฝันประหลาด ห่มผ้านวมผืนหนาและอุ่นมากๆ) ผมเริ่มรู้สึกตัวอุ่นขึ้นๆๆจนเริ่มได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรง พอตั้งสติได้ค่อยๆเอามือจับผ้าห่ม ก็รู้สึกว่าที่เราหนาวไปไม่ได้เพราะนอนถีบผ้าห่มออกนี่น๋า? แล้วค่อยๆลืมตา ก็พบแต่ความมืดในห้อง ส่วนน้องก็นอนกรนอยู่ข้างๆ เสียงยายและน้าๆที่ยังไม่หลับก็ยังได้ยินจากชั้นล่างขึ้นมาถึงห้อง คืนนั้นผมรีบลุกขึ้นมา สวดมนต์ไหว้พระอีกรอบ ก่อนพยายามทำใจให้สงบและนอนหลับดังเดิม โดยไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้างฟัง เพราะเกรงว่าทุกคนจะกลัวหรือคิดมาก ส่วนผมก็เก็บเรื่องนี้ไว้นานหลายปีจนสมัยมหาลัยได้เล่าให้เพื่อยที่สนิทฟัง และผ่านมาจนวันนี้ก็เกือบ 8 ปีแล้วซินะ ผมยังจดจำเหตุการณ์ที่เหมือนจริงในค่ำคืนอันเหน็บหนาวนั้นได้อยู่เลย จากเหตุการณ์นั้นทำให้ผมเชื่อว่า เรื่องนรก สวรรค์มีจริงนะ ถึงแม้ไม่เคยไป หรือใครจะว่ามโนก็ตาม ในฐานะที่ผมก็เป็นชาวพุทธ และสิ่งที่ผมเชื่อได้อีกอย่างคือ พระคุณของพ่อแม่ คือ พระอรหันต์ที่ยิ่งใหญ่ และช่วยชีวิตผมได้หลายครั้งแล้วจากเหตุการณ์ร้ายๆ ไม่ว่าจะเป็น อีกเหตุการณ์ ตอนนั้นอยู่ ม.4 พอดีไปช่วยน้าเก็บยางพาราแถวภาคใต้ช่วงปิดเทอม ด้วยความไม่คุ้นเคยถนน หนทาง แต่ขับรถมอเตอรไซต์ลงเขาแล้วเจอถนนลาดชัด เป็นหินกรวดผสมลูกรัง รถไม่มีเบครมือ มีแต่เขรคเท้า ข้างๆถนนมีแต่โขดหิน และลาดเอียงลงไปข้างๆอีก ลงมาด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก ตอนนั้นผมคิดว่า ตายแน่ๆกรู ตายแน่ๆ ไม่ขาหัก แขนหัก กระดูกร้าว หัวแตก ไม่คงคอหักตายแน่ๆ ทำไงดี ตอนนั้นตั้งสติ คิดถึงพ่อแม่ หน้าพ่อแม่ลอยมา จำเหตุการณ์เรื่องราวตั้งแต่เล็กจนโต เหมือนที่เค้าบอกนั้นแหล่ะครับว่า คนมันใกล้ตายจะเห็นภาพหลอนในอดีตวนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นผมก็เกร็งแขน จับแฮนด์สองข้างให้แน่น แล้วก็สบัดท้ายรถ ยังกะพระเอกหนังบู๊ ในตอนนั้นรถหยุด แล้วผมมองกลับขึ้นไปบนเนินที่ชันกว่า 60 องศา เมียของน้าแกบอกว่า เห็นแล้วขำไม่รู้แกจะช่วยยังไง แกบอกว่าทำไมไมทิ้งรถแล้วกระโดดลงข้างทาง ( คิดในใจ ถ้ากระโดดลงไป ไม่ตายก็สาหัสมีแต่หินยังกะอยู่ตามน้ำตกก้อนใหญ่ทั้งนั้น) ........ใครเจอหนักกว่าผมบ้างเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
เล่าประสบการณ์ที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดในชีวิตของคุณมีอะไรที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดครับ?
เรื่องมีอยู่ว่า....บ้านผมอยู่ในชนบททางภาคอีสาน คืนหนึ่งตอนหน้าหนาวสมัยผมเรียนอยู่ม.5 ในคืนนั้นผมนอนกับน้องชายสองคนบนชั้นสองของบ้านครับ แล้วประมาณ 5 ทุ่ม ก็หลับไปแล้วฝันเหมือนจริงมากๆ คือ ผมฝันว่าผมหนาวมากๆ และมีชายสองคนร่างสูงใหญ่ มายืนตรงปลายเตียงผม จากนั้นผมรู้สึกว่าเหมือนวิญญาณตัวเองลอยออกจากร่างที่นอนหลับอยู่ และความรู้สึกตอนนั้นยิ่งเหน็บหนาวไปทั้งตัวขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างนั้นผมรับรู้ได้ว่าวิญญาญลอยออกทางขา ( ความรู้สึกเหมือนนอนเรานอนปกติแล้วยกขาปลายเท้าชิดขึ้นพร้อมกัน) ทันใดนั้นผมมองไปที่ชายสองคน แล้วพูดในใจว่า เฮ้ย!!ผมยังไม่อยากตายนะ ผมยังตายไม่ได้ ผมยังมีหน้าที่ต้องทำอีกเยอะแยะ แล้วก็เหมือนจะลอยออกจากร่างจนขาตั้งฉากเกือบ 90 องศา ทันใดนั้น...ผมได้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร แล้วสวดนะโนฯในใจ แล้วก็นึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ ตอนนั้นผมกลัวมากๆเพราะมันเหมือนจริง จากนั้นในความรู้สึกเหมือนวิญญาณที่กำลังจะลอยออกจากร่าง(ที่บอกว่าเหมือนนอนขาชี้ปลายเท้าชิดเกือบจะตั้งฉาก) ก็ค่อยๆลดระดับ เหมือนขากำลังขยับลงเข้าร่างที่กำลังนอนอยู่ และจากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนขยับตัว จากร่างที่รู้สึกหนาว (ซึ่งความจริงคืนนั้นที่ฝันประหลาด ห่มผ้านวมผืนหนาและอุ่นมากๆ) ผมเริ่มรู้สึกตัวอุ่นขึ้นๆๆจนเริ่มได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรง พอตั้งสติได้ค่อยๆเอามือจับผ้าห่ม ก็รู้สึกว่าที่เราหนาวไปไม่ได้เพราะนอนถีบผ้าห่มออกนี่น๋า? แล้วค่อยๆลืมตา ก็พบแต่ความมืดในห้อง ส่วนน้องก็นอนกรนอยู่ข้างๆ เสียงยายและน้าๆที่ยังไม่หลับก็ยังได้ยินจากชั้นล่างขึ้นมาถึงห้อง คืนนั้นผมรีบลุกขึ้นมา สวดมนต์ไหว้พระอีกรอบ ก่อนพยายามทำใจให้สงบและนอนหลับดังเดิม โดยไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้างฟัง เพราะเกรงว่าทุกคนจะกลัวหรือคิดมาก ส่วนผมก็เก็บเรื่องนี้ไว้นานหลายปีจนสมัยมหาลัยได้เล่าให้เพื่อยที่สนิทฟัง และผ่านมาจนวันนี้ก็เกือบ 8 ปีแล้วซินะ ผมยังจดจำเหตุการณ์ที่เหมือนจริงในค่ำคืนอันเหน็บหนาวนั้นได้อยู่เลย จากเหตุการณ์นั้นทำให้ผมเชื่อว่า เรื่องนรก สวรรค์มีจริงนะ ถึงแม้ไม่เคยไป หรือใครจะว่ามโนก็ตาม ในฐานะที่ผมก็เป็นชาวพุทธ และสิ่งที่ผมเชื่อได้อีกอย่างคือ พระคุณของพ่อแม่ คือ พระอรหันต์ที่ยิ่งใหญ่ และช่วยชีวิตผมได้หลายครั้งแล้วจากเหตุการณ์ร้ายๆ ไม่ว่าจะเป็น อีกเหตุการณ์ ตอนนั้นอยู่ ม.4 พอดีไปช่วยน้าเก็บยางพาราแถวภาคใต้ช่วงปิดเทอม ด้วยความไม่คุ้นเคยถนน หนทาง แต่ขับรถมอเตอรไซต์ลงเขาแล้วเจอถนนลาดชัด เป็นหินกรวดผสมลูกรัง รถไม่มีเบครมือ มีแต่เขรคเท้า ข้างๆถนนมีแต่โขดหิน และลาดเอียงลงไปข้างๆอีก ลงมาด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก ตอนนั้นผมคิดว่า ตายแน่ๆกรู ตายแน่ๆ ไม่ขาหัก แขนหัก กระดูกร้าว หัวแตก ไม่คงคอหักตายแน่ๆ ทำไงดี ตอนนั้นตั้งสติ คิดถึงพ่อแม่ หน้าพ่อแม่ลอยมา จำเหตุการณ์เรื่องราวตั้งแต่เล็กจนโต เหมือนที่เค้าบอกนั้นแหล่ะครับว่า คนมันใกล้ตายจะเห็นภาพหลอนในอดีตวนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นผมก็เกร็งแขน จับแฮนด์สองข้างให้แน่น แล้วก็สบัดท้ายรถ ยังกะพระเอกหนังบู๊ ในตอนนั้นรถหยุด แล้วผมมองกลับขึ้นไปบนเนินที่ชันกว่า 60 องศา เมียของน้าแกบอกว่า เห็นแล้วขำไม่รู้แกจะช่วยยังไง แกบอกว่าทำไมไมทิ้งรถแล้วกระโดดลงข้างทาง ( คิดในใจ ถ้ากระโดดลงไป ไม่ตายก็สาหัสมีแต่หินยังกะอยู่ตามน้ำตกก้อนใหญ่ทั้งนั้น) ........ใครเจอหนักกว่าผมบ้างเล่าให้ฟังบ้างนะครับ