ต้องเป็นผู้เช่าที่หนี้เจ้าของห้องโดยที่ไม่ได้ทำไรผิด ขอความเห็นด้วยค่ะว่าเราจะทำเยี่ยงไรดี

สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องรำคาญใจ ทั้งคิดไม่ตก และเรื่องนี้คิดว่าจะเป็นอุทาหร์กับผู้เช่าที่โดนเจ้าของห้องเอาเปรียบ
จะยาวมากนะค่ะ แต่แนะนำให้ลองอ่านเพื่อเป็นวิทยาทานได้ค่ะในการเช่าห้อง

เนื่อจากเช่าห้องพักแบบหนึ่งห้องนอน มีห้องครัวในตัว ขนาด 33 ตรว. ของโครงการหนึ่งจากเจ้าของที่ซื้อไว้แล้วปล่อยเช่า
ราคาตอนทำสัญญา 4,500.- รวมค่าส่วนกลางแล้ว เข้าอยู่ก็จ่ายล่วงหน้า 1 เดือน และค่าประกัน 2 เดือน เป็นเงิน 13,500.-
ตอนมาดูก็ชอบห้อนอยู่พอส่มควร ไม่ได้เก่ามากและไม่ได้ใหม่เอี่ยม เจ้าของห้องทาสีใหม่ แต่ไม่ได้ทำความสะอาด เราก็โอเครไม่เป็นไร
แต่ก็พูดคุยกันเฉยๆ พอดีพี่เค้าถามว่าไม่สนใจซื้อหรือ เราก็บอกไปสนใจอยู่แต่ไม่มีเงิน ก็มนุษย์เงินเดือนหนะค่ะ เค้าก็บอกว่าเค้าอยากขาย
อะไรประมาณนี้ ก็ตกลงเช่ากันไป โดยที่ไม่ได้เช็คอะไรมากมายเพราะเห็นว่าพี่เค้าทาสีใหม่
ที่จำได้คือ ประตูห้องน้ำมันผุข้างล่างจนไม้มันหลุดออกมา แต่เราเห็นว่าไม่ได้น่าเกลียดก็เลยไม่คิดอะไร
อยู่ไปได้ ประมาณ ปี ครบสัญญาที่ทำกันไว้เราก็อยู่ต่อโดยคุยกันแค่อยู่ต่อ เคยโทรไปถามอยู่ว่าครบปีแล้วต้องยังไงบ้าง
พี่เค้าก็แบบไม่เรื่องมา บอกว่าไม่ต้องเซ็นอะไรก็อยู่ไป แล้วจากนั้นประมาณครึ่งปี แอร์เสียค่ะ คือเสียสนิท
แต่เราก็ล้างแอร์ประจำปีอยู่นะค่ะ แล้วก็เปลี่ยนอะไรสักอย่าง ก็ออกเงินเอง 600.- จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร เราก็โอเครถึงแอร์จะเก่า
แต่ก็ถือว่าเราอาศัยก็ต้องดูและ อยู่ไปได้สักครึ่งปี แอร์ก็เลียแบบเปิดไม่มีความเย็นเลยค่ะ ก็แจ้งเจ้าของห้องไปค่ะ
ตอนแรกเค้าจะให้เราติดเองแล้วลดค่าเช่าห้องให้ พี่เค้าก็ถามว่าเห็นว่าเราอยากซื้อยังสนใจใหม ถ้าสนใจเราก็ติดเองไปเลย
แต่เราไม่มีเงินก้อน ก็สรุปเค้าติดให้ใหม่เลยแต่เป็นรุ่นที่ขนาดมันใหญ่กว่าห้อง เป็นช่างและแอร์ที่เค้าหามาเอง
มันก็เลยทำให้แอร์ติดแล้วปวมไม่สวย แต่ก็ใช้งานได้ แต่ก็ไม่แข็งแรง ฝาหน้าแตกแต่เราก็ไม่อะไรค่ะเพราะคิดว่าพี่เค้าคงน่าจะเข้าใจเหตุผล
แล้วอยู่มาจนเข้าปีที่สอง ก็มีติดขัดเรื่องเงินทอง ก็มีจ่ายช้าไปบ้าง แต่ไม่เคยค้างค่ะ อย่างถ้ามันจะต้องเลท
ก็จะโทรไปบอกเค้าว่าวันที่เท่าไหร่ เลทนานสุดคือ 15 วัน แต่ก็ไม่เคยติดค่ะ เพราะขนาดจ่ายช้า พี่เค้าก็โทรมาบ่น
แล้วยังเคยตัดน้ำตัดไฟ เราก็ต้องไปจ่ายส่วนที่ค้าง ก็เท่ากับว่าจ่ายช้านะค่ะ ไม่ได้ค้าง (ซึ่งตรงนี้จะมีผลตอนแจ้งออกซะงั้น เค้าว่าเราไม่ได้จ่ายเดือนนึง)
มีครั้งนึงช่วงน้ำท่วม เหมือนมีคนจะมาอยู่ หรือซื้อต่ออะไรสักอย่าง พี่เค้าก็โทรมาถามว่าเราจะอยู่ต่อไหม พอดีเค้าจะขาย
เราก็เข้าใจว่าอาจจะขายพร้อมผู้เช่าหรืออะไร พอเราบอกว่าอยู่ แกก็เลยบอกพี่อยากขายแต่ถ้าเราจะอยู่ แกก็ขอให้ช่วยค่าส่วนกลางอีก 500.-
เราก็ไม่ได้มีเงิน จริงๆนะค่ะ แต่ก็เข้าใจก็เลยเจอกันครึ่งทาง ขอจ่าเพิ่มอีก 300.- ก็อยู่มาเรื่อยๆ ด้วยสภาพห้องเข้าปีที่ 3
ก็มีบางอย่างผุพังไปตามกาลเวลา เช่น ท่อน้ำ ตรงครัวมันเคยรั่วจนน้ำท่วมออกมา ที่ครัวจะมีเค้าท์เตอร์เป็นไม้อัดค่ะ
พอโดนน้ำมันก็บวม แต่ไม่บวมขี้เหร่นะค่ะ นิดหน่อย เราก็ออกค่าเปลี่ยนท่อน้ำให้ใหม่ ฝักบัวอาบน้ำนี้ของเก่าเป็นแบบราคาถูก
เราก็เปลี่ยนให้เป็นอันใหญ่ๆแพงหน่อยเพราะเห็นว่าน้ำที่ห้องแรงดี ฝาชัดโครกมันดูเก่ามา เราก็เปลี่ยนใหม่ (เป็นคนโรคจิตนิดค่ะ ไม่ชอบห้องน้ำสกปรกเลย) แต่ปัญหาที่เรายอมรับได้คือ เราดันทำพื้นกระเบื้อเค้าเป็นรอยอยู่ประมาณ 6-8 แผ่น ก็คิดไว้แล้วว่าจะซ้อมให้เค้า
เราก็เข้าใจเจ้าขอค่ะ เอาเป็นว่าอยู่มาประมาณ 4 ปี ได้ค่ะ แต่ตอนนี้มีเหตุต้องแจ้งย้ายออก จริงๆ ห้องนี้เราเช่าประมาณ 4 ปีได้ก็จริง
แต่ช่วงปีครึ่ง หลัง ไม่ได้อยู่เลยค่ะ ก็ไปๆมาๆ  บางทีก็ให้พี่มาอยู่เดือนสองเดือนอะไรเงี้ย ก็ทยอยขนของจนตัดสินใจคืนห้อง
ก่อนคืนก็ปูยางแนวห้องน้ำให้ อ่างล้างหน้าก็ท่อมันผุพังจนขาดออกจากกัน ก็เปลี่ยนอันใหม่อย่างดีค่ะ
และว่าจะซ่อมพื้นกระเบื้อให้ แต่ก่อนซ่อมก็แจ้งเจ้าของห้องก่อน แกก็โอเคร แต่แกบอกว่า เราต้องโอนค่าเช่าเดือนสุดท้ายให้แกก่อน
เพราะเราเคยค้างค่าเช่าห้องกะเค้า (งงเลยค่ะ) แต่ไม่อยากยุ่งยากมานั้งเช็ดเพราะมันนานแล้ว (ข้อเสียของการไม่จดบันทึกหรือเก็บหลักฐาน)
และก็ทวงว่าไหนว่าเราจะซื้อ และก็ขอมาดูห้องพอมาดู ปรากฎว่า พี่เค้าบอกว่า โห! ห้องโทรมมาก เรางงเลยค่ะ เพราะสภาพห้องจริงๆเรียกว่าจากที่พี่ทาสีใหม่ไปตอนเราเข้าอยู่เมือ 4 ปีก่อน แทบจะไม่ต้องทำไรใหม่เลย เราเป็นคนรักษาของหนะค่ะ เพื่อนๆก็ยังว่าห้องสวยเลย
แต่พี่เค้ามาดูบอกว่าโทรม เราก็บอกแกไปว่า จะซ่อมพื้นให้นะค่ะ ยางแนวเพิ่งทำให้ใหม่ในห้องน้ำ เปลี่ยนท่อตรงอ่างล้างหน้าให้
แต่พี่แกไม่ปลื้มเลยค่ะ แล้วแกก็สั่งเลยให้ทำโน่นนี่ให้เหมือนใหม่ที่มาอยู่ ผ้าม่าน เค้าท์เตอร์ครัว ตัวอ่างล่างหน้าปูขอบใหม่ ประตูห้องน้ำด้วย
ซ่อมให้เหมือนตอนมาอยู่ แล้วเรื่องเงินมัดจำค่อยมาว่ากันอีกที..... อิฉัน อึ้งเลยค่ะ แกก็ดูแอรื แอร์มันติดปวมเพราะช่างเค้าเอง แกก็บ่นค่ะค่ะว่าแอร์แย่
สกปรก ไม่สวย (ผลเสียจากการไม่เช็คห้องหรือของในห้องให้ดี ขอแนะนำให้เราถ่ายรูปก่อนเข้าอยู่ หรือก่อนติดตั้งอะไรใหม้ทุกครั้งค่ะ)
แล้วก็เรียกช่างมาล้างแอร์ เราก็จ่ายให้นะค่ะ ช่างบอกว่าแอร์ใช้งานได้ดี แค่ล้างก็โอเคร สภาพแอร์ดีมากแต่หน้ากากแอร์หัก
เราก็โอเครให้ช่างเค้าหามาเปลี่ยนแล้วโทรไปบอกให้พี่เค้าจากค่ามัดจำ 9,000.- และพอดีพี่ช่างที่จะให้มาซ่อมพื้นแกไม่ว่าง
แต่เช็คราคาแล้ว แกบอกว่าค่าพื้นไม่เกิน 2,000.- คิดไปคิดมา ก็เลยบอกเจ้าของห้องไปว่า เดี๋ยวสิ้นเดือนหนุโอนค่าเช่าให้ และให้พี่เอามัดจำ 9,000.-ไปเลย
ขอไม่ซ่อมพื้นให้เพราะไม่มีเวลาจริงๆ คำตอบที่ได้กลับมา คือ "ไม่ได้ค่ะ น้องต้องซ่อมให้พี่เหมือนตอนที่น้องเข้ามาอยู่ พี่ก็หาช่างไม่ได้ " เราก็งงและโมโหเพราะเท่ากะว่าพี่ได้ไปฟรีๆ ค่ามัดจำเพราะเค้าไม่ได้รับปากว่าจะคืนเงินให้หรือเปล่าถ้าซ่อม ปรึกษาแฟนก็บอกว่าถ้าไปซ่อมให้แล้วเค้าเกิดไม่พอใจอีก
ก็ยึดเงินเราไปอยู่ดี ก็ให้เค้ายึดไปเลย ไม่ต้องเสีย 2 ต่อ เราเลยถามพี่เค้าว่า สรุปพี่จะให้ทำให้ใหม่หมดเลยเหรอค่ะ บางอย่างมันผุพังไปตามกาลเวลานะค่ะ เค้าไม่ยอมค่ะ เค้าบอกว่าไม่ใช่ค่ะ แค่ทำให้เหมือนกะตอนที่เราเค้าไปอยู่ เราเลยบอกไปว่า ช่างจะว่าเดือนหน้า แล้วพี่จะยังไงเพราะแจ้งออกเดือนนี้ เค้าก็บอกว่าต้องทำให้เสร็จภายในเดือนนี้ แล้วก็พูดประมาณว่า พี่จะไปคุยกะทนายของพี่อีกทีเรื่องค่ามัดจำ**** (คืออะไรค่ะ เรางงมาก)
สุดท้ายตัดสิ้นใจ จ้างคนไปทำความสะอาดอย่างดี (ขนของออกไปแล้วค่ะ แต่แจ้งเจ้าของห้องไปแล้ว ก่อนช่างแอร์จะมาทำ)

ทีนี้เราถามคนรอบข้าง ว่าจะยังไงดี .... มีแต่คนงง และบอกว่าไม่เคยเจอต้องมาทำให้ใหม่ บางคนก็บอกว่าเราไม่ใช่เจ้าของห้อ แล้วก็แจ้งย้ายก่อนออกด้วย
บางคนก็บอกเราโง่ ไปซ่อมทำไม แม่เราบอกว่าถ้าเจ้าของห้องให้ทำขนาดนั้นก็ไม่ต้องไปติดต่อกับเค้าเลย พอ เพราะเสียงไปเยอะแล้ว
เราเลยตัดสินใจ หนีเลยค่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ยัง งงๆ ตัวเอง

คือ ห้องไม่ได้ซ่อมพื้น แต่อย่างอื่นเนี้ยบหมด แล้วก็โอนค่าเช่าเดือนสุดท้ายให้เค้าไป และก็ให้มัดจำเค้าไป แต่เค้าโทรมา เราไม่รับค่ะเพราะถือว่าจบกันแล้ว
พอสักวันที่สาม พี่เค้าโทรมาอีก เราก็ไม่รับ เค้าก็ส่งข้องความมาค่ะว่า ถ้าไม่รับก็น่าจะโทรกลับ แล้วให้โอนค่าเช่าห้องให้ด้วย (ซึ่งโอนแล้วค่ะ ตอนกลางคืนก่อนหน้านั้นพร้ามส่ง SMS จากแบงค์) แล้วให้เวลาซ่อมห้อง 1 อาทิตย์ ถ้ายังเงียบอยู่จะส่งเรื่องต่อ *** คือ? จะฟ้อง? จะแจ้งจับ? (ค่าเช่า 4,800.-)

ก่อนทิ้งมา เราได้ถ่ายรูปสภาพห้องไว้หมดเลยค่ะ ละเอียดพอสมควร กลัวเค้าไปทำให้ห้องพังกว่าเดิมจะได้ยืนยันได้ และโองเงินผ่านบัญชีเราด้วยค่ะ
มีหลักฐานว่าเราไม่ได้หนี แต่ประเด็น สัญญาที่ทำตอนปีแรก หายไปอ่ะ ก็กลัวส่วนนี้อยู่ว่าเค้าจะตุกติกหรือเปล่า

.... อยากถามความเห็นว่า
1. เค้าจะฟ้องหรือทำไรเราได้ไหมค่ะ (เราคิดว่า ไม่มีหลักฐานไรเลย เช่น สัญญาเช่า การโองเงิน) แต่เค้ามีสัญญาที่มีบัตรประชาชนและลายเซ็นเรา
2. ทิ้งมาแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ (เพราะพยามยามคุยแล้วแต่พี่แกจะให้เราซ่อมห้องให้อย่างเดียว)
3. เคยเห็นบางคนเค้าไม่จ่ายแล้วขนของหนีเลยก็มี แล้วเราจ่ายเงิน แจ้งออกด้วย ให้ยึดมัดจำด้วย มีปัญหาอะไรขึ้นมา เราเป็นฝ่ายถูกหรือไม่
4. ถ้าเกิดปัญหาไรขึ้นมา เราแจ้งขอความช่วยเหลือ ร้องทุกข์ที่ไหนได้บ้างค่ะ (สคบ. ได้ไหมค่ะ )
5. สรุปเราเป็นผู้เช่าที่แย่หรือเปล่าค่ะเนี้ย???

.... ฝากเป็นอุทาหรณ์
1. ก่อนทำงานย้ายเข้าให้อ่านข้อสัญญาให้ดี และเก็บสัญญาไว้จนกว่าจะเลิกเช่านะค่ะ
2. ก่อนขนของเข้า ถ้าเป็นไปได้ เช็คความเรียบร้อย การชำรุดของห้องให้ดี อันไหนที่เสียหายเป็นรอยหรือแตกหัก นิดๆหน่อยๆก็ถ่ายรูปไว้ (เอาที่คิดว่าเค้าจะต้องปรับ) แล้วส่งเมล์ หรือปริ้นท์ระบุวันที่เก็บไว้เลยค่ะ
3. เก็บสลิปหรือหลักฐานการจ่ายค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ส่วนกลาง หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกครั้ง
4. ก่อนย้ายออกถ้าเจเจ้าของห้องเป็นประมาณนี้ ให้แจ้งทางตึกมาดูสภาพห้องเพื่อเราจะได้มีพยานค่ะ

ยาวมากแต่หวังว่าจะได้ความคิดเห็น หรือให้ประโยชน์กับคนอื่นๆได้
ขอบคุณที่ทนอ่านค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่