ภาพยนตร์ไทย - โฆษณาหนักมาก
เราอาจจะชินชากับฉากที่ตัวเอกของภาพยนตร์เดินผ่านป้ายโฆษณาประกันชีวิตชื่อดัง หรือดื่มเครื่องดื่มที่หันโลโก้เข้ากล้อง ซึ่งเรื่องล้ำ ๆ แบบนี้เราไม่ค่อยได้เห็นในภาพยนตร์ฮอลลีวูดสักเท่าไหร่ (...ยกเว้น Transformer: Age of China ไว้เรื่องนึง)
แต่กับภาพยนตร์ไทยเรื่องนึง เราได้พบกับภาพยนตร์ที่ก้าวล้ำเข้าไปอีกขั้น ด้วยการแทรกโฆษณาในแทบจะทุกฉาก พูดชื่อสินค้าให้กับผู้สนับสนุนทุกท่าน ซึ่งอาจเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ทำได้แบบนี้ (เหนือกว่าหนังไทยเรื่องนึงเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ที่บรรยายคุณงามความดีของการทำประกันชีวิตพร้อมกับซูมบัตรประกันชีวิตให้เห็นชัด ๆ)
เนื้อหาต่อไปนี้ไม่สปอยตอนจบ ไม่พูดถึงเนื้อเรื่องใด ๆ จะพูดถึงแต่ฉากที่มีโฆษณาเท่านั้น
1. เริ่มจากภาพมุมกว้าง วิวเมือง ตึกสูงตระหง่าน มีป้ายโฆษณาให้เห็นอยู่ 2-3 อันอย่างชัดเจน (อันนี้เห็นกันบ่อย ๆ ในซิทคอม)
2. ตัวละครตัวนึงทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วเปิดทีวีดู กดครั้งที่หนึ่ง เจอโฆษณาสินค้าชิ้นที่หนึ่งประมาณเกือบ 1 วินาที กดเปลี่ยนช่องไปเจอโฆษณาสินค้าชิ้นที่สองอีกเกือบ 1 วินาที แล้วกดเปลี่ยนช่องครั้งที่สามไปยังรายการดนตรี สินค้าทั้งสองชิ้นมีการเอ่ยชื่อสินค้าและมีภาพโฆษณาชัดเจนออกจากทีวี
3. ซื้อน้ำมาฝาก ตัดภาพไปเป็นน้ำเปล่ายี่ห้อหนึ่ง 5-6 ขวดวางเอาไว้ หันโลโก้ชัดเจน
4. ตัวละครตัวหนึ่งยืนเต้นอยู่บนดาดฟ้า ใส่เสื้อลายโลโก้น้ำอัดลม
5. ซื้อน้ำอัดลมมาฝาก มีอยู่ 5-6 กระป๋อง ตัวละครตัวหนึ่งยื่นน้ำอัดลมให้อีกคนกระป๋องนึง พูดว่า "อะ กิน xxx ก่อน" ตัวละครตัวนั้นรับไป เปิดกระป๋อง ยกซด แล้ว "อ่าาาาาาาห์" ดัง ๆ
6. ตัวละครเดินคุยกันบนสะพานลอยหน้าห้างสรรพสินค้า มีจอ LCD ขนาดใหญ่โฆษณาหนัง กำลังเปิดโปสเตอร์ภาพเคลื่อนไหวของภาพยนตร์ไทยเรื่องนึงแบบโคตรเตะตา เด่นกว่าตัวละครนั่นอีก (โฆษณาหนังค่ายตัวเอง)
7. จากข้อเมื่อกี๊ แถมด้วยป้ายโฆษณาอีกสองอัน (ไม่แน่ใจว่ามันติดอยู่ที่ห้างอยู่แล้วหรือใส่เข้าไปเอง เพราะมันเป็นน้ำอัดลมคนละยี่ห้อกับข้อก่อน 555)
8. ฉากโทรศัพท์ ตัวละครกดเปิดแอพลิเคชั่นหนึ่งขึ้นมาแบบซูมเห็นไอคอนชัด ๆ (แอพนี้ได้พูดชื่อไปแล้วครั้งหนึ่งในจอทีวี)
9. ตัวละครกำลังจะบินไปเกาหลี ก็เลยมีฉากอยู่ในสนามบิน ได้ยินเสียงโฆษณาชัด ๆ ที่พูดชื่อสายการบินกับสโลแกนแบบยัดเยียดเข้ามาเฉย ๆ
10. อยู่ ๆ ตัวละครก็ไปรื้อกองแผ่น DVD ภาพยนตร์ในบ้านคนอื่น แล้วพูดขึ้นมาว่า "เฮ้ย มีเรื่อง xxxxx ด้วย กูโคตรชอบเรื่องนี้เลย" (โฆษณาหนังค่ายตัวเองอีกรอบ)
11. ฉากเวทีคอนเสิร์ต มีป้ายโฆษณาติดอยู่ข้าง ๆ เวทีแบบตัดต่อเข้าไป
12. ฉากหลังเป็นเมืองเกาหลียามค่ำคืน (ด้วย CG แปะใส่ green screen มั้ง) มีป้ายโฆษณาสินค้าของไทยแปะอยู่ซะอย่างนั้น
นึกออกเท่านี้ ถ้ามีเพิ่มจะมาเติม
ภาพยนตร์ไทยจำเป็นต้องลดคุณค่าตัวเองลงถึงเพียงนี้เลยหรือ พูดแบบคนดูหนังธรรมด๊าธรรมดาคือมันขัดตาขัดใจ เวลาดูหนังไปเพลิน ๆ แล้วเจอโฆษณาตัวเบ้ง มันจะเป็นแว้บนึงที่นึกในหัวว่า "โฆษณาอีกและ" ก็เข้าใจได้ว่าคนทำหนังต้องใช้เงิน ต้องมีการขอสปอนเซอร์ การตกลงกับสปอนเซอร์นั้นมีทางอื่นไหมที่ไม่ต้องเอาโลโก้ตัวเองเข้าไปอยู่ในหนัง ยิ่งเยอะวินาทีก็ยิ่งจ่ายเยอะ ยิ่งพูดชื่อก็จ่ายเพิ่ม อะไรแบบนี้ การมีโฆษณาสักตัวสองตัวในหนัง ผมก็ยอมรับได้แหละ ถ้ามันไม่ขัดหูขัดตาเกินไปนัก แบบโลโก้มาแว้บ ๆ แล้วก็ไป เดินผ่าน เดินเข้าร้าน มันก็พอเนียน ๆ ไปตามบทตามเนื้อเรื่องได้ (เช่นหนังผีเรื่องนึง เอาโลโก้ไปไว้ไกล ๆ จาง ๆ ในฉากประกาศรางวัล เหมือนว่าโลโก้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันในเรื่อง)
สิ่งเหล่านี้มันค่อย ๆ ทำลายภาพยนตร์ไทยแน่ ๆ หนังที่ควรจะดีมันก็กลายเป็นหนังรวมสปอนเซอร์ไปเสียฉิบ ก็ได้แต่จินตนาการทิศทางหนังไทยซึ่งปัจจุบันก็แย่อยู่แล้ว มันจะยิ่งแย่ไปกว่าเดิมหรือไม่ในอนาคต
ในภาพยนตร์ไทย โฆษณาเยอะไปหรือเปล่าครับ
เราอาจจะชินชากับฉากที่ตัวเอกของภาพยนตร์เดินผ่านป้ายโฆษณาประกันชีวิตชื่อดัง หรือดื่มเครื่องดื่มที่หันโลโก้เข้ากล้อง ซึ่งเรื่องล้ำ ๆ แบบนี้เราไม่ค่อยได้เห็นในภาพยนตร์ฮอลลีวูดสักเท่าไหร่ (...ยกเว้น Transformer: Age of China ไว้เรื่องนึง)
แต่กับภาพยนตร์ไทยเรื่องนึง เราได้พบกับภาพยนตร์ที่ก้าวล้ำเข้าไปอีกขั้น ด้วยการแทรกโฆษณาในแทบจะทุกฉาก พูดชื่อสินค้าให้กับผู้สนับสนุนทุกท่าน ซึ่งอาจเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ทำได้แบบนี้ (เหนือกว่าหนังไทยเรื่องนึงเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ที่บรรยายคุณงามความดีของการทำประกันชีวิตพร้อมกับซูมบัตรประกันชีวิตให้เห็นชัด ๆ)
เนื้อหาต่อไปนี้ไม่สปอยตอนจบ ไม่พูดถึงเนื้อเรื่องใด ๆ จะพูดถึงแต่ฉากที่มีโฆษณาเท่านั้น
1. เริ่มจากภาพมุมกว้าง วิวเมือง ตึกสูงตระหง่าน มีป้ายโฆษณาให้เห็นอยู่ 2-3 อันอย่างชัดเจน (อันนี้เห็นกันบ่อย ๆ ในซิทคอม)
2. ตัวละครตัวนึงทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วเปิดทีวีดู กดครั้งที่หนึ่ง เจอโฆษณาสินค้าชิ้นที่หนึ่งประมาณเกือบ 1 วินาที กดเปลี่ยนช่องไปเจอโฆษณาสินค้าชิ้นที่สองอีกเกือบ 1 วินาที แล้วกดเปลี่ยนช่องครั้งที่สามไปยังรายการดนตรี สินค้าทั้งสองชิ้นมีการเอ่ยชื่อสินค้าและมีภาพโฆษณาชัดเจนออกจากทีวี
3. ซื้อน้ำมาฝาก ตัดภาพไปเป็นน้ำเปล่ายี่ห้อหนึ่ง 5-6 ขวดวางเอาไว้ หันโลโก้ชัดเจน
4. ตัวละครตัวหนึ่งยืนเต้นอยู่บนดาดฟ้า ใส่เสื้อลายโลโก้น้ำอัดลม
5. ซื้อน้ำอัดลมมาฝาก มีอยู่ 5-6 กระป๋อง ตัวละครตัวหนึ่งยื่นน้ำอัดลมให้อีกคนกระป๋องนึง พูดว่า "อะ กิน xxx ก่อน" ตัวละครตัวนั้นรับไป เปิดกระป๋อง ยกซด แล้ว "อ่าาาาาาาห์" ดัง ๆ
6. ตัวละครเดินคุยกันบนสะพานลอยหน้าห้างสรรพสินค้า มีจอ LCD ขนาดใหญ่โฆษณาหนัง กำลังเปิดโปสเตอร์ภาพเคลื่อนไหวของภาพยนตร์ไทยเรื่องนึงแบบโคตรเตะตา เด่นกว่าตัวละครนั่นอีก (โฆษณาหนังค่ายตัวเอง)
7. จากข้อเมื่อกี๊ แถมด้วยป้ายโฆษณาอีกสองอัน (ไม่แน่ใจว่ามันติดอยู่ที่ห้างอยู่แล้วหรือใส่เข้าไปเอง เพราะมันเป็นน้ำอัดลมคนละยี่ห้อกับข้อก่อน 555)
8. ฉากโทรศัพท์ ตัวละครกดเปิดแอพลิเคชั่นหนึ่งขึ้นมาแบบซูมเห็นไอคอนชัด ๆ (แอพนี้ได้พูดชื่อไปแล้วครั้งหนึ่งในจอทีวี)
9. ตัวละครกำลังจะบินไปเกาหลี ก็เลยมีฉากอยู่ในสนามบิน ได้ยินเสียงโฆษณาชัด ๆ ที่พูดชื่อสายการบินกับสโลแกนแบบยัดเยียดเข้ามาเฉย ๆ
10. อยู่ ๆ ตัวละครก็ไปรื้อกองแผ่น DVD ภาพยนตร์ในบ้านคนอื่น แล้วพูดขึ้นมาว่า "เฮ้ย มีเรื่อง xxxxx ด้วย กูโคตรชอบเรื่องนี้เลย" (โฆษณาหนังค่ายตัวเองอีกรอบ)
11. ฉากเวทีคอนเสิร์ต มีป้ายโฆษณาติดอยู่ข้าง ๆ เวทีแบบตัดต่อเข้าไป
12. ฉากหลังเป็นเมืองเกาหลียามค่ำคืน (ด้วย CG แปะใส่ green screen มั้ง) มีป้ายโฆษณาสินค้าของไทยแปะอยู่ซะอย่างนั้น
นึกออกเท่านี้ ถ้ามีเพิ่มจะมาเติม
ภาพยนตร์ไทยจำเป็นต้องลดคุณค่าตัวเองลงถึงเพียงนี้เลยหรือ พูดแบบคนดูหนังธรรมด๊าธรรมดาคือมันขัดตาขัดใจ เวลาดูหนังไปเพลิน ๆ แล้วเจอโฆษณาตัวเบ้ง มันจะเป็นแว้บนึงที่นึกในหัวว่า "โฆษณาอีกและ" ก็เข้าใจได้ว่าคนทำหนังต้องใช้เงิน ต้องมีการขอสปอนเซอร์ การตกลงกับสปอนเซอร์นั้นมีทางอื่นไหมที่ไม่ต้องเอาโลโก้ตัวเองเข้าไปอยู่ในหนัง ยิ่งเยอะวินาทีก็ยิ่งจ่ายเยอะ ยิ่งพูดชื่อก็จ่ายเพิ่ม อะไรแบบนี้ การมีโฆษณาสักตัวสองตัวในหนัง ผมก็ยอมรับได้แหละ ถ้ามันไม่ขัดหูขัดตาเกินไปนัก แบบโลโก้มาแว้บ ๆ แล้วก็ไป เดินผ่าน เดินเข้าร้าน มันก็พอเนียน ๆ ไปตามบทตามเนื้อเรื่องได้ (เช่นหนังผีเรื่องนึง เอาโลโก้ไปไว้ไกล ๆ จาง ๆ ในฉากประกาศรางวัล เหมือนว่าโลโก้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันในเรื่อง)
สิ่งเหล่านี้มันค่อย ๆ ทำลายภาพยนตร์ไทยแน่ ๆ หนังที่ควรจะดีมันก็กลายเป็นหนังรวมสปอนเซอร์ไปเสียฉิบ ก็ได้แต่จินตนาการทิศทางหนังไทยซึ่งปัจจุบันก็แย่อยู่แล้ว มันจะยิ่งแย่ไปกว่าเดิมหรือไม่ในอนาคต