...............อยากให้เข้าใจในความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อของลูกสาวในวัยสิบสอง ย่างสิบสามขวบที่มีความชื่นชอบในตัวศิลปินรุ่นใหญ่...ที่ในอดีตนั้นมีชื่อเสียงระดับพรีเมี่ยม ย้อนเรื่อราวสักนิด ผมมีลูกสาวคนนึงซึ่งแกเป็นเด็กที่ชื่นชอบในดนตรี ยุคเก่าก่อนยุคผมเด็กๆหรือมากกว่า อาจจะเรียกง่ายๆว่า เก่าแก่กว่าอายุเธอหลายรอบ ทั้ง เติ้งลี่จเวิน เพลงลูกกรุงทั้งหลาย สุนทราภรณ์ และที่ชอบมากที่สุดคือ สาวสาวสาว โดยเฉพาะสมาชิก ท่านนึงซึ่งในวงนั้น พี่สาวท่านนี้ แต่งงานอยู่ท่านเดียว.....
....ลูกสาวผมเธอรักศิลปินมากมายหลายท่าน แต่จะพร่ำพูดถึงพี่ท่านนี้มาตลอดทั้งแต่อายุเจ็ดแปดขวบ ชอบทุกอย่างที่เธอเป็น ชอบทุกเพลงที่เธอร้อง ค้นหาประวัติ ค้นหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ขอร้องให้ผมซื้อซีดี ดีวีดี ที่เธอร้องแทบทุกชุด....ผมเองในฐานะที่เป็นพ่อคน ส่วนตัวไม่เคยเป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะเราเป็นผู้ชาย แต่ในใจก็คงคิดเห็นว่าก็คงเหมือนกับที่เราบ้าบอล และนักบอลนั่นแหละ....
.....หลายปีผ่านไป เธอเพียรร้องเพลง ของศิลปินท่านนี้อย่างที่เรียกว่า จะเอาให้เหมือนเธอให้ได้....ซึ่งเสียงของเธอก็ไพเราะพอสมควร ทุกครั้งที่ร้องเสร็จมักจะมีคำถามกลับมาเสมอว่า “หนูเสียงเหมือนพี่....” เค้าหรือยัง.....เราก็ให้กำลังใจไปเสมอว่าไม่เหมือนแค่มีเสียงบางจังหวะคล้ายๆเท่านั้น แต่ดูเธอจะไม่พอใจเสมอกับคำพูดที่ตรงๆ แบบถนอมน้ำใจลูก...
....ทุกครั้งที่เธอร้องเพลง ทุกครั้งที่เห็นเธอพูดถึงศิลปินท่านนี้แววตาเธอจะมีประกายมาก และจะพูดเสมอว่า “ป่ะป๋าหนูอยากเจอพี่เค้า” เราเองก็บอกไปเสมอว่า “คงมีสักวันนะ ป่ะป๋าจะลองดูว่าเป็นไปได้แค่ไหน แต่ไม่รับปากนะ” จนเวลาล่วงเลยไปนานพอควร จากอายุแปดเก้าขวบมาจนสิบเอ็ดขวบกว่าๆเธอก็มีโอกาสที่จะได้เจอแบบ..จังๆ......
....ลูกสาวผมมีโอกาสเป็นแขกเซอร์ไพรส ศิลปินท่านนั้น ในรายการนึง ซึ่งลูกสาวผมไม่ทราบมาก่อนว่า จะต้องเจออะไร วันนั้นเธอ อึ้งจนสั่นไปหมด เด็กน้อยอายุสิบเอ็ดขวบ ยืนต่อหน้าทีมงานรายการ ดีใจมาก หลังจากอัดรายการเสร็จ เธอมีโอกาสได้คุยเล็กๆน้อยๆและได้ถ่ายรูปร่วมกับศิลปินในดวงใจของเธอและวันนั้นเองก็เป็นวันทีเราพ่อแม่ ได้ขอที่อยู่ศิลปินท่านนั้นเพื่อที่จะให้ลูกเราได้มีโอกาสเขียนจดหมาย ...และทุกอย่างมันก็มีเรื่องที่ผมรู้สึกอึดอัดมากตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา....
.....เราเองในฐานะพ่อแม่เข้าใจความเป็นส่วนตัวของเหล่าศิลปินดีว่า หวงแหนมากแค่ไหน เราไม่ขออีเมล ไม่ขอไลน์หรืออะไรมากเพราะกลัวจะทำให้ศิลปินท่านนั้น สูญเสียความเป็นส่วนตัว....เราขอแค่ที่อยู่บ้านเลขที่ที่ลูกเราจะเขียนจดหมายส่งถึงเท่านั้น....ดูเหมือนจะดีแต่.....ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แบบนั้นเลย แต่ผมก็มักจะบอกเธอเสมอๆว่า ให้ลูกหัดเขียนจดหมายให้ดีก่อน ซึ่งตอนนั้นเรื่องแบบนี้ยากเสมอสำหรับเด็กน้อย....แล้วก็บอกเธฮไปว่า "เดี๋ยวป่ะป๋าจะเอาไปส่งให้ไม่ยากหรอกเรื่องนั้น" ตั้งแต่วันนั้น เธอตั้งใจมากในการเขียนจดหมาย เรียบเรียงอย่างตั้งใจ แต่ก็มีปรับมากมายเพราะไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้.....จดหมายฉบับแรกถูกส่งไปตามที่อยู่ที่ได้มาจากตัวศิลปิน......ปรากฏว่า!!! ถูกตีกลับมาที่บ้าน และทุกวันนี้ก็ยังอยู่ที่ผม..ซ่อนไว้อย่างดี...กลัวเธอเห็น........
ฝากถึงศิลปินท่านนึง.....รบกวนตอบจดหมายลูกผมทีครับ....ไหว้ล่ะครับ
....ลูกสาวผมเธอรักศิลปินมากมายหลายท่าน แต่จะพร่ำพูดถึงพี่ท่านนี้มาตลอดทั้งแต่อายุเจ็ดแปดขวบ ชอบทุกอย่างที่เธอเป็น ชอบทุกเพลงที่เธอร้อง ค้นหาประวัติ ค้นหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ขอร้องให้ผมซื้อซีดี ดีวีดี ที่เธอร้องแทบทุกชุด....ผมเองในฐานะที่เป็นพ่อคน ส่วนตัวไม่เคยเป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะเราเป็นผู้ชาย แต่ในใจก็คงคิดเห็นว่าก็คงเหมือนกับที่เราบ้าบอล และนักบอลนั่นแหละ....
.....หลายปีผ่านไป เธอเพียรร้องเพลง ของศิลปินท่านนี้อย่างที่เรียกว่า จะเอาให้เหมือนเธอให้ได้....ซึ่งเสียงของเธอก็ไพเราะพอสมควร ทุกครั้งที่ร้องเสร็จมักจะมีคำถามกลับมาเสมอว่า “หนูเสียงเหมือนพี่....” เค้าหรือยัง.....เราก็ให้กำลังใจไปเสมอว่าไม่เหมือนแค่มีเสียงบางจังหวะคล้ายๆเท่านั้น แต่ดูเธอจะไม่พอใจเสมอกับคำพูดที่ตรงๆ แบบถนอมน้ำใจลูก...
....ทุกครั้งที่เธอร้องเพลง ทุกครั้งที่เห็นเธอพูดถึงศิลปินท่านนี้แววตาเธอจะมีประกายมาก และจะพูดเสมอว่า “ป่ะป๋าหนูอยากเจอพี่เค้า” เราเองก็บอกไปเสมอว่า “คงมีสักวันนะ ป่ะป๋าจะลองดูว่าเป็นไปได้แค่ไหน แต่ไม่รับปากนะ” จนเวลาล่วงเลยไปนานพอควร จากอายุแปดเก้าขวบมาจนสิบเอ็ดขวบกว่าๆเธอก็มีโอกาสที่จะได้เจอแบบ..จังๆ......
....ลูกสาวผมมีโอกาสเป็นแขกเซอร์ไพรส ศิลปินท่านนั้น ในรายการนึง ซึ่งลูกสาวผมไม่ทราบมาก่อนว่า จะต้องเจออะไร วันนั้นเธอ อึ้งจนสั่นไปหมด เด็กน้อยอายุสิบเอ็ดขวบ ยืนต่อหน้าทีมงานรายการ ดีใจมาก หลังจากอัดรายการเสร็จ เธอมีโอกาสได้คุยเล็กๆน้อยๆและได้ถ่ายรูปร่วมกับศิลปินในดวงใจของเธอและวันนั้นเองก็เป็นวันทีเราพ่อแม่ ได้ขอที่อยู่ศิลปินท่านนั้นเพื่อที่จะให้ลูกเราได้มีโอกาสเขียนจดหมาย ...และทุกอย่างมันก็มีเรื่องที่ผมรู้สึกอึดอัดมากตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา....
.....เราเองในฐานะพ่อแม่เข้าใจความเป็นส่วนตัวของเหล่าศิลปินดีว่า หวงแหนมากแค่ไหน เราไม่ขออีเมล ไม่ขอไลน์หรืออะไรมากเพราะกลัวจะทำให้ศิลปินท่านนั้น สูญเสียความเป็นส่วนตัว....เราขอแค่ที่อยู่บ้านเลขที่ที่ลูกเราจะเขียนจดหมายส่งถึงเท่านั้น....ดูเหมือนจะดีแต่.....ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แบบนั้นเลย แต่ผมก็มักจะบอกเธอเสมอๆว่า ให้ลูกหัดเขียนจดหมายให้ดีก่อน ซึ่งตอนนั้นเรื่องแบบนี้ยากเสมอสำหรับเด็กน้อย....แล้วก็บอกเธฮไปว่า "เดี๋ยวป่ะป๋าจะเอาไปส่งให้ไม่ยากหรอกเรื่องนั้น" ตั้งแต่วันนั้น เธอตั้งใจมากในการเขียนจดหมาย เรียบเรียงอย่างตั้งใจ แต่ก็มีปรับมากมายเพราะไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้.....จดหมายฉบับแรกถูกส่งไปตามที่อยู่ที่ได้มาจากตัวศิลปิน......ปรากฏว่า!!! ถูกตีกลับมาที่บ้าน และทุกวันนี้ก็ยังอยู่ที่ผม..ซ่อนไว้อย่างดี...กลัวเธอเห็น........