พระเวสสันดร บริจาคลูกเมีย กับ ดราม่า งมงาย ของชาวพุทธนิกาย มโน

อ้างอิงมาจากกระทู้พระเวสสันดร ครับท่าน

http://ppantip.com/topic/33735177/

ประเด็นของเรื่อง ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ก็แค่มีบางท่านสงสัยว่า พระเวสสันดร บริจาคลูกเมียแบบนี้ จะไม่บาปหรือ ?
ซึ่งถ้าพิจารณาไปตามเนื้อผ้าด้วยมาตรฐานชาวพุทธ ก็ต้องตอบว่าบาป นั่นแหละครับ แต่บางท่าน เขาไปติดอยู่ที่คำว่า พระโพธิสัตว์
ก็เลยพยายามแถกแถ ทุกทาง เพื่อจะบอกว่า พระโพธิสัตว์ ทำแบบนี้ได้โดยไม่บาป ทั้งๆที่พระโพธิสัตว์ ถึงอย่างไรก็เป็นปุถุชน ย่อมทำผิดได้ ทำบาปได้เป็นธรรมดา

เหตุผล

1 ข้อเท็จจริง ก็คือ การบริจาคลูกเมีย มีค่าเท่ากับการบริจาคทรัพย์ เพราะสังคมสมัยโบราณเห็นว่า ลูกเมียคือทรัพย์
ที่พ่อแม่ สามี จะทำอย่างไรกับทรัพย์นั้นก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ พระอรรถกถาจารย์ ยืนยันว่า การบริจาคลูกเมียเป็นเพียงบารมีขั้นต้นเท่านั้น
หมายความว่า เมื่อเทียบกันแล้ว การบริจาคโลหิต(อุปบารมี) ยังเป็นการบำเพ็ญบารมีที่สูงส่งกว่าเสียอีก แต่ชาวพุทธพวกนี้เขาไม่ยอมรับ
กลับพยายามจะดราม่า มั่วนิ่มให้การบริจาคลูกเมีย สูงส่งกว่าการบริจาคโลหิตให้ได้


อนึ่ง การบริจาคบุตรภรรยาและอุปกรณ์มีทรัพย์เป็นต้นเป็นทานบารมี.
การบริจาคอวัยวะเป็นทานอุปบารมี.
การบริจาคชีวิตของตนเป็นทานปรมัตถบารมี.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.3&i=36&p=6


2 พระอรรถกถาจารย์ ยังอธิบายต่อไปอีกว่า ........


บารมีเฉยๆ เป็นธรรมขาวเจือด้วยธรรมดำของพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญอภินิหารในบารมีเหล่านั้น ประกอบด้วยอัธยาศัยน้อมไปในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น.
อุปบารมีเป็นธรรมขาวไม่เจือด้วยธรรมดำ.
อาจารย์บางพวกกล่าวว่า ปรมัตถบารมีเป็นธรรมไม่ดำไม่ขาว.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.3&i=36&p=6

 
ความหมายก็ไม่ซับซ้อนนะครับ ก็ในเมื่อ การบริจาคลูกเมียเป็นเพียงแค่ บารมีขั้นต้น
การกระทำดังกล่าวก็เป็น ธรรมขาวเจือกับธรรมดำ คือ กุศลเจือกับอกุศล บุญปนบาป ดีปนเลว ไม่ใช่ ดีล้วน บุญล้วน เหมือนกับอุปบารมี
เมื่อตำราระบุมาอย่างนี้ ที่กล่าวว่า การบริจาคลูกเมีย เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น เป็นบาปด้วย ไม่ใช่ว่าจะได้บุญบารมีอย่างเดียว จึงสอดคล้องไม่ขัดแย้งกันเลย

3 แต่เป็นเรื่องที่น่าตระหนกตกใจนะครับ ที่ชาวพุทธบางพวกในยุคปัจจุบัน จะหน้ามืดตามัว แสดงความชื่นชมยินดี
หรือเห็นดีเห็นงาม ไปกับการยกลูกเมียของพระเวสสันดรให้ตกไปเป็นข้าทาสของคนอื่น

คือการกระทำของพระเวสสันดรน่ะ ถือว่า ไม่แปลก ในบริบทของสังคมยุคทาส ยุคศักดินา แต่ถ้ามาทำในสมัยประชาธิปไตย พระเวสสันดร จะติดคุก นะครับท่าน
และก่อนที่จะหน้ามืดตามัวไปกว่านี้ ก็ควรทราบตามความจริงว่า การบริจาคลูกเมีย มีค่าเท่ากับบริจาคทรัพย์ เป็นแค่เพียง ทานบารมีขั้นต้นเท่านั้น
ไม่ได้ยิ่งใหญ่วิเศษวิโสอะไรเลย เพราะเมื่อเทียบกับคนสมัยนี้ ที่ไปบริจาคโลหิต(อุปบารมี) ยังนับว่าสูงส่งกว่าเลย นะครับท่าน

เฮ้ออออออออ

4 เรื่องสุดท้าย ก็คือ การพูดอิงอรรถอิงธรรมอย่างบัณฑิต

ที่จริงแล้ว ผมก็ไม่ได้บังคับว่า ท่านจะต้องเชื่อตามตำราเสมอไปนะครับ ท่านจะไม่เชื่อก็ได้ มีเหตุผลอย่างไร ก็แจกแจงกันมา ผมไม่มีปัญหาเลยครับ
ขอแค่อย่างเดียว คืออย่าสองมาตรฐาน ไม่ใช่ว่าตนเองพูดอย่างไรก็ได้ จะขัดจะแย้งกับตำราอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าคนอื่นทำบ้างจะถือว่าผิด

แบบนี้ไม่เอานะครับท่าน

ผมถือว่า หลักฐานทางตำรา มีไว้ให้รู้ ไม่ได้มีไว้ให้เชื่อ ดังนั้น จะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ครับท่าน แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่า หลักฐานว่าไง ไม่ใช่ทำเป็นไม่รับรู้ไปเสียเฉยๆ
อีกอย่างก็คือ ในเมื่อไม่เอาอรรถกถา ก็ขอให้ทรงจำตนเองเอาไว้ว่า ครั้งหนึ่งท่านก็ไม่สน ไม่เอาอรรถกถานะ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้หละ แต่ท่านปฏิเสธไปแล้ว
ดังนั้น ถ้าวันหนึ่ง ท่านไปติเตียนผู้อื่นในเรื่องนี้ ถือว่าท่านทำผิดนะครับ เพราะท่านทำสองมาตรฐาน คือตนเองทำได้ไม่ผิด แต่ไปบอกว่าคนอื่นทำแล้วผิด

ก็อยากให้ช่วยจำๆกันไว้ด้วยน่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่