สวัสดีค่ะ...ขอออกตัวก่อนนะคะว่านี่เป็นการทำรีวิวครั้งแรก
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ตะลุย...ตะลอนนนน...กันเลยดีกว่าค่ะ
ทริปนี้ใช้เวลาในการหาข้อมูลประมาณหนึ่งอาทิตย์กว่าๆ
เนื่องจากทริปนี้ซื้อเป็นแพคเกจเลยไม่ได้หารายละเอียดอะไรมากนอกจากที่พักและการเดินทาง
และแล้วเย็นวันพุธที่ตั้งตารอก็มาถึง...เลิกงานปุ๊บรีบกลับบ้านมาเก็บของ...และออกจากบ้านไปขนส่งเอกมัย
แต่กว่าจะถึงเวลารถออกยังมีเวลาเหลือ เลยไปนั่งเล่นที่ แมคโดนัล เมเจอร์เอกมัย (ที่นี่ปิดเที่ยงคืนนะคะ)
พอได้เวลาสี่ทุ่มกว่าๆ เราก็เดินไปที่สถานีขนส่งเอกมัย
ถึงเวลาไม่รอช้า...ล้อรถเริ่มแล่นออกเดินทางไปยังจุดหมาย นั่นคือ บขส.ตราด
เราเดินทางด้วยรถเที่ยวสุดท้าย 23.30 น. ส่วนตั๋วเรามาซื้อไว้ล่วงหน้า
ซื้อตั๋วไปกลับทีเดียวเลย ทำให้ราคาตั๋วของขากลับลดไป 30 บาท แถมไม่กำหนดวันและเวลากลับด้วย
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีอายุ 30 วัน ภายใน 30 วันจะกลับวันไหนเวลาไหนก็ตามสะดวกเลยค่ะ
หลับๆตื่นๆไปตลอดทาง รู้สึกตัวอีกที...อ้าวถึงแล้วหรอ ดูนาฬิกา...โอ้บร๊ะจ้าวววว....ตีสี่
ไม่น่ากลัวค่ะ ไฟสว่างมากกกก...และมีรถสองแถวมารอรับนักท่องเที่ยวหลายคันเลย
พอมาถึงก็โทรหาคุณลุงเปี๊ยกให้มารับได้เลยค่ะ แต่กลับพบว่าคุณลุงเขามารอรับอยู่ที่บขส.แล้ว
คุณลุงเป็นคนของรีสอร์ทค่ะ มารับและพาเราไปพักผ่อนที่ห้องรับรองค่ะ เพื่อรอเวลา
ที่นี่มีกาแฟ น้ำเปล่า น้ำแข็งเตรียมไว้ให้พร้อมเลยค่ะ
พอถึงเวลา 8.30 น. คุณลุงก็มารับพาไปทานข้าวเช้า (มื้อนี้จ่ายกันเองนะคะ)
ทานเสร็จคุณลุงก็พากลับมาส่งที่รับรอง และมารับอีกที 10.30 น. เพื่อพาไปท่าเรือ
พอถึงท่าเรือ...คุณลุงก็จัดแจงซื้อตั๋วให้ทั้งขาไปและขากลับ
ขาไปเรือออก 12.30 น. ส่วนขากลับ 10:00 น.
จัดการเรื่องตั๋วเสร็จคุณลุงก็ขับรถไปสั่งอาหารแล้วขับกลับมารับไปทานข้าวกลางวันค่ะ (อร่อยทุกอย่างเลย)
เป็นมื้อแรกของแพคเกจนะคะ เนื่องจากกว่าจะไปถึงเกาะกูดก็เกือบบ่ายสอง
พออิ่มท้องแล้ว คุณลุงก็พามาส่งขึ้นเรือ
ขณะที่เรือแล่นไปยังเกาะกูด ก็พักสายตากันไปค่ะ ตื่นอีกทีตอนเรือใกล้จะถึงละ
พอขึ้นจากเรือแล้วก็เจอคุณลุงอีกคนเดินเข้ามาหาแล้วพาไปขึ้นรถ (เป็นคนของทางรีสอร์ทเช่นกัน)
ที่ท่าเรือมีรถมาจอดรอรับนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด บรรยากาศตอนนั้นไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้นะคะ
จากการสอบถามลุงทวี (คุณลุงที่มารับ แต่ชื่อคุณลุงได้ยินคนอื่นเรียกนะคะ)
ได้ใจความว่าทางท่าเรือจะมีรถบริการฟรีสำหรับนำส่งรีสอร์ท
เขาจะระบุไปเลยว่าคันไหนไปส่งรีสอร์ทไหน
ส่วนที่ต้องมาขึ้นที่ท่าเรืออ่าวสลัดนี้เป็นเพราะช่วงนี้เริ่มเข้าหน้ามรสุม
ทำให้อีกฝั่งของเกาะมีคลื่นแรง เรือเลยเปลี่ยนมาส่งที่ท่านี้กันหมด
(ซึ่งรีสอร์ทที่ไปพักก็อยู่ทางฝั่งที่คลื่นแรงในตอนนี้นะคะ)
ถึงรีสอร์ทแล้วค่ะ
มาถึงก็ไปเก็บสัมภาระ พักผ่อนประมาณ 10-15 นาที ก่อนเดินทางไปเที่ยวน้ำตกต่อ
ได้ห้องหมายเลข 18 ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องพัก...
ส่วนภาพนี้เป็นวิวที่ถ่ายจากระเบียงห้องพักเลย ถือว่าวิวดีมากๆค่ะ
มองเห็นสะพานที่ยื่นไปในทะเลด้วยยยยย....
ห้องพักที่ได้อยู่ริมสุดเลยค่ะ วันที่ไปถึงเป็นวันพฤหัส มีเพื่อนร่วมพักแค่ 1 ห้อง
เงียบสงบมากเลยค่ะ…ชอบๆๆๆๆ
ได้เวลาไปเที่ยวน้ำตกแล้ว
พอลงจากรถแล้วต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร
เดินมาได้สักพักจะมีป้ายน้ำตกคลองเจ้า....ค่ะ
ที่น้ำตกไม่มีคนเลยค่ะ เพราะตอนเดินเข้าไปนักท่องเที่ยวเดินสวนออกมากันพอดี
เลยได้ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบมากๆ
ส่วนนี่ค่ะ..คุณลุงทวีก็เข้ามาคอยข้างในด้วย
หลังจากกลับมาจากน้ำตกก็มาทานอาหารว่างค่ะ
ทานเสร็จก็ไปเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศกันต่อ...หาดที่นี่มีทั้งฝั่งโขดหินและฝั่งหาดทราย
ปูลอกคราบมั๊งคะเนี่ย!!!
น้ำกระเซ็นนนนน...
ปูตัวดำ
หอยเกาะหิน
เปลนอนชมวิว...เป็นอีกมุมที่นอนสบาย
เพื่อนร่วมเกาะ
โขดหินสีดำ
และนี่เป็นสะพานไม้ที่ยื่นไปในทะเล 1 ใน 10 ที่ชิลไปไหนแนะนำไว้
ต้นมะพร้าวยืนเรียงรายกันเป็นแถว
เรื่องราวของวันแรกหมดลงพร้อมกับอาหารมื้อค่ำของคืนแรก...อิ่มมากๆ
เริ่มต้นวันใหม่กับอาหารเช้า มีข้าวต้มปลา,ขนมปัง,ชา,กาแฟและโอวันติน
พออิ่มก็ต้องเตรียมตัวไปดำน้ำตอน 10 โมง ซึ่งจะมีเรือสปีดโบ้ทมารับที่หน้าหาด
นั่งสปีดโบ้ทไปดำน้ำนี่อวัยวะภายในแทบพังเหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกยังไงยังงั้นนนนนนน
เกาะแรกที่ไปดำน้ำคือเกาะรัง แต่ไม่ค่อยได้ดำเท่าไร เมาเรือค่ะได้แต่อยู่ในน้ำนิ่งๆ ขึ้นบนเรืออาการจะหนักขึ้น
เลยดำดูแถวๆเรือก็พอละกัน ไม่มีแรงเก็บรูปใต้น้ำมาฝาก
พี่เสื้อเขียวเป็นคนขับเรือสปีดโบ้ทค่ะ
เรืออีกลำที่พานักท่องเที่ยวมาดำน้ำ
หลังจากดำน้ำที่เกาะรังเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งเรือมาหาดศาลเจ้าเพื่อแวะทานข้าวกลางวันกันที่นี่
มื้อกลางวันนี้เป็นข้าวกล่องค่ะ มีให้เลือกระหว่างข้าวผัดกับผัดกระเพรา และก็ผลไม้
ทานกันเสร็จก็เดินเล่นพักผ่อนตามอัธยาศัยสักพักก่อนไปดำน้ำกันต่อที่เกาะยักษ์
พอถึงเกาะยักษ์..อาการเมาเรือดีขึ้นนิดนึง เลยตัดสินใจไปดำน้ำรอบเกาะ
ไปได้สักพักเริ่มเหนื่อยเลยว่ายไปเกาะห่วงยางให้เจ้าหน้าที่ลากไป...วันนี้น้ำค่อนข้างเชี่ยว
ถึงเวลานั่งเรือกลับรีสอร์ทอาการเมาเรือกำเริบ 555
พอถึงรีสอร์ทก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทานอาหารว่างกัน
จากนั้นไม่ไหวจริงๆ ยังเพลียๆกับอาการเมาเรือ เลยต้องกลับไปนอนพักก่อน
ตื่นมาอีกที...อุต๊ะ...นี่ 6 โมงเย็นแล้วหรอ รีบนำร่างออกไปดูพระอาทิตย์ยามเย็นดีกว่า
แต่พระอาทิตย์ถูกบดบังด้วยสายฝน บรรยากาศดูฮึมครึมแบบบอกไม่ถูก
แต่ก็ยังตัดสินใจนั่งชมวิวอยู่ที่สะพานไม้ไม่ไปไหน แบบกลัวๆนิดๆ
สักพักก็ได้เห็นพระอาทิตย์ระหว่างสายฝน
ก่อนเดินกลับไปทานข้าวมื้อค่ำเลยเก็บภาพสะพานในเวลานี้อีกสักรูป
มาถึงโต๊ะอาหาร..เจ้าหน้าที่ก็นำอาหารมาเสิร์ฟ เป็นอาหารหารมื้อค่ำของคืนที่สอง (คืนสุดท้ายแล้ว)
แต่วันนี้ไม่เงียบสงบเหมือนเมื่อวาน เพราะวันนี้มีทัวร์มาลง มีร้องคาราโอเกะกันด้วย
เสร็จจากอาหารมื้อค่ำก็กลับห้องอาบน้ำ..นอน
เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นเก็บกระเป๋า ต้องกลับเรือรอบ 10 โมงเช้า
และแล้วเช้าวันสุดท้ายบนเกาะกูดก็มาถึง...กินอีกละ...ข้าวเช้าเป็นข้าวต้มกุ้ง,ขนมปัง,ชา,กาแฟและโอวันติน
ทานเสร็จก็เคลียร์ค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ คืนกุญแจ
สักพักลุงทวีก็มารับไปส่งที่ท่าเรืออ่าวสลัด แล้วขอตัวกลับไปก่อนเพราะต้องไปรับคนที่รีสอร์ทมาขึ้นเรือไปดำน้ำที่ท่าเรือนี้อีก
เนื่องจากวันนี้คลื่นแรงกว่าเมื่อวาน ทริปดำน้ำของวันนี้เลยต้องมาดำแถวๆอ่าวสลัดแทน
ซึ่งลุงบอกว่าจะไม่สวยเท่าเกาะที่ได้ไปดำเมื่อวาน
แถวนี้หอยเม่นเพียบเลยค่ะ
ภาพเรือลำน้อยกลางทะเลที่กว้างใหญ่ค่ะ
[CR] สะพายเป้...เที่ยวทะเล@เกาะกูด
สวัสดีค่ะ...ขอออกตัวก่อนนะคะว่านี่เป็นการทำรีวิวครั้งแรก
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ตะลุย...ตะลอนนนน...กันเลยดีกว่าค่ะ
ทริปนี้ใช้เวลาในการหาข้อมูลประมาณหนึ่งอาทิตย์กว่าๆ
เนื่องจากทริปนี้ซื้อเป็นแพคเกจเลยไม่ได้หารายละเอียดอะไรมากนอกจากที่พักและการเดินทาง
และแล้วเย็นวันพุธที่ตั้งตารอก็มาถึง...เลิกงานปุ๊บรีบกลับบ้านมาเก็บของ...และออกจากบ้านไปขนส่งเอกมัย
แต่กว่าจะถึงเวลารถออกยังมีเวลาเหลือ เลยไปนั่งเล่นที่ แมคโดนัล เมเจอร์เอกมัย (ที่นี่ปิดเที่ยงคืนนะคะ)
พอได้เวลาสี่ทุ่มกว่าๆ เราก็เดินไปที่สถานีขนส่งเอกมัย
ถึงเวลาไม่รอช้า...ล้อรถเริ่มแล่นออกเดินทางไปยังจุดหมาย นั่นคือ บขส.ตราด
เราเดินทางด้วยรถเที่ยวสุดท้าย 23.30 น. ส่วนตั๋วเรามาซื้อไว้ล่วงหน้า
ซื้อตั๋วไปกลับทีเดียวเลย ทำให้ราคาตั๋วของขากลับลดไป 30 บาท แถมไม่กำหนดวันและเวลากลับด้วย
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีอายุ 30 วัน ภายใน 30 วันจะกลับวันไหนเวลาไหนก็ตามสะดวกเลยค่ะ
หลับๆตื่นๆไปตลอดทาง รู้สึกตัวอีกที...อ้าวถึงแล้วหรอ ดูนาฬิกา...โอ้บร๊ะจ้าวววว....ตีสี่
ไม่น่ากลัวค่ะ ไฟสว่างมากกกก...และมีรถสองแถวมารอรับนักท่องเที่ยวหลายคันเลย
พอมาถึงก็โทรหาคุณลุงเปี๊ยกให้มารับได้เลยค่ะ แต่กลับพบว่าคุณลุงเขามารอรับอยู่ที่บขส.แล้ว
คุณลุงเป็นคนของรีสอร์ทค่ะ มารับและพาเราไปพักผ่อนที่ห้องรับรองค่ะ เพื่อรอเวลา
ที่นี่มีกาแฟ น้ำเปล่า น้ำแข็งเตรียมไว้ให้พร้อมเลยค่ะ
พอถึงเวลา 8.30 น. คุณลุงก็มารับพาไปทานข้าวเช้า (มื้อนี้จ่ายกันเองนะคะ)
ทานเสร็จคุณลุงก็พากลับมาส่งที่รับรอง และมารับอีกที 10.30 น. เพื่อพาไปท่าเรือ
พอถึงท่าเรือ...คุณลุงก็จัดแจงซื้อตั๋วให้ทั้งขาไปและขากลับ
ขาไปเรือออก 12.30 น. ส่วนขากลับ 10:00 น.
จัดการเรื่องตั๋วเสร็จคุณลุงก็ขับรถไปสั่งอาหารแล้วขับกลับมารับไปทานข้าวกลางวันค่ะ (อร่อยทุกอย่างเลย)
เป็นมื้อแรกของแพคเกจนะคะ เนื่องจากกว่าจะไปถึงเกาะกูดก็เกือบบ่ายสอง
พออิ่มท้องแล้ว คุณลุงก็พามาส่งขึ้นเรือ
ขณะที่เรือแล่นไปยังเกาะกูด ก็พักสายตากันไปค่ะ ตื่นอีกทีตอนเรือใกล้จะถึงละ
พอขึ้นจากเรือแล้วก็เจอคุณลุงอีกคนเดินเข้ามาหาแล้วพาไปขึ้นรถ (เป็นคนของทางรีสอร์ทเช่นกัน)
ที่ท่าเรือมีรถมาจอดรอรับนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด บรรยากาศตอนนั้นไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้นะคะ
จากการสอบถามลุงทวี (คุณลุงที่มารับ แต่ชื่อคุณลุงได้ยินคนอื่นเรียกนะคะ)
ได้ใจความว่าทางท่าเรือจะมีรถบริการฟรีสำหรับนำส่งรีสอร์ท
เขาจะระบุไปเลยว่าคันไหนไปส่งรีสอร์ทไหน
ส่วนที่ต้องมาขึ้นที่ท่าเรืออ่าวสลัดนี้เป็นเพราะช่วงนี้เริ่มเข้าหน้ามรสุม
ทำให้อีกฝั่งของเกาะมีคลื่นแรง เรือเลยเปลี่ยนมาส่งที่ท่านี้กันหมด
(ซึ่งรีสอร์ทที่ไปพักก็อยู่ทางฝั่งที่คลื่นแรงในตอนนี้นะคะ)
ถึงรีสอร์ทแล้วค่ะ
มาถึงก็ไปเก็บสัมภาระ พักผ่อนประมาณ 10-15 นาที ก่อนเดินทางไปเที่ยวน้ำตกต่อ
ได้ห้องหมายเลข 18 ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องพัก...
ส่วนภาพนี้เป็นวิวที่ถ่ายจากระเบียงห้องพักเลย ถือว่าวิวดีมากๆค่ะ
มองเห็นสะพานที่ยื่นไปในทะเลด้วยยยยย....
ห้องพักที่ได้อยู่ริมสุดเลยค่ะ วันที่ไปถึงเป็นวันพฤหัส มีเพื่อนร่วมพักแค่ 1 ห้อง
เงียบสงบมากเลยค่ะ…ชอบๆๆๆๆ
ได้เวลาไปเที่ยวน้ำตกแล้ว
พอลงจากรถแล้วต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร
เดินมาได้สักพักจะมีป้ายน้ำตกคลองเจ้า....ค่ะ
ที่น้ำตกไม่มีคนเลยค่ะ เพราะตอนเดินเข้าไปนักท่องเที่ยวเดินสวนออกมากันพอดี
เลยได้ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบมากๆ
ส่วนนี่ค่ะ..คุณลุงทวีก็เข้ามาคอยข้างในด้วย
หลังจากกลับมาจากน้ำตกก็มาทานอาหารว่างค่ะ
ทานเสร็จก็ไปเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศกันต่อ...หาดที่นี่มีทั้งฝั่งโขดหินและฝั่งหาดทราย
ปูลอกคราบมั๊งคะเนี่ย!!!
น้ำกระเซ็นนนนน...
ปูตัวดำ
หอยเกาะหิน
เปลนอนชมวิว...เป็นอีกมุมที่นอนสบาย
เพื่อนร่วมเกาะ
โขดหินสีดำ
และนี่เป็นสะพานไม้ที่ยื่นไปในทะเล 1 ใน 10 ที่ชิลไปไหนแนะนำไว้
ต้นมะพร้าวยืนเรียงรายกันเป็นแถว
เรื่องราวของวันแรกหมดลงพร้อมกับอาหารมื้อค่ำของคืนแรก...อิ่มมากๆ
เริ่มต้นวันใหม่กับอาหารเช้า มีข้าวต้มปลา,ขนมปัง,ชา,กาแฟและโอวันติน
พออิ่มก็ต้องเตรียมตัวไปดำน้ำตอน 10 โมง ซึ่งจะมีเรือสปีดโบ้ทมารับที่หน้าหาด
นั่งสปีดโบ้ทไปดำน้ำนี่อวัยวะภายในแทบพังเหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกยังไงยังงั้นนนนนนน
เกาะแรกที่ไปดำน้ำคือเกาะรัง แต่ไม่ค่อยได้ดำเท่าไร เมาเรือค่ะได้แต่อยู่ในน้ำนิ่งๆ ขึ้นบนเรืออาการจะหนักขึ้น
เลยดำดูแถวๆเรือก็พอละกัน ไม่มีแรงเก็บรูปใต้น้ำมาฝาก
พี่เสื้อเขียวเป็นคนขับเรือสปีดโบ้ทค่ะ
เรืออีกลำที่พานักท่องเที่ยวมาดำน้ำ
หลังจากดำน้ำที่เกาะรังเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งเรือมาหาดศาลเจ้าเพื่อแวะทานข้าวกลางวันกันที่นี่
มื้อกลางวันนี้เป็นข้าวกล่องค่ะ มีให้เลือกระหว่างข้าวผัดกับผัดกระเพรา และก็ผลไม้
ทานกันเสร็จก็เดินเล่นพักผ่อนตามอัธยาศัยสักพักก่อนไปดำน้ำกันต่อที่เกาะยักษ์
พอถึงเกาะยักษ์..อาการเมาเรือดีขึ้นนิดนึง เลยตัดสินใจไปดำน้ำรอบเกาะ
ไปได้สักพักเริ่มเหนื่อยเลยว่ายไปเกาะห่วงยางให้เจ้าหน้าที่ลากไป...วันนี้น้ำค่อนข้างเชี่ยว
ถึงเวลานั่งเรือกลับรีสอร์ทอาการเมาเรือกำเริบ 555
พอถึงรีสอร์ทก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทานอาหารว่างกัน
จากนั้นไม่ไหวจริงๆ ยังเพลียๆกับอาการเมาเรือ เลยต้องกลับไปนอนพักก่อน
ตื่นมาอีกที...อุต๊ะ...นี่ 6 โมงเย็นแล้วหรอ รีบนำร่างออกไปดูพระอาทิตย์ยามเย็นดีกว่า
แต่พระอาทิตย์ถูกบดบังด้วยสายฝน บรรยากาศดูฮึมครึมแบบบอกไม่ถูก
แต่ก็ยังตัดสินใจนั่งชมวิวอยู่ที่สะพานไม้ไม่ไปไหน แบบกลัวๆนิดๆ
สักพักก็ได้เห็นพระอาทิตย์ระหว่างสายฝน
ก่อนเดินกลับไปทานข้าวมื้อค่ำเลยเก็บภาพสะพานในเวลานี้อีกสักรูป
มาถึงโต๊ะอาหาร..เจ้าหน้าที่ก็นำอาหารมาเสิร์ฟ เป็นอาหารหารมื้อค่ำของคืนที่สอง (คืนสุดท้ายแล้ว)
แต่วันนี้ไม่เงียบสงบเหมือนเมื่อวาน เพราะวันนี้มีทัวร์มาลง มีร้องคาราโอเกะกันด้วย
เสร็จจากอาหารมื้อค่ำก็กลับห้องอาบน้ำ..นอน
เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นเก็บกระเป๋า ต้องกลับเรือรอบ 10 โมงเช้า
และแล้วเช้าวันสุดท้ายบนเกาะกูดก็มาถึง...กินอีกละ...ข้าวเช้าเป็นข้าวต้มกุ้ง,ขนมปัง,ชา,กาแฟและโอวันติน
ทานเสร็จก็เคลียร์ค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ คืนกุญแจ
สักพักลุงทวีก็มารับไปส่งที่ท่าเรืออ่าวสลัด แล้วขอตัวกลับไปก่อนเพราะต้องไปรับคนที่รีสอร์ทมาขึ้นเรือไปดำน้ำที่ท่าเรือนี้อีก
เนื่องจากวันนี้คลื่นแรงกว่าเมื่อวาน ทริปดำน้ำของวันนี้เลยต้องมาดำแถวๆอ่าวสลัดแทน
ซึ่งลุงบอกว่าจะไม่สวยเท่าเกาะที่ได้ไปดำเมื่อวาน
แถวนี้หอยเม่นเพียบเลยค่ะ
ภาพเรือลำน้อยกลางทะเลที่กว้างใหญ่ค่ะ