สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ อยากเตือนภัยคนที่ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบไปเที่ยวคนเดียวต่างบ้านต่างเมือง ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเขียนไม่ค่อยเก่ง แฮ่ จะพยายามสรุปแบบรวบรัดนะคะ
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่เมืองเล็กๆเมืองนึงในประเทศสวีเดน หลังจากเรียนจบเทอมใกล้จะกลับประเทศไทยแล้วก็มีแพลนอยากจะไปเที่ยวประเทศรอบๆในยุโรป ตั้งแต่ 26 พ.ค. - 15 มิ.ย. เราก็นั่งรถไฟจากเมืองที่เรียนอยู่ไปที่ stockholm วันที่ 25 พ.ค. ตอนเช้า ถึงจุดหมายปลายทางประมาณเที่ยง พอดีมีเวลาว่างเยอะเลยอยากเข้าไปเดินในเมืองเก่า (old town) ของที่นี่ เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟหลักด้วย
พอถึงย่าน old town แล้ว ก็เดินชมรอบๆเมือง ซักพักหนึ่งก็รู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม จนกระทั่งเดินเข้ามาในซอยเล็กๆซอยนึง ซึ่งไม่เปลี่ยวมาก ลักษณะเป็นซอยหลายๆซอยตัดกัน ตรงหัวมุมเป็นร้านอาหาร/นั่งชิว คนเยอะพอสมควร แต่ในซอยไม่มีคนเดินเท่าไหร่ ใกล้ๆกันทางซอยด้านขวามีพนักงานสาวเช็ดโต๊ะอยู่ และเดินเข้าๆออกๆร้าน ตอนกำลังเดินมีผู้หญิง 3 คนเดินตามมาพร้อมคุยกันซึ่งจขกท พอจะเข้าใจบ้างว่าพวกนางพูดถึงอยู่ ประมาณว่าคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนประเทศไหน อีกคนบอกน่าจะมาจากจีนนะ บลาๆ ตอนนั้นเข้าใจว่าพวกนางเป็นนักท่องเที่ยวเลยไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นเราก็หยุดยืนถ่ายรูปวิวตึกเก่าๆ และหยุดยืนมองไปรอบๆพร้อมเก็บโทรศัพท์ไว้ที่กระเป๋าเสื้อตรงท้องข้างขวา พวกนางเดินมาล้อมรอบลักษณะครึ่งวงกลม ไม่ให้เราเดินหนี คนนึงตรงหน้ายื่นกระดาษมาแล้วบอกจะให้เซ็นอะไรซักอย่างสำหรับคนเร่ร่อน บลาๆ เราบอกไปว่าไม่ๆ แล้จะเดินหนี พวกนางก็เดินบัง ไม่ให้ออกจากครึ่งวงกลม เราก็ว่ามันแปลกๆละ เลยเอามือมาจับกระเป๋าเสื้อที่ใส่ของไว้ ด้านซ้ายเป็นกระเป๋าตังค์+พาสปอร์ต ด้านขวาเป็นโทรศัพท์+วีซ่า แต่เราจับแค่ด้านซ้าย เพราะมือขวาต้องลากกระเป๋า สุดท้ายทนไม่ไหวที่พวกนางตื๊อ เลยตะโกนเสียงดังๆว่าไม่เอา แล้วเดินหนีเข้าซอยด้านซ้ายมืออย่างเร็วๆ ไม่ถึงหนึ่งนาทีเพิ่งนึกได้ว่าเคยอ่านจากซักกระทู้ในนี้ว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ เลยสำรวจตัวเองว่ามีอะไรหายไปบ้าง มีโทรศัพท์ iPhone6+ กับวีซ่าหาย แล้วก็บัตรอื่นๆอีกนิดหน่อย T^T เลยวิ่งไปหาพนักงานผู้หญิงที่กำลังเก็บร้าน แล้วบอกว่าโทรศัพท์โดนขโมย ขอฝากกระเป๋าหน่อย แล้ววิ่งตามพวกนางไป สรุปว่าหายไปกันหมดแล้วจ้า T^T
หลังจากนั้นก็เดินวนๆหาอยู่หลายรอบ จนคิดว่าคงไม่เจอเลยวิ่งกลับไปหาพนักงานคนเดิม ขอยืมโทรศัพท์เค้าเพื่อจะใช้ find my iPhone เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่ถึง 5 นาที สรุปพวกนางปิดเครื่องหายไปกันหมดแล้ว ไวกันมาก T^T
หลังจากขอบคุณพนักงานที่ช่วยเหลือคนนั้นแล้วก็พยายามตามหาตำรวจ แต่ไม่มีเลยยยยยยยย เลยเดินไปที่ Palace มีทหารยืนเท่ๆอยู่ที่นั่น พอไปสอบถามเค้าบอกที่นี่ไม่มีตำรวจ!!!! อะไรกันนี่ แล้วก็บอกว่าเค้าช่วยไม่ได้หรอก เราเลยรีบเดินกลับไปที่สถานีรถไฟ จะได้ไปถาม tourist Info พนักงานบอกให้ขึ้นไปชั้น 2 ของสถานีรถไฟ จะมีห้องตำรวจเล็กๆอยู่ ตอนนั้นจำได้แม่นมากว่า 4 โมง 16 นาที พอไปถึงปุ๊ป.. ตำรวจปิดตอน 4 โมงค่า T^T ถามคนแถวนั้นได้ความว่าต้องเดินออกไปนอกสถานี จะมีสถานีตำรวจใหญ่อยู่ คนสวีเดนแท้ๆเค้าช่วยเหลือดีมาก ระหว่างทางที่ตามหาสถานีรถไฟก็ได้คนสวีเดนคอยช่วยตลอด จนถึงสถานีตำรวจประมาณ 5 โมงครึ่ง! ตำรวจที่นี่น่ารักมากค่ะ ช่วยเหลือดีมาก หลังจากเค้าสอบถามเหตุการณ์และปริ้น report เสร็จ ก็ปริ้นที่อยู่กับแผนที่ migration ที่ต้องไปทำวีซ่ามาให้ด้วย
สรุปเลยนะคะว่า ไปเที่ยวคนเดียวก็ระวังๆกันไว้ด้วยนะคะ เราไปเที่ยวคนเดียวบ่อยๆ เราก็คิดว่าเราระวังตัวเองดีมากแล้ว แต่ก็ยังโดนพวกมิจฉาชีพมาฉกของไปจนได้ T^T หรือถ้าพลาดไปแล้วก็ต้องตั้งสติมากๆนะคะ เพราะจะช็อคมากเลยตอนนั้น ถ้ามีใครสงสัยว่าถ้าวีซ่าหายต่างประเทศต้องทำอะไรยังไงต่อ จะมาเล่าให้ฟังอีกทีในคอมเม้นนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
เตือนภัยมิจฉาชีพในต่างแดนค่ะ
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่เมืองเล็กๆเมืองนึงในประเทศสวีเดน หลังจากเรียนจบเทอมใกล้จะกลับประเทศไทยแล้วก็มีแพลนอยากจะไปเที่ยวประเทศรอบๆในยุโรป ตั้งแต่ 26 พ.ค. - 15 มิ.ย. เราก็นั่งรถไฟจากเมืองที่เรียนอยู่ไปที่ stockholm วันที่ 25 พ.ค. ตอนเช้า ถึงจุดหมายปลายทางประมาณเที่ยง พอดีมีเวลาว่างเยอะเลยอยากเข้าไปเดินในเมืองเก่า (old town) ของที่นี่ เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟหลักด้วย
พอถึงย่าน old town แล้ว ก็เดินชมรอบๆเมือง ซักพักหนึ่งก็รู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม จนกระทั่งเดินเข้ามาในซอยเล็กๆซอยนึง ซึ่งไม่เปลี่ยวมาก ลักษณะเป็นซอยหลายๆซอยตัดกัน ตรงหัวมุมเป็นร้านอาหาร/นั่งชิว คนเยอะพอสมควร แต่ในซอยไม่มีคนเดินเท่าไหร่ ใกล้ๆกันทางซอยด้านขวามีพนักงานสาวเช็ดโต๊ะอยู่ และเดินเข้าๆออกๆร้าน ตอนกำลังเดินมีผู้หญิง 3 คนเดินตามมาพร้อมคุยกันซึ่งจขกท พอจะเข้าใจบ้างว่าพวกนางพูดถึงอยู่ ประมาณว่าคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนประเทศไหน อีกคนบอกน่าจะมาจากจีนนะ บลาๆ ตอนนั้นเข้าใจว่าพวกนางเป็นนักท่องเที่ยวเลยไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นเราก็หยุดยืนถ่ายรูปวิวตึกเก่าๆ และหยุดยืนมองไปรอบๆพร้อมเก็บโทรศัพท์ไว้ที่กระเป๋าเสื้อตรงท้องข้างขวา พวกนางเดินมาล้อมรอบลักษณะครึ่งวงกลม ไม่ให้เราเดินหนี คนนึงตรงหน้ายื่นกระดาษมาแล้วบอกจะให้เซ็นอะไรซักอย่างสำหรับคนเร่ร่อน บลาๆ เราบอกไปว่าไม่ๆ แล้จะเดินหนี พวกนางก็เดินบัง ไม่ให้ออกจากครึ่งวงกลม เราก็ว่ามันแปลกๆละ เลยเอามือมาจับกระเป๋าเสื้อที่ใส่ของไว้ ด้านซ้ายเป็นกระเป๋าตังค์+พาสปอร์ต ด้านขวาเป็นโทรศัพท์+วีซ่า แต่เราจับแค่ด้านซ้าย เพราะมือขวาต้องลากกระเป๋า สุดท้ายทนไม่ไหวที่พวกนางตื๊อ เลยตะโกนเสียงดังๆว่าไม่เอา แล้วเดินหนีเข้าซอยด้านซ้ายมืออย่างเร็วๆ ไม่ถึงหนึ่งนาทีเพิ่งนึกได้ว่าเคยอ่านจากซักกระทู้ในนี้ว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ เลยสำรวจตัวเองว่ามีอะไรหายไปบ้าง มีโทรศัพท์ iPhone6+ กับวีซ่าหาย แล้วก็บัตรอื่นๆอีกนิดหน่อย T^T เลยวิ่งไปหาพนักงานผู้หญิงที่กำลังเก็บร้าน แล้วบอกว่าโทรศัพท์โดนขโมย ขอฝากกระเป๋าหน่อย แล้ววิ่งตามพวกนางไป สรุปว่าหายไปกันหมดแล้วจ้า T^T
หลังจากนั้นก็เดินวนๆหาอยู่หลายรอบ จนคิดว่าคงไม่เจอเลยวิ่งกลับไปหาพนักงานคนเดิม ขอยืมโทรศัพท์เค้าเพื่อจะใช้ find my iPhone เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่ถึง 5 นาที สรุปพวกนางปิดเครื่องหายไปกันหมดแล้ว ไวกันมาก T^T
หลังจากขอบคุณพนักงานที่ช่วยเหลือคนนั้นแล้วก็พยายามตามหาตำรวจ แต่ไม่มีเลยยยยยยยย เลยเดินไปที่ Palace มีทหารยืนเท่ๆอยู่ที่นั่น พอไปสอบถามเค้าบอกที่นี่ไม่มีตำรวจ!!!! อะไรกันนี่ แล้วก็บอกว่าเค้าช่วยไม่ได้หรอก เราเลยรีบเดินกลับไปที่สถานีรถไฟ จะได้ไปถาม tourist Info พนักงานบอกให้ขึ้นไปชั้น 2 ของสถานีรถไฟ จะมีห้องตำรวจเล็กๆอยู่ ตอนนั้นจำได้แม่นมากว่า 4 โมง 16 นาที พอไปถึงปุ๊ป.. ตำรวจปิดตอน 4 โมงค่า T^T ถามคนแถวนั้นได้ความว่าต้องเดินออกไปนอกสถานี จะมีสถานีตำรวจใหญ่อยู่ คนสวีเดนแท้ๆเค้าช่วยเหลือดีมาก ระหว่างทางที่ตามหาสถานีรถไฟก็ได้คนสวีเดนคอยช่วยตลอด จนถึงสถานีตำรวจประมาณ 5 โมงครึ่ง! ตำรวจที่นี่น่ารักมากค่ะ ช่วยเหลือดีมาก หลังจากเค้าสอบถามเหตุการณ์และปริ้น report เสร็จ ก็ปริ้นที่อยู่กับแผนที่ migration ที่ต้องไปทำวีซ่ามาให้ด้วย
สรุปเลยนะคะว่า ไปเที่ยวคนเดียวก็ระวังๆกันไว้ด้วยนะคะ เราไปเที่ยวคนเดียวบ่อยๆ เราก็คิดว่าเราระวังตัวเองดีมากแล้ว แต่ก็ยังโดนพวกมิจฉาชีพมาฉกของไปจนได้ T^T หรือถ้าพลาดไปแล้วก็ต้องตั้งสติมากๆนะคะ เพราะจะช็อคมากเลยตอนนั้น ถ้ามีใครสงสัยว่าถ้าวีซ่าหายต่างประเทศต้องทำอะไรยังไงต่อ จะมาเล่าให้ฟังอีกทีในคอมเม้นนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ