จริงๆแล้ว ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะจะไปดูคอนเสิร์ตของนักร้องวงโปรดค่ะ
เพราะเกิดโชคดี จองบัตรคอนเสิร์ตได้แบบเกินความคาดหมาย
นับจากวันที่รู้ว่าได้ตั๋วคอนเสิร์ต เราจะต้องทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ ต้องไปยื่นเรื่องขอวีซ่า
จองที่พัก หาตั๋วเครื่องบินที่ราคาพอรับได้ ทุกสิ่งทำด้วยความฉุกละหุก
เพราะเดือนเมษายน มีวันหยุดเยอะมากกกก สงกรานต์ก็ไปเที่ยวตจว.อีก
แต่เหมือนดวงจะให้ได้ไป ทุกสิ่งทุกอย่างจึงลงตัวในที่สุด
เหลือแต่เรื่องเที่ยว ที่แทบจะไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย
มีแค่หนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นของเพื่อน 1 เล่ม ก็บินลัดฟ้าไปเลยค่ะ ^^"
ทริปนี้ไปลุยกันแค่ 2 สาว มีกำหนดเวลา 5 วัน 4 คืน
จริงๆอยากจะไปตั้งแต่คืน 30 เม.ย. แต่ติดที่ใช้ตั๋วโปร 53 ของการบินไทย ที่เริ่มบิน 1 พ.ค.
ทริปเลยต้องหดสั้นลงไปอีก 1 วัน
และเช้าวันที่ 2 พ.ค. เราก็เดินทางถึงสนามบินคันไซตั้งแต่ 7 โมงเช้า
หลังจากผ่าน ตม. รับกระเป๋าเสร็จ ก็ต้องหารถไฟเข้าเมือง
เราต้องนั่งรถไฟของ NANKAI ไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Namba ต่อไปยังโรงแรมย่าน Noda
ตอนจะซื้อตั๋วรถไฟ ก็เงะๆงะๆกันอยู่ 2 คน สุดท้ายก็เลยถามเจ้าหน้าที่เอาดีกว่า ^^"
ก็เลยเอาหนังสือท่องเที่ยวไปกางให้เค้าดู แล้วชี้ว่าจะไปสถานี Tamagawa
เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า 980 เยน แต่เพื่อนงง เพราะในหนังสือบอกว่า ไปสถานี Namba 890 เยนนี่หน่า
เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า ถ้าคุณไปถึง Namba แล้วไปซื้อตั๋วรถไฟต่อไป Tamagawa จะต้องจ่าย 890+200 เยน
แต่ถ้าซื้อตรงจากตรงนี้ ก็จะจ่ายแค่ 980 เยน แล้วเจ้าหน้าที่ก็กดตู้ให้ดู ว่าเราจะต้องกดยังไง
คิดถูกจริงๆที่เลือกถามเจ้าหน้าที่ก่อน ^^"
จากนั้นเราก็นั่งรถไฟไป Namba แล้วเปลี่ยนขบวนไป Tamagawa
เพราะเราจองโรงแรม Toyoko-Inn Osaka Jr Noda Ekimae ไว้
พอไปถึง Tamagawa ออก exit1 (สถานีเล็กมาก แต่เกือบหาทางออกไม่เจอ 555)
โผล่ขึ้นมาก็เจอโรงแรมเลยค่ะ ใกล้มากกกกกก
จากโรงแรม จะไป JR Noda ก็ไม่ไกลเลย ออกจากโรงแรม จะเจอสถานีรถไฟใต้ดิน Tamagawa
ด้านขวามือที่ติดกับทางลงสถานี จะเป็นร้านขายข้าวกล่อง เดินเลยต่อไปจนถึงปากซอย จะเจอร้านขายผลไม้
ข้ามถนนไป แล้วเดินต่ออีกประมาณ 50 เมตร ก็จะเจอสถานี JR ค่ะ
ถนนเส้นนี้ จะขนานกับถนนใหญ่ ถ้าถึงปากซอยแล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอถนนใหญ่
ข้ามถนนเดินขนานกับถนนในซอยไปเรื่อยๆ ก็ไป JR ได้เหมือนกันค่ะ
พอถึงโรงแรม ก็ไปฝากกระเป๋าไว้ เพราะที่นี่เช็คอินได้ตอน 16:00 น.
เข้าประตูไปก็เจอล็อบบี้ ด้านซ้ายมือจะเป็นที่สำหรับทานอาหารเช้า
และมีมุมอินเตอร์ไว้ให้ใช้บริการได้ฟรี ส่วนห้องกระจกใสๆข้างล็อบบี้ เป็นที่วางกระเป๋าที่ฝากไว้ค่ะ
กว่าเราจะกลับมาเข้าห้อง ก็ค่ำแล้ว แต่เราจะใช้โพสนี้ รีวิวห้องพักของโรงแรมรวมไปเลยละกันค่ะ
ภายในห้องพักสะอาดมาก มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
ทั้งทีวี ตู้เย็น แอร์ โต๊ะเครื่องแป้ง ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ กระติกต้มน้ำร้อน ร้องเท้าแตะ Free-Wifi
บนเตียงจะมีกระดาษเขียนว่า "ใต้เตียงมีพื้นที่ว่าง สามารถวางกระเป๋าเดินทางได้" วางอยู่
ในห้องน้ำก็มีอ่างอาบน้ำ มีทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น สบู่ แชมพู แปรงสีฟัน+ยาสีฟัน
ผ้าขนหนูทั้งขนาดกลางและใหญ่ ชักโครกแบบอัตโนมัติ แต่ไม่ใช่แบบเซ็นเซอร์นะคะ
หลายคนอาจจะมองว่า ทำไมไม่เลือกพักสาขาที่ใกล้ย่านดังๆ หรือใกล้แหล่งช้อปปิ้ง
ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอกว่าที่นี่มันจะเงียบมาก พอดีจองผ่านเวบ Asiarooms แล้วมันเหลือที่นี่ที่เดียว
แต่พอได้มาพักแล้วเรากลับชอบที่นี่มากกกกก ชอบเพราะมันเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านนี่ล่ะค่ะ
ทั้งๆที่ไม่ใช่ย่านดัง แต่การเดินทางสะดวกสุดๆเลยค่ะ เพราะมีทั้งรถไฟใต้ดินและ JR
มีร้านอาหารอยู่ริมถนนใหญ่หลายร้าน มี Family Mart อยู่ตรงสี่แยก รับรองว่าไม่มีคำว่า "อดตาย" ค่ะ
ถ้าได้ไปอีก ก็จะพักที่นี่อีกค่ะ ติดใจจริงๆ ^^
พอฝากกระเป๋าเสร็จ ก็ไม่ลืมถามหา internet sim ที่สั่ง online เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เราเลือกของ econnect ก็เพราะมันมีอายุ 30 วัน เรากะว่าพอเราใช้เสร็จ จะเอามาให้พี่ใช้ต่อ
และตอนนี้ พี่เราก็ลั้นลาอยู่ญี่ปุ่นด้วยซิมอันนี้แล้วค่ะ ^^
[CR] เมื่อหัวใจโบยบินไปตามหาน้องๆไอดอลวงโปรดที่โอซาก้า ทริปเที่ยวคันไซแบบมั่วๆจึงเกิดขึ้น
เพราะเกิดโชคดี จองบัตรคอนเสิร์ตได้แบบเกินความคาดหมาย
นับจากวันที่รู้ว่าได้ตั๋วคอนเสิร์ต เราจะต้องทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ ต้องไปยื่นเรื่องขอวีซ่า
จองที่พัก หาตั๋วเครื่องบินที่ราคาพอรับได้ ทุกสิ่งทำด้วยความฉุกละหุก
เพราะเดือนเมษายน มีวันหยุดเยอะมากกกก สงกรานต์ก็ไปเที่ยวตจว.อีก
แต่เหมือนดวงจะให้ได้ไป ทุกสิ่งทุกอย่างจึงลงตัวในที่สุด
เหลือแต่เรื่องเที่ยว ที่แทบจะไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย
มีแค่หนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นของเพื่อน 1 เล่ม ก็บินลัดฟ้าไปเลยค่ะ ^^"
ทริปนี้ไปลุยกันแค่ 2 สาว มีกำหนดเวลา 5 วัน 4 คืน
จริงๆอยากจะไปตั้งแต่คืน 30 เม.ย. แต่ติดที่ใช้ตั๋วโปร 53 ของการบินไทย ที่เริ่มบิน 1 พ.ค.
ทริปเลยต้องหดสั้นลงไปอีก 1 วัน
และเช้าวันที่ 2 พ.ค. เราก็เดินทางถึงสนามบินคันไซตั้งแต่ 7 โมงเช้า
หลังจากผ่าน ตม. รับกระเป๋าเสร็จ ก็ต้องหารถไฟเข้าเมือง
เราต้องนั่งรถไฟของ NANKAI ไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Namba ต่อไปยังโรงแรมย่าน Noda
ตอนจะซื้อตั๋วรถไฟ ก็เงะๆงะๆกันอยู่ 2 คน สุดท้ายก็เลยถามเจ้าหน้าที่เอาดีกว่า ^^"
ก็เลยเอาหนังสือท่องเที่ยวไปกางให้เค้าดู แล้วชี้ว่าจะไปสถานี Tamagawa
เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า 980 เยน แต่เพื่อนงง เพราะในหนังสือบอกว่า ไปสถานี Namba 890 เยนนี่หน่า
เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า ถ้าคุณไปถึง Namba แล้วไปซื้อตั๋วรถไฟต่อไป Tamagawa จะต้องจ่าย 890+200 เยน
แต่ถ้าซื้อตรงจากตรงนี้ ก็จะจ่ายแค่ 980 เยน แล้วเจ้าหน้าที่ก็กดตู้ให้ดู ว่าเราจะต้องกดยังไง
คิดถูกจริงๆที่เลือกถามเจ้าหน้าที่ก่อน ^^"
จากนั้นเราก็นั่งรถไฟไป Namba แล้วเปลี่ยนขบวนไป Tamagawa
เพราะเราจองโรงแรม Toyoko-Inn Osaka Jr Noda Ekimae ไว้
พอไปถึง Tamagawa ออก exit1 (สถานีเล็กมาก แต่เกือบหาทางออกไม่เจอ 555)
โผล่ขึ้นมาก็เจอโรงแรมเลยค่ะ ใกล้มากกกกกก
จากโรงแรม จะไป JR Noda ก็ไม่ไกลเลย ออกจากโรงแรม จะเจอสถานีรถไฟใต้ดิน Tamagawa
ด้านขวามือที่ติดกับทางลงสถานี จะเป็นร้านขายข้าวกล่อง เดินเลยต่อไปจนถึงปากซอย จะเจอร้านขายผลไม้
ข้ามถนนไป แล้วเดินต่ออีกประมาณ 50 เมตร ก็จะเจอสถานี JR ค่ะ
ถนนเส้นนี้ จะขนานกับถนนใหญ่ ถ้าถึงปากซอยแล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอถนนใหญ่
ข้ามถนนเดินขนานกับถนนในซอยไปเรื่อยๆ ก็ไป JR ได้เหมือนกันค่ะ
พอถึงโรงแรม ก็ไปฝากกระเป๋าไว้ เพราะที่นี่เช็คอินได้ตอน 16:00 น.
เข้าประตูไปก็เจอล็อบบี้ ด้านซ้ายมือจะเป็นที่สำหรับทานอาหารเช้า
และมีมุมอินเตอร์ไว้ให้ใช้บริการได้ฟรี ส่วนห้องกระจกใสๆข้างล็อบบี้ เป็นที่วางกระเป๋าที่ฝากไว้ค่ะ
กว่าเราจะกลับมาเข้าห้อง ก็ค่ำแล้ว แต่เราจะใช้โพสนี้ รีวิวห้องพักของโรงแรมรวมไปเลยละกันค่ะ
ภายในห้องพักสะอาดมาก มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
ทั้งทีวี ตู้เย็น แอร์ โต๊ะเครื่องแป้ง ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ กระติกต้มน้ำร้อน ร้องเท้าแตะ Free-Wifi
บนเตียงจะมีกระดาษเขียนว่า "ใต้เตียงมีพื้นที่ว่าง สามารถวางกระเป๋าเดินทางได้" วางอยู่
ในห้องน้ำก็มีอ่างอาบน้ำ มีทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น สบู่ แชมพู แปรงสีฟัน+ยาสีฟัน
ผ้าขนหนูทั้งขนาดกลางและใหญ่ ชักโครกแบบอัตโนมัติ แต่ไม่ใช่แบบเซ็นเซอร์นะคะ
หลายคนอาจจะมองว่า ทำไมไม่เลือกพักสาขาที่ใกล้ย่านดังๆ หรือใกล้แหล่งช้อปปิ้ง
ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอกว่าที่นี่มันจะเงียบมาก พอดีจองผ่านเวบ Asiarooms แล้วมันเหลือที่นี่ที่เดียว
แต่พอได้มาพักแล้วเรากลับชอบที่นี่มากกกกก ชอบเพราะมันเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านนี่ล่ะค่ะ
ทั้งๆที่ไม่ใช่ย่านดัง แต่การเดินทางสะดวกสุดๆเลยค่ะ เพราะมีทั้งรถไฟใต้ดินและ JR
มีร้านอาหารอยู่ริมถนนใหญ่หลายร้าน มี Family Mart อยู่ตรงสี่แยก รับรองว่าไม่มีคำว่า "อดตาย" ค่ะ
ถ้าได้ไปอีก ก็จะพักที่นี่อีกค่ะ ติดใจจริงๆ ^^
พอฝากกระเป๋าเสร็จ ก็ไม่ลืมถามหา internet sim ที่สั่ง online เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เราเลือกของ econnect ก็เพราะมันมีอายุ 30 วัน เรากะว่าพอเราใช้เสร็จ จะเอามาให้พี่ใช้ต่อ
และตอนนี้ พี่เราก็ลั้นลาอยู่ญี่ปุ่นด้วยซิมอันนี้แล้วค่ะ ^^