สวัสดีค่ะ ตอนนี้เห็นมีเรื่องที่แชร์กันออกไปเยอะมากนั่นคือ ผู้ชายทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ คงมีหลายคนคงเคยเจอกับปัญหานี้ หนึ่งในนั้นก็คือเราด้วยหนึ่งคน เราเลือกที่จะเป็น Single mom ค่ะ ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ ที่ใครหลายคนอาจคิดว่าเรื่องแบบนี้นี่ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ และไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ฉันเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเช่นกันค่ะ  เริ่มเล่าตั้งแต่แรกก่อนเลยนะคะ ตอนนั้นเราอยู่ ม.6 แฟนเราก็อยู่ ม.6 แต่คนล่ะโรงเรียนกัน ตอนนั้นเป็นช่วงที่จะต้องไปเรียนต่อมหาลัยกัน เรากับแฟนคุยกันว่าจะไปเรียนที่เดียวกันและลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราวาดฝันอยากมีอนาคตที่ดีกับเค้ามาก ๆ เค้าเองก็เช่นกัน พอไปเรียนมหาลัยเราก็แอบเช่าหออยู่ด้วยกัน แรก ๆ ทุกอย่างโอเคเลยค่ะ มีความสุขกันมาก ๆ จนเค้าเริ่มติดเพื่อนมากขึ้น กินเหล้า สูบบุหรี่ และแน่นอนไม่พ้นเรื่อง “ผู้หญิง” เราแอบได้ยินเพื่อนเค้าแซวแฟนเรากับผู้หญิงในเอกเดียวกับเค้า แฟนเราเองก็พูดว่าผู้หญิงคนนี้ตรงสเปคเค้าเลย เค้าชอบ(อันนี้ได้ยินมาจากเพื่อนเราซึ่งเป็นแฟนของเพื่อนแฟนเรา) เราก็เลยเริ่มเช็คมือถือ เริ่มมีทะเลาะกันมากขึ้น เริ่มมีปัญหากันมากขึ้นๆๆๆ เจอหน้าเป็นทะเลาะแต่เค้าก็จะง้อทุกครั้งเพื่อจะขอไปกินเหล้ากับเพื่อน เราก็ใจอ่อนทุกครั้ง แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนเข้ามาอีก ก็ทะเลาะกันอีก ครั้งนี้เค้าบอกเลิกเราเลย เราก็แบบงงๆเลยอ่ะ แล้วก็พยายามขอร้องเค้าว่าอย่าเลิกกับเราเลย เค้าก็บอกว่าเค้าเบื่อเรา เบื่อที่เจอหน้าทีไรก็ทะเลาะกัน ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่มีความสุข ตอนนั้นเราแทบบ้าเลยอ่ะ ทำอะไรไม่ถูก เอาแต่ร้องไห้ ข้าวปลาก็ไม่กิน ผอมไปเลยอ่ะ ในเมื่อเราง้อเค้าเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ เราก็เลยตัดสินใจเดินออกมา เราชวนเพื่อนไปขนของที่หอเค้า เพื่อย้ายออกมาอยู่กับเพื่อนข้างนอก แต่ก็มาอยู่กับเพื่อนคนนี้ได้ไม่เท่าไหร่ก็ย้ายไปเช่าหออยู่คนเดียวโดยอยู่ใกล้ ๆ กับเพื่อนที่เรียนเอกเดียวกัน เรากำลังทำใจได้แต่เค้าก็กลับมาหาเรา ชวนเราไปที่ห้อง ไปกินเหล้ากัน เราก็โอเคไป โดยมีเพื่อนเราที่เป็นแฟนเพื่อนเค้าไปด้วย หลังจากกินเหล้าเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันกลับหอ เราเองก็กำลังจะกลับหอเหมือนกัน แต่แฟนเราเค้าดึงเราไว้ให้อยู่กับเค้าก่อน เราก็แอบดีใจอยู่ลึก ๆ คิดว่าเค้าก็คงคิดถึงเรา เค้าคงอยากกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับเรา แต่เปล่าเลยเค้าดึงเราไว้ก็แค่ SEX แค่นั้นจริง ๆ พอเวลาเหงา ๆ ไม่มีใครเค้าก็จะโทรหาเรา แล้วก็มาหาเรา แต่มาแบบเงียบ ๆ ไม่ให้เพื่อนเค้ารู้ แล้วก็ห้ามเราบอกเพื่อนเราว่าเค้ามาหาเรา เพราะเค้าบอกเพื่อนเค้าว่าเค้าเลิกกับเราแล้ว(คงกลัวผู้หญิงใหม่รู้ด้วยแหละ) แต่ก็นะ เราก็บอกเพื่อนเราทุกครั้งที่เค้ามาหาเรา เพื่อนเรารับรู้ทุกครั้งแล้วเพื่อนเราก็เห็นเค้าโทรหาเราทุกครั้ง เราเป็นคนไม่ค่อยปิดบังเพื่อน ก็บอกมันหมดแหละ เพื่อนก็ห้าม ๆ เรานะ แต่ด้วยความที่เรารักเค้าไง ถึงแม้เค้าจะคิดแค่เรื่อง SEX กับเราก็ตาม แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ประจำเดือนเราไม่มา 2-3 เดือนได้ แต่เราไม่ค่อยแปลกใจเพราะเราเป็นคนประจำเดือนขาดบ่อย ชอบมาเดือนเว้นเดือน แต่เพื่อนก็บอกให้ลองซื้อที่ตรวจมาตรวจดู เราก็โอเค พอตรวจออกมาเราแทบช็อค มันขึ้น 2 ขีด คือ....เราท้อง..... ตอนนั้นแบบจะทำไงดี พ่อแม่ต้องผิดหวังอย่างมาก ทำไงดี เรื่องเรียนล่ะ ทำไงดี ทีนี้เอาให้แน่ใจเลยไปตรวจคลินิก ผลก็ออกมาว่าท้อง หมอก็ถามว่าจะทำไงต่อไปคะ เราก็บอกว่าคงต้องเอาออกค่ะ เพราะไม่พร้อมจริง ๆ เพราะยังเรียนอยู่เลย หมอเค้าก็บอกว่าบาปนะ เพราะหลายเดือนแล้ว คิดให้ดี ๆ ก่อน ทีนี้เราเลยลองโทรหาแฟนเราว่าจะทำไงดี เค้าก็บอกให้เอาออก เพราะถ้าแม่เค้ารู้แม่เค้าไม่ให้เรียนแน่ เราเองก็ไม่พร้อม เพื่อนของแฟนก็หาที่ทำแท้งให้ เค้าก็พาเราไป เพื่อนเค้า เพื่อนเราไปหมด ก็ตรวจท้อง อัลตราซาวด์ว่ากี่เดือน ปรากฏว่า 3 เดือนแล้ว เค้ามีแขน มีขาแล้ว ที่คลินิกนั้นก็เลยไม่รับทำ เพราะเค้าเริ่มเป็นตัวแล้ว เค้าก็แนะนำอีกที่มาให้เราไปทำ แต่เราก็ไม่ไป เลือกที่จะไม่ไป แต่แฟนบอกว่าต้องเอาออกนะ เพราะเค้าอยากเรียนต่อ เค้าไม่พร้อม แต่เราบอกไม่เอา ไม่เป็นไร ลูกคนเดียวเราเลี้ยงได้ เพื่อนของแฟนเราบอกว่า เลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ทั้งแฟนเรา เพื่อนแฟนเรา ต่างก็บอกให้เอาออก โดยเฉพาะแฟนเราบังคับให้เราไปเอาออก เดี๋ยวจะหาเงินให้ แต่ให้ไปเอาออก เราก็บอกไม่เอาออก ยังไงเค้าก็เป็นลูกเรานะ เรายืนกรานแบบนี้ตลอด เค้าก็เลยบอกกับเรามาประโยคนึงซึ่งทำให้เราอึ้งมาก ไม่คิดว่าเค้าจะเห็นแก่ตัวและปัดความรับผิดชอบขนาดนี้ และเป็นประโยคนี้แหละที่ทำให้เราตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องบอกพ่อกับแม่ เค้าบอกเราว่า ให้เราไปบอกพ่อกับแม่ว่า “เราท้องกับใครก็ไม่รู้ เค้าหายตัวไปไหนไม่รู้ ติดต่อเค้าไม่ได้เลย”เราอึ้งมากกับคำพูดของเค้า คือได้ยินแล้วช็อคเลยอ่ะ หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจโทรหาลูกพี่ลูกน้องเราเพื่อปรึกษาเรื่องที่เราท้อง พี่เราก็เลยบอกให้มาที่บ้าน มาคุยกัน เพื่อที่จะหารือไปบอกกับพ่อแม่เรา เฮ้ออออออออ เราทำพ่อแม่เสียใจจนได้ เราก็เสียใจนะ แต่เราไม่อยากทำร้ายลูกที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เรายอมหยุดอนาคตเราเพื่อมีเค้า แล้วพ่อเราก็ให้ผู้ใหญ่ไปคุยกับแม่แฟนเราเพื่อให้เค้ามาคุยกับที่บ้านเรา ทางแม่แฟนเราก็ยอมมาแต่เค้าก็บอกอย่างเดียวว่าเราไม่ได้ท้องกับลูกเค้า เพราะลูกเค้าบอกว่าเลิกกับเราไปตั้งหลายเดือนแล้ว แล้วเราจะไปท้องกับลูกเค้าได้ไง คือเราแบบเสียใจมากอ่ะ ทำไมคนที่เรารักเค้ามากถึงทำกับเราแบบนี้ ในหัวมีแต่คำว่า ทำไม ทำไม ทำไม แต่ทางนั้นเค้าก็บอกงั้นก็แต่งงานกันไป แต่ถ้าอยากให้ลูกเรามีพ่อก็ไปอยู่บ้านเค้านะ เค้าไม่ให้แฟนเรามาอยู่บ้านเราหรอก เราก็บอกไปว่าเราไม่ไปหรอก เคยบอกไปแล้วว่าลูกคนเดียวเราเลี้ยงได้ งานแต่งงานก็จัดแบบไม่เต็มใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้มีอะไรมากแค่รับไหว้กันเฉย ๆ แถมแฟนเรายังพูดไปทั่วเลยว่าต้องมารับผิดชอบทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นคนทำ แม่เค้าก็พูดแบบนั้น เราเสียใจ เสียใจที่ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้กับเรา ทำไม ทำไม ทำไม เราไม่ดีตรงไหนหรอ ทำไมทั้งแม่เค้าและเค้าถึงดูรังเกียจเราขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เด็กในท้องคือหลานเค้า คือลูกเค้า เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเสียใจ เสียใจ แต่ด้วยความที่เรายังรักเค้า เราก็ยังโทรไปหาเค้า ไปง้อเค้า ขอให้เค้ากลับมา แต่เค้ากลับพูดกับเราว่า “แค่นี้อนาคตเรายังพังไม่พออีกหรอ คิดดูนะว่าคนอื่นจะมองผู้ชายที่แต่งงานแล้วว่ายังไง” เราแบบอึ้งไปเลย แล้วเราก็เลยบอกเค้าไปว่า “เธอแค่แต่งงาน แต่เราท้องนะ เรากำลังมีลูกนะ อนาคตใครพังกว่ากัน” เค้าก็บอกกับเราแค่ว่าพอเหอะ อย่ามายุ่งกันอีกเลย แค่ต้องรับผิดชอบแต่งงานด้วยก็มากพอแล้ว อึ้งอีกแล้วค่ะ นี่คือผู้ชายที่เรารักเค้ามาก นี่คือสันดานที่แท้จริงของเค้าสินะ หลังจากนั้นผ่านไปได้สักพัก เราท้องได้ประมาณ 5-6 เดือน เราคิดถึงเค้าทุกวัน ยังรอเค้าทุกวันหวังว่าเค้าจะกลับมาหาเรา อยากให้เค้าโทรมาหา โทรมาถามว่าเป็นไงบ้าง ลูกเป็นไงบ้าง แต่ก็ไม่มีเลย เราก็เลยโทรไปหาเค้าเอง แต่คนที่รับสายคือแฟนใหม่ของเค้า ตอนนั้นเราอึ้งมาก เค้ามีความสุขอยู่บนความทุกข์ของเรา ผู้หญิงคนนั้นก็ว่าเราสารพัด แล้วก็บอกอีกว่าแฟนเราบอกว่าเค้าพาเราไปตรวจดีเอ็นเอเด็กแล้วแต่ไม่ใช่ลูกของเค้า เราแบบอึ้งอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้มีอะไรให้เราอึ้งตลอดเลย แต่เราก็นะ ก็ยังดื้อโทรหาเค้า ก็โดนด่า โดนว่าทุกวัน เครียดตลอด ผู้หญิงคนใหม่ของเค้าก็โทรมาด่าเราบอกให้เลิกยุ่งกับผู้ชายของเค้า แถมบอกเราอีกว่า “ระวังสายสะดื้อมันจะพันคอเด็กนะ ไปตรวจซะบ้าง” เรานี่ร้องเลย ทำไมใจร้าย ใจดำกันขนาดนี้นะ เราไปทำอะไรให้นักหนา