ศัพท์อิ้งตอนคุยเรื่องพระเจ้านี่ตื้บมากค่ะ ถ้าผิดยังไงขออภัยด้วยนะคะ อ่านแล้วงงต้องเปิดดิก 5555555
แปลบทสนทนาคร่าวๆนะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ความเดิมจากตอนที่แล้วววว
ทัพศัตรูแตกพ่าย และคาร์ลันถูกพวกฝ่าบาทอัสลานฆ่าตาย  โดยที่ได้รู้ว่าฝ่าบาทอันดราโกลัสยังมีชีวิตอยู่
พวกเขาจึงวางแผนบุกเข้าเมืองหลวง!
ในขณะเดียวกันลอร์ดหน้ากากเงิน (หรือเฮอร์เมส ลูกชายของจักรพรรดิองค์ก่อน) ก็ลงไปยังดันเจี้ยนในเมืองหลวงเพื่อแนะนำตัวเองให้ฝ่าบาทอันดราโกลัสรู้จัก


ลอร์ดหน้ากากเงินลงมายังห้องลึกลับเพื่อฟังรายงานจากนักเวทย์ (คนที่ทำให้เกิดหมอกขึ้นในสงครามที่จักรวรรดิพัลส์พ่ายแพ้)
นักเวทย์คนดังกล่าวรายงานว่า ตอนนี้คาร์ลันตายแล้วโดยฝีมือของพรรคพวกของฝ่าบาทอัสลาน
"ถึงแม้จะสูญสลายกลายเป็นเศษเถ้าถุลีไปแล้ว แต่ก็ยังคงถูกตีตราหน้าเป็นผู้ทรยศ ช่างน่าสงสาร"



พร้อมกับให้คำแนะนำแก่ลอร์ดหน้ากากเงิน ผู้ซึ่งกำลังไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเมื่อได้รับข่าวนี้ว่า
"แสงสว่างแห่งพัลส์ไม่ได้ฉายแด่ท่านแต่เพียงผู้เดียว"

---------------------------------------------------------------------------
จากที่คาร์ลันบอกก่อนตายว่า องค์ราชายังมีพระชนท์ชีพอยู่
นาร์ซัสกับดาร์รูนจึงตัดสินใจเดินทางมาสืบข่าวที่อยู่ของราชาที่เมืองหลวงก่อน โดยทิ้งฝ่าบาทอัสลานไว้นอกเมือง(กับเอลัม)
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองหลวงมีมากมายเหลือเกิน จนทั้งสองนึกไม่อยากให้ฝ่าบาทมาเห็นเลยด้วยซ้ำ

ขณะนั้นเองที่พระราชวัง
ราชาแห่งลูซิทาเนียก็ยังคงพยายามจีบองค์ราชินีทาฮามีเนต่อไป (.....)
แต่ถึงแม้ท่านจะพยายามชวนราชินีคุยมากมายเพียงใด องค์ราชินีก็มีเพียงความเงียบตอบกลับมาเท่านั้น

(จากฉากนี้ทำให้เห็นเลยว่า ราชีนีทาฮามีเนมีใจให้ฝ่าลาทอันดราโกลัสเหมือนกันนะเนี่ย(?) เพราะยอมคุยด้วยบ้าง (กรี้ด))

และเนื่องจากการที่ราชาแห่งลูซิทาเนียไม่ยอมสั่งประหารทั้งราชาและราชินีแห่งอาณาจักรพัลส์
เลยทำให้หัวหน้านักบวช(archpriest) นาม โบดิน (Bodin) ทุ่มความโกรธแค้นที่เทพเจ้าของเขาไม่ได้รับการยอมรับไปยังการเผาทำลายบันทึกประวัติศาสตร์อันลำ้ค่าของจักรวรรดิพัลส์ทั้ง 12 ล้านฉบับทิ้งทั้งหมด
ซึ่งนั่นเป็นการสร้างความไม่พอใจให้เกิดแก่เหล่าประชาชนชาวพัลส์ (รวมไปถึงดาร์รูนและนาร์ซัสที่แอบมาดู) เป็นอย่างมาก (เดินหมากผิดตัวแล้ว .....) เขายังแอบด่ากระทบกระทั่งกษัตริย์ของตัวเองที่เอาราชินีของพวกไร้หัวใจมาเป็นภรรยาด้วย (นับถือพระเจ้ามากกว่ากษัตริย์ของตัวเองไปแล้วสินะ...)

-----------------------------------------------------------------------------

ตัดฉากมาที่คู่โปรดของจขทก. อิอิ
ฟารางกีสมาเฝ้าดูทางผ่านของกองกำลังทหารศัตรูร่วมกับกีสที่ไปซุ่มดูอีกทาง
พอมาเจอกัน กีสก็ยังคงพยายามจีบต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า ถูกเมิน (55555555)
และทหารที่พวกเขาดักรออยู่ก็เดินทางมาถึงพอดี



ส่วนทางฝ่าบาทอัสลันเองก็ออกไปหาน้ำกับเอลัม
แต่บังเอิญฝ่าบาทพลาดออกแรงดึงจนเชือกที่ไว้ชักถังน้ำขึ้นมาจากบ่อขาด (ดูเหมือนเอลัมจะชินกับการที่ฝ่าบาทซุ่มซ่ามแล้วด้วยล่ะค่ะ ฮาาา แถมเป็นห่วงอีกแหน่ะ เป็นเพื่อนกันแล้วสินะะ น่ารักจังเลย )
เอลัมก็เลยต้องไปหาอันอื่นมาใช้แทน ฝ่าบาทก็เลยต้องไปนั่งรอในบ้านร้างแถวๆนั้นก่อน พลางคิดว่าตนช่างไร้ประโชยน์เสียนี่กระไร
ทันใดนั้นเองฝ่าบาทเหลือบไปเห็น+ได้ยินประชาชนของตนเองถูกทหารลูซิทาเนียกดขี่ข่มเหงเข้าพอดี เลยวิ่งไปช่วยและเจอกับเด็กหนุ่มทาสที่หลบหนีและลากเขาไปนู่นมานี่ (เอตวล) โดยบังเอิญ



พวกเขาได้พูดคุยกันถึงเรื่องเจตจำนงของพระเจ้า  พูดถึงเรื่องความใจร้ายของฝ่าบาทอันดราโกลัสและฝ่าบาทอัสลาน
"ฉันน่ะได้ยินมาว่า ไอ้เวรทั้งสองนั่น! มีเขาโค้งงอกออกมาทั้งสองข้าง ปากกว้างไปถึงหู แถมยังมีหางอีก!"

(หน้าฝ่าบาทตอนฟังเรื่องเล่าถึงตัวเองนี่น่ารักมากค่ะ 55555555)


"แล้ว..ถ้าฉันไม่เชื่อในพระเจ้าของนายล่ะ"
"ไม่มีทาง พอนายได้รับรู้ถึงเจตจำนงของพระเจ้า นายจะรับรู้ได้ถึงคุณค่าอันน่าสรรเสริญและยอมรับมันแน่นอน "
ฝ่าบาทก็อึ้งๆไป...

ตอนนั้นเองนาร์ซัสก็พูดคุยกับดาร์รูนเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
"ความหมายที่แท้จริงของเจตจำนงของพระเจ้า Yaldabaoth คือ ความโง่เขลาอันศักดิ์สิทธิ์
นายรู้รึเปล่า ดาร์รูน ที่พวกเขามาขับไล่พัลส์น่ะเป็นเพราะคัมภีร์ของพวกเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า สถานที่ที่งดงามและอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลกเป็นที่ของพวกที่นับถือในเจตจำนงพระเจ้า Yaldabaot เท่านั้น"
"และพวกเขาก็เชื่อเนี่ยนะ?"
"ไม่ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือแกล้งเชื่อ... มันก็แค่เอาไว้ตัดสินผู้รุกรานแค่นั้นแหล่ะ.." (หาศาสนามาเป็นหลักยึดสินะ... )

ฝ่าบาทยังคงถามเอตวลต่อไปว่า
"งั้น...ศาสนาของนายสอนให้คนเท่าเทียมกัน แล้วทำไมลูซิทาเนียถึงทำกับคนในเมืองหลวง Ecbatana แบบนั้นล่ะ ?"
"พูดอะไรไร้สาระ!! พวกนั้นมันคนไร้จิตใจ!! คนไร้จิตใจย่อมต้องได้รับการปฏิบัติอย่างแตกต่างอยู่แล้วสิ!! ใครที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่!!" (ลำเอียงชิบ...)
ฝ่าบาทก็อึ้งไปอีกรอบ ... ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ
"นี่มันขัดแย้งกันนี่....?"
"อะไรนะ!!"
ทันใดนั้นเอลัมก็กลับมาพอดี เลยทำให้เอตวลต้องออกมาก่อนโดยได้ถามถึงเพื่อนทาสของเขาเป็นคำถามสุดท้าย และได้รับรู้จากฝ่าบาทอัสลานว่าเพื่อนของเขานั้นถูกฆ่าตายหมดเพราะไม่ยอมเชื่อฟัง ก่อนจากลาเขาได้มอบพระคัมภีร์ไว้ให้ฝ่าบาททำความเข้าใจและ(จง)ทำตัวเลื่อมใสในศรัทธาพระเจ้า(ของเขาซะ!!)

กลับมาที่นาร์ซัสและดาร์รูน
เขาทำการหลอกล่อทหารออกมา ต้อนให้จนมุมและบีบคั้นข่าวสาร จนได้ข่าวที่สำคัญอย่าง ข่าวลือเรื่องการแต่งงานขององค์ราชาแห่งลูซิทาเนียและองค์ราชินีแห่งพัลส์  จากนั้นเขาจึงออกหาข่าวสารต่อ  จนดาร์รูนได้มาพบกับ...




พวกเขาได้เข้าประดาบกัน ฝีมือของทั้งสองจัดได้ว่าสูสีกันมาก (สู้มันส์มากๆๆ)
เมื่อลอร์ดหน้ากากเงินได้ทราบนามของดาร์รูน เขาจึงประกาศกร้าวตรงนั้นว่า ตนนี่แหล่ะเป็นผู้ฆ่าลุงของดาร์รูนเอง
ทำให้ดาร์รูนขาดสติ เดินหน้าเข้าต่อสู้จนสามารถฟันหน้ากากของลอร์ดแตกครึ่งได้



ท่านลอร์ดเองก็โกรธเลือดขึ้นหน้าบ้าง เข้าบุกดาร์รูนแบบเต็มสุดฝีมือ โชคดีที่นาร์ซัสมาช่วยไว้ได้พอดี  
นาร์ซัสก็แนะนำตัวบ้าง  (แนะว่าตัวเองเป็นหัวหน้าสภาศิลปะอีกแหน่ะ ดูท่าอยากจะพูดมานานสินะ 5555555)
ทั้งสองช่วยกันต้อนท่านลอร์ด แต่กองกำลังลูวิทาเนียที่เหลือเข้ามาล้อมซะก่อน ทั้งสองจึงต้องล่าถอยกลับไป


-----จบตอนนน----------

ปิดท้ายด้วยใบหน้าที่แท้จริงของลอร์ดหน้ากากเงินค่ะ!!



หล่ออ่ะ จขทก.ปลื้ม



-ตอนนี้ดูไปก็เขินไปค่ะ ตัวละครที่เราชอบที่สุดมีบทบาทเยอะมาก (ลอร์ดหน้ากากเงิน)
ดูจบนี่แทบเขินสลบคาโต๊ะคอมเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
-ฉากต่อสู้ยังมันส์และไม่น่าผิดหวังเหมือนเดิม
-รอดูท่าทีขององค์ราชินีทาฮามีเนต่อไป ไม่น่าจะชอบคิงแกง่ายๆหรอก
-ฝ่าบาทกับเอลัมสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ  ฝ่าบาทบอกเอตวลเป็นเพื่อนด้วยแหล่ะ เอตวลก็ซึนเนอะ น่ารัก 55555
-ดูตอนนี้แล้วนึกถึงสงครามครูเสดเลยค่ะ
ลิ้งค์เรื่องสงครามครุเสด > http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%94


-ตอนต่อไป!! ออกเดินทางไปพบหัวหน้าแห่งป้อมปราการคาชาน (Kashan)

Endcard by Megumi Ina



**ตัดสินใจแทคหว้ากอ หมวดประวัติศาสตร์ด้วยค่ะ เพราะมันชักจะสไตล์ period ขึ้นเรื่อยๆ 5555**