8 weeks ในฮังการี กับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ( Jump Out Aiesec )

คาดหวังให้กระทู้นี้เป็นคล้ายๆ ไดอารี่ ที่หาสาระไม่ค่อยได้ แค่บ่นๆ แชร์ประสบการณ์ให้อ่านกัน

เริ่มเล่าตั้งแต่ขึ้นเครื่อง บินสู่ฮังการี
รู้สึกว่าเบาะนั่งกว้างกว่าตอนบินออกจากไทยอีก
พอลงเครื่อง  ก็รอต่อแถวตรวจพาสปอร์ตนานมาก
เดินออกมารอกระเป๋าพักนนึงเลย เสร็จแล้วก็กะจะเบิกเงิน กดละไม่มีอะไรออกมาเลย
ถามเจ้าหน้าที่คนแรก เค้ารีบเลยให้เราโทรตามเบอร์ที่อยู่บนตู้  จะโทรก็โทรไม่ได้เพราะยังไม่ได้ซื้อซิมชองที่นี่
เลยเรียกเจ้าหน้าที่คนอื่นมาช่วย สุดท้ายคือเครื่องมันเบิกไม่ได้ ไม่มีปัญหาไร เงินไม่ได้ตัด
ทีนี้พอออกไปก็เห็น นิคกี้ ไอเซคที่นั่นมารอรับอยู่แล้ว ก็ให้เค้าพาไปแลกเงิน คือตอนนี้แหละรู้แล้วว่า
บัตรวีซ่าของธนาคารทหารไทยมันเบิกไม่ได้ ไม่ใช่เครื่องมีปัญหา 555 เพราะลองอีกเครื่องซึ่งเหมือนเครื่องข้างในเป๊ะ
เลยเอายูโร ที่มีอยู่ 40 ยูโร ไปแลกก่อน เสร็จแล้วก็ไปซื้อซิม ซึ่งเค้าจะมีหลายแบบให้เลือก เราเลือกแบบธรรมดาที่เค้าใช้กันปกติของที่นี่
ตีเป็นเงินไทยประมาณ 500 กว่าบาท
พนักงานที่นี่อังกฤษคล่องมากกก เค้าเห็นลายเซ็นต์เราที่เป็นตัวเขียนภาษาไทย แล้วนามสกุลยาวๆ
ก็แบบมองตาโตแล้วพูดว่าชอบลายเซ็นต์เรา 5555

นิคกี้โทให้พ่อมารับ เพราะรถบัสมันช้า นิคกี้ก็ชวนคุย พาขับรถผ่านบูดาเปส เพื่อไปที่พักที่ Paty ฝั่งเปส
ระหว่างทางก็ชมวิวสวยๆ อากาศเย็นๆ สดชื่นมากกก ขับมาพักใหญ่ๆ ก็เริ่มเข้าหมู่บ้านที่เราต้องมาอยู่

หมู่บ้านสายมากกก แถวนั้น คล้ายๆ เป็นเนินเขา ไม่ชัน คล้ายๆเรื่องเทเลทับบี้ 5555 ประมาณนั้น
บ้านคนก็สถาปัตยกรรมแปลกๆ น่ารักๆ ก็ชมบรรยากาศไป พอไปถึงที่ที่เราต้องไปสอนเด็ก
ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ เพราะเค้าคิดว่าเราจะมาวันจันทร์
คือมีคนจีนมาก่อนหน้านี้ แต่อาทิตย์นี้เค้าไปเที่ยวปราก ส่วนครูก็ไม่ได้อยู่แถวนี้
นิคกี้ ก็โทรตามเรื่องให้  ปรากฏว่าเราต้องมาบูาดาเปสเพื่อไปหาที่พักให้ สุดท้ายมาพักกับ อดัม
ประธานของไอเซค LC นี้

นิคกี้ก็พาไปรออดัมในห้าง ถามเราว่าเราอยากซื้ออะไร นี่ก็ขอซื้อรองเท้าก่อนเลย
คือมันเหม็นอับ เน่ามากกกกก ก็ได้ไนกี้มาคู้หนึ่ง ราคาถูกกว่าบ้านเราไม่มาก แต่ก็ถูกกว่า
ของที่นี้ราคาพอๆกับบ้านเราเลย  

เสร็จแล้วก็พาไปนั่งร้านกาแฟ เค้าเลี้ยงสำหรับเหตุการณ์แบบนี้
แล้วก็ชวนคุยเรื่องเมือง ประเทศเรา เรื่องเที่ยว ได้ความว่านิคกี้เป็นลูกครึ่งอิตาลี่
ถึงว่า ดูไม่เหมือนคนฮังการีเท่าไหร่
สักพักอดัมก็มา ดูไนซ์กว่า เด็กกว่า ในรูปเยอะมาก  ดูเป็นคนฮาๆ
เค้าก็ชวนเราคุย เป็นกันเองมาก เสร็จแล้วก็พาเดินไปขึ้นเมโทรเพื่อไปที่พักเค้า

ตอนนี้ จุดที่เคยเป็นอนุสรณ์เกี่ยวกับมอสโคอะไรซักอย่างกำลังรื้อสร้าง
บรรยากาศตรงนั้นเลยดูมีแต่ดิน ฝุ่น

พอผ่านเครื่องซื้อ ตั๋วอัตโนมัติ อดัมก็แนะนำให้เราซื้อ ที่นี้สะดวกมากกก ใช้วีซ่าซื้อผ่านได้ ไม่งั้นเงินสดคงไม่พอ
เสร็จแล้วก็จะต้องกรอกรหัสที่แสดงถึงตัวตนเรา อาจจะเป็นพาสปอร์ตหรือเลข ปชช

หน้าตาตั๋วจะเป็นประมาณนี้


โดยเวลาเราจะเข้า เค้าจะมีพักงานชุดน้ำเงินเข้มสองคนยืนคอยอยู่ตรงทางเข้า เราจะต้องโชว์บัตรนี้ให้เค้าดู
ซึ่งเราคิดว่ามันสะดวกมากกว่าเครื่องอัตโนมัติอีก แต่เค้ากำลังจะเปลี่ยนไปใช้เครื่องอัตโนมัติ
เพราะบริษัทเค้าเสียค่าจ้างให้กับคนตรวจบัตรไปเยอะ

อดัมพาเรามาขึ้นสาย 2

อดัมแนะนำว่าถ้าหลงให้มาลงที่ Deak Ferenc Ter เพราะเป็นสถานีที่เชื่อมทุกสายไว้ด้วยกัน แล้วที่นี่คนจะพูดอังกฤษได้มากกว่าที่อื่นๆ
เราลงสถานีสุดท้าย Ors Vezer tere แล้วก็ต่อ tram มา 5 นาที ก็ถึงแล้ว ที่พักอดัม

     ในตึกอากาศเย็นมากๆๆ พอเข้าห้องมาซ้ายมือจะเป็นครัว ขวามือห้องน้ำ ตรงมาห้องนั่งเล่นโซฟาใหญ่มาก ห้องข้างๆก็ห้องนอน
อดัมก็ให้เรา พักในห้อง บอกให้ทำตัวเหมือนอยู่บ้าน  เราก็จัดการธุระเราไป แล้วก็นอน  
     ตื่นมาก็เห็นเมสเซจอดัม ว่า อยากได้อะไรหาเอาหยิบเอาได้เลย ให้ทำตัวเหมือนอยู่บ้าน
เค้าทำสปาเกตตี้ไว้ จะกินให้เวฟ หรืออยากกินขนมปังก็ให้ทำเอา แล้วก็ให้พาสเวิร์ด wifi มา
    อีกข้อความจะเป็นของแอนนากับ trainee คนอื่นๆ เค้าฝากเรากับเทรนนี เพราะวันนี้อดัมจะไม่อยู่
ตอนนี้ ก็นอนเล่น อัพเดตเรื่องราวต่างๆ ยิ้ม  


บรรยากาศจากหน้าต่างห้องตอนตี 4
7.17 am in Budapest
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่