ตามหัวกระทู้นั่นแหละค่ะ จะชวนมาเล่าเรื่องผี 555
ไหนๆช่วงนี้กระทู้ผีก็ ฮอตฮิตติดชาร์ตกันเต็มไปหมด 555
จขกท.ชอบอ่าน อะไรแบบนี้ค่ะ 555
จะเจอเอง คนใกล้ตัวเจอมา ก็ได้นะคะ ^^
มาเริ่มที่จขกท.ก่อนเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เหตุเกิดตอนจขกท.ไปฝึกงานค่ะ
การฝึกงานของจขกท. จขกท.ต้องไปฝึกต่างจังหวัดค่ะ
ด้วยความที่สถานที่ฝึกงานเนี่ย มีประวัติมายาวนานมาก (ขออนุญาติไม่เอ่ยนะคะว่าที่ไหน)
รุ่นพี่ที่ไปฝึกก่อนหน้า ก็มีมาเล่าอะไรหลอนๆให้ฟังอยู่เหมือนกัน ซึ่งจขกท.ก็ไม่ได้ใส่ใจค่ะ
จนกระทั่งเพื่อนจขกท.ไปฝึกที่นั่นก่อน
เพื่อนบอกว่าได้บ้านสีเหลือง อยู่ห้องแรกจากประตูทางฝั่งขวา แล้วเจอดีค่ะ แต่ไม่ยอมบอกว่าเจออะไรมา บอกแต่ให้เลี่ยงห้องนั้น
พอจขกท.ไปถึงก็ตกลงกับเมทที่ต้องนอนห้องเดียวกัน ว่าครั้งนี้เอาฝั่งซ้ายนะ ใกล้ประตูทางออก (ก็ห้องตรงข้ามกับเพื่อนล่ะค่ะ) เพราะจขกท.เดินเข้าห้องเพื่อนแล้วรู้สึกไม่ดีค่ะ ที่นั้นจะมีห้องน้ำอยู่ตรงกลางสองฝั่ง ฝั่งซ้ายเนี่ยเป็นห้องน้ำแยกกับห้องอาบน้ำเล็กค่ะ ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องน้ำรวมห้องอาบน้ำใหญ่ๆ ซึ่งห้องน้ำฝั่งซ้ายทำจขกท.รู้สึกแย่สุดๆ ขนลุกตั้งแต่เดินเข้าไป สำรวจห้องท้ายๆก็อึดอัดแปลกๆ เลยกลับมาเอาห้องแรกสุด (คือชอบที่มันใกล้ประตูนั่นแหละค่ะ ประตูมีทั้งทางหน้าบ้านและหลังบ้านค่ะ)
พอเปิดห้องเข้าไปจะเจอเตียงสามเตียงวางเรียงต่อกันค่ะ หน้าต่างจะมีสองทิศ คือหัวเตียง กับฝั่งตรงประตูค่ะ บานนั้นจะเปิดไม่ได้ เพราะเป็นที่วางรองเท้าพอดี จขกท.ก็ให้เพื่อนเลือกก่อน ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยได้เตียงติดหน้าต่างมาค่ะ
ก็อยู่กันไปวันแรก ไม่มีอะไรค่ะ สวดมนต์ก่อนนอน สบายไป จนมาคืนที่สองค่ะ จขกท.บอกฉิ้งฉ่องตอนตีหนึ่ง-ตีสอง
แล้วไม่กล้าปลุกเพื่อนค่ะ บวกกับเห็นว่าเป็นที่พักหญิง ไม่มีอะไรต้องกลัวว่าใครจะดักมาทุบหรือไรงี้ ตัดสินใจไปคนเดียวเลย เก๋ๆ
ก็นะแค่มาเข้าห้องน้ำเนาะไม่ต้องไปห้องใหญ่หรอกมันวังเวง เลยเลือกเข้าทางฝั่งซ้าย ค่ะ
พอเข้าไปปุ๊บ ห้องแรก ปิดประตูค่ะ มีคนเข้าอยู่ แล้วดันแง้มไม่ปิดให้สนิทด้วยนะ จขกท.ก็เดินจ้ำๆเข้าห้องถัดไปค่ะ กลัวเพื่อนที่เข้าห้องน้ำจะตกใจ
พอทำธุระเสร็จออกมา อ้าวเพื่อนยังนั่งอยู่ก็คิดละ แม่ม ขี้แหงเลย เลยบิดก๊อกน้ำเสียงดังๆค่ะ เผื่อเพื่อนรู้แล้วจะปิดประตู ไม่กี่วิต่อมา เสียงกดชักโครกจากห้องเพื่อนดังค่ะ เราก็ยืนรอตรงอ่างล้างมือ เพื่อนก็ไม่ออกมาสักที รอจนเมื่อยเลยแบบ ตัดสินใจไปตาม เพราะไม่กล้าเสียงดังค่ะ เดี๋ยวโดนคนอื่นด่า ที่นี่มันเงียบมาก ก็ค่อยๆแง้มประตูแรกที่เห็นเพื่อนเข้าออก แต่มันไม่มีคนค่ะ คิดว่าเพื่อนอายหนีเข้าห้องถัดไป เราก็เดินไล่เปิดประตูเลยค่ะ จะชวนเพื่อนเดินกลับไปด้วยกันให้ได้ จนถึงมุมในสุด มันเป็นห้องอาบน้ำเล็กๆค่ะ และทันทีที่เปิดไปไม่เจอใคร เราก็จ้ำอ้าวออกนอกห้องน้ำเลย ในใจนี่สบถมาไม่รู้กี่คำ เพราะทางเดินมันเล็กนิดเดียว ไม่มีทางให้ใครเดินสวนเราออกไปได้แน่ๆ และห้องน้ำก็เล็กเกินกว่าใครจะไปซ่อนด้วย แน่นอนค่ะ เราไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ไม่งั้นเพื่อนกลัวแน่ๆ บอกเพื่อนแค่ถ้าจะไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนให้เรียกเราไปด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลายวันต่อมามันเป็นช่วงกฐินพอดีค่ะ เราก็จะเห็นกระถางที่เขาให้ทำบุญใช่มั้ยคะ เรานี่ดีใจมาก เห็นแล้วพุ่งเข้าใส่ด้วยความเคยชิน มีห้ากระถาง ห้าวัด เราทำทุกกระถางเลยค่ะ ตอนนั้นคิดแค่แบบดีใจมากมีให้ทำด้วย ก็ชวนเพื่อนมาช่วยกันทำ เท่านั้นแหละค่ะ พอกลับหอพักปุ๊บเป็นเรื่องเลย
กลับมาถึงหอเราก็แวบไปอาบน้ำค่ะ แน่นอนคราวนี้เข้าทางฝั่งขวาค่ะ ฝั่งซ้ายเราเซย์โน ถึงเป็นตอนเย็นเราก็ไม่ไหวค่ะ 555 อาบๆอยู่เสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้จ้าเลยค่ะ ร้องแบบเราที่อยู่ในห้องน้ำขมวดคิ้วว่าใครไปแกล้งเด็กหรืออะไร ทำไมเสียงดังงี้ ก็รีบอาบแล้วออกมาถามเพื่อนว่า ใครไปแกล้งเด็ก เพื่อนเหวอทั้งกลุ่มเลยค่ะ บอกว่าไม่มีเสียง เราก็ยืนยันว่าเราได้ยิน ร้องดังมากเลยนะ พอเพื่อนทุกคนเริ่มเงียบแล้วมองหน้าเรา เท่านั้นแหละ เราพูดไม่ออกค่ะ ได้แต่บอกเพื่อนไปว่า สงสัยเราอาจหูฝาด แต่ก็พยายามนิ่งค่ะ พอตกดึก เราก็เข้าห้องเตรียมนอนค่ะ สักพักเสียงประตูดัง พร้อมเสียงเรียกจากเพื่อนให้ไปเปิดประตู เราก็เลยดินไปแล้วถามว่าใคร เพื่อนก็บอกชื่อเพื่อนมาโดยมีเพื่อนผู้ชายที่เดินมาส่งช่วยตอบ(ผู้ชายจะอยู่หออีกหลังค่ะ) เราก็เลยเปิดประตูให้เข้ามาค่ะ
เรา : แก เข้ามาครบยังอะ ง่วงแล้ว
เพื่อน : เราคนสุดท้ายๆ ข้องนอกไม่เหลือใครละ (แล้วเพื่อนก็เดินไปไล่ถามแต่ละห้องว่าเข้ามาครบยังเพื่อความชัวร์ค่ะ)
เรา : ถ้าครบแล้ว งั้นเค้าล็อกเลยนะ
เพื่อนก็พยักหน้าค่ะ เราก็ล็อกเรียบร้อย เข้าห้องตัวเอง เมทก็ถามเราว่าแบบเข้ามาหมดแล้วใช่มั้ย เราก็บอกหมดแล้วๆ ล็อกเรียบร้อย นอนไปได้สักเที่ยงคืน ตรงหน้าต่างที่เรานอนเสียงรัวกำแพงดังมากค่ะ ด้วยความที่มันเป็นไม้เรียงต่อกันเป็นแผ่นๆ แบบพวกอาคารไม้เก่าๆ เสียงมันจึงเป็น เคาะแล้วลากมือลงไปตามแนวไม้ค่ะ ดังแบบ ป๊อก ครูดดดดดดด ป็อก ครูดดดดด เราสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปมองทางหน้าต่างทันที นึกขอบคุณในความเกรียนของตัวเองที่กลัวเหม็นรองเท้าจนไม่ยอมเปิดหน้าต่าง กำแพงดังไม่หยุดเลยค่ะ ดังเป็นสิบนาทีจนเมทอีกคนสะกิดเรา แล้วพูดเบาๆ
เมท : ใครยังไม่เข้ามาเหรอ
เรา : เข้ามาหมดแล้ว!!! เรากระซิบตอบกลับเบาๆ เท่านั้นแหละค่ะ กำแพงดังรัวมากจนเรากับเมทหลับตาปี๋เลย
เมท : แก....
เรา : สวดมนต์ๆ
ณ จุดๆนั้น รัวบทไหนออกมาได้เรางัดมาหมดค่ะ พระที่คอนี่ยกมาสวดรัวๆ ของเจ้าป่าเจ้าเขา ผีบ้านผีเรือนปกป้อง บลาๆ เราขุดมาหมดเลย เกือบสิบนาที เสียงก็เงียบไปค่ะ เรากับเมทนี่หันมามองหน้ากันเองเลย แล้วตัดสินใจว่าไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันรุ่งขึ้นเป็นวันก่อนกลับค่ะ (จะกลับกรุงกันวันมะรืนนั่นเอง) เมทก็มาคุยกับจขกท.ค่ะว่าเสียงเมื่อคืนคืออะไร ตอนนั้นพวกเราได้แต่มองหน้ากันเองค่ะ ถามเพื่อนห้องอื่น ห้องตรงข้ามก็ไม่มีใครได้ยิน ก็เลยตัดใจเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งพอเป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ที่นี่ ตกดึกจึงมีฉลองค่ะ ก็นะ ตามประสาพวกผู้ชายก็ขออนุญาตทานเหล้ากัน เพราะฝึกเสร็จแล้ว เราก็ไปร่วมแจมบ้าง 5555 เห็นเพื่อนเฮฮากันดีอะนะ ผลสรุปคือมึนกลับห้องค่ะ ไม่เมานะ แต่เพื่อนบอกว่าหน้าแดงๆ ไอ้ตอนมึนๆเนี่ยเริ่มคิดแล้วค่ะว่าวันรุ่งขึ้นต้องกลับบ้าน กลัวที่บ้านรู้ค่ะ เลยตั้งใจว่าจะอาบน้ำตอนเช้าอีกที จะรีบตื่นเช้าหน่อย
(อย่าเพิ่งด่าว่าเราซกมกนะ = = แต่ห้องน้ำแบบนี้เราคงไม่กล้าเข้าตอนตีสี่ตีห้าอะ บอกตามตรง) ก็นั่นแหละค่ะวันรุ่งขึ้นเรารีบตื่นค่ะ ตีสี่ ห้องน้ำเต็ม ตีห้าก็เต็ม จนเกือบๆจะหกโมงละ มีห้องว่างห้องนึงค่ะ เป็นห้องอาบน้ำฝั่งซ้าย ก็เข้าไปอาบเพราะกลัวไม่ทันเวลา ตลอดเวลาที่อาบรู้สึกเหมือนโดนมองตลอด จนแบบหันมองซ้ายมองขวารอบๆตลอด หันซ้าย โดนมองขวา หันขวามองซ้าย ไรงี้ โคตรขนลุกเลยค่ะ เลยรีบอาบให้เสร็จๆ แล้วออกไปคุยกับเพื่อน
ด้วยความที่เป็นวันสุดท้าย พวกเราทุกคนจึงรู้ในสิ่งที่เพื่อนทุกคนเจอทั้งหมดเลยค่ะ เพื่อนหลายคนก็มาเล่าว่าห้องน้ำฝั่งซ้ายไปอาบน้ำทีไรรู้สึกเหมือนโดนจ้องตลอดเลย (เหมือนเรา) ได้ยินเสียงแปลกๆ ทางฝั่งหอชายก็บอกว่าเพื่อนเจอดีค่ะ แต่ไม่ยอมเล่าให้ฟัง เพราะคนเจอไม่ยอมเล่า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พอกลับมาที่ม. เพื่อนถึงเล่าให้ฟังว่า ราวๆตีสี่-ตีห้า เพื่อนสะดุ้งตื่นค่ะ เพราะได้ยินเสียงทหารมาฝึก เสียงดังมากจนนอนไม่ได้ แต่เมทของเพื่อนกับไม่มีใครตื่นสักคน ก็เลยแอบดูค่ะ เห็นทหารเดินฝึกกัน มันก็ไม่ใส่ใจ จะนอนต่อ จนกระทั่ง หกโมงที่เป็นเวลาตื่นนั่นแหละค่ะ ก็เลยไปบ่นให้เมทฟังว่า ทหารฝึกเสียงดังมาก ทำไมไม่มีใครตื่นเลยสักคน เท่านั้นแหละค่ะ วงแตก เพราะไม่มีใครเห็นหรือได้ยินอะไรเลยสักคน แม้กระทั่งพวกที่ไปฝึกกับเราแล้วพักห้องนั้นก็ไม่ได้ยินค่ะ
เอาเป็นว่าเรื่องของเราก็จบเท่านี้ละกันเนาะ
//ขอโทษค่ะยาวเลย ตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องเดียว แต่เห็นว่าเกิดที่ดียวกันเลยเล่าต่อกันเลยทีเดียว
ใครมีประสบการณ์ขนหัวลุก ลองของ หรือไปเจอดีอะไรมา เอามาแบ่งปันกันบ้างนะ!!!
-'๑'- ดึกๆ เช่นนี้ มาเล่าเรื่องผีกันมั้ยคะ -'๑'-
ไหนๆช่วงนี้กระทู้ผีก็ ฮอตฮิตติดชาร์ตกันเต็มไปหมด 555
จขกท.ชอบอ่าน อะไรแบบนี้ค่ะ 555
จะเจอเอง คนใกล้ตัวเจอมา ก็ได้นะคะ ^^
มาเริ่มที่จขกท.ก่อนเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เหตุเกิดตอนจขกท.ไปฝึกงานค่ะ
การฝึกงานของจขกท. จขกท.ต้องไปฝึกต่างจังหวัดค่ะ
ด้วยความที่สถานที่ฝึกงานเนี่ย มีประวัติมายาวนานมาก (ขออนุญาติไม่เอ่ยนะคะว่าที่ไหน)
รุ่นพี่ที่ไปฝึกก่อนหน้า ก็มีมาเล่าอะไรหลอนๆให้ฟังอยู่เหมือนกัน ซึ่งจขกท.ก็ไม่ได้ใส่ใจค่ะ
จนกระทั่งเพื่อนจขกท.ไปฝึกที่นั่นก่อน
เพื่อนบอกว่าได้บ้านสีเหลือง อยู่ห้องแรกจากประตูทางฝั่งขวา แล้วเจอดีค่ะ แต่ไม่ยอมบอกว่าเจออะไรมา บอกแต่ให้เลี่ยงห้องนั้น
พอจขกท.ไปถึงก็ตกลงกับเมทที่ต้องนอนห้องเดียวกัน ว่าครั้งนี้เอาฝั่งซ้ายนะ ใกล้ประตูทางออก (ก็ห้องตรงข้ามกับเพื่อนล่ะค่ะ) เพราะจขกท.เดินเข้าห้องเพื่อนแล้วรู้สึกไม่ดีค่ะ ที่นั้นจะมีห้องน้ำอยู่ตรงกลางสองฝั่ง ฝั่งซ้ายเนี่ยเป็นห้องน้ำแยกกับห้องอาบน้ำเล็กค่ะ ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องน้ำรวมห้องอาบน้ำใหญ่ๆ ซึ่งห้องน้ำฝั่งซ้ายทำจขกท.รู้สึกแย่สุดๆ ขนลุกตั้งแต่เดินเข้าไป สำรวจห้องท้ายๆก็อึดอัดแปลกๆ เลยกลับมาเอาห้องแรกสุด (คือชอบที่มันใกล้ประตูนั่นแหละค่ะ ประตูมีทั้งทางหน้าบ้านและหลังบ้านค่ะ)
พอเปิดห้องเข้าไปจะเจอเตียงสามเตียงวางเรียงต่อกันค่ะ หน้าต่างจะมีสองทิศ คือหัวเตียง กับฝั่งตรงประตูค่ะ บานนั้นจะเปิดไม่ได้ เพราะเป็นที่วางรองเท้าพอดี จขกท.ก็ให้เพื่อนเลือกก่อน ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยได้เตียงติดหน้าต่างมาค่ะ
ก็อยู่กันไปวันแรก ไม่มีอะไรค่ะ สวดมนต์ก่อนนอน สบายไป จนมาคืนที่สองค่ะ จขกท.บอกฉิ้งฉ่องตอนตีหนึ่ง-ตีสอง
แล้วไม่กล้าปลุกเพื่อนค่ะ บวกกับเห็นว่าเป็นที่พักหญิง ไม่มีอะไรต้องกลัวว่าใครจะดักมาทุบหรือไรงี้ ตัดสินใจไปคนเดียวเลย เก๋ๆ
ก็นะแค่มาเข้าห้องน้ำเนาะไม่ต้องไปห้องใหญ่หรอกมันวังเวง เลยเลือกเข้าทางฝั่งซ้าย ค่ะ
พอเข้าไปปุ๊บ ห้องแรก ปิดประตูค่ะ มีคนเข้าอยู่ แล้วดันแง้มไม่ปิดให้สนิทด้วยนะ จขกท.ก็เดินจ้ำๆเข้าห้องถัดไปค่ะ กลัวเพื่อนที่เข้าห้องน้ำจะตกใจ
พอทำธุระเสร็จออกมา อ้าวเพื่อนยังนั่งอยู่ก็คิดละ แม่ม ขี้แหงเลย เลยบิดก๊อกน้ำเสียงดังๆค่ะ เผื่อเพื่อนรู้แล้วจะปิดประตู ไม่กี่วิต่อมา เสียงกดชักโครกจากห้องเพื่อนดังค่ะ เราก็ยืนรอตรงอ่างล้างมือ เพื่อนก็ไม่ออกมาสักที รอจนเมื่อยเลยแบบ ตัดสินใจไปตาม เพราะไม่กล้าเสียงดังค่ะ เดี๋ยวโดนคนอื่นด่า ที่นี่มันเงียบมาก ก็ค่อยๆแง้มประตูแรกที่เห็นเพื่อนเข้าออก แต่มันไม่มีคนค่ะ คิดว่าเพื่อนอายหนีเข้าห้องถัดไป เราก็เดินไล่เปิดประตูเลยค่ะ จะชวนเพื่อนเดินกลับไปด้วยกันให้ได้ จนถึงมุมในสุด มันเป็นห้องอาบน้ำเล็กๆค่ะ และทันทีที่เปิดไปไม่เจอใคร เราก็จ้ำอ้าวออกนอกห้องน้ำเลย ในใจนี่สบถมาไม่รู้กี่คำ เพราะทางเดินมันเล็กนิดเดียว ไม่มีทางให้ใครเดินสวนเราออกไปได้แน่ๆ และห้องน้ำก็เล็กเกินกว่าใครจะไปซ่อนด้วย แน่นอนค่ะ เราไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ไม่งั้นเพื่อนกลัวแน่ๆ บอกเพื่อนแค่ถ้าจะไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนให้เรียกเราไปด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลายวันต่อมามันเป็นช่วงกฐินพอดีค่ะ เราก็จะเห็นกระถางที่เขาให้ทำบุญใช่มั้ยคะ เรานี่ดีใจมาก เห็นแล้วพุ่งเข้าใส่ด้วยความเคยชิน มีห้ากระถาง ห้าวัด เราทำทุกกระถางเลยค่ะ ตอนนั้นคิดแค่แบบดีใจมากมีให้ทำด้วย ก็ชวนเพื่อนมาช่วยกันทำ เท่านั้นแหละค่ะ พอกลับหอพักปุ๊บเป็นเรื่องเลย
กลับมาถึงหอเราก็แวบไปอาบน้ำค่ะ แน่นอนคราวนี้เข้าทางฝั่งขวาค่ะ ฝั่งซ้ายเราเซย์โน ถึงเป็นตอนเย็นเราก็ไม่ไหวค่ะ 555 อาบๆอยู่เสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้จ้าเลยค่ะ ร้องแบบเราที่อยู่ในห้องน้ำขมวดคิ้วว่าใครไปแกล้งเด็กหรืออะไร ทำไมเสียงดังงี้ ก็รีบอาบแล้วออกมาถามเพื่อนว่า ใครไปแกล้งเด็ก เพื่อนเหวอทั้งกลุ่มเลยค่ะ บอกว่าไม่มีเสียง เราก็ยืนยันว่าเราได้ยิน ร้องดังมากเลยนะ พอเพื่อนทุกคนเริ่มเงียบแล้วมองหน้าเรา เท่านั้นแหละ เราพูดไม่ออกค่ะ ได้แต่บอกเพื่อนไปว่า สงสัยเราอาจหูฝาด แต่ก็พยายามนิ่งค่ะ พอตกดึก เราก็เข้าห้องเตรียมนอนค่ะ สักพักเสียงประตูดัง พร้อมเสียงเรียกจากเพื่อนให้ไปเปิดประตู เราก็เลยดินไปแล้วถามว่าใคร เพื่อนก็บอกชื่อเพื่อนมาโดยมีเพื่อนผู้ชายที่เดินมาส่งช่วยตอบ(ผู้ชายจะอยู่หออีกหลังค่ะ) เราก็เลยเปิดประตูให้เข้ามาค่ะ
เรา : แก เข้ามาครบยังอะ ง่วงแล้ว
เพื่อน : เราคนสุดท้ายๆ ข้องนอกไม่เหลือใครละ (แล้วเพื่อนก็เดินไปไล่ถามแต่ละห้องว่าเข้ามาครบยังเพื่อความชัวร์ค่ะ)
เรา : ถ้าครบแล้ว งั้นเค้าล็อกเลยนะ
เพื่อนก็พยักหน้าค่ะ เราก็ล็อกเรียบร้อย เข้าห้องตัวเอง เมทก็ถามเราว่าแบบเข้ามาหมดแล้วใช่มั้ย เราก็บอกหมดแล้วๆ ล็อกเรียบร้อย นอนไปได้สักเที่ยงคืน ตรงหน้าต่างที่เรานอนเสียงรัวกำแพงดังมากค่ะ ด้วยความที่มันเป็นไม้เรียงต่อกันเป็นแผ่นๆ แบบพวกอาคารไม้เก่าๆ เสียงมันจึงเป็น เคาะแล้วลากมือลงไปตามแนวไม้ค่ะ ดังแบบ ป๊อก ครูดดดดดดด ป็อก ครูดดดดด เราสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปมองทางหน้าต่างทันที นึกขอบคุณในความเกรียนของตัวเองที่กลัวเหม็นรองเท้าจนไม่ยอมเปิดหน้าต่าง กำแพงดังไม่หยุดเลยค่ะ ดังเป็นสิบนาทีจนเมทอีกคนสะกิดเรา แล้วพูดเบาๆ
เมท : ใครยังไม่เข้ามาเหรอ
เรา : เข้ามาหมดแล้ว!!! เรากระซิบตอบกลับเบาๆ เท่านั้นแหละค่ะ กำแพงดังรัวมากจนเรากับเมทหลับตาปี๋เลย
เมท : แก....
เรา : สวดมนต์ๆ
ณ จุดๆนั้น รัวบทไหนออกมาได้เรางัดมาหมดค่ะ พระที่คอนี่ยกมาสวดรัวๆ ของเจ้าป่าเจ้าเขา ผีบ้านผีเรือนปกป้อง บลาๆ เราขุดมาหมดเลย เกือบสิบนาที เสียงก็เงียบไปค่ะ เรากับเมทนี่หันมามองหน้ากันเองเลย แล้วตัดสินใจว่าไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันรุ่งขึ้นเป็นวันก่อนกลับค่ะ (จะกลับกรุงกันวันมะรืนนั่นเอง) เมทก็มาคุยกับจขกท.ค่ะว่าเสียงเมื่อคืนคืออะไร ตอนนั้นพวกเราได้แต่มองหน้ากันเองค่ะ ถามเพื่อนห้องอื่น ห้องตรงข้ามก็ไม่มีใครได้ยิน ก็เลยตัดใจเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งพอเป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ที่นี่ ตกดึกจึงมีฉลองค่ะ ก็นะ ตามประสาพวกผู้ชายก็ขออนุญาตทานเหล้ากัน เพราะฝึกเสร็จแล้ว เราก็ไปร่วมแจมบ้าง 5555 เห็นเพื่อนเฮฮากันดีอะนะ ผลสรุปคือมึนกลับห้องค่ะ ไม่เมานะ แต่เพื่อนบอกว่าหน้าแดงๆ ไอ้ตอนมึนๆเนี่ยเริ่มคิดแล้วค่ะว่าวันรุ่งขึ้นต้องกลับบ้าน กลัวที่บ้านรู้ค่ะ เลยตั้งใจว่าจะอาบน้ำตอนเช้าอีกที จะรีบตื่นเช้าหน่อย
(อย่าเพิ่งด่าว่าเราซกมกนะ = = แต่ห้องน้ำแบบนี้เราคงไม่กล้าเข้าตอนตีสี่ตีห้าอะ บอกตามตรง) ก็นั่นแหละค่ะวันรุ่งขึ้นเรารีบตื่นค่ะ ตีสี่ ห้องน้ำเต็ม ตีห้าก็เต็ม จนเกือบๆจะหกโมงละ มีห้องว่างห้องนึงค่ะ เป็นห้องอาบน้ำฝั่งซ้าย ก็เข้าไปอาบเพราะกลัวไม่ทันเวลา ตลอดเวลาที่อาบรู้สึกเหมือนโดนมองตลอด จนแบบหันมองซ้ายมองขวารอบๆตลอด หันซ้าย โดนมองขวา หันขวามองซ้าย ไรงี้ โคตรขนลุกเลยค่ะ เลยรีบอาบให้เสร็จๆ แล้วออกไปคุยกับเพื่อน
ด้วยความที่เป็นวันสุดท้าย พวกเราทุกคนจึงรู้ในสิ่งที่เพื่อนทุกคนเจอทั้งหมดเลยค่ะ เพื่อนหลายคนก็มาเล่าว่าห้องน้ำฝั่งซ้ายไปอาบน้ำทีไรรู้สึกเหมือนโดนจ้องตลอดเลย (เหมือนเรา) ได้ยินเสียงแปลกๆ ทางฝั่งหอชายก็บอกว่าเพื่อนเจอดีค่ะ แต่ไม่ยอมเล่าให้ฟัง เพราะคนเจอไม่ยอมเล่า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พอกลับมาที่ม. เพื่อนถึงเล่าให้ฟังว่า ราวๆตีสี่-ตีห้า เพื่อนสะดุ้งตื่นค่ะ เพราะได้ยินเสียงทหารมาฝึก เสียงดังมากจนนอนไม่ได้ แต่เมทของเพื่อนกับไม่มีใครตื่นสักคน ก็เลยแอบดูค่ะ เห็นทหารเดินฝึกกัน มันก็ไม่ใส่ใจ จะนอนต่อ จนกระทั่ง หกโมงที่เป็นเวลาตื่นนั่นแหละค่ะ ก็เลยไปบ่นให้เมทฟังว่า ทหารฝึกเสียงดังมาก ทำไมไม่มีใครตื่นเลยสักคน เท่านั้นแหละค่ะ วงแตก เพราะไม่มีใครเห็นหรือได้ยินอะไรเลยสักคน แม้กระทั่งพวกที่ไปฝึกกับเราแล้วพักห้องนั้นก็ไม่ได้ยินค่ะ
เอาเป็นว่าเรื่องของเราก็จบเท่านี้ละกันเนาะ
//ขอโทษค่ะยาวเลย ตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องเดียว แต่เห็นว่าเกิดที่ดียวกันเลยเล่าต่อกันเลยทีเดียว
ใครมีประสบการณ์ขนหัวลุก ลองของ หรือไปเจอดีอะไรมา เอามาแบ่งปันกันบ้างนะ!!!