ถามนักวิทยาศาสตร์/นักปรัชญา: เหตุใดมนุษย์จึงเปลี่ยนพุทธที่เป็นเหตุและผลให้กลายเป็นเรื่อง Joke?

ที่ห้องศาสนากระผมเคยเข้าใจว่าจะเป็นบอรด์ที่เต็มไปด้วยผู้ที่มีความรู้/ความเข้าใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน หรือเอาง่ายๆเป็นคนพุทธที่เป็นยอดพีรามิดของสังคมพุทธในประเทศไทย แต่สิ่งที่ผมเคยวาดฝันไว้ได้หาเป็นเช่นนั้นไม่ ....

ชาวพุทธนิยายยังคงเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจว่าพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือมนุษย์ (ทั้งๆที่ท่านก็คือมนุษย์เหมือนกับเราทุกประการ) เชื่อนิยายที่ถูกยัดสอดไส้เข้าไปในคัมภีร์จนไม่รู้ไม่สนแล้วว่ามนุษย์จะดำดินหรือเหาะขึ้นไปลูบดวงจันทร์หรือปิดดวงอาทิตย์ได้ยังไง (ดีนะที่ในคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่าโดราเอมอนมีจริง ไม่งั้นได้มีเหรียญหรือพระเครื่องรุ่นโดราเอมอนให้ได้กราบไหว้บูชากันแน่นอน)

เลอะเทอะและหลงทางจนพวกต้นทางหากยังมีชีวิตอยู่คงได้แต่ตั้งคำถามว่า "พวกนายออกทะเลไปไกลกันได้ขนาดนี้เลยหรือ" ท่านที่เหมือนเป็นผู้ใหญ่ของห้องก็ท้าคนให้ออกไปพิสูจน์ผีราวกับเด็กวัยคะนอง, ด่าว่าพระที่สอนให้คนเลิกงมงายราวกับมิกลัวบาปที่ตนเองเชื่อหนักเชื่อหนาว่าใต้บาดาลมีต้นงิ้วและกะทะทองแดง

เลอะเทอะและซี้ซั้วขอรับ พุทธคือเรื่องความเข้าใจในทุกข์และเข้าใจในธรรมชาติตามจริงมิใช่นิทานชวนเชื่อขอรับ

ขอถามนักวิทยาศาสตร์และนักปรัชญาทีว่า เหตุใดมนุษย์จึงดัดแปลงเหตุผลให้กลายเป็นเรื่องไร้เหตุผล?

ไข่แมว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คุณเข้าใจถูกแล้ว  ส่วนเหตุผลก็ง่ายนิดเดียว
คนที่เล่นอินเตอเนทไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่อยู่บนยอดพิระมิดของสังคม <<< จริงๆ คำพูดนี้น่าขบขัน

ที่ห้องอื่น คุณจะเจอพวกบ้าห้าร้อยเช่นกัน
ห้องแป้งก็มีพวกอยากสวยลืมตาย กล้าจะเอาสรรพัดเพมา ทา กิน ฉีดเข้าตัว

ห้องราชดำเนินก็เพียบ ควายแดง คอมมิวนิส ฟาสซิส ล้มเจ้า สลิ่ม แมงสาบ แล้วแต่จะเรียก

ห้องสีลมก็มีพวกชอบสำเร็จความใคร่ โดยเนียนมาโอ่ว่า ได้เงินเดือนเยอะขนาดนี้หลายหมื่น เป็นแสน เพื่อนๆว่าน้อยไปไหม?
ส่วนห้องข้างๆ ก็คล้ายกันเอาพอร์ตหุ้นมาโชว์ตอนได้ พอตอนเสียล่ะหายต๋อม

และแน่นอน ห้องศาสนาก็เต็มไปด้วยพุทโธเลี่ยน ที่ชอบฟลัดกระทู้และใช้ภาษาเอเชียใต้ดึกดำบรรพ์ที่มนุษย์ปัจจุบันปกติเค้าไม่ใช้สนทนากันแล้ว
ความคิดเห็นที่ 10
เท่....

   เห็นแท็กมาห้องหว้ากอ แสดงว่าต้องการเหตุผลทางวิทยาศาสตร์
ในทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าไม่มีอยู่จริง
ลองหยิบสักเรื่องขึ้นมาแล้วลองทำ Thought Experiment ดู
เอาเรื่อง เดินทะลุกำแพง มาวิเคราะห์ดู
ก็ต้องเอาข้อกำหนดขั้นพื้นฐานของพุทธมาแปลเป็นวิทยาศาสตร์ด้วยเช่น
จิต เกิดดับ ก็เป็น On OFF ดังนั้น ถ้าอยากจะดับ ก็ทำจิตให้ OFF หรือ เป็น "ค่าศูนย์" ความว่างนั่นเอง.....จิตว่าง ดับสนิท..
อภิญญาต่างๆ ก็เป็น หลัก Digital ...Binary system (On - off) นั่นเอง...เช่น
ถ้าเดินผ่านกำแพง....ผ่านในช่วง ที่ กำแพง off ด้วยกายที่เป็น off ดังนั้น "ศูนย์ ผ่าน ศูนย์" ก็สามารถทำได้

หรือเอาชีววิทยา มาวิเคราะห์สาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะเกิดมาเดินได้เลย
สิ่งมีชีวิตหรือสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม มีเยอะแยะไปที่เกิดมาแล้วเดินได้เลย หรือ ว่ายน้ำได้เลย
เราไม่รู้ว่า เมื่อ2000 ปีที่แล้ว คนมีลักษณะทางกายภาพอย่างไร แข็งแรงมากกว่าคนสมัยนี้หรือไม่
หรือเฉพาะเจ้าขายฯเท่านั้น ที่อยู่ในท้องพระมารดานานจนขาแข็งแรง พอออกมาก็เดินได้เลยเหมือน ม้า วัว
ก็อาจเป็นไปได้
ลองทำ Thought Experiment ดูครับ

แต่สิ่งที่เราเจอกันบ่อยๆก็คือ "ไม่เห็น แปลว่าไม่มี" อื่มม์.... ถ้านักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างนี้หมด โลกสำหรับท่านนั้น "ยังแบน" อยู่ครับ
ไม่เห็นก็เลยแปลว่าไม่มีซะงั้น  
นั้นผมถามว่า เห็นใบไม้ไหวไหม
ตอบ เห็น
ถามว่า มันไหวเพราะอะไร
ตอบ เพราะลม
อ้าวท่าน... ท่านไม่เห็นลม แล้วรู้ได้อย่างไรว่ามันมี ....จบ
นี่คืออาการที่กำลังพบมากในปัจจุบัน

    ตัวผมเอง ไม่เชื่อเรื่อง นรกสวรรค์วิมาณ แต่ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปค้าน ก็เลยต้องละไว้ในฐานไม่เข้าใจ แต่บางท่าน
ฟันธงทันทีว่าไม่มี อ้าว...แล้วท่านรู้ได้อย่างไร ตอบก็คือ "เดา"
ส่วนท่านที่บอกว่ามี อ้าว...แล้วรู้ได้อย่างไร ตอบก็คือ "เดา"
เอาเข้าไป เดา กับ เดา มานั่งเถียงกัน

   ไม่รู้ก็บอกไม่รู้สิครับ มันถึงเป็นวิทยาศาสตร์ ถ้ารู้ก็เอาหลักฐานมา ก็เท่านั้น เลิกเสียเถอะครับ เดา กับ เดา นั่งเถียงกัน
มันก็ได้คำตอบคือ "เดา" ไงครับ
ความคิดเห็นที่ 37
บอกได้ว่าพุทธไม่เหมาะกับคนไทย
เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่าเมืองไทยดีทุกอย่างยกเว้นคนไทย
คืออะไรที่ดีๆถ้ามาถึงมือคนไทยก็เสียของหมด
อย่างพุทธนี่เหมาะกับฝรั่งมากกว่าคนไทยที่งมงายอยู่กับผีกับไสยศาสตร์กับความเชื่อแบบพราหม์ฮินดู
เสียของจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 19
เอะอะก็ฟ้องห้องหว้ากอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่