เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ทีมนักศึกษาอาชีวศึกษาในสังกัด เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปเข้าร่วมการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์ในงาน 26 th International Invention & Innovation Exhibition ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ค.ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ร่วมกับทีมนักศึกษาอาชีวศึกษาจากประเทศต่างๆ กว่า 20 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินเดีย โปแลนด์ รัสเซีย เยอรมนี และไทย ซึ่งส่งผลงานเข้าประกวดแข่งขันกว่า 1,000 ชิ้น ผลปรากฏว่าทีมนักศึกษาอาชีวศึกษาไทย ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลเหรียญทอง 3 เหรียญ และรางวัลพิเศษอีก 3 รางวัล ได้แก่
1.เครื่องทำลายกระจกรถยนต์กรณีรถยนต์ตกน้ำ ของวิทยาลัยสารพัดช่าง (วช.) อุบลราชธานี ประกอบด้วย นายพงศกร วงศ์สุทธิ์ นักศึกษา และนายชะลอ พลนิล ครูที่ปรึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทอง และรางวัลพิเศษจากฮ่องกง (International Best Invention Award of Hongkong)
2.อุปกรณ์เข้าขอบยางมุ้งลวด ของวิทยาลัยเทคนิค (วท.) พิษณุโลก ประกอบด้วยนายณรงค์ศักดิ์ ชัยวิเศษ นักศึกษา และนายชาญชัย วิเศษสุมน ครูที่ปรึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทอง และรางวัลพิเศษจากประเทศซาอุดีอาระเบีย
3.Cooking Engine ของวท.หนองคาย ประกอบด้วยนายดัสกร ผาลือคำ นักศึกษา และนายสิทธิไชย สิงห์มหาไชย ครูที่ปรึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทอง และรางวัลพิเศษจากอินโดนีเซีย
อาชีวะไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ยังเสียดายจนทุกวันนี้ว่าน่าจะเลือกเรียนสายอาชีพ ไม่ทันละ
แหล่งที่มา
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=41623&Key=news2
นักเรียนอาชีวะไทยสร้างชื่อคว้า3เหรียญทองในการประกวดสิ่งประดิษฐ์
1.เครื่องทำลายกระจกรถยนต์กรณีรถยนต์ตกน้ำ ของวิทยาลัยสารพัดช่าง (วช.) อุบลราชธานี ประกอบด้วย นายพงศกร วงศ์สุทธิ์ นักศึกษา และนายชะลอ พลนิล ครูที่ปรึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทอง และรางวัลพิเศษจากฮ่องกง (International Best Invention Award of Hongkong)
2.อุปกรณ์เข้าขอบยางมุ้งลวด ของวิทยาลัยเทคนิค (วท.) พิษณุโลก ประกอบด้วยนายณรงค์ศักดิ์ ชัยวิเศษ นักศึกษา และนายชาญชัย วิเศษสุมน ครูที่ปรึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทอง และรางวัลพิเศษจากประเทศซาอุดีอาระเบีย
3.Cooking Engine ของวท.หนองคาย ประกอบด้วยนายดัสกร ผาลือคำ นักศึกษา และนายสิทธิไชย สิงห์มหาไชย ครูที่ปรึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทอง และรางวัลพิเศษจากอินโดนีเซีย
อาชีวะไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ยังเสียดายจนทุกวันนี้ว่าน่าจะเลือกเรียนสายอาชีพ ไม่ทันละ
แหล่งที่มา http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=41623&Key=news2