เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของ พี่มัธยัสถ์ อินมา หรือ พี่แฟน บรรณาธิการข่าวช่อง ONE ที่เคยได้พูดคุยกับ "เสือใบ" ตัวเป็นๆ ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ขณะที่ลุงใบยังคงเก็บตัวอยู่ในบ้านพัก แม้ที่ผ่านมาหลายสื่อจะพยายามนำเสนอมุมมองประวัติอันโชกโชนของเสือใบ แต่เรื่องที่จะได้อ่านจากนี้ เป็นอีก 1 มุมมองที่เชื่อว่า หลายสื่อไม่เคยได้นำเสนอแน่ๆ มันเป็นเกร็ดเล็กน้อยที่แม้แต่จขกท. ยังอดที่จะ "อมยิ้ม" กับบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้
------------------
‘เสือใบ’ ที่คนไทยทั่วประเทศรู้จัก และ ‘ลุงใบ สะอาดดี’ ที่คนดอนกำยาน เมืองสุพรรณบุรี มักคุ้น เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคเส้นเลือดโป่ง กดทับระบบทางเดินหัวใจ ปิดฉากเสือใบ-จอมโจรปล้นคนรวยแจกจ่ายคนคน ในวัย 94 ปี แต่ตำนานเล่าขานยังคงมีอยู่สืบไป
และนี่คือเสือใบกับลุงใบที่ผมรู้จัก !!!
ย้อนกลับไป 12 ปีก่อน ผมได้รับมอบหมายจากพี่จ๊อบ บก.รายงานพิเศษ นสพ.คม ชัด ลึก ให้ไปสัมภาษณ์พิเศษเสือใบ เคยรับรู้เรื่องราวผ่านหนังสือเสียมากกว่าคำบอกเล่าเป็นจริงเป็นจังจากคนใกล้ตัวว่า เสือใบเป็นใคร มีวีรกรรมห้าวหาญอย่างไร ผมออกเดินทางจากสำนักพิมพ์บางนาตราด กม.4.5 มุ่งหน้าไปเมืองสุพรรณบุรี โดยไร้จุดหมายปลายทาง อาศัยอย่างเดียวคือถามไปเรื่อยๆ
ผมใช้เวลาอยู่นานเกือบครึ่งวัน ขับรถเลยจนหลงไปก็หลายเที่ยว สุดท้ายก็ได้คำตอบที่เพียรหามานาน
‘นู้นนนนน บ้านลุงใบอยู่หน้าวัดพันตำลึง นู้นนนน’ สำเนียงสุพรรณฯ ฟังรื่นหูมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเป็นคำตอบที่กำลังค้นหา
วัดพันตำลึง ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี คือ เป้าหมายที่ผมมุ่งไป เยื้องกับวัดเล็กน้อย มีบ้านชั้นเดียวหลังย่อมๆ บนเนื้อที่กว้างขวาง กำแพงสูง รั้วตาข่าย มีพุ่มเข็มใหญ่อยู่ในรั้วติดหน้าบ้าน แม้จะไม่เคยพบเสือใบมาก่อน แต่กิตติศัพท์ที่โจษจันไปทั่วเหนือจรดใต้ก็ทำเอาผมครั่นคร้ามอยู่บ้างพอดู
ผมจอดรถข่าวก่อนถึงหน้าบ้านเล็กน้อย ค่อยๆ เดินออกไปให้เห็นหน้าชัดเจน ตะโกนเรียกด้วยถ้อยคำสุภาพ ‘ลุงใบ ลุงใบ ลุงใบ’ อยู่หลายเที่ยว ไม่นานชายชราผิวหนังเหี่ยวย่น แต่ยังแลดูกำยำ สมส่วน ไม่ลงพุง ไม่มีท่าทางอ่อนล้า วัยชราไม่อาจทำร้ายชราชราข้างหน้าได้ ตรงกันข้ามแววตากลับดุดัน ทรงอำนาจ มือสองข้างไขว้หลัง เอ่ยถามด้วยสำเนียงสุพรรณชัดถ้อยชัดคำ
‘เออ อยู่นี่ มีอะไร แล้วเอ็งเป็นใคร ?’
ผมแนะนำตัวเองเสร็จสรรพและขออนุญาตเข้าไปพูดคุยในบ้าน ... บ้านชั้นเดียวด้านหน้าเป็นลานโล่ง พื้นสะอาดเตียนโล่ง ด้วยผ่านการเหยียบย่ำอยู่เป็นนิจ ข้าวของเครื่องใช้วางไว้กระจัดกระจาย ฝาผนังเต็มไปด้วยรูปถ่ายสมัยเก่าและรูปภาพครอบครัว ลูกชายและลูกสาวที่สำเร็จการศึกษา มีหน้าที่การงานมั่นคงทำ เชิดหน้าชูตาบุพการี ส่วนด้านหลังติดแม่น้ำหรือคลองผมจำได้ไม่ถนัดนัก ด้วยเหตุนี้บ้านหลังนี้จึงเย็นสบาย ลมโกรกอยู่ตลอดเวลา
แม้จะถูกวัยชราเข้าครอบงำ แต่เสือก็ยังเป็นเสือ เสือไม่เคยทิ้งลายตัวเอง เหนือขอบเอวกางเกงด้านหลังปรากฏด้ามปืนลูกโม่ .38 กระชับติดเอว ชายเสื้อโปโลลายขวางสีน้ำตาลสลับเทาไม่อาจปกปิดได้มิด หรืออีกนัยหนึ่งต้องการโชว์ให้เห็นสิ่งที่พกพาอยู่อย่างไว้ลายเสือ
ผมแอบกลืนน้ำลายนิดๆ แต่เสือใบวันนี้ดูเอื้ออารีนักข่าวรุ่นหลานอย่างผมมากอยู่ ผมจึงหยิกแกมหยอกเสือผู้เป็นตำนานเป็นการทักทายเบื้องแรก
‘ลุงอายุขนาดนี้ ยังจะยิงปืนไหวอยู่เหรอ ?’
‘เอ็งอยากลองก็ไปนู้นตรงพุ่มเข็มหน้าบ้าน เดี๋ยวข้าจะยิงให้ดู’
ครับ ผมสรุป ณ เวลานั้นเลยว่าเสือใบยังแม่นอยู่แน่นอน จึงไม่ต้องพิสูจน์ให้เสียเวลา ^^
เสือใบตรงไปนั่งบนเก้าอี้โยกตัวเก่ง ที่มันเลื่อมจากการใช้งาน เอนหลังพิงท่าทางสบายๆ วางมือทั้งสองข้างไว้บนพนัก แล้วโยก สายตายังจ้องเขม็งมาที่ผม เมื่อแนะนำตัวอีกครั้งอย่างเป็นทางการก็เข้าประเด็นว่า ต้องการสัมภาษณ์พิเศษ เสือใบลังเลอยู่พักใหญ่ๆ เนื่องจากต้องการมีชีวิตส่วนตัว ระยะหลังๆ มานี้เรื่องราวของเสือใบจึงไม่ค่อยถูกเปิดเผยออกมามากนัก
การพูดคุยเริ่มได้สักพัก หญิงชราที่ดูอายุจะอ่อนเยาว์กว่าเสือใบเล็กน้อย สวมเสื้อคอกระเช้าสีน้ำเงินเข้ม ผ้าถุงลายดอก รูปร่างท้วม ประแป้งขาว หน้าตาใจดี ก็เดินออกมาจากบ้าน มือถือเชี่ยนหมากและงานฝีมือมานั่งทำนอกบ้าน ห่างจากผมไปเล็กน้อย เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมือนยายยิ้มให้หลานอย่างเอ็นดู
ลุงใบวันนี้อายุ 82 ปีแล้ว แต่เรื่องราวเมื่อหนหลังยังพรั่งพรูอยู่ในความทรงจำ และพร้อมจะโลดแล่นออกมาบอกเล่านักข่าวรุ่นหลาน มันไม่ใช่การสัมภาษณ์พิเศษ แต่เป็นการพูดคุยระหว่างลุงกับหลาน ที่เหมือนไม่ได้เจอกันมานานมากกว่า เรื่องราวจึงเต็มไปด้วยรสชาติ ตัวละคร อารมณ์ ความรู้สึก โดยเฉพาะบทดราม่าของพระ-นาง
‘เขาไม่ได้จีบฉันหรอก เขาบอกจะปล้ำเอา’ คุณป้าเมียลุงใบกล่าวอมยิ้มและหัวเราะร่วน
(ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมจำชื่อคุณป้าไม่ได้จริงๆ จะกลับไปค้นข้อมูลที่เก่าก็ลาออกมาหลายปีดีดักแล้ว)
ครับ นั่นคือคำพูดของเสือใบเมื่อตอนยังหนุ่ม แต่ไม่เคยทำจริง แม้จะเป็นโจรแต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
‘เขาเคยจดหมายมาหาฉัน 1 ฉบับ’ คุณป้ายิ้มเอียงอาย ถ้าย้อนกลับไปในวัยสาวเชื่อว่า คงเป็นสาวสคราญโฉมนางหนึ่ง จนทำให้หัวใจหนุ่มของเสือใบลุกโชน
ผมเพียรถามอยู่หลายเที่ยว ทั้งลุงใบและคุณป้าถึงข้อความในจดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘เสือใบ’ บอกรัก มากับจดหมายด้วยหรือไม่
แต่คำตอบที่ได้จากทั้งสอง คนหนึ่งยิ้มกรุ้มกริ่มบนม้าโยก อีกคนฉีกยิ้มบนม้านั่งเตี้ยๆ ห่างออกมา บ้าน ‘สะอาดดี’ วันนั้นจึงอบอวลไปด้วยกรุ่นไอรัก
----- ------ ------ ----- -----
ปล.วันพรุ่งนี้ผมจะมาเขียนตอน 2 นะครับ เรื่องที่เสือใบเป็นโจรปล้นคนรวยแจกคนจนจริงหรือไม่ ^^
เสือใบกับนักข่าวรุ่นหลาน ตอนที่ 1
------------------
‘เสือใบ’ ที่คนไทยทั่วประเทศรู้จัก และ ‘ลุงใบ สะอาดดี’ ที่คนดอนกำยาน เมืองสุพรรณบุรี มักคุ้น เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคเส้นเลือดโป่ง กดทับระบบทางเดินหัวใจ ปิดฉากเสือใบ-จอมโจรปล้นคนรวยแจกจ่ายคนคน ในวัย 94 ปี แต่ตำนานเล่าขานยังคงมีอยู่สืบไป
และนี่คือเสือใบกับลุงใบที่ผมรู้จัก !!!
ย้อนกลับไป 12 ปีก่อน ผมได้รับมอบหมายจากพี่จ๊อบ บก.รายงานพิเศษ นสพ.คม ชัด ลึก ให้ไปสัมภาษณ์พิเศษเสือใบ เคยรับรู้เรื่องราวผ่านหนังสือเสียมากกว่าคำบอกเล่าเป็นจริงเป็นจังจากคนใกล้ตัวว่า เสือใบเป็นใคร มีวีรกรรมห้าวหาญอย่างไร ผมออกเดินทางจากสำนักพิมพ์บางนาตราด กม.4.5 มุ่งหน้าไปเมืองสุพรรณบุรี โดยไร้จุดหมายปลายทาง อาศัยอย่างเดียวคือถามไปเรื่อยๆ
ผมใช้เวลาอยู่นานเกือบครึ่งวัน ขับรถเลยจนหลงไปก็หลายเที่ยว สุดท้ายก็ได้คำตอบที่เพียรหามานาน
‘นู้นนนนน บ้านลุงใบอยู่หน้าวัดพันตำลึง นู้นนนน’ สำเนียงสุพรรณฯ ฟังรื่นหูมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเป็นคำตอบที่กำลังค้นหา
วัดพันตำลึง ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี คือ เป้าหมายที่ผมมุ่งไป เยื้องกับวัดเล็กน้อย มีบ้านชั้นเดียวหลังย่อมๆ บนเนื้อที่กว้างขวาง กำแพงสูง รั้วตาข่าย มีพุ่มเข็มใหญ่อยู่ในรั้วติดหน้าบ้าน แม้จะไม่เคยพบเสือใบมาก่อน แต่กิตติศัพท์ที่โจษจันไปทั่วเหนือจรดใต้ก็ทำเอาผมครั่นคร้ามอยู่บ้างพอดู
ผมจอดรถข่าวก่อนถึงหน้าบ้านเล็กน้อย ค่อยๆ เดินออกไปให้เห็นหน้าชัดเจน ตะโกนเรียกด้วยถ้อยคำสุภาพ ‘ลุงใบ ลุงใบ ลุงใบ’ อยู่หลายเที่ยว ไม่นานชายชราผิวหนังเหี่ยวย่น แต่ยังแลดูกำยำ สมส่วน ไม่ลงพุง ไม่มีท่าทางอ่อนล้า วัยชราไม่อาจทำร้ายชราชราข้างหน้าได้ ตรงกันข้ามแววตากลับดุดัน ทรงอำนาจ มือสองข้างไขว้หลัง เอ่ยถามด้วยสำเนียงสุพรรณชัดถ้อยชัดคำ
‘เออ อยู่นี่ มีอะไร แล้วเอ็งเป็นใคร ?’
ผมแนะนำตัวเองเสร็จสรรพและขออนุญาตเข้าไปพูดคุยในบ้าน ... บ้านชั้นเดียวด้านหน้าเป็นลานโล่ง พื้นสะอาดเตียนโล่ง ด้วยผ่านการเหยียบย่ำอยู่เป็นนิจ ข้าวของเครื่องใช้วางไว้กระจัดกระจาย ฝาผนังเต็มไปด้วยรูปถ่ายสมัยเก่าและรูปภาพครอบครัว ลูกชายและลูกสาวที่สำเร็จการศึกษา มีหน้าที่การงานมั่นคงทำ เชิดหน้าชูตาบุพการี ส่วนด้านหลังติดแม่น้ำหรือคลองผมจำได้ไม่ถนัดนัก ด้วยเหตุนี้บ้านหลังนี้จึงเย็นสบาย ลมโกรกอยู่ตลอดเวลา
แม้จะถูกวัยชราเข้าครอบงำ แต่เสือก็ยังเป็นเสือ เสือไม่เคยทิ้งลายตัวเอง เหนือขอบเอวกางเกงด้านหลังปรากฏด้ามปืนลูกโม่ .38 กระชับติดเอว ชายเสื้อโปโลลายขวางสีน้ำตาลสลับเทาไม่อาจปกปิดได้มิด หรืออีกนัยหนึ่งต้องการโชว์ให้เห็นสิ่งที่พกพาอยู่อย่างไว้ลายเสือ
ผมแอบกลืนน้ำลายนิดๆ แต่เสือใบวันนี้ดูเอื้ออารีนักข่าวรุ่นหลานอย่างผมมากอยู่ ผมจึงหยิกแกมหยอกเสือผู้เป็นตำนานเป็นการทักทายเบื้องแรก
‘ลุงอายุขนาดนี้ ยังจะยิงปืนไหวอยู่เหรอ ?’
‘เอ็งอยากลองก็ไปนู้นตรงพุ่มเข็มหน้าบ้าน เดี๋ยวข้าจะยิงให้ดู’
ครับ ผมสรุป ณ เวลานั้นเลยว่าเสือใบยังแม่นอยู่แน่นอน จึงไม่ต้องพิสูจน์ให้เสียเวลา ^^
เสือใบตรงไปนั่งบนเก้าอี้โยกตัวเก่ง ที่มันเลื่อมจากการใช้งาน เอนหลังพิงท่าทางสบายๆ วางมือทั้งสองข้างไว้บนพนัก แล้วโยก สายตายังจ้องเขม็งมาที่ผม เมื่อแนะนำตัวอีกครั้งอย่างเป็นทางการก็เข้าประเด็นว่า ต้องการสัมภาษณ์พิเศษ เสือใบลังเลอยู่พักใหญ่ๆ เนื่องจากต้องการมีชีวิตส่วนตัว ระยะหลังๆ มานี้เรื่องราวของเสือใบจึงไม่ค่อยถูกเปิดเผยออกมามากนัก
การพูดคุยเริ่มได้สักพัก หญิงชราที่ดูอายุจะอ่อนเยาว์กว่าเสือใบเล็กน้อย สวมเสื้อคอกระเช้าสีน้ำเงินเข้ม ผ้าถุงลายดอก รูปร่างท้วม ประแป้งขาว หน้าตาใจดี ก็เดินออกมาจากบ้าน มือถือเชี่ยนหมากและงานฝีมือมานั่งทำนอกบ้าน ห่างจากผมไปเล็กน้อย เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมือนยายยิ้มให้หลานอย่างเอ็นดู
ลุงใบวันนี้อายุ 82 ปีแล้ว แต่เรื่องราวเมื่อหนหลังยังพรั่งพรูอยู่ในความทรงจำ และพร้อมจะโลดแล่นออกมาบอกเล่านักข่าวรุ่นหลาน มันไม่ใช่การสัมภาษณ์พิเศษ แต่เป็นการพูดคุยระหว่างลุงกับหลาน ที่เหมือนไม่ได้เจอกันมานานมากกว่า เรื่องราวจึงเต็มไปด้วยรสชาติ ตัวละคร อารมณ์ ความรู้สึก โดยเฉพาะบทดราม่าของพระ-นาง
‘เขาไม่ได้จีบฉันหรอก เขาบอกจะปล้ำเอา’ คุณป้าเมียลุงใบกล่าวอมยิ้มและหัวเราะร่วน
(ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมจำชื่อคุณป้าไม่ได้จริงๆ จะกลับไปค้นข้อมูลที่เก่าก็ลาออกมาหลายปีดีดักแล้ว)
ครับ นั่นคือคำพูดของเสือใบเมื่อตอนยังหนุ่ม แต่ไม่เคยทำจริง แม้จะเป็นโจรแต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
‘เขาเคยจดหมายมาหาฉัน 1 ฉบับ’ คุณป้ายิ้มเอียงอาย ถ้าย้อนกลับไปในวัยสาวเชื่อว่า คงเป็นสาวสคราญโฉมนางหนึ่ง จนทำให้หัวใจหนุ่มของเสือใบลุกโชน
ผมเพียรถามอยู่หลายเที่ยว ทั้งลุงใบและคุณป้าถึงข้อความในจดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘เสือใบ’ บอกรัก มากับจดหมายด้วยหรือไม่
แต่คำตอบที่ได้จากทั้งสอง คนหนึ่งยิ้มกรุ้มกริ่มบนม้าโยก อีกคนฉีกยิ้มบนม้านั่งเตี้ยๆ ห่างออกมา บ้าน ‘สะอาดดี’ วันนั้นจึงอบอวลไปด้วยกรุ่นไอรัก
----- ------ ------ ----- -----
ปล.วันพรุ่งนี้ผมจะมาเขียนตอน 2 นะครับ เรื่องที่เสือใบเป็นโจรปล้นคนรวยแจกคนจนจริงหรือไม่ ^^