ข่าเหลืองนับว่าเป็นพืชที่เหมาะกับเกษตรกรที่ชอบปลูกพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก เหมือนจำพวกตะไคร้ หรือขจร เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำราคาดีมาอย่างต่อเนื่อง
เกษตรกรก้าวหน้า
ข่าเหลือง พืชเศรษฐกิจทำเงินที่น่าลงทุน ปลูกง่าย รายได้ดี
ข่าเหลือง จัดเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับเสมหะ ที่มีการปลูกกันมาในภาคอีสานและภาคใต้ เนื่องจากความนิยมในการนำไปประกอบเป็นเครื่องแกง จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีเกษตรกรปลูกข่าเหลืองเลี้ยงชีพกันอย่างแพร่หลาย ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ข่าเหลืองมีราคาค่อนข้างสูงมาโดยตลอด ทำให้เกษตรหันมาปลูกกันจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ลักษณะของข่าเหลืองจะมีกลิ่นและรสชาติแรงและหอมมากกว่าข่าชนิดอื่นสังเกตที่เนื้อจะเป็นสีเหลือง
ข่าเหลืองนับว่าเป็นพืชที่เหมาะกับเกษตรกรที่ชอบปลูกพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก เหมือนจำพวกตะไคร้ หรือขจร เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำราคาดีมาอย่างต่อเนื่อง
การเตรียมกล้าพันธุ์
ใช้หัวหรือแง่งแก่จัดทีซื้อมาจากตลาดใน สภาพที่ยังสด มีตาตามข้อเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องมีราก ตัดแต่งรอยช้ำ หรือเน่าที่หัวออกให้หมด แล้วนำไปแช่น้ำยากันรา จากนั้นนำขึ้นมาผึงลมในร่มให้แห้งแล้วทาแผลด้วยปูนแดงกินกับหมาก นำหัวพันธุ์ที่ได้มาห่มความชื้น โดยการห่อด้วยผ้าชื้นน้ำหนาๆ นำไปเก็บไว้ในร่ม…หรือ ห่มกระบะโดยมีฟางรองพื้นหนาๆ วางท่อนพันธุ์แล้วกลบด้วยฟางหนาๆอีกชั้น รดน้ำให้ชุ่มเก็บในที่ร่ม…หรือ จะนำลงเพาะชำในขี้เถ้าแกลบก็ได้ โดยใช้เวลาการห่มความชื้น 10-20 วัน รอให้รากงอกและแทงยอดใหม่ออกมา จึงนำไปปลูกต่อไป
วิธีการปลูก
ในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกข่าเหลืองได้ 4,500-5,000 กอ โดยปลูกเป็นแถวระยะ 80×80 เซนติเมตร ก่อนลงหลุมปลูก ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 พร้อมด้วยปูนขาวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากปลูกแล้วเกษตรกรต้องกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบหลุมปลูกเป็นประจำและให้ปุ๋ยสูตรเดิม หรือ 46-0-0 เดือนละประมาณ 2 ครั้ง จนกระทั่งข่าเหลืองอายุได้ 7 เดือน ก็สามารถขุดจำหน่ายได้ แต่ช่วง 15 วัน – 1 เดือน ก่อนที่จะขุดข่าเหลืองส่งตลาด ต้องใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้หน่อมีความสมบูรณ์ อวบใหญ่และมีน้ำหนักมากขึ้น
หากมีระบบจัดการที่ดี ข่าเหลือง 1 กอ จะให้ผลผลิตประมาณ 2-3 กิโลกรัม จำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 60 บาท/กอ หักค่าใช้จ่ายแล้วเกษตรกรจะมีรายได้ 150,000-200,000 บาท/ไร่
การขุดขึ้นมาแต่ละครั้ง ไม่ควรขึ้นขึ้นมาหมดทั้งกอ ให้เหลือไว้ 3-4 แง่ง เพื่อเป็นต้นพันธุ์ ซึ่งทำให้การปลูกข่าเพียงครั้งเดียว ก็สามารถอยู่ได้เป็นสิบปี และหลังจากที่ขุดเอาหัว แง่งไปแล้ว ควรมีการปรับปรุงบำรุงดินทุกครั้ง เพื่อความสมบูรณ์และเป็นการเพิ่มธาตุอาหารในดิน
การลงทุน
สำหรับค่าต้นพันธุ์ของข่าเหลืองนั้น นับว่าค่อนข้างสูง พื้นที่ 1 ไร่ ต้องใช้ต้นพันธุ์เป็นเงิน 15,000 – 20,000 บาท ใช้เหง้าพันธุ์ประมาณ 1,500 – 2,000 กก.ต่อไร่ หรือเท่ากับเหง้าพันธุ์ 1 กก. ต่อ 3 หลุม จากนั้นนำเหง้าพันธุ์มาชุบด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราก่อนปลูกการปลูกให้ฝังเหง้าพันธุ์ลึก 5-7 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ถ้าใช้ต้นพันธุ์ที่เพาะกล้าไว้ในถุงพลาสติก ขนาด 8×10 นิ้ว ก็จะใช้ 1 ถุงต่อ 1 หลุมใน 1 ไร่ ใช้ต้นกล้า 6,400 ถุง จึงทำให้เกษตรกรบางส่วนไม่อยากลงทุน ในเรื่องของโรคนั้น มันมีปัญหาในเรื่องของหนอเน่าในช่วงฤดูฝน จึงควรมีวิธีในการระบายน้ำไม่ให้น้ำขังบริเวณโคนของกอ
เพียง 6 – 7 เดือน เราก็สามารถขุดข่าเหลืองไปจำหน่ายได้แล้ว ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขอบคุณ : kaset4u.com
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Facebook : เกษตรกรก้าวหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/agriculturemag/photos/a.410935172277415.81424.327080917329508/841368879234040/?type=1
... ข่าเหลือง พืชเศรษฐกิจทำเงินที่น่าลงทุน ปลูกง่าย รายได้ดี ...
เกษตรกรก้าวหน้า
ข่าเหลือง พืชเศรษฐกิจทำเงินที่น่าลงทุน ปลูกง่าย รายได้ดี
ข่าเหลือง จัดเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับเสมหะ ที่มีการปลูกกันมาในภาคอีสานและภาคใต้ เนื่องจากความนิยมในการนำไปประกอบเป็นเครื่องแกง จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีเกษตรกรปลูกข่าเหลืองเลี้ยงชีพกันอย่างแพร่หลาย ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ข่าเหลืองมีราคาค่อนข้างสูงมาโดยตลอด ทำให้เกษตรหันมาปลูกกันจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ลักษณะของข่าเหลืองจะมีกลิ่นและรสชาติแรงและหอมมากกว่าข่าชนิดอื่นสังเกตที่เนื้อจะเป็นสีเหลือง
ข่าเหลืองนับว่าเป็นพืชที่เหมาะกับเกษตรกรที่ชอบปลูกพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก เหมือนจำพวกตะไคร้ หรือขจร เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำราคาดีมาอย่างต่อเนื่อง
การเตรียมกล้าพันธุ์
ใช้หัวหรือแง่งแก่จัดทีซื้อมาจากตลาดใน สภาพที่ยังสด มีตาตามข้อเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องมีราก ตัดแต่งรอยช้ำ หรือเน่าที่หัวออกให้หมด แล้วนำไปแช่น้ำยากันรา จากนั้นนำขึ้นมาผึงลมในร่มให้แห้งแล้วทาแผลด้วยปูนแดงกินกับหมาก นำหัวพันธุ์ที่ได้มาห่มความชื้น โดยการห่อด้วยผ้าชื้นน้ำหนาๆ นำไปเก็บไว้ในร่ม…หรือ ห่มกระบะโดยมีฟางรองพื้นหนาๆ วางท่อนพันธุ์แล้วกลบด้วยฟางหนาๆอีกชั้น รดน้ำให้ชุ่มเก็บในที่ร่ม…หรือ จะนำลงเพาะชำในขี้เถ้าแกลบก็ได้ โดยใช้เวลาการห่มความชื้น 10-20 วัน รอให้รากงอกและแทงยอดใหม่ออกมา จึงนำไปปลูกต่อไป
วิธีการปลูก
ในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกข่าเหลืองได้ 4,500-5,000 กอ โดยปลูกเป็นแถวระยะ 80×80 เซนติเมตร ก่อนลงหลุมปลูก ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 พร้อมด้วยปูนขาวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากปลูกแล้วเกษตรกรต้องกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบหลุมปลูกเป็นประจำและให้ปุ๋ยสูตรเดิม หรือ 46-0-0 เดือนละประมาณ 2 ครั้ง จนกระทั่งข่าเหลืองอายุได้ 7 เดือน ก็สามารถขุดจำหน่ายได้ แต่ช่วง 15 วัน – 1 เดือน ก่อนที่จะขุดข่าเหลืองส่งตลาด ต้องใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้หน่อมีความสมบูรณ์ อวบใหญ่และมีน้ำหนักมากขึ้น
หากมีระบบจัดการที่ดี ข่าเหลือง 1 กอ จะให้ผลผลิตประมาณ 2-3 กิโลกรัม จำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 60 บาท/กอ หักค่าใช้จ่ายแล้วเกษตรกรจะมีรายได้ 150,000-200,000 บาท/ไร่
การขุดขึ้นมาแต่ละครั้ง ไม่ควรขึ้นขึ้นมาหมดทั้งกอ ให้เหลือไว้ 3-4 แง่ง เพื่อเป็นต้นพันธุ์ ซึ่งทำให้การปลูกข่าเพียงครั้งเดียว ก็สามารถอยู่ได้เป็นสิบปี และหลังจากที่ขุดเอาหัว แง่งไปแล้ว ควรมีการปรับปรุงบำรุงดินทุกครั้ง เพื่อความสมบูรณ์และเป็นการเพิ่มธาตุอาหารในดิน
การลงทุน
สำหรับค่าต้นพันธุ์ของข่าเหลืองนั้น นับว่าค่อนข้างสูง พื้นที่ 1 ไร่ ต้องใช้ต้นพันธุ์เป็นเงิน 15,000 – 20,000 บาท ใช้เหง้าพันธุ์ประมาณ 1,500 – 2,000 กก.ต่อไร่ หรือเท่ากับเหง้าพันธุ์ 1 กก. ต่อ 3 หลุม จากนั้นนำเหง้าพันธุ์มาชุบด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราก่อนปลูกการปลูกให้ฝังเหง้าพันธุ์ลึก 5-7 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ถ้าใช้ต้นพันธุ์ที่เพาะกล้าไว้ในถุงพลาสติก ขนาด 8×10 นิ้ว ก็จะใช้ 1 ถุงต่อ 1 หลุมใน 1 ไร่ ใช้ต้นกล้า 6,400 ถุง จึงทำให้เกษตรกรบางส่วนไม่อยากลงทุน ในเรื่องของโรคนั้น มันมีปัญหาในเรื่องของหนอเน่าในช่วงฤดูฝน จึงควรมีวิธีในการระบายน้ำไม่ให้น้ำขังบริเวณโคนของกอ
เพียง 6 – 7 เดือน เราก็สามารถขุดข่าเหลืองไปจำหน่ายได้แล้ว ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขอบคุณ : kaset4u.com
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Facebook : เกษตรกรก้าวหน้า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้