จากทฤษฎี 2 สูงที่ เจ้าสัวพยายามผลักดันในทุกรัฐบาล เพื่อให้มาใช้หลักนี้ (ที่ผ่านมาก็ถูกนำมาใช้จริงๆ) คือ
1.ค่าแรงหรือเงินเดือนสูง
2.ราคาสินค้า สูง
ว่ากันตามความเป็นจริงตามการเงินคนทั่วไปเหมือนจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากสมการง่ายๆนี้
Income - cost = profit (หรือเงินที่เหลือในแต่ละเดือน)
ถ้าสมมุติว่า นำทฤษฎีมาใส่ในสมการ รายได้จะเรามีมากขึ้น แล้วกำไรเราจะมากขึ้นได้อย่างไร? ถ้าต้นทุนหรือรายจ่ายในแต่ละเดือนมันเพิ่มขึ้น เพราะว่าต้นทุน ประกอบด้วย variable cost(ต้นทุนผันแปร) + fixed cost(ต้นทุนคงที่) ซึ่งต้นทุนผันแปรหลักๆที่เพิ่มขึ้น คือ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพวกข้าว ของกินของใช้ต่างๆเพิ่มขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า เรากินเยอะกินน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนคงที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนในสัดส่วนที่น้อย เช่น ค่าเดินทาง ค่าประกัน ค่าไฟค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต สินค้านำเข้า เป็นต้น จากที่กล่าวมา อาจทำให้ cost ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเท่ากับที่รายได้เพิ่มขึ้น เราจึงเหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้นเช่นกัน (จริงหรอ?)
อีกทั้งยังมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างประเทศที่เป็นแบบนี้คือ ญี่ปุ่น สมมุติว่า ผู้ชายญี่ปุ่นมีแฟนได้ค่าแรงขั้นต่ำชม ละ 200-300 บาท อยากเอาใจแฟน โดยการซื้อหลุยส์ให้แฟนสักใบ จะใช้เวลาเพียง 100-200 ชม. ในการทำงาน แต่ถ้าเป็นคนไทยที่มีค่าแรงขั้นต่ำ 30-40 บาท ต้องทำงานประมาณ 1000-2000 ชม.!! เห็นมั้ยครับว่า ผู้ชายญี่ปุ่นมีความเป็นอยู่ดีกว่าไทยจริงๆ
มองคร่าวๆเหมือนจะดี แต่!!ความเป็นจริงมีอะไรที่ซ่อนอยู่อีกมาก (จากตรงนี้ไปเป็นความคิดง่อยๆเส่วนบุคคลไม่ได้จะโจมตีใครใดๆทั้งสิ้น)
ทฤษฎี 2 สูง จะส่งผลดี ผลเสียให้กับใครบ้าง? เรามาดูกันครับ
ผลดี
1. เครือข่ายตัวเจ้าสัวเอง
เนื่องด้วยอาณาจักรของเจ้าสัว ครอบคลุมสินค้าบริโภคเกือบทุกอย่างในประเทศตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ (เช่น ไส้กรอกหมูที่โฆษณาโดยพี่บอยทุกวัน แกมีตั้งแต่โรงงานเลี้ยงหมู > โรงเชือด > โรงแปรรูป > ที่จัดจำหน่าย แถมยังมีการตลาดผ่านโทรศัพท์โดยพี่ณเดชอีก) ดังนั้น จึงหนีไม่พ้นในการที่ต้องซื้อของๆแก
หลักการเดียวกัน รายได้ - ต้นทุน : รายได้เพิ่มขึ้นจากราคาที่สูงขึ้น ต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้น (เงินเดือนพนักงาน) แต่ต้นทุนผันแปรไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม เพราะแกเลี้ยงหมูเหมือนเดิม พันธุ์เดิมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้กำไรแกเพิ่มขึ้น
อีกทั้งอาณาจักร หมายเลข 7 และ makro ของแก คิดกำไรเป็น% ตายตัว สมมุติว่า ของ 100 บาท แกขอกำไร 40-50 % แกจะได้กำไร 40-50 บาท แต่ถ้าของแพงขึ้น เป็น 120 บาท แกจะมีกำไร 48-60 บาท เห็นมั้ยครับว่ากำไรมันเพิ่มขึ้นจริงๆ และอำนาจต่อรองในตลาดที่สูงกว่าคู่แข่ง ทำให้สามารถกดราคาสินค้าได้เสมอ ต้นทุนของแกจึงได้ถูกกว่าคนอื่น ส่งผลให้แกสามารถกำหนดราคาต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อบีบให้คู่แข่งขายไม่ได้และออกจากตลาดไป
ผลเสีย
1. คู่แข่งแก ธุรกิจรายเล็ก ธุรกิจส่งออก
เนื่องด้วยคู่แข่งไม่ได้มีธุรกิจต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้โดนขึ้นทั้งต้นทุนคงที่และผันแปร อีกทั้งอำนาจต่อรองสู้เครือข่ายเจ้าสัวไม่ได้ สุดท้ายบางเจ้าอาจไม่เหลือกำไรและต้องปิดตัวลง ทำให้แกได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกจากการปิดตัวของคู่แข่ง อนาคตคู่แข่งน้อยลง แกก็จะครองส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นไปอีก ยังไม่รวมเรื่องcopy paste อีก (แหมแล้วท่านเคยบอกว่า เราจะไม่แข่งกันในประเทศ เราจะแข่งกับต่างชาติเท่านั้น
ยยย!!)
ธุรกิจส่งออก เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ขายได้เพราะ ราคาถูกกว่าคู่แข่งในต่างประเทศ ถ้าต้นทุนเพิ่ม ราคาสินค้าเพิ่ม การส่งออกก็จะน้อยลง
2. คนทั่วไป
ความเป็นจริงแล้วต้นทุนผันแปรมันเพิ่มในสัดส่วนมากกว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้น เช่น ข้าวเพิ่มขึ้นจานละ 10 บาท แต่รายได้เพิ่มขึ้นแค่ เดือนล่ะ 1000-2000 บาท ถ้ากินข้าว 3 มื้อ 30 วัน ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าข้าวก็เพิ่มขึ้น เกือบ 1000 บาทแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงสินค้าอื่นๆอีกที่ไม่ใช่ข้าวที่ราคาสูงขึ้น ดังนั้น เงินในกระเป๋าเราจึงไม่ได้เหลือและอาจยังลดลงอีกด้วย ลองสังเกตุดูว่า ช่วงสองสามปีหลังมานี่ แกเน้นขายของกินมากขึ้นใน 7 เพราะจากเมื่อก่อน รอบๆขายจานละ 20-30 บาท แกขาย ข้าวกล่อง 30 + ขายไม่ออก ตอนนี้รอบๆขาย 30-40 บาท ทำให้ข้าวกล่องแกขายได้มากขึ้น ถือว่าแกนี่แผนสูงจริงๆ
สุดท้ายแล้ว อยากให้รัฐบาลนี้ออกกฏหมายป้องกันการผูกขาด เพื่อให้เกิดกับประโยชน์ที่แท้จริงต่อประชาชน ถึงแม้ว่าทันทีที่ท่านเข้าไปบริหาร ไม่เกิน 2 อาทิตย์ผมเห็นเจ้าสัวยืนในทีวีคู่กับท่านประยุทธ์ทันที (แล้วบอกไม่เล่นการเมือง) แต่ผมชื่นชอบท่านประยุทธ์ในการปราบคอรัปชั่นมากๆ ทำให้พวกมันที่ยังไม่โดนจับตอนนี้เริ่มหยุด เพราะมีการเชือดไก่ตัวใหญ่เป้งๆให้ดูแล้ว เกิดมาก้อมีรัฐบาลนี้แหละ
*******สรุป นโยบายสองสูงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศที่มีกฎหมายป้องการการผูกขาดและคอรัปชั่นน้อยครับ การขึ้นค่าแรงเป็นสิ่งที่ควรทำมากๆครับ แต่ราคาของที่เพิ่มขึ้นควรจะเพิ่มในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่ใช่ ไม่มีกฏหมายป้องกันการผูกขาด เพื่อทำให้เกิดตลาดการแข่งขันที่สมบูรณ์ แล้วประโยชน์จะตกมาอยู่ที่ประชาชนอย่างเราครับ "*******
ปล.ความเห็นส่วนบุคคลที่ต้องการหาพื้นที่แลกเปลี่ยนตวามคิดเห็นเท่านั้น ไม่ได้กล่าวอ้างหรือเชิญชวนให้ผู้อื่นหลงเชื่อตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม อย่าฟ้องผมเลยผมไม่ได้ว่าท่าน ฟ้องมาผมก้อไม่มีอะไรจะให้ท่านชดใช้ไม่ได้ ผมอายุ 28 และ บ้านจนเข้าใจนะ
วิเคราะห์ ทฤษฎี 2 สูง ของเจ้าสัวใครได้ประโยชน์ที่แท้จริง?
1.ค่าแรงหรือเงินเดือนสูง
2.ราคาสินค้า สูง
ว่ากันตามความเป็นจริงตามการเงินคนทั่วไปเหมือนจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากสมการง่ายๆนี้
Income - cost = profit (หรือเงินที่เหลือในแต่ละเดือน)
ถ้าสมมุติว่า นำทฤษฎีมาใส่ในสมการ รายได้จะเรามีมากขึ้น แล้วกำไรเราจะมากขึ้นได้อย่างไร? ถ้าต้นทุนหรือรายจ่ายในแต่ละเดือนมันเพิ่มขึ้น เพราะว่าต้นทุน ประกอบด้วย variable cost(ต้นทุนผันแปร) + fixed cost(ต้นทุนคงที่) ซึ่งต้นทุนผันแปรหลักๆที่เพิ่มขึ้น คือ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพวกข้าว ของกินของใช้ต่างๆเพิ่มขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า เรากินเยอะกินน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนคงที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนในสัดส่วนที่น้อย เช่น ค่าเดินทาง ค่าประกัน ค่าไฟค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต สินค้านำเข้า เป็นต้น จากที่กล่าวมา อาจทำให้ cost ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเท่ากับที่รายได้เพิ่มขึ้น เราจึงเหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้นเช่นกัน (จริงหรอ?)
อีกทั้งยังมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างประเทศที่เป็นแบบนี้คือ ญี่ปุ่น สมมุติว่า ผู้ชายญี่ปุ่นมีแฟนได้ค่าแรงขั้นต่ำชม ละ 200-300 บาท อยากเอาใจแฟน โดยการซื้อหลุยส์ให้แฟนสักใบ จะใช้เวลาเพียง 100-200 ชม. ในการทำงาน แต่ถ้าเป็นคนไทยที่มีค่าแรงขั้นต่ำ 30-40 บาท ต้องทำงานประมาณ 1000-2000 ชม.!! เห็นมั้ยครับว่า ผู้ชายญี่ปุ่นมีความเป็นอยู่ดีกว่าไทยจริงๆ
มองคร่าวๆเหมือนจะดี แต่!!ความเป็นจริงมีอะไรที่ซ่อนอยู่อีกมาก (จากตรงนี้ไปเป็นความคิดง่อยๆเส่วนบุคคลไม่ได้จะโจมตีใครใดๆทั้งสิ้น)
ทฤษฎี 2 สูง จะส่งผลดี ผลเสียให้กับใครบ้าง? เรามาดูกันครับ
ผลดี
1. เครือข่ายตัวเจ้าสัวเอง
เนื่องด้วยอาณาจักรของเจ้าสัว ครอบคลุมสินค้าบริโภคเกือบทุกอย่างในประเทศตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ (เช่น ไส้กรอกหมูที่โฆษณาโดยพี่บอยทุกวัน แกมีตั้งแต่โรงงานเลี้ยงหมู > โรงเชือด > โรงแปรรูป > ที่จัดจำหน่าย แถมยังมีการตลาดผ่านโทรศัพท์โดยพี่ณเดชอีก) ดังนั้น จึงหนีไม่พ้นในการที่ต้องซื้อของๆแก
หลักการเดียวกัน รายได้ - ต้นทุน : รายได้เพิ่มขึ้นจากราคาที่สูงขึ้น ต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้น (เงินเดือนพนักงาน) แต่ต้นทุนผันแปรไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม เพราะแกเลี้ยงหมูเหมือนเดิม พันธุ์เดิมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้กำไรแกเพิ่มขึ้น
อีกทั้งอาณาจักร หมายเลข 7 และ makro ของแก คิดกำไรเป็น% ตายตัว สมมุติว่า ของ 100 บาท แกขอกำไร 40-50 % แกจะได้กำไร 40-50 บาท แต่ถ้าของแพงขึ้น เป็น 120 บาท แกจะมีกำไร 48-60 บาท เห็นมั้ยครับว่ากำไรมันเพิ่มขึ้นจริงๆ และอำนาจต่อรองในตลาดที่สูงกว่าคู่แข่ง ทำให้สามารถกดราคาสินค้าได้เสมอ ต้นทุนของแกจึงได้ถูกกว่าคนอื่น ส่งผลให้แกสามารถกำหนดราคาต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อบีบให้คู่แข่งขายไม่ได้และออกจากตลาดไป
ผลเสีย
1. คู่แข่งแก ธุรกิจรายเล็ก ธุรกิจส่งออก
เนื่องด้วยคู่แข่งไม่ได้มีธุรกิจต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้โดนขึ้นทั้งต้นทุนคงที่และผันแปร อีกทั้งอำนาจต่อรองสู้เครือข่ายเจ้าสัวไม่ได้ สุดท้ายบางเจ้าอาจไม่เหลือกำไรและต้องปิดตัวลง ทำให้แกได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกจากการปิดตัวของคู่แข่ง อนาคตคู่แข่งน้อยลง แกก็จะครองส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นไปอีก ยังไม่รวมเรื่องcopy paste อีก (แหมแล้วท่านเคยบอกว่า เราจะไม่แข่งกันในประเทศ เราจะแข่งกับต่างชาติเท่านั้น
ธุรกิจส่งออก เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ขายได้เพราะ ราคาถูกกว่าคู่แข่งในต่างประเทศ ถ้าต้นทุนเพิ่ม ราคาสินค้าเพิ่ม การส่งออกก็จะน้อยลง
2. คนทั่วไป
ความเป็นจริงแล้วต้นทุนผันแปรมันเพิ่มในสัดส่วนมากกว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้น เช่น ข้าวเพิ่มขึ้นจานละ 10 บาท แต่รายได้เพิ่มขึ้นแค่ เดือนล่ะ 1000-2000 บาท ถ้ากินข้าว 3 มื้อ 30 วัน ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าข้าวก็เพิ่มขึ้น เกือบ 1000 บาทแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงสินค้าอื่นๆอีกที่ไม่ใช่ข้าวที่ราคาสูงขึ้น ดังนั้น เงินในกระเป๋าเราจึงไม่ได้เหลือและอาจยังลดลงอีกด้วย ลองสังเกตุดูว่า ช่วงสองสามปีหลังมานี่ แกเน้นขายของกินมากขึ้นใน 7 เพราะจากเมื่อก่อน รอบๆขายจานละ 20-30 บาท แกขาย ข้าวกล่อง 30 + ขายไม่ออก ตอนนี้รอบๆขาย 30-40 บาท ทำให้ข้าวกล่องแกขายได้มากขึ้น ถือว่าแกนี่แผนสูงจริงๆ
สุดท้ายแล้ว อยากให้รัฐบาลนี้ออกกฏหมายป้องกันการผูกขาด เพื่อให้เกิดกับประโยชน์ที่แท้จริงต่อประชาชน ถึงแม้ว่าทันทีที่ท่านเข้าไปบริหาร ไม่เกิน 2 อาทิตย์ผมเห็นเจ้าสัวยืนในทีวีคู่กับท่านประยุทธ์ทันที (แล้วบอกไม่เล่นการเมือง) แต่ผมชื่นชอบท่านประยุทธ์ในการปราบคอรัปชั่นมากๆ ทำให้พวกมันที่ยังไม่โดนจับตอนนี้เริ่มหยุด เพราะมีการเชือดไก่ตัวใหญ่เป้งๆให้ดูแล้ว เกิดมาก้อมีรัฐบาลนี้แหละ
*******สรุป นโยบายสองสูงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศที่มีกฎหมายป้องการการผูกขาดและคอรัปชั่นน้อยครับ การขึ้นค่าแรงเป็นสิ่งที่ควรทำมากๆครับ แต่ราคาของที่เพิ่มขึ้นควรจะเพิ่มในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่ใช่ ไม่มีกฏหมายป้องกันการผูกขาด เพื่อทำให้เกิดตลาดการแข่งขันที่สมบูรณ์ แล้วประโยชน์จะตกมาอยู่ที่ประชาชนอย่างเราครับ "*******
ปล.ความเห็นส่วนบุคคลที่ต้องการหาพื้นที่แลกเปลี่ยนตวามคิดเห็นเท่านั้น ไม่ได้กล่าวอ้างหรือเชิญชวนให้ผู้อื่นหลงเชื่อตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม อย่าฟ้องผมเลยผมไม่ได้ว่าท่าน ฟ้องมาผมก้อไม่มีอะไรจะให้ท่านชดใช้ไม่ได้ ผมอายุ 28 และ บ้านจนเข้าใจนะ