ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ กล่าวในวันนี้ว่า บริษัทได้หยุดสายการผลิตทีวีในประเทศไทยในไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อทำให้การผลิตทีวีในระดับโลกมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การหยุดผลิตทีวีของซัมซุงในประเทศไทย เกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้ประกาศการลงทุน 560 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างคอมเพล็กซ์ที่ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภคในเวียดนาม โดยหลักๆจะทำการผลิตทีวี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มผลผลิตข้ามเซ็กเมนต์ รวมถึงสมาร์ทโฟนและจอดีสเพลย์ในประเทศที่มีต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงของซัมซุง ไม่ได้กล่าวว่า บริษัทจะย้ายการผลิตทีวีจากไทยไปเวียดนาม
ทั้งนี้แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอยู่ในอันดับสองของตลาดทีวีโลก ก็เตรียมจะย้ายฐานการผลิตทีวีจากไทยไปเวียดนาม โดยในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า แอลจีต้องการมีฐานการผลิตในระดับภูมิภาคเพียงแห่งเดียว โดยมีเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิตทีวี ซึ่งเทียบเท่ากับในโรงงานเกาหลีใต้ โดยบริษัทแม่ของแอลจีได้พิจารณาเวียดนามว่าเป็นประเทศที่คุ้มค่าที่สุดในการไปลงทุน เรื่องค่าแรงก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่เหตุผลหลักคือเรื่องการทำให้แน่ใจถึงคุณภาพ รวมถึงโลจิสติกส์
แอลจี ผลิตทีวีประมาณ 6 แสนเครื่องต่อปีในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 8 พันล้านบาท โดย 1 แสนเครื่องเป็นการส่งออก แต่วัตถุดิบแทบทั้งหมดถูกนำมาจากประเทศจีนและประกอบในประเทศไทย แต่ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการส่งวัตถุดิบมาไทย ขณะที่เส้นทางจีน-เวียดนามใช้เวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์
ความเคลื่อนไหวข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ขาลงสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย ซึ่งประสบความยากลำบากในการหาที่ยืนในซัพพลายเชนโลกสำหรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ดัชนีการผลิตของไทยลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 โดยการผลิตสินค้าอย่างทีวีและวิทยุลดลง 38% จากปีที่แล้ว
ภาวะตกต่ำดังกล่าวได้เพิ่มความกังวลว่า เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวไม่ได้เป็นแค่ปัญหาระยะสั้นที่เกิดจากความไม่สงบทางการเมือง แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่เกิดจากอุตสาหกรรมการผลิตไทยล้มเหลวที่จะปรับตัวและไม่สามารถเพิ่มความดึงดูดจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนต่ำ
ปล. ประเทศไทยกลายเป็นประเทศป่วยหนักอย่างแท้จริงครับ ไม่มีกลยุทธเพื่อหาที่ยืนในเวทีโลกทั้งระยะสั้น และระยะยาว เศรษฐกิจซบเซาอย่างที่เห็น ผมคิดว่ายังมีความต่อเนื่องอีก เพราะระดับแรงงานจะยังคงตกงาน สภาพคล่องในระบบจะลดลงไปอีก ลามไปถึงหนี้สินในระบบด้วยที่ต้องเพิ่มสูงขึ้น ผมก็อยากให้มันมีข่าวดีๆบ้างนะ แต่มองแล้วพอๆกับหาหุ้นดีๆสักตัวในตลาด
"ขาลง"สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การหยุดผลิตทีวีของซัมซุงในประเทศไทย เกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้ประกาศการลงทุน 560 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างคอมเพล็กซ์ที่ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภคในเวียดนาม โดยหลักๆจะทำการผลิตทีวี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มผลผลิตข้ามเซ็กเมนต์ รวมถึงสมาร์ทโฟนและจอดีสเพลย์ในประเทศที่มีต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงของซัมซุง ไม่ได้กล่าวว่า บริษัทจะย้ายการผลิตทีวีจากไทยไปเวียดนาม
ทั้งนี้แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอยู่ในอันดับสองของตลาดทีวีโลก ก็เตรียมจะย้ายฐานการผลิตทีวีจากไทยไปเวียดนาม โดยในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า แอลจีต้องการมีฐานการผลิตในระดับภูมิภาคเพียงแห่งเดียว โดยมีเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิตทีวี ซึ่งเทียบเท่ากับในโรงงานเกาหลีใต้ โดยบริษัทแม่ของแอลจีได้พิจารณาเวียดนามว่าเป็นประเทศที่คุ้มค่าที่สุดในการไปลงทุน เรื่องค่าแรงก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่เหตุผลหลักคือเรื่องการทำให้แน่ใจถึงคุณภาพ รวมถึงโลจิสติกส์
แอลจี ผลิตทีวีประมาณ 6 แสนเครื่องต่อปีในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 8 พันล้านบาท โดย 1 แสนเครื่องเป็นการส่งออก แต่วัตถุดิบแทบทั้งหมดถูกนำมาจากประเทศจีนและประกอบในประเทศไทย แต่ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการส่งวัตถุดิบมาไทย ขณะที่เส้นทางจีน-เวียดนามใช้เวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์
ความเคลื่อนไหวข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ขาลงสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย ซึ่งประสบความยากลำบากในการหาที่ยืนในซัพพลายเชนโลกสำหรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ดัชนีการผลิตของไทยลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 โดยการผลิตสินค้าอย่างทีวีและวิทยุลดลง 38% จากปีที่แล้ว
ภาวะตกต่ำดังกล่าวได้เพิ่มความกังวลว่า เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวไม่ได้เป็นแค่ปัญหาระยะสั้นที่เกิดจากความไม่สงบทางการเมือง แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่เกิดจากอุตสาหกรรมการผลิตไทยล้มเหลวที่จะปรับตัวและไม่สามารถเพิ่มความดึงดูดจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนต่ำ
ปล. ประเทศไทยกลายเป็นประเทศป่วยหนักอย่างแท้จริงครับ ไม่มีกลยุทธเพื่อหาที่ยืนในเวทีโลกทั้งระยะสั้น และระยะยาว เศรษฐกิจซบเซาอย่างที่เห็น ผมคิดว่ายังมีความต่อเนื่องอีก เพราะระดับแรงงานจะยังคงตกงาน สภาพคล่องในระบบจะลดลงไปอีก ลามไปถึงหนี้สินในระบบด้วยที่ต้องเพิ่มสูงขึ้น ผมก็อยากให้มันมีข่าวดีๆบ้างนะ แต่มองแล้วพอๆกับหาหุ้นดีๆสักตัวในตลาด