Review : Tomorrow Land หนังที่ฝากอนาคตไว้ในกำมือของเยาวชน

Tomorrow Land - คอนเซปหลัก " จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ "

.

เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากเด็กหญิงฉลาดเกินไว ขี้สงสัยและทะเยอทยาน
ในโลกธรรมดาที่ระบบการศึกษาไม่สามารถตอบคำถามของเธอได้เลย
ดังนั้นความเป็นวัยรุ่น มักมากับความต้องการที่จะมีประสบการณ์ (ซึ่งไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน)
และเพราะความแตกต่าง ช่างฝัน ชอบคิดนอกกรอบ กล้าที่จะลงมือทำของเธอ
จึงทำให้เกิดเรื่องราวความฉงนสนเท่ตามมาหลังจากนั้น ..
.
.

ดำเนินเรื่องให้ผู้ชม(โดยเฉพาะเด็ก) เห็นข้อดีของความมีจินตนาการไม่สิ้นสุด
ความเป็นเด็กซึ่งโลกแห่งจินตนาการนั้นกว้างไกล ใสซื่อ ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเค้า
และนั่นคือข้อหนึ่งที่ผู้ใหญ่ควรมี "ความไม่ยอมแพ้ของเด็ก ความเชื่อว่าทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้เสมอ"
เพราะในความเป็นผู้ใหญ่นั้น เมื่อได้รับความรู้เข้ามามากมาย ทำให้รับรู้ได้ว่าสิ่งใดเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้
อ้างอิงจากเหตุและผลของสิ่งแวดล้อมรอบตัวในขณะนั้น

และอีกความอ่อนแอหนึ่งของผู้ใหญ่ คือ "ความกลัว"
เด็กอาจจะกลัวความมืด ภูตผี ปิศาจ เพราะเค้าเชื่อว่ามันมีอยู่จริง
แต่ผู้ใหญ่กลับกลัวในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้และไม่เข้าใจ กลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
เห็นได้ชัดว่าความเป็นผู้ใหญ่นั้นอ่อนแอกว่ามาก
เปรียบความรู้เหมือนวงกลมวงหนึ่ง และความกลัวคือเส้นรอบวงของวงกลมนั้น
เมื่อวงกลมขยายใหญ่ขึ้น ความกลัวก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
และนั่นคืออีกประเด็นที่หนังได้ดึงเข้ามาในเนื้อหา
" เหตุและผลหยุดความสร้างสรรค์ " เพราะความคิดที่ว่า " มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก "
.
.

หนังพยายามยัดแรงบันดาลใจเข้ามาอย่างรุนแรงและถือว่าทำได้ดี สนับสนุนให้พาเด็ก(ที่โตพอสมควร) ไปดู
จะเป็นการกระตุ้นเด็กให้กล้าคิดกล้าทำ มีแรงบันดาลใจที่จะทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ หาประสบการณ์ให้ตัวเอง
กระตุ้นให้ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว และค่อนข้างล้างสมองให้เด็กอยากโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยการให้ความหวังบางอย่าง
(สำหรับเด็กคงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ แต่สำหรับผู้ใหญ่คงเรียกขายฝัน มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ในกรณีนี้ขอจำกัดว่ามันน่าจะเอนไปทางข้อดีมากกว่า อิงเวลาปัจจุบัน และอิงว่า หนังเพื่อเยาวชน)

มีการเล่นแง่จิตวิทยาในเรื่องความคิดและแรงดึงดูดของความคิดเข้ามา
ซึ่งส่วนตัวคิดว่าหนักเกินไป เด็กอาจจะตามไม่ทันนะ เพราะเนื้อหาค่อนข้างอัดภายในเวลาสั้นๆ
(เป็นหนังเอนไปทางเยาวชนใช่มั้ย ?)

.
.

ประเด็นอื่นของเรื่อง
- ในภาพยนตร์มีการพูดถึง "โฆษณาชวนเชื่อเพ้อฝัน" ซึ่งเจ็บแสบมิใช่น้อย
(และแน่นอนมีการ Tie in สินค้าในภาพยนตร์)

- บางประเด็นในเรื่องไม่จำเป็นต้องใส่มาก็ได้ อารมณ์ว่าไม่มีก็ไม่กระทบแก่นหลักของเรื่อง

- หนังเปิดสร้างปมแต่ดันไม่มีทางออกในหลายๆประเด็น ไร้ที่มาที่ไป เล่นกับเวลาไม่ค่อยดี

- ดีใจที่เห็นนักแสดงเด็กที่ชอบมากคนนึงจากเรื่อง "Switch" มาเล่นเรื่องนี้ โตขึ้นเยอะเลย

- ชอบความตั้งใจของทีมฉากและคอสตูม ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นของความเป็นดิสนีย์ยังคงอยู่

- นับถือจินตนาการของทีมผู้สร้าง ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยังไม่มีอยู่จริงขึ้นมาให้รับชม ทำให้ว่า การคิดค้นอะไรก็ตามเริ่มแรกย่อมมาจากจินตนาการโดยไร้ขอบเขตของเหตุผล ไม่จำกัดความเป็นไปได้ของทุกสิ่งเพียงแค่เพราะเทคโนโลยีหรือทรัพยากรในปัจจุบันไม่สามารถเนรมิตขึ้นมาได้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นในคำของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่บอกว่า
" จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ "

ส่วนตัวให้ 6.5/10

เป็นหนังดีในแง่ความสร้างสรรค์และแรงบันดาลเพื่อเยาวชน เน้น**เพื่อเยาวชน**
เพราะในแง่ทฤษฎีความคิดถือว่าพอใช้ได้ แต่ในแง่ปฎิบัติค่อนข้างยาก
เรามานั่งฟังรู้สึกฟีลเดียวกับโดนพวกขายตรงมาหลอกขายฝันให้ความหวังอะไรประมาณเนี้ย
ทุกประเด็นมีหลายมุมนะอยู่ที่จะมองมุมไหน รวมๆคือหนังเรื่อย เบื่อบ้าง ภาพสวย ไม่แย่ แต่ขายฝัน



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่