เมื่อเราฝันถึงเสด็จพ่อรัชกาลที่ ๕

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นนานแล้วอยากมาลองแชร์ให้เพื่อนๆฟังกันค่ะ ยิ้ม ตอนที่เราเรียนอยู่ช่วงระดับมัธยมฯ ม.1-ม.6 เราเรียนอยู่ในโรงเรียนเครือสวนกุหลาบแห่งหนึ่งค่ะ โรงเรียนเครือสวนกุหลาบทุกโรงเรียนจะนับถือเสด็จพ่อรัชกาลที่๕  มากๆ เพราะเสด็จพ่อ(เราเรียกท่านแบบนี้นะคะ) ท่านเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนสวนกุหลาบแห่งแรก เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักใช่ไหมคะ นั่นเองก็ทำให้เราได้นับถือเสด็จพ่อตามไปด้วยตั้งแต่เข้าม.1 ตอนแรกบอกตรงๆว่านับถือตามสถาบันค่ะ เราไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับท่านมากเท่าไหร่ แต่พอได้อยู่ไปเรื่อยๆเหมือนเรารู้สึกได้ถึงเจตนารมณ์ของเสด็จพ่อที่ท่านทรงสร้างโรงเรียนสวนกุหลาบขึ้นมาเพราะเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจริงๆค่ะ เราจึงนับถือและศรัทธาในตัวท่านจริงๆ (แม้เราจะไม่ได้เกิดในยุคสมัยที่ท่านยังทรงอยู่ก็ตาม)

เด็กนักเรียนในโรงเรียนเราหลายคน(หรือเกือบจะแทบทุกคน) ชอบขอพรจากท่านมากๆ โดยเฉพาะเด็กม.6 เวลาจะสอบเข้ามหา'ลัยนี่เป็นกันทุกรุ่นเลยค่ะ ตอนที่เรายังไม่อยู่ม.6 เรามักจะเห็นรุ่นพี่มากวิ่งวนรอบพระบรมรูปเสด็จพ่ออยู่บ่อยๆเลยค่ะ เพราะพี่ๆเขาติดมหา'ลัยอย่างที่หวังจริงๆ (โรงเรียนเราจะมีลานกว้างมีพระบรมรูปของท่านอยู่ค่ะ) ในตอนนั้นเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ก็คิดว่าเพราะพี่ๆเขาเก่งก็เลยสอบได้น่ะค่ะ แต่พอเราอยู่ม.6 สิคะ เราก็เป็นไปกับพี่เขาด้วย ฮ่าๆๆๆๆ เด็กม.6 ทุกคนเครียดกับการสอบเข้ามหา'ลัยแน่นอนค่ะ ตอนนั้นทำอะไรได้ก็ทำมันทุกอย่าง เราอยากเข้ามหา'ลัยแห่งหนึ่งมากๆ แต่เราสมองพอปานกลาง สอบก็พอถูๆไถๆไปได้ค่ะ เป็นคนเรียนไม่เก่งจริงๆ เราก็เครียดเหมือนกัน กลัวเข้ามหา'ลัยรัฐบาลไม่ได้ กลัวพ่อแม่ต้องลำบาก เราก็พยายามทำทุกอย่าง รวมทั้งขอพรจากเสด็จพ่อด้วยค่ะ วันที่เราไปขอพรจากเสด็จพ่อเราไปตัวเปล่ามากๆ ปกติถ้าใครมาไหว้ท่านมักจะมีดอกกุหลาบมาไหว้ด้วยค่ะ เพราะท่านชอบดอกกุหลาบ แต่เรามาตัวเปล่าเลย ไหว้ท่านตอนเย็นหลังเลิกเรียนก่อนกลับบ้าน ไม่มีบทสวดใดๆเลยค่ะ (จำเรื่องเรียนยังไม่ค่อยจะได้เลย บทสวดคงไม่ต้องพูดถึง T^T) พนมมือไหว้หลับตานึกถึงท่านและก็บอกกับท่านในใจว่าเราหวังอะไร บรรยากาศตอนนั้นเงียบมากๆเพราะทุกคนกลับบ้านกันจะหมดแล้ว มันไม่ได้รู้สึกวังเวงนะคะ แต่เรารู้สึกอิ่มและสบายใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆหลังจากไหว้ท่านเสร็จแล้วก็นั่งอยู่ตรงนั้นสักพักหนึ่งคะ่

หลังจากนั้นไม่นานเราก็สอบค่ะ สอบทุกอย่างที่เขามีให้สอบ แกทแพท (บางอันก็ไม่รู้ต้องใช้ไหมแต่ก็สอบเพราะเผื่อใช้จริงๆค่ะ) เจ็ดวิชาสามัญ สอบตรงมหา'ลัยนู้น มหา'ลัยนี้ สมัครมันทุกอย่างที่เขามี ที่เป็นมหา'ลัยรัฐฯ จนมาถึงมหา'ลัยที่เราอยากเข้าและคณะที่เราชอบมากๆค่ะ มีรับตรงสองรอบ รอบแรกเราไม่ติดค่ะ เพื่อนติดกันหลายคน เรานี่ซึมไปเลย แต่สุดท้ายเราก็ติดรอบสองจนได้ค่ะ แถมเป็นคณะที่เราชอบและอยากเข้ามากที่สุดด้วย เราดีใจมากๆจนร้องไห้เลย ฮ่าๆๆๆ พอใกล้ๆจะเปิดเทอมของมหา'ลัย เราก็กลับไปที่โรงเรียนค่ะ ความจริงตอนที่เราไหว้เสด็จพ่อตอนนั้นเราแอบนึกในใจไว้ว่า ถ้าเราติดคณะนี้จริงๆ เราจะกลับมาเดินให้ท่านค่ะ เราแค่นึกเอานะคะ เพราะเราได้ยินพี่ๆบอกว่าห้ามเรียกว่า บนท่าน แต่ให้เรียกว่าขอท่าน แล้วก็ห้ามเรียกว่าแก้บนให้เรียกว่า ทำให้ท่าน แทนค่ะ เรานึกไว้ว่าถ้าเราได้อย่างที่เราขอพรจากท่าน เราจะกลับมาเดินบันไดขึ้นและลงตึกเรียนของเราจากชั้น1ถึงชั้น9 ทั้งหมดตามจำนวนรุ่นของเราค่ะ ขึ้นจากหนึ่งถึงเก้าและลงจากเก้าถึงหนึ่งเท่ากับหนึ่งรอบ เราเดินทั้งหมด 14 รอบค่ะ เราไม่ได้ไหว้หรือกล่าวอะไรต่อหน้าพระบรมรูปท่านด้วย (ตอนขอก็ตัวเปล่ากลับไปก็ตัวเปล่า เด็กคนนี้ฮ่าๆๆ) ไปถึงโรงเรียนก็จัดเลยค่ะ  เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกก เหนื่อยสุดๆ กลั้นใจเดินรวดเดียวเลย เหนื่อยจริงจังค่ะ แต่ก็เดินไปนึกถึงท่านไปค่ะ บอกว่าหนูมาทำให้แล้วตามที่สัญญานะคะ ขอบคุณเสด็จพ่อมากๆ จากนั้นเราก็กลับบ้านไปตามปกติค่ะ ผ่านไปประมาณสามวันค่ะ (เราจำแม่นมากเรื่องนี้) คืนที่สามเราฝันค่ะ เราฝันว่าเราพบเสด็จพ่อค่ะ ในฝันเรายืนอยู่กับเสด็จพ่อ แต่เราไม่เห็นใบหน้าเสด็จพ่อค่ะ เห็นตั้งแต่ช่วงคอของท่านลงมา (เราก็รู้ไม่ราชาศัพท์คงไม่เป็นอะไรเน๊าะ ^^;;) ท่านใส่เสื้อสีขาวสากล กับโจงกระเบนสีออกทองๆ ถุงเท้าขาวรองเท้าหนัง แบบที่ใส่ตอนสมัยรัชกาลที่๕ นั้นเลยค่ะ เราไม่ได้ยินเสียงท่านพูดแต่เรารู้สึกว่าท่านเป็นกันเองกับเรามากๆ แล้วที่เราจำได้แม่นที่สุดคือท่านยื่นกระดานฉนวนให้เราอันนึงค่ะ ในกระดานเขียนว่า "ขอบคุณมาก เราได้รับแล้ว" ตื่นมาตอนเช้าเราขนลุกมากเลยค่ะ ยกมือไหว้ท่านอีกรอบ ในใจก็อิ่มมากๆ มันอธิบายไม่ถูกเลยค่ะ เราก็ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่เลยบอกว่าเดี๋ยววันอังคารแม่จะซื้อดอกกุหลาบมาให้ ไหว้ท่านอีกรอบที่บ้าน (ที่บ้านเรามีหิ้งรูปเสด็จพ่อใหญ่มากกลางบ้านเลยค่ะ) เราก็ทำตามที่แม่บอกค่ะ มันสบายใจมากๆเลยค่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้ ไม่ว่าเราจะไปไหน ทำอะไรสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเราอย่างสิ่งหนึ่งก็คือเสด็จพ่อค่ะ

ผ่านมาเกือบสี่ปีแล้วตอนนี้เราได้ทุนมาเรียนที่ต่างประเทศก็ยังนึกถึงท่านตลอด ขอให้ท่านคุ้มครองเรา และที่สำคัญเราก็นึกไว้เสมอว่า เราเป็นหนึ่งในลูกของท่าน ลูกคนหนึ่งที่ท่านมอบการศึกษาให้จนมีทุกวันนี้ได้ค่ะ  เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะคิดไปเองจนเก็บไปฝันหรือเปล่า แต่เราอธิบายไม่ถูกจริงๆค่ะ มันเป็นอะไรที่ถ้าไม่ได้เจอเองคงไม่รู้จริงๆ เราเกริ่นเยอะไปรึเปล่านะ ฮ่าๆๆๆ เอาเป็นว่ามาแชร์ให้เพื่อนๆลองอ่านกันนะคะ ที่สำคัญก็ถือเป็นการระลึกถึงพระคุณของเสด็จพ่อท่านด้วยค่ะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่