ขอเป็นหนึ่งเสียงส่งกำลังใจให้คุณฐาปนีย์ ในสภาวะที่สังคมต้องดึงสติกันหน่อย

ขึ้นกระทู้แนะนำกันเต็มไปหมดพอๆกับ
ความเห็นดูถูกเหยีดหยามคุณฐาปนีย์ที่เกินไปจากงาน
ซึ่งดิฉันขอเรียกว่า ความเห็นไม่สร้างสรรค์
ในความเป็นจริงแล้วทุกคนมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ใครก็ได้นะคะ
ยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะยิ่งถูกกระทำได้ง่ายและชอบธรรมเสียด้วย
แม้กระทั่งการล้อเลียนต่างๆ
ซึ่งดิฉันเคารพในการวิพากษ์วิจารณ์คุณแยมอันเกี่ยวเนื่องจากงานนะคะ
แต่พวก ความเห็นไม่สร้างสรรค์ ตามโลกออนไลน์หรือบอร์ดคุณภาพแห่งนี้
ดิฉันขอวิพากษ์ว่า ห่วยแตก และ สิ้นคิด

อาทิ

ด่าคุณฐาปนีย์เรื่องสภาพร่างกาย สีผิว หน้าตา
หรือแชร์กลอนที่ลงท้ายด่าว่า อีตูดดำ กันยกใหญ่
บ้างก็ไล่ให้ไปลงเรือโรฮิงญา หนักเข้าก็ใช้ประเด็นทางเพศอย่าง
มีผัวอยู่ในเรือหรอ ผู้ชายในนั้นเยอะนะ
พอจะเข้าใจเลยว่าทำไมคนพวกนี้ถึงจงเกลียดจงชังคนโรฮิงญา
คนในชาติด้วยกันยังมองข้ามความเป็นมนุษย์ไปเลย
คือไม่หลงเหลือตรรกะอะไรให้ใช้แล้วอ่ะค่ะ

หรือบางจำพวกก็เกลียดกลัวโรฮิงญาจนคลั่งชาติ
หาว่าคุณฐาปนีย์ชักศึกเข้าบ้าน
รับเงินใครมาทำร้ายรัฐบาลหรือเปล่า
สงสารท่านนายกจัง ฯลฯ

โอ้โห.... เกลียดกลัวโรฮิงญาจนคลั่งชาติไร้สติขนาดนี้ได้เลยหรือ?
ดิฉันคิดว่าพวกคุณจะวิพากษ์วิจารณ์จะล้อเลียนจะด่าคุณฐาปนีย์ยังไงก็ทำไปเถอะ
แต่ช่วยเคารพในความเป็นมนุษย์กันบ้าง ดึงสติกันหน่อยค่ะ
ใจพวกคุณแค่ห่วงภาพลักษณ์ชาติเท่านั้นแหล่ะ เผลอๆห่วงภาพลักษณ์นายกด้วยซ้ำ

ต่อมาคือตรรกะพิศดารที่ใช้กันเกลื่อนกลาดแต่ชมชอบกันอย่างแพร่หลาย

ภาคใต้กำลังเดือดทำไมไม่ไปทำข่าวบ้างล่ะ
รพ.ชายแดนเหนื่อยขนาดไหน ถ้า”รักชาติ”จริงก็มาทำข่าวหน่อย

(อันหลังนี่ได้ข่าวว่าเป็นหมอถ่ายรูปจากห้องผ่าตัดเสียด้วย)

ดิฉันได้แต่ถอนหายใจว่ามันเกี่ยวอะไรกันวะคะ?
คือประเทศไทยทั้งประเทศมันมีนักข่าวแค่ฐาปนีย์คนเดียวหรือไง?
นักข่าวคนอื่น รายการข่าวอื่นๆไม่มีปัญญาลงสนามไปทำข่าวอื่นหรอคะ?
พวกที่อยากจะ ”เสพข่าวแต่ด้านเดียว เรื่องเดียว ที่ตนพอใจ”
นี่ก็พอจะบ่งบอกความนึกคิดได้ล่ะค่ะว่าเป็นยังไง
แล้วคำว่า รักชาติ ในบ้านนี้เมืองนี้มันได้มาเสียไปแสนง่ายดายเหลือเกิน
แค่หาเรื่องอะไรก็ได้ที่แม้แต่งี่เง่าที่สุด แต่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยก็บอกว่า
ชี้นิ้วบอกคนอื่นว่าไม่รักชาติก็ได้แล้ว

คุณหมอที่พูดนี่บอกว่าตนเองทำตามหลักสิทธิมนุษยชน
ช่วยเหลือผู้ป่วยชายแดน
อ้าววว แล้วฐาปนีย์ไม่ได้ทำหน้าที่นักข่าวเพื่อสิทธิมนุษยชนบ้างหรือ?
หรือคนโรฮิงญาไม่สมควรได้รับสิ่งนี้?

ส่วนพวกที่บอกว่าฐาปนีย์เอาแต่ดราม่า ใช้ความรู้สึกเกินไป ไม่มีจรรยาบรรณของสื่อ
คือ ถ้าเป็นดิฉันลงไปเห็นก็คงมีอารมณ์หดหู่เหมือนกัน...เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
แต่ที่น่าสนใจคือเนื้อหาของข่าวว่าเป็นอย่างไรค่ะ มีการบิดเบือนไหม เป็นต้น
ซึ่งตรงนี้กลับไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทุกคนถกเถียงกัน
พวกคุณกำลังด่าฐาปนีย์ด้วยความเกลียดกลัวเสียมากกว่า
ซึ่งดิฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นความเห็นคุณภาพอย่างไร!

เอาล่ะถ้าพวกคุณยืนยันว่าสื่อไม่ควรใส่อารมณ์ใส่ความรู้สึกมากเกินไป
คำถามคือ ที่ผ่านมาไปมุดหัวอยู่ในรูไหนกันไปหมดคะ?
ที่ผ่านมาสื่อเอียงข้าง สื่อใส่อารมณ์ สื่อใส่ความรู้สึกเต็มไปหมด พวกคุณได้ยึดถือหลักการนี้จริงๆหรือเปล่า?
ข่าวหมาถูกฝัน แมวถูกทิ้ง ถูกเอาไปขายชายแดน ข่าวการเมือง พวกนักข่าวเล่นดราม่ากันยกใหญ่
พวกคุณได้ใช้บรรทัดฐานนี้หรือเปล่า? และต่อไปจะใช้หรือไม่?
หรือเพียงแค่ดัดจริตเพราะขัดใจที่ยัยนักข่าวคนนี้เสนอข่าวไม่ถูกใจพวกคุณเลยย?
ตรงนี้ดิฉันไม่ได้ว่านักข่าวควรใส่ความรู้สึกลงในข่าวนะ
แต่ถามพวกคุณน่ะว่ามีความคงเส้นคงวาต่อมาตรฐานจริยธรรมที่คุณว่าขนาดไหน


ดิฉันเห็นใจคุณฐาปนีย์ ชื่นชมในผลงานเก่าๆของคุณ
คุณถูกสังคมด่าทอเหมือนคุณเป็นอาชกรเพียงแค่เพราะคุณ “สงสาร” เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
สังคมเห็นคุณแยมทำผิดเราติได้ วิจารณ์ได้ คุณแยมก็ยังพัฒนาได้ เรียนรู้ได้
มันยังเถียงกันได้ด้วยซ้ำว่าที่คุณแยมทำมันถูกหรือผิดหรือไม่ทั้งคู่
หรือถ้าคุณแยมทำผิดจริง ก็ไม่ใช่ความร้ายแรงเหมือนไปฆ่าคนนตาย
ไม่ใช่ไปทำยังกับเขาเป็นฆาตกร ด้วยการก่ออาชกรรมทางความคิด
ดิฉันเห็นใจกับคุณฐาปนีย์
ดิฉันขอเป็นหนึ่งเสียงให้กำลังใจคุณแยมทำหน้าที่ของนักข่าว
และสะท้อนปัญหาเพื่อเพื่อนมนุษย์ต่อไปค่ะ
เสียงของคนชายขอบยังต้องการคุณค่ะ


----

กระทู้ยังมีต่อในความเห็นต่อไปค่ะ ทางพันทิปกรุณาอย่าพึ่งเอาแท็กออกค่ะ
ดิฉันจะวิพากษ์วิจารณ์ต่อกับตรรกะป่วยๆของคนไทย(บางส่วน)
ในโลกออนไลน์

ความเห็นที่ 2


ความเห็นที่ 5


ความเห็นที่ 7


ความเห็นที่ 11
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่