[CR] ทริปแบกเป้เที่ยวเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย ด้วยรถไฟไทย 4 วัน 3 คืน ด้วยเงิน 4,500 บาทไทย

ทริปนี้ เป็นทริปที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วนะครับ เพราะผมเป็นคนชอบรถไฟ แล้วผมก็เห็นรถไฟขบวนหนึ่งที่ป้ายข้างๆ เขียนว่า "กรุงเทพ - บัตเตอร์เวอร์ธ" ซึ่งผมก็ไปค้นหาข้อมูล ก็พบว่า สถานีบัตเตอร์เวอร์ธนั้นอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย แล้วก็ไปหาข้อมูลมาได้อีกว่า สถานีรถไฟนั้นอยู่ใกล้ท่าเรือข้ามฟากไปยังเกาะปีนัง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในประเทศมาเลเซียด้วย โดยเมื่อผมเห็นรถไฟขบวนนี้ทุกครั้ง ผมก็พูดกับตัวเองว่าจะต้องไปรถไฟขบวนนี้ให้ได้

จนกระทั่งความฝันนั้นเป็นจริง ผมจึงวางแผนช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ว่าจะไปเที่ยวเกาะปีนังประเทศมาเลเซีย นอนค้าง 1 คืน และได้ทำการจองตั๋วรถไฟทั้งขาไปและขากลับด้วยขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 35 จากสถานีกรุงเทพ ไปยังสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 36 จากสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ มายังสถานีกรุงเทพ ตั้งแต่วันก่อนเดินทางล่วงหน้า 2 เดือนเลยครับ เพราะกลัวใกล้วันเดินทางแล้วจะเต็ม โดยทริปนี้มีผม และสมาชิกอีก 2 คนร่วมเดินทางไปด้วยนะครับ รวมแล้วการเดินทางครั้งนี้ไปกันทั้งหมด 3 คน

เริ่มด้วยการไปจองตั๋วรถไฟนะครับ สามารถจองที่สถานีไหนก็ได้ในประเทศไทย เพราะระบบนั้นออนไลน์ถึงกันหมดแล้ว (ต้องขอปิดข้อมูลส่วนตัวนะครับ)



และแล้วผมก็รอเวลามา 2 เดือน จนกระทั่งถึงวันเดินทาง เราจึงมาเริ่มต้นกันที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งขบวนรถจะออกจากสถานีกรุงเทพในเวลา 14.45 น. ตามกำหนดเวลา ระหว่างนี้ผมก็ได้ทำการซื้อเสบียงเพื่อไปรับประทานระหว่างทาง เพราะเราจะใช้เวลาอยู่บนรถไฟนานถึง 20 กว่าชั่วโมงเลยทีเดียว



ระหว่างรอเวลารถออก ผมก็เดินไปถ่ายรูปของขบวนรถที่ผมเองจะต้องเดินทางไปกับรถขบวนนี้ทางด้านตอนหน้า



ป้ายด้านข้างรถ



ภายในรถที่ผมจะโดยสารไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นรถนอนชั้น 2 ปรับอากาศ



จากนั้นผมก็นั่งเล่น นั่งคุยกับผู้ร่วมทริปกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งรถเข้าสถานีราชบุรี จึงได้ซื้อ "ก๋วยเตี๋ยวราชบุรี" มารับประทานกัน ซึ่งขายเพียงกล่องละ 10 บาทเท่านั้น ซึ่งก๋วยเตี๋ยวราชบุรีเป็นของขึ้นชื่อเลยล่ะครับ



บรรยากาศระหว่างทางรถไฟครับ ก่อนพระอาทิตย์ตก แถวๆ เพชรบุรี



พอพระอาทิตย์เริ่มตกดินแล้ว พนักงานประจำรถนอนก็จะมาทำการกางเตียง โดยการปรับสภาพจากรถนั่งเป็นรถนอน ซึ่งนอนได้อย่างสบายมากเลยครับ



บรรยากาศภายในขบวนรถหลังจากที่ผู้โดยสารหลายๆ คน เริ่มจะพักผ่อนกันหมดแล้ว และหลังจากนี้ผมก็ได้นอนหลับพักผ่อนเช่นกัน เพื่อเก็บแรงไว้วันรุ่งขึ้น



และพอถึงวันรุ่งขึ้น พอขบวนรถไฟมาถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ ผมจึงได้ทำการซื้อเสบียงมื้อเช้า นั่นคือ "ไก่ทอดหาดใหญ่" นั่นเองครับ เป็นของขึ้นชื่อของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเลย



ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 35 เมื่อมาถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่แล้ว จะทำการตัดรถออกครับ โดยจะเหลือเพียงแค่รถนอนปรับอากาศ (บนทป.) เพียงแค่ 2 คัน  โบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 1 คัน และโบกี้ขนสัมภาระ (บพห.) อีก 1 คัน เพื่อไปยังประเทศมาเลเซีย



พอตัดรถออกเรียบร้อย ก็ทำการลากออกไป เพื่อย้ายไปจอดชานชลาที่ 2



ถอยหลังเข้ามาชานชลาที่ 2



และหลังจากขบวนรถได้ทำการสับเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียครับ โดยเราจะผ่านทางชายแดนปาดังเบซาร์ ซึ่งหลังจากที่ขบวนรถได้ออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่เรียบร้อยแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่นำเอกสารเพื่อทำพิธีผ่านตรวจคนเข้าเมืองมาให้เรากรอก



พอขบวนรถเข้าสู่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ ซึ่งอยู่ในเขตประเทศมาเลเซียแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราลงจากรถ เพื่อไปทำพิธีตรวจคนเข้าเมือง โดยต้องนำสัมภาระติดตัวไปด้วยนะครับ (ยกเว้นพวกถุงขนมต่างๆ) แนะนำว่าให้วางจองไว้ตรงที่นั่งตัวเอง กันคนมาเลย์ที่ขึ้นมาทีหลังจะมายึดที่เอานะครับ และพอหลังจากที่ทำพิธีตรวจคนเข้าเมืองเสร็จ ขบวนรถไฟก็ได้ทำการเปลี่ยนหัวรถจักร โดยจะใช้รถจักรของมาเลเซีย เพื่อทำขบวนรถวิ่งต่อไปยังสถานีปลายทางบัตเตอร์เวอร์ธ โดยขบวนรถจะตัดรถที่เหลืออีก 2 คัน ได้แก่ รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) และรถขนสัมภาระ (บพห.) โดยรถที่วิ่งจากปาดังเบซาร์ไปยังบัตเตอร์เวอร์ธนั้น จะมีเพียงแค่รถนอนปรับอากาศ (บนทป.) เพียงแค่ 2 คันเท่านั้น แต่พนักงานจะทำการเก็บเตียงทั้งหมดให้เป็นรถนั่ง



หลังจากนั้น ผมก็กลับมาที่ขบวนรถเหมือนเดิม และได้เวลาเดินทางต่อ และก็ได้นั่งดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆ นะครับ



สถานีอะราว ซึ่งเป็นสถานีที่ขบวนรถหยุดรับส่งผู้โดยสารต่อจากสถานีปาดังเบซาร์ ผมชอบสถาปัตยกรรมของสถานีนี้จัง



สถานีอลอสตาร์



ระหว่างทางครับ ผมล่ะชอบทางรถไฟบ้านเขาจัง ทางนิ่มมาก หวังว่าประเทศไทยคงจะเป็นแบบนี้สักวันนะครับ



ออกจากสถานีสุไหงปัตตานี



และแล้วเราก็เดินทางมาถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางสักที ขบวนรถก็พร้อมเตรียมตัวกลับกรุงเทพแล้ว



ถ่ายรูปป้ายสถานี



หลังจากนั้นก็จะเดินทางต่อไปยังเกาะปีนังด้วยเรือข้ามฟากนะครับ ท่าเรือข้ามฟากอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟเลย โดยเดินไปตามป้ายได้



และเราก็เดินมาถึงที่จำหน่ายตั๋วเรือครับ โดยจะเสียค่าข้ามคนละ 1.20 ริงกิต



ระหว่างอยู่บนเรือข้ามฟาก เราจะมองเห็นสะพานปีนัง ซึ่งเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความยาวถึง 13.5 กิโลเมตร



มองไปทางเกาะปีนังที่อยู่ด้านหน้า



บรรยากาศบนเรือข้ามฟากครับ จะเห็นว่ามีรถยนต์มาใช้บริการด้วย



เราก็มาใกล้ถึงฝั่งเกาะปีนังแล้ว ก็เห็นเรืออีกลำ กำลังมุ่งหน้าไปทางฝั่งแผ่นดินใหญ่



และเราก็ลงจากเรือมาเรียบร้อย ที่เห็นก็คือจะเป็นท่ารถเมล์ Rapid Penang ซึ่งมีหลายเส้นทางให้บริการภายในเกาะปีนัง โดยสามารถศึกษาข้อมูลของรถเมล์แต่ละสายได้ที่ http://www.rapidpg.com.my



หลังจากนั้นเราก็เดินหาโรงแรมที่ได้ทำการจองเอาไว้ครับ โดยเดินดูแผนที่จาก Google Map ไปเรื่อยๆ



ระหว่างทาง ก็ได้เดินผ่านหอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย ซึ่งสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองพระชนม์มายุ60 พรรษาของพระราชินีวิคตอเรีย แห่งอังกฤษ ในปี ค.ศ.1897 โดยมหาเศรษฐีชาวปีนัง ชื่อเซียะห์ เช็น อ็ก หอนาฬิกาแห่งนี้สูง 60 ฟุต



และแล้วเราก็มาถึงโรงแรมครับ ผมก็ได้ทำการเช็คอิน แล้วเข้าห้องพัก เพื่อทำภาระกิจส่วนตัว และจะได้ออกไปเดินเที่ยวต่อ โดยโรงแรมที่ผมพักนั้นมีชื่อว่า Merlin Hotel อยู่บริเวณจอร์จทาวน์ ข้อมูลและราคาสามารถดูได้ที่ http://merlinhotel.com.my/



และพอเสร็จภาระกิจส่วนตัวกันแล้ว เราก็ลงมาเดินเล่นในเมือง ซึ่งสิ่งแรกคือตามหา Street Art กัน



เดินไปเรื่อยๆ



และก็เดินผ่านมาแถว Little India



จากนั้นก็เดินตามหาต่อ



จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ















จริงๆ Street Art มีมากกว่านี้เยอะครับ แต่ผมต้องขออภัยด้วย เนื่องจากถ่ายภาพมาได้ไม่เยอะ แถมแผนที่ก็ไม่มี ทำให้เดินหาแบบไม่มีทิศทาง และพอหลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปยังท่ารถเมล์ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเรือที่เราข้ามฟากมา เพื่อนั่งรถเมล์สาย 204 ไปยัง Penang Hill เพื่อชมวิวเมืองปีนังในมุมสูงกัน



ค่าโดยสาร คนละ 2 ริงกิตครับ โดยไปลงสุดสายของรถเมล์คันนี้เลย



และแล้ว เราก็มาถึงครับ อาทิตย์กำลังจะตกดินพอดีเลย



หลังจากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วรถราง เพื่อขึ้นไปยังบนยอดเขา เสียคนละ 30 ริงกิตครับ เพราะเป็นราคาชาวต่างชาติ



เดินไปขึ้นรถรางที่นี่



รถรางลงมาจอดเทียบแล้ว



ระหว่างทางขึ้นไปข้างบนยอดเขาครับ



และแล้วเราก็ขึ้นมาถึง



ป้ายยินดีต้อนรับ



ด้านบนจะมีวัดของฮินดูด้วย



เดินมาด้านหลัง ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า



รับชมกันต่อได้ด้านล่างนะครับ
v
v
v
v
v
ชื่อสินค้า:   เกาะปีนัง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่