เราเพิ่งเคยเข้ามาตั้งกระทู้นะคะ ปกติจะเป็นผู้ติดตามอ่าน
คือเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆของผู้ปกครองที่มีทรัพย์มาก หรือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้ปกครองที่มีทรัพย์น้อย หรือไม่นะคะ
แต่สำหรับเราแล้ว เรารู้สึกว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรรม
ลูกชายเราอายุจะสี่ขวบในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนหน้านี้เคยเข้าโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งมาแล้วในระดับชั้น อ.1
และเนื่องจากเหตุหลายประการ มาปีการศึกษานี้พ่อและแม่ก็เลยตัดสินใจพาลูกชายย้ายโรงเรียนมาเรียนที่โรงเรียนของรัฐ(เรื่องที่ย้ายมาจากโรงเรียนเอกชน จะเล่าทีหลังนะคะ)
คือ โรงเรียนรัฐที่เราเลือกนำลูกมาเรียน เป็นโรงเรียนอนุบาลมูลนิธิวัดxxxxx ขอไม่เอ่ยนามนะคะ
ที่บ้านเรามาทำบุญที่วัดนี้บ่อยครั้ง วัดอยู่ใกล้บ้าน และเราก็รู้สึกดีๆกับสถานที่แห่งนี้
การเรียนโรงเรียนรัฐฯคือไม่เสียค่าเทอม และค่าหนังสือ
1. ครั้งแรกที่เราโทรติดต่อสอบถามกับทางโรงเรียน มีครูท่านนึงรับสาย น้ำเสียใจดี เราคุยรายละเอียดสอบถามทุกอย่าง
ได้ความว่า ถ้าเกิดเลยเดือน พฤษภาคม จะต้องมาเรียนชั้น อ.1 ใหม่ ตามกฎที่กระทรวงออกมา ถึงแม้จะเคยเรียน อ.1 จากที่อื่นมาแล้ว ก็ไม่สามารถมาต่อ อ.2 ได้
ซึ่งโรงเรียนเก่า ก็ไม่เคยแจ้งเรื่องนี้กับเรา แต่ก็ ถ้าจะต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆ เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะยังไงก็เรียนฟรี
และครูที่รับสายแจ้งว่า ที่นอนเดิมก็สามารถใช้ได้ไม่ต้องซื้อใหม่ แล้วก็พวกของใช้ของเด็ก
อย่างเช่น แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ฯลฯ พ่อแม่ก็สามารถซื้อหาและจัดเตรียมมาให้ได้ หรือจะมาซื้อที่โรงเรียนก็ได้ คือไม่บังคับ
แล้วก็ให้หาชุดไทยมา 1 ชุด แบบใดก็ได้ แล้วแต่ผู้ปกครองสะดวก เพราะมีวันที่จะต้องใส่ชุดไทย ซึ่งเราก็มีของพวกนี้อยู่แล้ว ก็คิดว่า ก็ประหยัดเงินไปได้อีก
ส่วนช่วงเย็นนั้น เลิกเรียนเวลา 14.30 น. จะมีครูดูแลให้ถึง 17.30 น. ในกรณีที่ผู้ปกครองทำงาน หรือถ้ารับช้ากว่านั้น ก็ให้คุยตกลงกับครูประจำชั้นหรือครูที่รับดูแล
ซึ่งราคาที่ทางโรงเรียนกำหนดมาก็คือ 450-550 บาท ซึ่งเราก็โอเคไม่มีปัญหาในส่วนนี้(ครูที่เราคุยด้วยทางโทรศัพท์เป็นครูประจำชั้น อ.1/1 ซึ่งดูใจดีมาก อัธยาศัยดีและเข้าใจผู้ปกครอง ให้คำแนะนำหลายๆอย่างเราดีมาก)
เราก็เลยตกลงให้ลูกมาเรียนที่นี่ ในชั้น อ.1 ใหม่ ก็ยื่นเอกสาร และไปมอบตัววันมอบตัว วันที่เราไปมอบตัว ก็ทราบว่า ลูกชายได้อยู่ห้อง อ.1/3 ก็ออกจะผิดหวังอยู่บ้าง
เพราะคาดว่าอยากจะให้ลูกได้อยู่ห้องครู อ.1/1 ที่เราและสามีเคยมาพบเจอพูดคุยกันมาก่อน2-3ครั้ง
วันที่พาลูกมามอบตัว เราก็เห็นครูห้องอื่นๆ ดูท่าทางใจดีและเป็นมิตรมาก แตกต่างจากครูประจำชั้นที่ลูกเราจะต้องไปอยู่
คือ เขามีลักษณะที่ดูเหมือนคนไม่เต็มใจมาทำงานนี้ บอกตามตรงเลยนะคะ น้ำเสียง การพูดจา ดูดุๆ และไม่ง้อใคร ดูท่าทางเอาเรื่อง
เราก็ลงทะเบียนเรียบร้อย ครูท่านนี้ก็บอกเลยว่า เราจะต้องซื้อ ของใช้xxxxxxxxxx และที่นอนใหม่ พร้อมทั้งชุดไทยของที่นี่เท่านั้น!
เราก็บอกไปว่า แต่เราเคยถามก่อนที่จะมาสมัครแล้วว่า
สามารถใช้ของเดิมได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ แต่ครูท่านนี้ไม่ยอม ทั้งน้ำเสียงและท่าทางคือแบบ ไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม
โอเค เราก็อึ้งๆนะ เราก็ต้องเดินไปซื้อ ซึ่งแปลกใจว่า ทำไม่เห็นพ่อแม่ห้องอื่นๆจะเดินไปซื้ออย่างเราเลย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป
เราก็ไปซื้อ ซึ่งราคาเนี่ย บอกตามตรงเลยว่า จะเอากำไรไปถึงไหน?? นี่ครูได้เปอร์เซ็นต์อะไรด้วยหรือป่าว?
มันก็คำถามในใจนะ อดคิดไม่ได้จริงๆ ครูห้องข้างๆก็มองๆยิ้มๆแบบเหมือนเข้าใจ ประมาณว่า เขาช่วยอะไรไม่ได้
แล้วเขาก็เก็บค่าประกัน เราก็จ่าย เราจ่ายทุกอย่างตามที่เขาสั่ง
วันนั้นเบิกเงินจากธนาคารไปประมาณ 3,000 บาท จะเอาไปใช้จ่ายอื่นๆด้วย กลายเป็น แทบเกลี้ยง งงมาก โรงเรียนวัดนะ แถมยังเป็นมูลนิธิด้วย ที่มีไว้ช่วยเหลือผู้ปกครองที่รายได้น้อย
2. เราก็ถามครูประจำชั้น เรื่องของการฝากลูกในช่วงเย็น ครูเขาก็ตอบว่า เดี๋ยวเขาจะให้เป็นครูอีกท่าน แต่ต้องมาคุยกันตอนเปิดเทอม เราก็โอเค
พอมาถึงวันเปิดเทอม เราก็มาถามเขาอีกว่า เรื่องฝากลูกช่วงเย็น จะฝากไว้กับครูท่านใด เขาก็ตอบกลับมาเหมือนเดิมว่า เดี๋ยวจะให้เป็นน้องอีกคน เดี๋ยวค่อยคุยกัน
แล้วเรากับสามีก็รอเขาอีกเป็นชั่วโมง เราก็ทวงถามเขาอีก คือเรากับสามีก็ต้องเข้างานสายเพื่อมารอคำตอบเรื่องนี้จากเขา
สรุป เขาบอกว่า ฝากลูกไว้ที่เขาเนี่ยแหละ / เออนะ บอกแต่แรกก็จบ เราก็จ่ายตังไป / แล้วเขาก็เก็บค่าหนังสืออีก เราก็จ่ายไป(หนังสือที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตามันเลย)
/ แล้วเขาก็ย้ำว่า เราจะต้องรีบมารับลูก คือเขาจะรีบกลับบ้านประมาณนั้น คือ เราเคยฝากลูกแบบนี้กับครูที่โรงเรียนเก่านะคะ
คือจะมีครูที่ไม่ใช่ครูประจำชั้น และเป็นครูท่านอื่นที่รับงานนี้ ช่วงเย็น คือจะรับเด็กกลับมาดูแลที่บ้าน แล้วพ่อแม่ก็ค่อยมารับ ไม่ต้องมารีบๆๆๆๆหน้าตาตื่นมารับ
เรากับแฟนเลิกงาน 17.00 น. แต่ กว่าจะได้ออกมา กว่าจะเดินทาง รถก็ติด ก็รีบจนที่สุดแล้ว
ก็เลยไม่ค่อยสบายใจในเรื่องนี้ ใจจริงแล้วอยากถามเขาด้วยว่า มีครูท่านอื่นไหม ที่รับจ็อบนี้ แต่ดูท่าทางของเขาแล้ว ดูไม่อยากจะคุยกับใครเลย อธิบายไม่ถูก
ถ้ามาเห็นครูคนนี้แล้ว จะเข้าใจความรู้สึกของเราเลย
เมื่อวานสามีเราเขาเลิกงานช้า ก็เลยโทรบอกให้เราไปรับลูกก่อน ซึ่งเขาติดงานอยู่นอกบริษัทฯ กว่าจะเดินทางถึงก็ช้า เราก็เลิกงาน 17.00 น.
ก็รีบออกจากที่ทำงาน และเดินทางทั้งหมด 4 ต่อ + รอรถ + รถติด รีบที่สุด เหมาวินฯยาวก็ไม่ยอมไป ก็เลยต้องต่อรถเอา แต่ก็มีใช้วินฯด้วย หมดค่ารถแบบเร่งรีบเกือบร้อยบาท
กว่าจะไปถึงก็หกโมงนิดๆ ครูประจำชั้นโทรตามติดๆๆๆๆๆ
เราก็รีบสุดชีวิตแล้ว ไม่รู้จะทำยังไง โทรหาสามี เขาก็กังวล รถติดอยู่ไกล เร่งแล้วได้เท่านี้
พอเรามาถึง คือครูพาลูกเราจากโรงเรียนเดินออกมาจนถึงแถวๆหน้าปากซอย(ไกลพอสมควร)
เราก็ตกใจ ให้วินฯจอดรถ ครูเขาก็บอกเลยว่า ถ้าแบบนี้ทุกวัน เขาไม่สามารถรับดูแลลูกเราได้ ซึ่งจริงๆแล้ว มันก็ไม่ใช่ทุกวัน
แต่เพื่อความสบายใจ เราเองก็อยากได้ครูที่สามารถดูแลได้จริงๆ ซึ่งเราเชื่อว่ามี แต่เราไม่รู้ว่าครูท่านใด
หากเราถามไปเขาจะไม่พอใจอะไรหรือป่าว แต่เขาก็พูดขึ้นมาเองว่า มีครูคนนึงรับ บ้านอยู่ในซอยนี้ ติดกับโรงเรียน ซึ่งเราก็โอเค
สอบถามไปว่าอะไรยังไง เขาก็บอกว่า คุยกันพรุ่งนี้ เราก็โอเค
พอเช้าวันต่อมา เรากับสามีก็มาส่งลูก ซึ่งปกติเราจะออกจากบ้านค่อนข้างเช้า คือหกโมงกว่าๆก็จะออกแล้ว
ซึ่งปกติจะไม่มีปัญหากับการมาส่งลูก เพราะครูตามโรงเรียน ก็จะมาโรงเรียนกันแต่เช้า หกโมงเช้าก็มาแล้ว
หรืออย่างน้อยๆก็จะต้องเจอครูเวรมาคอยรับ แล้วผู้ปกครองก็ไปทำงาน
แต่วันนี้เรามาช้ากว่าปกติ ซึ่งก็คือประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ แดดออก ผู้ปกครองมาเยอะแล้ว ครูแต่ละห้องก็มากันหมดแล้ว รับเด็กๆของตนเองเข้าห้องไปเยอะแล้ว
แต่
ครูประจำชั้นห้อง อ.1/3 ที่ลูกชายอยู่ ประตูห้องยังปิดอยู่ ครู?????
เราได้ยินผู้ปกครองที่นั่งรออยู่หน้าห้องพูดคุยกันว่า ครูยังไม่มาเลย มาสายประจำ
เรากับแฟนต้องรีบไปทำงาน ก็ต้องอยู่รอ จะปล่อยลูกไว้ก็ไม่ได้ สมัยนี้ อันตราย เราก็ยืนรอกันต่อไป รอๆๆๆ ก็ไม่มา
เราก็เลยโทรหาครู กว่าจะรับสาย พอรับสาย ฟังดูแล้ว เหมือนยังอยู่ที่บ้าน!!!!!
แล้วถามเราว่า มีธุระอะไร / เราคิดว่า เขาควรรู้หน้าที่ของตนเองนะ ไม่ใช่ถามเราว่า มีธุระอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ปกครองต้องโทรตามตัวครูให้มาทำงานนะ / เราก็พูดกับเขาดีๆและไม่เคยว่าอะไรเขานะ เราก็พูดแค่ว่า ค่ะๆ แค่นั้น แบบว่าอึ้งน่ะ ไม่รู้ว่า มันเป็นสิ่งที่เราควรจะพูดอะไรด้วยเหรอ? หน้าที่ของแต่ละคนคืออะไร เราต้องบอกเหรอ?
สามีเราก็บอกว่า ก่อนหน้านี้ที่เขามาส่งลูกคนเดียว ก็แบบนี้ วันนั้นครูมาสายมาก พอมาแล้วก็ไม่มีขอโทษหรืออะไรนะ เดินเข้าห้อง
แล้วเดินตีมึนหน้ามึน เดินไปเดินมาอยู่ในห้อง แล้วบอกให้สามีเรากับลูกรออยู่หน้าห้อง ..........เพื่อ??
คือ ทำไมครูมาแล้วถึงไม่รีบรับนักเรียนเข้าไป แล้วให้ผู้ปกครองกลับ คือแม้แต่ก่อนหน้านี้ ที่เรากับสามีไปที่โรงเรียน หรือสามีเราไปคนเดียว
ภาพที่เจอก็คือ เขาดูไม่สนใจนักเรียนเลย(ไม่ว่านักเรียนคนไหน) ปล่อยตามมีตามเกิด จะเดินออกไปไหน ทำอะไร
แล้วตัวเขาก็จะนั่งอยู่กับโต๊ะของตนเอง เวลาเด็กเดินไปตรงไหน ก็จะเรียกใช้ผู้ปกครอง บอกให้ดูให้หน่อย จับให้หน่อย ให้เอาเข้ามา ให้ดูให้ด้วยนะ
คือจะบอกว่าตัวเองไม่ว่างว่างั้น ??
หน้าตาก็ดูเหมือนคนเซ็งโลก เหมือนอารมณ์ไม่ดี ดูไม่อยากทำอะไร เด็กร้องไห้ เขาก็เฉยๆ(ไม่ใช่ลูกชายเรานะคะ ลูกเราไม่เคยงอแง)
คือภาพรวมแล้วนะ คือไม่ประทับใจครูคนนี้เลย ตั้งแต่แรกมาจนถึงตอนนี้
มันแตกต่างจากครูประจำชั้นห้องอื่นมาก
//ในที่สุดเราก็ได้คุยกับครูอีกท่าน(ดูแลช่วงเย็น) ที่เขาแนะนำมา(ซึ่งเราก็ต้องตามเรื่องเองด้วย) ครูที่เขาแนะนำมา พูดจาดี ทางใจดี คือสรุป เราคุยกันว่า หลังเลิกเรียน(14.30 น.) เขาจะรับลูกเรา
ไปบ้านเขาเลย แล้วรออยู่ที่บ้านจนกว่าพ่อแม่จะมารับ และไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวล ให้เราทำงานตามสบาย บ้านเขาอยู่ติดกับตึก 1 ของโรงเรียนนี่เอง
และตกลงกันว่า เขาจะคิดค่าดูแล เดือนละ 300 บาท เราก็โอเค
เราก็โทรบอกสามี เขาก็โอเค สบายใจ เย็นนี้จะเริ่มไปรับลูกกับครูคนใหม่ช่วงเย็น
ตอนแรกเราก็นึกว่าเรื่องมันจะจบแล้วนะ
แต่เรารู้สึกเอ๊ะใจยังไงก็ไม่รู้ เราก็เลยโทรกลับไปหาครูที่รับดูแลลูก ซึ่งเป็นครูประจำชั้น อ.1/2 (อีกครั้ง)
คุยๆกันอยู่ ครูประจำชั้นของลูกก็ดึงโทรศัพท์ไปคุยเอง และบอกว่า
*เราจะต้องเสียเงิน 2 ต่อ คือจะต้องเสียเงินให้กับเขา(ครูประชั้น อ.1/3 ครูห้องของลูกชาย) เป็นต่อที่ 1 คือ 550 บาท/เดือน
และจะต้องเสียต่อที่ 2 ให้กับครูที่รับดูแลอีก 300 บาท/เดือน
รวมเป็น 850 บาท
/ เราก็อึ้งเลย ทำไมอะเนี่ย แต่เรายังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็พูดขึ้นมาเลยว่า !!มันเป็นสิทธิของเขา(ที่เป็นครูประจำชั้น)!!
พูดง่ายๆคือจะเอาค่านายหน้า และเอาทุกเดือน ทั้งๆที่ตัวเอง ก็ไม่สามารถรับหน้าที่ดูแลลูกเราได้
เขาบอกอีกประมาณว่า เขาจะอยู่จนเขาจะกลับบ้าน แล้วเขาก็เอาลูกเราไปให้ครูอีกคน(ข้างห้อง)
คือจะบอกว่า พอใจอยากกลับเมื่อไหร่ เสร็จเรื่องของตัวเองที่โรงเรียนเมื่อไหร่ พอใจอยากกลับก็จะกลับ แล้วก็จะเอาลูกเราไปทิ้งไว้ที่ครูอีกคน
ตอนแรกเราได้ยินแว้วๆว่าเขาคุยกัน ครูที่รับดูแลบอกว่า ให้ครูประจำชั้นดูแล แต่เขาบอกว่า เขาไม่เอา!
คือแบบ ผู้ปกครอง(พ่อแม่) ที่อ่านเรื่องนี้อยู่ เข้าใจความรู้สึกเราไหม คือเขาก็จะไม่เอา ไม่ทำ ไม่อะไร แต่เงินก็จะเอา
การมาทำอาชีพนี้ มันคือ การหาเงินหาผลประโยชน์จากผู้ปกครองที่เขาคิดว่า ยังไงก็ต้องพึ่งเขา เขาจะพูดจะเรียกร้องเอาอะไรก็ได้เหรอ?
มันเห็นแก่ตัวและเอาเปรียบมากนะ คนที่ดูแลได้กลับคิดเราแค่ 300 บาท แต่คนที่ไม่โอเคกลับจะเอาจากเรา 550 บาท
ด้วยเหตุผลที่ว่า **มันเป็นสิทธิของเขาที่เป็นครูประจำชั้น**
ตอนที่ครูสุดโหดนี่ไม่อยู่ เราถามครูที่รับดูแลว่า กลัวเขาใช่ไหม ครูท่านนี้เสียงสั่นๆตอบว่า ใช่
เราไม่รู้ว่า ครูคนนี้เขามีเส้นใหญ่อะไรในโรงเรียนนะ แต่ดูเขาไม่สนใจและไม่เกรงกลัวอะไรเลย มาสายได้ทุกวัน เงินก็จะเรียกเก็บนั่นนี่ ความเอาใจใส่ ความรับผิดชอบก็ไม่มี
และดูไม่แคร์อะไรเลย และเราเห็นว่าเขาเป็นอยู่คนเดียวด้วยนะ(ในระดับชั้นนี้)
//สามีเรา เขาก็ไม่ได้เลิกช้าทุกวัน ยกเว้นกรณีที่ติดธุระจริงๆ อย่างนี้ ถ้าวันไหน ห้าโมงไปรับได้เลย ก็เท่ากับว่า ต่อที่ 2 ต้องเสียเงินฟรีๆเลยอย่างนั้น?//
3. วันเปิดเทอมวันแรกจนถึงตอนนี้ เราก็เห็นว่า ผู้ปกครองท่านอื่นที่ลูกอยู่กับครูห้องอื่นๆ ก็ถือที่นอนและของใช้
ที่ไม่ใช่ของที่ซื้อตามคำสั่งของครู(ประจำชั้น อ.1/3) ก็เห็นถือมาใช้ที่โรงเรียนกันปกติ ไม่เห็นจะต้องซื้อใหม่อะไร เราก็ไม่ค่อยสบายใจนะ
/ ครูประจำชั้น อ.1/3 ที่ลูกเราอยู่ ยังบอกอีกว่า ที่นอนของเด็กห้องนี้(ย้ำว่า ห้องนี้) วันศุกร์ครูไม่ให้เอากลับบ้านนะ และจะเก็บเงินเราอีก 550 บาท(อีกแล้ว)
และบอกว่า เขาจะเป็นคนส่งซักให้เอง เขาไม่สะดวกพับให้เพื่อให้ผู้ปกครองเอากลับไปซัก
เรากับสามีนี่อึ้งไปอีก(เงินอีกแล้ว) ท่าทางของเขาพูดแล้วแบบเสียงดุเด็ดขาด พูดแล้วจ้องตาแล้วก็ก้มลงไปทำนั่นนี
เรื่องราวเกี่ยวกับครู......ในโรงเรียนฯที่อยากจะบอกเล่าและปรึกษากับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านอื่นๆค่ะ
คือเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆของผู้ปกครองที่มีทรัพย์มาก หรือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้ปกครองที่มีทรัพย์น้อย หรือไม่นะคะ
แต่สำหรับเราแล้ว เรารู้สึกว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรรม
ลูกชายเราอายุจะสี่ขวบในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนหน้านี้เคยเข้าโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งมาแล้วในระดับชั้น อ.1
และเนื่องจากเหตุหลายประการ มาปีการศึกษานี้พ่อและแม่ก็เลยตัดสินใจพาลูกชายย้ายโรงเรียนมาเรียนที่โรงเรียนของรัฐ(เรื่องที่ย้ายมาจากโรงเรียนเอกชน จะเล่าทีหลังนะคะ)
คือ โรงเรียนรัฐที่เราเลือกนำลูกมาเรียน เป็นโรงเรียนอนุบาลมูลนิธิวัดxxxxx ขอไม่เอ่ยนามนะคะ
ที่บ้านเรามาทำบุญที่วัดนี้บ่อยครั้ง วัดอยู่ใกล้บ้าน และเราก็รู้สึกดีๆกับสถานที่แห่งนี้
การเรียนโรงเรียนรัฐฯคือไม่เสียค่าเทอม และค่าหนังสือ
1. ครั้งแรกที่เราโทรติดต่อสอบถามกับทางโรงเรียน มีครูท่านนึงรับสาย น้ำเสียใจดี เราคุยรายละเอียดสอบถามทุกอย่าง
ได้ความว่า ถ้าเกิดเลยเดือน พฤษภาคม จะต้องมาเรียนชั้น อ.1 ใหม่ ตามกฎที่กระทรวงออกมา ถึงแม้จะเคยเรียน อ.1 จากที่อื่นมาแล้ว ก็ไม่สามารถมาต่อ อ.2 ได้
ซึ่งโรงเรียนเก่า ก็ไม่เคยแจ้งเรื่องนี้กับเรา แต่ก็ ถ้าจะต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆ เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะยังไงก็เรียนฟรี
และครูที่รับสายแจ้งว่า ที่นอนเดิมก็สามารถใช้ได้ไม่ต้องซื้อใหม่ แล้วก็พวกของใช้ของเด็ก
อย่างเช่น แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ฯลฯ พ่อแม่ก็สามารถซื้อหาและจัดเตรียมมาให้ได้ หรือจะมาซื้อที่โรงเรียนก็ได้ คือไม่บังคับ
แล้วก็ให้หาชุดไทยมา 1 ชุด แบบใดก็ได้ แล้วแต่ผู้ปกครองสะดวก เพราะมีวันที่จะต้องใส่ชุดไทย ซึ่งเราก็มีของพวกนี้อยู่แล้ว ก็คิดว่า ก็ประหยัดเงินไปได้อีก
ส่วนช่วงเย็นนั้น เลิกเรียนเวลา 14.30 น. จะมีครูดูแลให้ถึง 17.30 น. ในกรณีที่ผู้ปกครองทำงาน หรือถ้ารับช้ากว่านั้น ก็ให้คุยตกลงกับครูประจำชั้นหรือครูที่รับดูแล
ซึ่งราคาที่ทางโรงเรียนกำหนดมาก็คือ 450-550 บาท ซึ่งเราก็โอเคไม่มีปัญหาในส่วนนี้(ครูที่เราคุยด้วยทางโทรศัพท์เป็นครูประจำชั้น อ.1/1 ซึ่งดูใจดีมาก อัธยาศัยดีและเข้าใจผู้ปกครอง ให้คำแนะนำหลายๆอย่างเราดีมาก)
เราก็เลยตกลงให้ลูกมาเรียนที่นี่ ในชั้น อ.1 ใหม่ ก็ยื่นเอกสาร และไปมอบตัววันมอบตัว วันที่เราไปมอบตัว ก็ทราบว่า ลูกชายได้อยู่ห้อง อ.1/3 ก็ออกจะผิดหวังอยู่บ้าง
เพราะคาดว่าอยากจะให้ลูกได้อยู่ห้องครู อ.1/1 ที่เราและสามีเคยมาพบเจอพูดคุยกันมาก่อน2-3ครั้ง
วันที่พาลูกมามอบตัว เราก็เห็นครูห้องอื่นๆ ดูท่าทางใจดีและเป็นมิตรมาก แตกต่างจากครูประจำชั้นที่ลูกเราจะต้องไปอยู่
คือ เขามีลักษณะที่ดูเหมือนคนไม่เต็มใจมาทำงานนี้ บอกตามตรงเลยนะคะ น้ำเสียง การพูดจา ดูดุๆ และไม่ง้อใคร ดูท่าทางเอาเรื่อง
เราก็ลงทะเบียนเรียบร้อย ครูท่านนี้ก็บอกเลยว่า เราจะต้องซื้อ ของใช้xxxxxxxxxx และที่นอนใหม่ พร้อมทั้งชุดไทยของที่นี่เท่านั้น!
เราก็บอกไปว่า แต่เราเคยถามก่อนที่จะมาสมัครแล้วว่า
สามารถใช้ของเดิมได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ แต่ครูท่านนี้ไม่ยอม ทั้งน้ำเสียงและท่าทางคือแบบ ไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม
โอเค เราก็อึ้งๆนะ เราก็ต้องเดินไปซื้อ ซึ่งแปลกใจว่า ทำไม่เห็นพ่อแม่ห้องอื่นๆจะเดินไปซื้ออย่างเราเลย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป
เราก็ไปซื้อ ซึ่งราคาเนี่ย บอกตามตรงเลยว่า จะเอากำไรไปถึงไหน?? นี่ครูได้เปอร์เซ็นต์อะไรด้วยหรือป่าว?
มันก็คำถามในใจนะ อดคิดไม่ได้จริงๆ ครูห้องข้างๆก็มองๆยิ้มๆแบบเหมือนเข้าใจ ประมาณว่า เขาช่วยอะไรไม่ได้
แล้วเขาก็เก็บค่าประกัน เราก็จ่าย เราจ่ายทุกอย่างตามที่เขาสั่ง
วันนั้นเบิกเงินจากธนาคารไปประมาณ 3,000 บาท จะเอาไปใช้จ่ายอื่นๆด้วย กลายเป็น แทบเกลี้ยง งงมาก โรงเรียนวัดนะ แถมยังเป็นมูลนิธิด้วย ที่มีไว้ช่วยเหลือผู้ปกครองที่รายได้น้อย
2. เราก็ถามครูประจำชั้น เรื่องของการฝากลูกในช่วงเย็น ครูเขาก็ตอบว่า เดี๋ยวเขาจะให้เป็นครูอีกท่าน แต่ต้องมาคุยกันตอนเปิดเทอม เราก็โอเค
พอมาถึงวันเปิดเทอม เราก็มาถามเขาอีกว่า เรื่องฝากลูกช่วงเย็น จะฝากไว้กับครูท่านใด เขาก็ตอบกลับมาเหมือนเดิมว่า เดี๋ยวจะให้เป็นน้องอีกคน เดี๋ยวค่อยคุยกัน
แล้วเรากับสามีก็รอเขาอีกเป็นชั่วโมง เราก็ทวงถามเขาอีก คือเรากับสามีก็ต้องเข้างานสายเพื่อมารอคำตอบเรื่องนี้จากเขา
สรุป เขาบอกว่า ฝากลูกไว้ที่เขาเนี่ยแหละ / เออนะ บอกแต่แรกก็จบ เราก็จ่ายตังไป / แล้วเขาก็เก็บค่าหนังสืออีก เราก็จ่ายไป(หนังสือที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตามันเลย)
/ แล้วเขาก็ย้ำว่า เราจะต้องรีบมารับลูก คือเขาจะรีบกลับบ้านประมาณนั้น คือ เราเคยฝากลูกแบบนี้กับครูที่โรงเรียนเก่านะคะ
คือจะมีครูที่ไม่ใช่ครูประจำชั้น และเป็นครูท่านอื่นที่รับงานนี้ ช่วงเย็น คือจะรับเด็กกลับมาดูแลที่บ้าน แล้วพ่อแม่ก็ค่อยมารับ ไม่ต้องมารีบๆๆๆๆหน้าตาตื่นมารับ
เรากับแฟนเลิกงาน 17.00 น. แต่ กว่าจะได้ออกมา กว่าจะเดินทาง รถก็ติด ก็รีบจนที่สุดแล้ว
ก็เลยไม่ค่อยสบายใจในเรื่องนี้ ใจจริงแล้วอยากถามเขาด้วยว่า มีครูท่านอื่นไหม ที่รับจ็อบนี้ แต่ดูท่าทางของเขาแล้ว ดูไม่อยากจะคุยกับใครเลย อธิบายไม่ถูก
ถ้ามาเห็นครูคนนี้แล้ว จะเข้าใจความรู้สึกของเราเลย
เมื่อวานสามีเราเขาเลิกงานช้า ก็เลยโทรบอกให้เราไปรับลูกก่อน ซึ่งเขาติดงานอยู่นอกบริษัทฯ กว่าจะเดินทางถึงก็ช้า เราก็เลิกงาน 17.00 น.
ก็รีบออกจากที่ทำงาน และเดินทางทั้งหมด 4 ต่อ + รอรถ + รถติด รีบที่สุด เหมาวินฯยาวก็ไม่ยอมไป ก็เลยต้องต่อรถเอา แต่ก็มีใช้วินฯด้วย หมดค่ารถแบบเร่งรีบเกือบร้อยบาท
กว่าจะไปถึงก็หกโมงนิดๆ ครูประจำชั้นโทรตามติดๆๆๆๆๆ
เราก็รีบสุดชีวิตแล้ว ไม่รู้จะทำยังไง โทรหาสามี เขาก็กังวล รถติดอยู่ไกล เร่งแล้วได้เท่านี้
พอเรามาถึง คือครูพาลูกเราจากโรงเรียนเดินออกมาจนถึงแถวๆหน้าปากซอย(ไกลพอสมควร)
เราก็ตกใจ ให้วินฯจอดรถ ครูเขาก็บอกเลยว่า ถ้าแบบนี้ทุกวัน เขาไม่สามารถรับดูแลลูกเราได้ ซึ่งจริงๆแล้ว มันก็ไม่ใช่ทุกวัน
แต่เพื่อความสบายใจ เราเองก็อยากได้ครูที่สามารถดูแลได้จริงๆ ซึ่งเราเชื่อว่ามี แต่เราไม่รู้ว่าครูท่านใด
หากเราถามไปเขาจะไม่พอใจอะไรหรือป่าว แต่เขาก็พูดขึ้นมาเองว่า มีครูคนนึงรับ บ้านอยู่ในซอยนี้ ติดกับโรงเรียน ซึ่งเราก็โอเค
สอบถามไปว่าอะไรยังไง เขาก็บอกว่า คุยกันพรุ่งนี้ เราก็โอเค
พอเช้าวันต่อมา เรากับสามีก็มาส่งลูก ซึ่งปกติเราจะออกจากบ้านค่อนข้างเช้า คือหกโมงกว่าๆก็จะออกแล้ว
ซึ่งปกติจะไม่มีปัญหากับการมาส่งลูก เพราะครูตามโรงเรียน ก็จะมาโรงเรียนกันแต่เช้า หกโมงเช้าก็มาแล้ว
หรืออย่างน้อยๆก็จะต้องเจอครูเวรมาคอยรับ แล้วผู้ปกครองก็ไปทำงาน
แต่วันนี้เรามาช้ากว่าปกติ ซึ่งก็คือประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ แดดออก ผู้ปกครองมาเยอะแล้ว ครูแต่ละห้องก็มากันหมดแล้ว รับเด็กๆของตนเองเข้าห้องไปเยอะแล้ว
แต่
ครูประจำชั้นห้อง อ.1/3 ที่ลูกชายอยู่ ประตูห้องยังปิดอยู่ ครู?????
เราได้ยินผู้ปกครองที่นั่งรออยู่หน้าห้องพูดคุยกันว่า ครูยังไม่มาเลย มาสายประจำ
เรากับแฟนต้องรีบไปทำงาน ก็ต้องอยู่รอ จะปล่อยลูกไว้ก็ไม่ได้ สมัยนี้ อันตราย เราก็ยืนรอกันต่อไป รอๆๆๆ ก็ไม่มา
เราก็เลยโทรหาครู กว่าจะรับสาย พอรับสาย ฟังดูแล้ว เหมือนยังอยู่ที่บ้าน!!!!!
แล้วถามเราว่า มีธุระอะไร / เราคิดว่า เขาควรรู้หน้าที่ของตนเองนะ ไม่ใช่ถามเราว่า มีธุระอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ปกครองต้องโทรตามตัวครูให้มาทำงานนะ / เราก็พูดกับเขาดีๆและไม่เคยว่าอะไรเขานะ เราก็พูดแค่ว่า ค่ะๆ แค่นั้น แบบว่าอึ้งน่ะ ไม่รู้ว่า มันเป็นสิ่งที่เราควรจะพูดอะไรด้วยเหรอ? หน้าที่ของแต่ละคนคืออะไร เราต้องบอกเหรอ?
สามีเราก็บอกว่า ก่อนหน้านี้ที่เขามาส่งลูกคนเดียว ก็แบบนี้ วันนั้นครูมาสายมาก พอมาแล้วก็ไม่มีขอโทษหรืออะไรนะ เดินเข้าห้อง
แล้วเดินตีมึนหน้ามึน เดินไปเดินมาอยู่ในห้อง แล้วบอกให้สามีเรากับลูกรออยู่หน้าห้อง ..........เพื่อ??
คือ ทำไมครูมาแล้วถึงไม่รีบรับนักเรียนเข้าไป แล้วให้ผู้ปกครองกลับ คือแม้แต่ก่อนหน้านี้ ที่เรากับสามีไปที่โรงเรียน หรือสามีเราไปคนเดียว
ภาพที่เจอก็คือ เขาดูไม่สนใจนักเรียนเลย(ไม่ว่านักเรียนคนไหน) ปล่อยตามมีตามเกิด จะเดินออกไปไหน ทำอะไร
แล้วตัวเขาก็จะนั่งอยู่กับโต๊ะของตนเอง เวลาเด็กเดินไปตรงไหน ก็จะเรียกใช้ผู้ปกครอง บอกให้ดูให้หน่อย จับให้หน่อย ให้เอาเข้ามา ให้ดูให้ด้วยนะ
คือจะบอกว่าตัวเองไม่ว่างว่างั้น ??
หน้าตาก็ดูเหมือนคนเซ็งโลก เหมือนอารมณ์ไม่ดี ดูไม่อยากทำอะไร เด็กร้องไห้ เขาก็เฉยๆ(ไม่ใช่ลูกชายเรานะคะ ลูกเราไม่เคยงอแง)
คือภาพรวมแล้วนะ คือไม่ประทับใจครูคนนี้เลย ตั้งแต่แรกมาจนถึงตอนนี้
มันแตกต่างจากครูประจำชั้นห้องอื่นมาก
//ในที่สุดเราก็ได้คุยกับครูอีกท่าน(ดูแลช่วงเย็น) ที่เขาแนะนำมา(ซึ่งเราก็ต้องตามเรื่องเองด้วย) ครูที่เขาแนะนำมา พูดจาดี ทางใจดี คือสรุป เราคุยกันว่า หลังเลิกเรียน(14.30 น.) เขาจะรับลูกเรา
ไปบ้านเขาเลย แล้วรออยู่ที่บ้านจนกว่าพ่อแม่จะมารับ และไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวล ให้เราทำงานตามสบาย บ้านเขาอยู่ติดกับตึก 1 ของโรงเรียนนี่เอง
และตกลงกันว่า เขาจะคิดค่าดูแล เดือนละ 300 บาท เราก็โอเค
เราก็โทรบอกสามี เขาก็โอเค สบายใจ เย็นนี้จะเริ่มไปรับลูกกับครูคนใหม่ช่วงเย็น
ตอนแรกเราก็นึกว่าเรื่องมันจะจบแล้วนะ
แต่เรารู้สึกเอ๊ะใจยังไงก็ไม่รู้ เราก็เลยโทรกลับไปหาครูที่รับดูแลลูก ซึ่งเป็นครูประจำชั้น อ.1/2 (อีกครั้ง)
คุยๆกันอยู่ ครูประจำชั้นของลูกก็ดึงโทรศัพท์ไปคุยเอง และบอกว่า
*เราจะต้องเสียเงิน 2 ต่อ คือจะต้องเสียเงินให้กับเขา(ครูประชั้น อ.1/3 ครูห้องของลูกชาย) เป็นต่อที่ 1 คือ 550 บาท/เดือน
และจะต้องเสียต่อที่ 2 ให้กับครูที่รับดูแลอีก 300 บาท/เดือน
รวมเป็น 850 บาท
/ เราก็อึ้งเลย ทำไมอะเนี่ย แต่เรายังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็พูดขึ้นมาเลยว่า !!มันเป็นสิทธิของเขา(ที่เป็นครูประจำชั้น)!!
พูดง่ายๆคือจะเอาค่านายหน้า และเอาทุกเดือน ทั้งๆที่ตัวเอง ก็ไม่สามารถรับหน้าที่ดูแลลูกเราได้
เขาบอกอีกประมาณว่า เขาจะอยู่จนเขาจะกลับบ้าน แล้วเขาก็เอาลูกเราไปให้ครูอีกคน(ข้างห้อง)
คือจะบอกว่า พอใจอยากกลับเมื่อไหร่ เสร็จเรื่องของตัวเองที่โรงเรียนเมื่อไหร่ พอใจอยากกลับก็จะกลับ แล้วก็จะเอาลูกเราไปทิ้งไว้ที่ครูอีกคน
ตอนแรกเราได้ยินแว้วๆว่าเขาคุยกัน ครูที่รับดูแลบอกว่า ให้ครูประจำชั้นดูแล แต่เขาบอกว่า เขาไม่เอา!
คือแบบ ผู้ปกครอง(พ่อแม่) ที่อ่านเรื่องนี้อยู่ เข้าใจความรู้สึกเราไหม คือเขาก็จะไม่เอา ไม่ทำ ไม่อะไร แต่เงินก็จะเอา
การมาทำอาชีพนี้ มันคือ การหาเงินหาผลประโยชน์จากผู้ปกครองที่เขาคิดว่า ยังไงก็ต้องพึ่งเขา เขาจะพูดจะเรียกร้องเอาอะไรก็ได้เหรอ?
มันเห็นแก่ตัวและเอาเปรียบมากนะ คนที่ดูแลได้กลับคิดเราแค่ 300 บาท แต่คนที่ไม่โอเคกลับจะเอาจากเรา 550 บาท
ด้วยเหตุผลที่ว่า **มันเป็นสิทธิของเขาที่เป็นครูประจำชั้น**
ตอนที่ครูสุดโหดนี่ไม่อยู่ เราถามครูที่รับดูแลว่า กลัวเขาใช่ไหม ครูท่านนี้เสียงสั่นๆตอบว่า ใช่
เราไม่รู้ว่า ครูคนนี้เขามีเส้นใหญ่อะไรในโรงเรียนนะ แต่ดูเขาไม่สนใจและไม่เกรงกลัวอะไรเลย มาสายได้ทุกวัน เงินก็จะเรียกเก็บนั่นนี่ ความเอาใจใส่ ความรับผิดชอบก็ไม่มี
และดูไม่แคร์อะไรเลย และเราเห็นว่าเขาเป็นอยู่คนเดียวด้วยนะ(ในระดับชั้นนี้)
//สามีเรา เขาก็ไม่ได้เลิกช้าทุกวัน ยกเว้นกรณีที่ติดธุระจริงๆ อย่างนี้ ถ้าวันไหน ห้าโมงไปรับได้เลย ก็เท่ากับว่า ต่อที่ 2 ต้องเสียเงินฟรีๆเลยอย่างนั้น?//
3. วันเปิดเทอมวันแรกจนถึงตอนนี้ เราก็เห็นว่า ผู้ปกครองท่านอื่นที่ลูกอยู่กับครูห้องอื่นๆ ก็ถือที่นอนและของใช้
ที่ไม่ใช่ของที่ซื้อตามคำสั่งของครู(ประจำชั้น อ.1/3) ก็เห็นถือมาใช้ที่โรงเรียนกันปกติ ไม่เห็นจะต้องซื้อใหม่อะไร เราก็ไม่ค่อยสบายใจนะ
/ ครูประจำชั้น อ.1/3 ที่ลูกเราอยู่ ยังบอกอีกว่า ที่นอนของเด็กห้องนี้(ย้ำว่า ห้องนี้) วันศุกร์ครูไม่ให้เอากลับบ้านนะ และจะเก็บเงินเราอีก 550 บาท(อีกแล้ว)
และบอกว่า เขาจะเป็นคนส่งซักให้เอง เขาไม่สะดวกพับให้เพื่อให้ผู้ปกครองเอากลับไปซัก
เรากับสามีนี่อึ้งไปอีก(เงินอีกแล้ว) ท่าทางของเขาพูดแล้วแบบเสียงดุเด็ดขาด พูดแล้วจ้องตาแล้วก็ก้มลงไปทำนั่นนี