สองคนยลตามช่อง : การตัดสินของ TPL กับกรณีปรับแพ้ของสุโขทัย

“คณะกรรมการมีมติเสียงข้างมากเห็นว่าสุโขทัยในฐานะเจ้าบ้านมีความบกพร่องในการวางระบบไฟฟ้าส่องสว่างของสนามแข่งขันที่ไม่สมบูรณ์ และไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันการณ์ ถือเป็นความบกพร่องทางเทคนิคไม่ใช่เหตุสุดวิสัยจากภัยธรรมชาติจึงถือเป็นความผิดตามข้อบังคับ ให้ปรับ สุโขทัย แพ้ นครปฐม 0-2 ส่วนค่าปรับให้ยกเว้น"


ธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ : ประธานคณะอนุกรรมการฯ
(credit : xn--r3cd1ab3b.com)


คำตัดสินจาก คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท และวินัย ข้อประท้วง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ ประธานคณะอนุกรรมการฯ, นายประดิษฐ์ นิธิยานันท์ อนุกรรมการ,นายกฤตเมต เอ่งฉ้วนธาดา อนุกรรมการ, นายดนัย มงคลศิริ อนุกรรมการ, นายเอกชัย ถนัดเดินข่าว อนุกรรมการ และ นายไพฤทธิ์ ต้านไพรี อนุกรรมการและเลขานุการ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ก่อนที่จะได้บทสรุปดังกล่าวข้างต้น

จากคำตัดสินดังกล่าวได้มีการถกเถียงกันในหมู่แฟนฟุตบอลชาวไทยอย่างกว้างขวางในเรื่องนี้ บ้างก็เห็นว่าคำตัดสินดังกล่าว "ไม่เป็นธรรม" ต่อทีมสุโขทัย เอฟซี โดยได้แย้งคำตัดสินดังกล่าวด้วยสภาพแวดล้อม ณ ขณะนั้น ที่มีทั้งลมและพายุฝนลูกเห็บที่ตกกระหน่ำอย่างรุนแรง โดยลูกเห็บได้ตกลงมาเป็นจำนวนมาก และลมที่กรรโชกรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ได้พัดกระแทกกระจกห้องพักกรรมการและห้องแถลงข่าวสื่อมวลชนพังทลายลงมาทั้งบานกระจกแตกหล่นเกลื่อนกลาดพื้นห้อง ทำให้มีผู้บาดเจ็บต้องนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งในตอนนั้น "ใครมันจะไปหาผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการทัน?"


สภาพห้องที่โดนลมและพายุถล่มใส่
(credit : sukkhothaifc)


บ้างก็ว่า ความบกพร่องของสนาม ถ้าจะเล่นประเด็นนี้ แล้วไม่ลงโทษพวกที่มาตรวจสนามก่อนการแข่งขันละ ว่ามัน "ไม่ได้มาตรฐาน" ตามที่ลีกกำหนด? และอื่น ๆ อีกมากมายที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงคำตัดสินของคณะกรรมการฯ ดังกล่าวข้างต้น

โดยทางคณะกรรมการฯ ได้อ้างถึงข้อบังคับการแข่งขันฯ บทที่ 5 ดังนี้

บทที่ 5 เรื่อง กฎ กติกา และระเบียบที่ใช้ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ

7.4) วรรคหนึ่ง กรณีเป็นความบกพร่องของสนามทีมเหย้า ไฟฟ้าดับรวมกันเกินกว่า 60นาที ไม่นับรวมเวลาพักครึ่ง 15นาที นับตั้งแต่ผู้ตัดสินยุติการแข่งขัน หรือมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นในสนามแข่งขันและไม่สามารถแก้ไขได้ภายในระยะ 45นาที ทำให้ต้องยุติการแข่งขัน สโมสรที่เป็นทีมเหย้า มีโทษตาม

(1) กรณีไฟฟ้าดับให้ปรับเป็นแพ้ โดยมีประตูได้ ประตูเสีย ตามผนวกที่ 7 หมวดที่ 2 ข้อ 3.9 ให้ปรับเป็นแพ้ โดยให้นับประตูเสียตามที่เสียจริง หากเสียน้อยกว่า 2 ประตู ให้นับประตูเสียเป็น 2 ประตูส่วนประตูได้ให้ปรับเป็น 0 ประตู

โดยที่คณะกรรมการฯ ดังกล่าว ไม่ได้ตีความว่าเป็น "ภัยธรรมชาติ" แต่เป็น "ความบกพร่องทางเทคนิค" จึงทำให้ผลคำตัดสินออกมาอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังสามารถให้ทีมสุโขทัย เอฟซี "อุทรณ์" ภายใน 24 ชม.

โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับผม คงไม่สามารถบอกได้ว่า คณะกรรมการฯ ตัดสิน "มั่ว" หรือ สุโขทัย เอฟซี "ผิดพลาดจริง" ด้วยความที่ผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าสนาม ณ ตอนนั้น "สามารถทำการแข่งขันได้จริงหรือไม่?" (ตัดประเด็นไฟออกไปก่อน) เพราะหากดูจากภาพตามเวบบอร์ดต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า สนามได้ถูกพายุกระหน่ำซะไม่มีชิ้นดี เพราะเห็นว่า ทางคณะกรรมการฯ ได้อ้างว่า "ภายหลังจากที่พายุฝนฟ้าคะนองสงบลง สภาพสนามแข่งขันพร้อมดำเนินการแข่งขันต่อได้"


พายุถล่มสนามฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี
(credit : sanook.com)



ความเสียหายทั้งในและนอกสนาม
(credit : sukhothaifc)


อีกทั้งการวินิจฉัยของ อ.เอกชัย ถนัดเดินข่าว ผู้ควบคุมการแข่งขันในขณะนั้น ได้วินิจฉัยให้ยุติการแข่งขันไปก่อน เนื่องจากไฟฟ้าในสนามไม่สามารถกลับมาติดได้ แม้จะใช้เครื่องปั่นไฟสำรอง แต่ก็ช็อตหมดด้วยภัยธรรมชาติดังกล่าว ส่วนกำหนดการแข่งขันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้น ทางทีพีแอล จะนำเข้าประชุมหารือ พร้อมกับกำหนดในภายหลัง


เอกชัย ถนัดเดินข่าว : ผู้ควบคุมการแข่งขัน
(credit : thaipremierleague.co.th)


ที่กล่าวมาทั้งหมด ผมไม่ได้ตัดสิน หรือ ชี้นำ ใด ๆ เลย .. เพราะว่ากรณีนี้ "สองคนยลตามช่อง" ครับ คุณอาจจะมองไม่เหมือนผม, ผมอาจจะมองไม่เหมืนคน แต่ประเด็นสำคัญสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ คือ ทาง TPL จะมีมาตรการอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้ "เกิดขึ้น" อีก หากมองว่ามันเป็น "เรื่องผิดพลาดทางเทคนิค"

ก็ขอฝากทุกฝ่ายที่เกี่ยวการแข่งขันไว้ในบทความเล็ก ๆ นี้ด้วยครับ .. เพราะผมเชื่อว่า "ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น" ครับ

ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่