เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีหนูน้อยวัย 10 ปีต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะต้องมาเลี้ยงดูบิดาที่ตาบอด จากการเกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้ม จนสายตาเริ่มพร่ามัวมองไม่เห็นทั้ง 2 ข้าง โดยทั้งสองพ่อลูกอยู่ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 3 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบสภาพบ้านรกรุงรัง บริเวณทางเข้าเป็นถนนลูกรังห่างไกลชุมชนและพบนายทิ้ง ทับทิม อายุ 70 ปี และ ด.ญ.มนัสวี ทับทิม อายุ 10 ปี สองพ่อลูกกำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน
จากการสอบถามนายทิ้ง ทับทิม เปิดเผยว่า เดิมลูกสาวตนเรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กำลังจะขึ้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง ลูกสาวตนจึงได้หยุดเรียน เนื่องจากไม่มีที่พักอาศัยใกล้โรงเรียน และตนเองก็มีร่างกายที่ไม่แข็งแรง ปวดหลังและสายตาทั้ง 2 ข้างก็พร่ามัวมองไม่เห็น หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม จากนั้นไม่นานตาก็เริ่มมองไม่เห็น ออกไปทำงานนอกบ้านไม่ได้ ลูกสาวจึงต้องลาออกจากโรงเรียนมาดูแลตนและตนก็ไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียนด้วย
ส่วนค่าครองชีพของตนและลูกสาวต้องใช้เงินเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาทในการดำรงชีพทั้งซื้อข้าวสารและกับข้าว ซึ่งตนไม่มีรายได้อื่น เวลาจะออกไปหาซื้อกับข้าวหรือของใช้ ลูกสาวต้องพาเดินจากบ้านไปปากทาง ซึ่งมีระยะทางมากกว่า 4 กิโลเมตร ไปกลับก็เกือบ 8 กิโลเมตร โดยจะหาซื้อของใช้และกับข้าวที่เก็บไว้ได้หลายวัน เช่น ปลาร้า เอามาเก็บไว้อยู่ได้หลายวัน ส่วนน้ำดื่มก็จะต้องไปตักน้ำจากสระน้ำใกล้บ้านมาใช้อาบและดื่มกิน ลำบากมากเพราะเวลาที่น้ำแห้ง ก็จะต้องอาศัยน้ำขุ่นๆ ที่อยู่ในโคลนมาอาบและกิน
ส่วนลูกสาวของตนก็ป่วยเนื่องจากเมื่อสมัยตอนเป็นเด็กเล็กได้วิ่งตกบ่อน้ำโดนก้อนหินบริเวณหน้าอกทำให้โตขึ้นจะรู้สึกเจ็บที่บริเวณหน้าอกหายใจไม่ค่อยออก โดยจะเจ็บที่บริเวณหัวใจ บางครั้งต้องใช้กำปั้นทุบหน้าอกจนเหนื่อยหอบ และยังเป็นเด็กขี้กลัวเวลาพบเจอคนแปลกหน้าจะวิ่งหลบหนีเพราะกลัวคนจะมาจับเข้ารถตู้ไปขอทาน
"ทุกวันนี้ยังคงมี ร.ต.ท.สาน จะยันรัมย์ รอง สวป.สภ.สวนผึ้งและเพื่อนบ้านที่ได้ซื้อข้าวสารมาให้อยู่บ้าง ทำให้อยู่กินกับลูกสาวไปวันๆ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงวอนผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือเพื่อให้ลูกสาวได้ไปโรงเรียน" นายทิ้งกล่าว
สำหรับผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือ อ่านรายละเอียดต่อที่เว็บ
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057090
ไม่น่าเชื่อว่าเงินแค่ 600 บาทสำหรับคนบางคนจะสำคัญขนาดนี้ จำนวนเงินยังไม่เท่าค่าอาหารบางมื้อเลยด้วยซ้ำ
พบเด็กหญิงวัย 10 ขวบยอดกตัญญูลาออกจากโรงเรียนเลี้ยงดูพ่อตาบอด
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีหนูน้อยวัย 10 ปีต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะต้องมาเลี้ยงดูบิดาที่ตาบอด จากการเกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้ม จนสายตาเริ่มพร่ามัวมองไม่เห็นทั้ง 2 ข้าง โดยทั้งสองพ่อลูกอยู่ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 3 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบสภาพบ้านรกรุงรัง บริเวณทางเข้าเป็นถนนลูกรังห่างไกลชุมชนและพบนายทิ้ง ทับทิม อายุ 70 ปี และ ด.ญ.มนัสวี ทับทิม อายุ 10 ปี สองพ่อลูกกำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน
จากการสอบถามนายทิ้ง ทับทิม เปิดเผยว่า เดิมลูกสาวตนเรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กำลังจะขึ้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง ลูกสาวตนจึงได้หยุดเรียน เนื่องจากไม่มีที่พักอาศัยใกล้โรงเรียน และตนเองก็มีร่างกายที่ไม่แข็งแรง ปวดหลังและสายตาทั้ง 2 ข้างก็พร่ามัวมองไม่เห็น หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม จากนั้นไม่นานตาก็เริ่มมองไม่เห็น ออกไปทำงานนอกบ้านไม่ได้ ลูกสาวจึงต้องลาออกจากโรงเรียนมาดูแลตนและตนก็ไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียนด้วย
ส่วนค่าครองชีพของตนและลูกสาวต้องใช้เงินเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาทในการดำรงชีพทั้งซื้อข้าวสารและกับข้าว ซึ่งตนไม่มีรายได้อื่น เวลาจะออกไปหาซื้อกับข้าวหรือของใช้ ลูกสาวต้องพาเดินจากบ้านไปปากทาง ซึ่งมีระยะทางมากกว่า 4 กิโลเมตร ไปกลับก็เกือบ 8 กิโลเมตร โดยจะหาซื้อของใช้และกับข้าวที่เก็บไว้ได้หลายวัน เช่น ปลาร้า เอามาเก็บไว้อยู่ได้หลายวัน ส่วนน้ำดื่มก็จะต้องไปตักน้ำจากสระน้ำใกล้บ้านมาใช้อาบและดื่มกิน ลำบากมากเพราะเวลาที่น้ำแห้ง ก็จะต้องอาศัยน้ำขุ่นๆ ที่อยู่ในโคลนมาอาบและกิน
ส่วนลูกสาวของตนก็ป่วยเนื่องจากเมื่อสมัยตอนเป็นเด็กเล็กได้วิ่งตกบ่อน้ำโดนก้อนหินบริเวณหน้าอกทำให้โตขึ้นจะรู้สึกเจ็บที่บริเวณหน้าอกหายใจไม่ค่อยออก โดยจะเจ็บที่บริเวณหัวใจ บางครั้งต้องใช้กำปั้นทุบหน้าอกจนเหนื่อยหอบ และยังเป็นเด็กขี้กลัวเวลาพบเจอคนแปลกหน้าจะวิ่งหลบหนีเพราะกลัวคนจะมาจับเข้ารถตู้ไปขอทาน
"ทุกวันนี้ยังคงมี ร.ต.ท.สาน จะยันรัมย์ รอง สวป.สภ.สวนผึ้งและเพื่อนบ้านที่ได้ซื้อข้าวสารมาให้อยู่บ้าง ทำให้อยู่กินกับลูกสาวไปวันๆ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงวอนผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือเพื่อให้ลูกสาวได้ไปโรงเรียน" นายทิ้งกล่าว
สำหรับผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือ อ่านรายละเอียดต่อที่เว็บ
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057090
ไม่น่าเชื่อว่าเงินแค่ 600 บาทสำหรับคนบางคนจะสำคัญขนาดนี้ จำนวนเงินยังไม่เท่าค่าอาหารบางมื้อเลยด้วยซ้ำ