$$$$ เพิ่งดูรายการสารคดีของสถาบัน Smithsonian,ระบุว่า Gospel of Jesus's Wife เป็นของจริง,นั่นหมายถึงว่าพระเยซูเคยมีภรรยา

{Smithsonian  คือ ชื่อของสถาบันที่มีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแลพิพิธภัณฑ์ (museum) ต่างๆ ทั่วอเมริกา โดยเฉพาะการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ และการรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ จากทั่วโลก  มีช่อง Cable TV เป็นของตนเอง  เพื่อเผยแพร่ความรู้ต่างๆของสถาบัน}
  ......................................................
วันนี้ เพิ่งได้ดูสารคดีของสถาบันนี้ เกี่ยวกับเรื่อง เศษชิ้นส่วนกระดาษ  papyrus โบราณ  ซึ่งอาจจะเป็นบางส่วนมาจาก The Gospel of Jesus's  Wife

เรื่องนี้  เคยมีข่าวมาแล้วทั่วโลก  จากรายงานของสำนักข่าวต่างๆ  เมื่อไม่นานมานี้ อาจจะประมาณ ปีสองปีที่ผ่านมา  แต่เป็นข่าวสั้นๆ ผ่านไปแว๊บๆ ไม่มีใครสนใจ... ข่าวเคยรายงานว่า  ได้มีการเปิดเผยชิ้นส่วนของกระดาษปาปิรัสโบราณชิ้นหนึ่ง  ซื้อขายกันเป็นหลักหลายแสนดอลล่าร์ ในวงการนักค้าและนักสะสมของเก่าชาวเยอรมัน   ..ในกระดาษชิ้นนั้น มีข้อความบรรทัดหนึ่งระบุ(แปลเป็นภาษาอังกฤษ) ว่า  ....and   Jesus  said  to  them " My  wife...." (ซึ่งแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า ..'พระเยซูได้กล่าวกับเขาทั้งหลายว่า "ภรรยาของข้าพเจ้า.." '

หลังจากมีการออกข่าวนี้ ในตอนแรกๆ  สำนักวาติกันรีบออกโรงแถลงการณ์ต่อต้านทันทีว่า  เป็นกระดาษปลอม  ซึ่งเป็นการรีบด่วนปฏิเสธ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ผ่านขบวนการพิสูจน์ ....

หลังจากนั้นก็มีการผ่านขบวนการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ  ครบทุกๆขั้นตอนอย่างละเอียด  ทั้งเนื้อกระดาษ  หมึกที่เขียน  และข้อความในแง่ไวยากรณ์ภาษา ..ผลสุดท้าย พิสูจน์ออกมาได้ว่า  กระดาษชิ้นนั้น  เป็นของจริง  เขียนขึ้นประมาณ ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ ๒ กว่าๆ  เลยตั้งชื่อกระาษชิ้นนี้ว่า เป็น Gospel  of  Jesus's  Wife

นักโบราณคดี ได้สืบค้นที่มาของกระดาษชิ้นนี้ว่า มาจากเมืองไหนในอียิปต์   ก็คาดว่า น่าจะมาจากเมืองหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำไนล์ เหนือเมือง Luxor  ไปทางเหนือประมาณ ๒-๓๐๐ ไมล์  และกระดาษนี้น่าจะมาจากกองเศษกระดาษโบราณมากมาย  ที่นักขุดค้นของเก่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อนได้ทิ้งไว้กองเป็นภูเขาเลากา  เพราะในการขุดค้นในยุคสมัยนั้น เขาไม่สนใจกระดาษหรือหนังสือโบราณ เขาจะเอาไปกองทิ้ง หรือเผาทิ้ง  ..เขาจะสนใจแต่ของมีค่าเท่านั้น เช่น เงินทอง สร้อย  แหวน   ถ้วย โถ  จาน ชาม อะไรต่างๆ อื่นๆ ฯลฯ

กรณีนี้เลยไปตรง พ้อง สอดคล้องกับเรื่องของ Dan   Brown  ที่เคยเขียนเสนอแง่มุมมนี้มาก่อนแล้ว จากหนังสือขายดี  Davinci  Code   และฮอลลีวูด  เอาไปสร้างเป็นหนังเมื่อ ๔-๕ ปีก่อน  ที่มีดาราดัง คือ ทอม  แฮ๊งค์ แสดงนำ นั่นแหละ ... แต่ Dan  Brown  ถูกชาวคริสต์โจมตีอย่างหนักว่าสร้างจินตนาการมโนเอาเองทั้งนั้น

เพราะทางสำนักวาติกัน ต้องการรักษาภาพพจน์ของพระเยซูว่า  ไม่เคยมีภรรยามาก่อน  ไม่ยุ่งเรื่องเพศ  แบบเดียวกับฤาษีหรือนักบวช .. และได้สร้างภาพพจน์ของสาวกหญิงคนเดียว คนสำคัญ คือ นางแมรี่ แมกดาลีน ว่าเป็นหญิงโสเภณี  เป็นหญิงไม่ดี ..เพราะทางวาติกัน ต้องการให้ผู้ชายเป็นใหญ่ควบคุมคริสต์จักร มาตั้งแต่สมัยยุคของจักรพรรดิ์ คอนสะแตนติน  เมื่อต้นคริสต์ศตวรรที่ ๔ โน่นแหละ ....ดังนั้นเมื่อเรื่องนี้เปิดเผยออกมา และมีหลักฐานเพิ่มๆขึ้น  ทางวาติกันคงจะมึนงงไปหลายสิบตลบเหมือนโดนหมัดของเขาทรายกาแล๊กซี่สอยเข้าปลายคาง  ยังไงยังงั้น

ก็เป็นที่คาดกันนานอยู่แล้วว่า  ภรรยาของพระเยซู  คือ นางแมรี่  แมกดาลีน   เพราะแม้ใน Gospels อื่นๆ  ก็มีข้อความบ่งชี้ระบุถึงความสัมพันธ์อย่างพิเศษใกล้ชิดผิดปกติ ระหว่าง แมรี่  แมกดาลีน กับ พระเซู ปรากฏอยู่ในหลายๆแห่ง  เช่น ตอนที่พระเยซูก้มลงจุมพิต..นางแมรี่  แมกดาลีน หรือ ตอนที่เหล่าสาวกชายอื่นๆ  บ่นทำนองน้อยใจว่า พระเยซูให้ความไว้วางใจนางแมรี่  แมกดาลีน มากกว่าพวกตน


..แล้วพวกคุณชาวตริสต์ในห้องนี้  คิดยังไง ? ...

-----------------------------------------------
https://www.youtube.com/watch?v=ZTvJfOao4Fc

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่