Study in Japan แต่...ไม่ชอบภาษาญี่ปุ่น

สวัสดีคะเพื่อนนๆชาวพันทิป วันนี้มะปรางอยากจะมาเล่าการมาเรียนต่อ ป.ตรีในประเทศญี่ปุ่น (เพิ่งมาได้ 2 เดือนคะ)
ซึ่งมะปรางเองก้อเชื่อเป็นประเทศในฝันของคนหลายๆคน แต่สำหรับมะปรางคือ ....อาจจะไม่ใช่ (มั้ง)
ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่นี้ เหตุผลง่ายๆข้อเดียวเลยคือ มีทุน และมะปรางอยากเรียนต่อต่างประเทศที่ไหนก้อได้ ไม่เอาโลกที่สามก้อพอ 55
ตลอดสามปีตอน ม.ปลาย มะปรางได้ค้นหาทุนต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าตะเวนหา ไปทุกปีกับงาน OCSC @Paragon แหม่ๆ ก้อมหาลัยเค้ามาถึงไทยแล้วนิ
สิ่งที่เดินมุ่งไปคือ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เดินไปเท่านี้จิงๆ อยากไปมาก แต่ก้อต้องผิดหวังทุกครั้ง เพราะทุนที่ให้นั้นมันน้อยมาก
เรียกได้ว่าความหวังริบหรี่เต็มทน  แต่มะปรางก้อไม่ยอมแพ้หรอกคะ เตรียมตัวไว้ก่อน เรียน Wall street เลย กะว่าจะพูดให้ได้ ต้องไปให้ถึงฝัน ถึงแม้การขอแม่เรียนนั้นมันต้องมาทั้งน้ำตาและใช้เวลานาน สุดท้ายแม่ก้อยอมคะ

ขึ้น ม.หกแล้วหลายๆอย่างมันก้อกดดันเรา ไม่รุจะไปทางไหน ถ้าเรียนในไทยก้ออยากเรียนภาคอินเตอร์ อยากใช้ภาษาอังกฤษ ค่าเทอมก้อแพงเกือบแสน แต่เอาเถอะลองสอบ SAT ดูเผื่อยื่น แต่แล้วอาทิตย์ก่อนสอบ แม่และพี่ๆเดินมาพูดตัดความหวังดื้อๆ ว่าถึงติดก้อไม่ให้เรียน โหยยย ตอนนั้นร้องไห้เป็นบ้า อยากเข้า BBA Chula คะ บอกให้เข้าบริหารจุฬา ภาคธรรมดาไป แต่ๆๆๆๆๆๆ เราเรียนสายศิลป์ภาษามา ---เรียนภาษาสเปน---- ซึ่งไม่มี pat สอบ อีกอย่างสเปนแย่มากลั้งท้ายห้องว่างั้นเถอะ รู้สึกตัวเองมาผิดทาง แต่ทำไงได้ มันตันมากๆแล้ว เลยตัดสินใจลองเปิดหาทุนอีกรอบ

แล้วสิ่งที่พบคือ ทุนของ APU (Asia Pacific University) โอ้โหหหห แจ่มมากมีทุนตั้งแต่ 100 80 65 50 30% บริหารก้อมี เงื่อนไขการสมัครก้อดูไม่ยาก ความหวังก้อมาแล้วสิ ยิ่งมีรุ่นพี่ที่รู้จักเรียนอยู่ด้วย (เพิ่งรู้) สบายแล้วจะเอาทุนนี้ให้ได้ จะบินโว้ยยยย ไม่อยากแอดอะไรทั้งนั้นหละ ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือการเขียน essay นั่นละคะ เขียนยังไงให้เค้าอยากให้ทุนเรา ขั้นตอนนี้แนะนำว่าให้เขียนด้วยภาษาตัวเอง แล้วให้ครูต่างชาติและไทยดูเรื่องแกรมม่า ความสมูทของตัวเนื้อหา การจัดลำดับ ต้องเตรียมเผื่อเวลา อีกอย่างที่สำคัญคือ ผลสอบวัดระดับอังกฤษ มีทั้งโทอิก โทเฟล ไอเอล เลือกสอบได้เลย มะปรางเลือกโทอิกเพราะง่ายสุดแล้ว เตรียมเอกสารให้ครบ กิจกรรม ใบcertificate ต่างๆ และแล้ววันหนึ่ง โรงเรียนได้ประกาศเกี่ยวกับอีกมหาลัย ซึ่งเงื่อนไขเหมือน APU ทุกประการยกเว้น ไม่มีสัมภาษณ์ นั่นคือ แต่นแต้นน Tokyo International University เอาหละงานนี้สมัครสองที่เลย ก้อเอาตัว essay มาปรับๆหน่อยก้อได้แล้ว สบายมาก สอบโทอิกอีกสักรอบ จากนั้นก้อรอผลประกาศ...

ได้ทุนทั้งสองมหาลัย 50% โอ้ววว เครียดหนักมาก หวัง 80% แต่ไม่ได้ทั้งสองที่ แต่ถ้าให้เลือกก้อเลือก TIU ละคะ เพราะเด็กไทยน้อย ตอนนี้มีกัน 3 คนเอง APU เป็นร้อย ตอนแรกแม่บอกเลยคะว่าไม่ให้เรียน ทำไงหละ น้ำตาตกเลย ความหวังกำลังจะพังแล้ว สุดท้ายแม่พูดว่า "แม่ให้เธอไปเรียนก็ได้ แต่เพียงแม่ต้องกัดฟันส่งเงินให้ลูกเรียน และแม่เชื่อว่าลูกทำได้" ความดีจัยบังเกิดดดด แต่ก้อยังอดคิดสงสารแม่ แต่ไหนๆโอกาสมาแล้วนิ คว้าดีกว่า...

ง่วงนอนแล้ว เด่วมาเล่าต่อ 5555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่